
“ภูเขาของพ่อ” ดอยอ่างขาง มากมายด้วยความสวยงาม ร่ำรวยด้วยความเป็นมา จากดอยห่างไกลเมืองแต่ใกล้ชายแดน อุดมไปด้วยพืชคร่าชีวิตอย่างฝิ่น เปลี่ยนแปลงสู่ผืนป่าสมบูรณ์หลากหลาย เป็นสถานที่วิจัยพืชผลที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นที่เที่ยวปักหมุดในฤดูหนาวของผู้คนทั่วสารทิศ
ว่าแต่ว่า แล้วอ่างขางหน้าฝนเป็นอย่างไร
เจอคำถามนี้กระทั่งคนเที่ยวอ่างขางมาแล้วหลายรอบยังไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะไม่เคยไปหน้าฝน โลว์ซีซั่น กรีนซีซั่น ที่นักท่องเที่ยวลดน้อยลงจนแทบไม่เห็นใคร ขนาดผมเองยังไม่เคยเที่ยวอ่างข่างหน้าฝนเช่นกัน
จนถือเป็นโชคดีล่ะมั้ง เดือนพฤษภาคมต้นฤดูฝนที่ผ่านมา รีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง / Angkhang Nature Resort ได้เชื้อเชิญสอบถามมาว่าผมสนใจลองเที่ยวอ่างขางฤดูฝนบ้างไหม มีดีกว่าที่หลายคนมองข้ามอยู่นะ ... นั่นแหละครับ ทริปอ่างขางฤดูฝนซึ่งผมเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนจึงเกิดขึ้น
และเป็นทริปที่ทำให้ผมหลงรักฤดูฝนมากขึ้นอีกด้วย
(1)
อย่างที่หลายคนคงทราบคือเที่ยวดอยอ่างขางสะดวกที่สุดต้องรถส่วนตัว พาหนะของเราไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากมอเตอร์ไซค์เช่าร้านประจำที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ อาเขต ส่วนใครไม่ถึกทนเหมือนเรา แนะนำเช่ารถยนต์ดีกว่าครับ (ฮา...) หาเช่าง่ายทั้งจากสนามบินหรือในตัวเมือง

001
เส้นทางขึ้นดอยอ่างขางมีสามเส้น หนึ่งทางตรงกับสองทางอ้อม ทางตรงคือขึ้น ทล.1249 ที่อำเภอฝาง เป็นทางตัดดิ่งขึ้นดอย ลาดชัน รถยนต์เล็กหรือคนขับไม่ชำนาญควรเลี่ยงเส้นนี้ ส่วนทางอ้อมคือขึ้นจากอำเภอเชียงดาว หรืออำเภอไชยปราการ ซึ่งจะไปเจอกันที่บ้านสินชัยแล้วขึ้นสู่อ่างขางต่อไป ทางไม่ชันเท่าเส้นตรง
ครั้งนี้ผมเลือกขึ้นทางเชียงดาว จากถนนหลัก ทล.107 มาถึงแยกเมืองงายตัดกับ ทล.1178 ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยจะเจอป้ายบอกทางไปอ่างขาง ผ่านน้ำตกศรีสังวาลย์ อุทยานแห่งชาติผาแดง บ้านอรุโณทัย แล้วจึงเริ่มขึ้นเขาจนถึงบ้านสินชัย (แยกที่บรรจบกับเส้นจากไชยปราการ) แล้วขึ้นเขาต่อเนื่องถึงดอยอ่างขาง ระยะทางจากแยกเมืองงายราว 80 กิโลเมตร

