คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ในที่นี้หมายถึงคนตระหนี่จึงไม่ทำทาน เพราะหวงในทรัพย์ของตน
ทรัพย์นั้นจึงไม่อาจเปลี่ยนเป็นบุญได้เลย
แม้จะอุ่นใจก็เป็นจิตที่มีโมหะ มีโลภะเป็นพื้นฐานเป็นอกุศลจิต ยึดติดกั
ศาสนาพุทธเชื่อเรื่องกรรมดี กรรมชั่ว ชาติหน้ามีนรก สวรรค์
เมื่อทรัพย์นั้นไม่ใช้สร้างกรรมดีเพื่อจะได้ไปสวรรค์ หรือขัดเกลากิเลส ถือว่าไม่มีประโยชน์
ทรัพย์นั้นจึงไม่อาจเปลี่ยนเป็นบุญได้เลย
แม้จะอุ่นใจก็เป็นจิตที่มีโมหะ มีโลภะเป็นพื้นฐานเป็นอกุศลจิต ยึดติดกั
ศาสนาพุทธเชื่อเรื่องกรรมดี กรรมชั่ว ชาติหน้ามีนรก สวรรค์
เมื่อทรัพย์นั้นไม่ใช้สร้างกรรมดีเพื่อจะได้ไปสวรรค์ หรือขัดเกลากิเลส ถือว่าไม่มีประโยชน์
แสดงความคิดเห็น
"ทรัพย์ของคนตระหนี่นั้นแม้จะมีมาก ก็เหมือนไม่มี เพราะไม่เกิดประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น" จริงหรอ?
สนทนาธรรมตามกาล ตัดต่อจากบ้านธัมมะ
มัจฉริยะ คือ ความตระหนี่ ๕ อย่าง ได้แก่
๑. อาวาสมัจฉริยะ ตระหนี่ที่อยู่อาศัย
๒. กุลมัจฉริยะ ตระหนี่ตระกูล
๓. ลาภมัจฉริยะ ตระหนี่ลาภ
๔. วรรณมัจฉริยะ ตระหนี่วรรณะ คือคำสรรเสริญ
๕. ธรรมมัจฉริยะ ตระหนี่ธรรม รวมถึง ความรู้
เครดิต กระทู้ http://www.dhammahome.com/webboard/topic24552.html