เทียบจากเริ่มต้นตรงแยกเมืองงาย ขึ้นทางฝางหรือเชียงดาวก็ระยะไล่เลี่ยกันครับ แถมทางเชียงดาวใกล้กว่า 4-5 กิโลเมตรด้วยซ้ำ แต่ขึ้นฝั่งเชียงดาวต้องใช้เวลามากกว่าเพราะถนนแคบกว่า คดเคี้ยวกว่า แลกกับความชันน้อยกว่า ส่วนทางฝางเราวิ่งถนนใหญ่ฉิวๆ แล้วตัดตรงดิ่งขึ้นดอยเลย
แอบบอกนิดว่าผมแวะพักเที่ยวที่บ้านนาเลาใหม่ ดอยหลวงเชียงดาว หนึ่งคืน เดินทางออกจากเชียงดาวสายๆ ไปถึงดอยอ่างขางตรงจุดชมวิวม่อนสนใกล้บ่ายโมง บรรยากาศดีมาก ช่วงนี้ไม่เปิดให้กางเต็นท์ มีแค่เราสองคนมาชมวิวฟินกันไป


ที่พักทริปนี้คือ รีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง ซึ่งบริหารโดย เดอะ โมเสค คอลเลคชั่น (The Mosaic Collection) ในเครือ ONYX หรือที่เรารู้กันว่าเป็นเครือเดียวกับโรงแรมอมารีนั่นเอง ผมใช้คำว่าบริหารโดย เพราะเจ้าของที่แท้จริงไม่ใช่อมารี หรือ ONYX แต่เป็นโครงการหลวงต่างหาก

ความเป็นมาของรีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง เกิดขึ้นจากหลายฝ่ายในพื้นที่ช่วยกันสร้างที่พักระดับมาตรฐานเพื่อรองรับแขกบ้านแขกเมือง นักวิชาการ หรือชาวต่างชาติที่มาศึกษาดูงานโครงการหลวงบนดอยอ่างขาง เมื่อโรงแรมสร้างเสร็จก็ได้อมารีเข้ามาช่วยดูแลบริหารให้ พื้นที่ของโรงแรมก็เป็นของโครงการหลวงนั่นแหละ อยู่ติดสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
เป็นการคลายข้อสงสัยครับว่าทำไมบนอ่างขางถึงมีรีสอร์ทระดับติดดาวเพียงแห่งเดียว และมาเปิดได้อย่างไร
ทุกสิ่งแวดล้อมในรีสอร์ทต้องใช้คำว่าร่มรื่นมาก แทบไม่ต่างจากเดินเล่นในสถานีเกษตรหลวง สูดหายใจสดชื่นเต็มปอดจริงๆ และตกแต่งกลมกลืนกับธรรมชาติสมชื่อ




อุณหภูมิในหน้าฝนครับ เที่ยวอ่างขางช่วงนี้เย็นสบายแน่นอน

ห้องพักมี 76 ห้อง ลักษณะเดียวกันแต่แบ่งเป็นสองโซนคือ ดีลักซ์ เมาน์เท่น ตั้งอยู่บนเนินเขา และดีลักซ์ การ์เด้น ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนหย่อมด้านล่าง และเป็นห้องพักของเราสองคนครับ



แอบบอกนิดหน่อยว่าราคาห้องพักช่วงโลว์ซีซั่นหน้าฝนลดลงจากหน้าไฮสูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์เชียวล่ะ ห้องดีลักซ์ เมาน์เท่น เริ่มต้นพร้อมอาหารเช้า สำหรับเข้าพักสองคน ไม่ถึง 1,600 บาท เท่านั้นเอง คุ้มเว่อร์มาก >>>
https://th.mosaic-collection.com/angkhang
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ในส่วนของห้องอาหารมีทั้งโซนเอาท์ดอร์ (มีหลังคากันฝน) และอินดอร์ เลือกนั่งได้ตามสะดวก ซึ่งอากาศดีๆ แบบนี้ผมขอนั่งด้านนอกดีกว่านะ


พักที่ รีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง รับรองว่าได้ทานพืชผลสดใหม่ทุกวันเพราะวัตถุดิบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นผลิตผลในโครงการหลวงและชาวบ้าน แต่ละฤดูจะมีไฮไลท์ต่างกัน ช่วงที่เราเข้าพักเดือนพฤษภาคม เป็นฤดูลูกพีช (แต่เราถนัดเรียกว่าลูกท้อ)
จัดไปสิครับเมนูเด่นจากลูกพีช ของคาวเป็นซี่โครงหมูอบซอสลูกพีช ของหวานคือเครปไอศกรีมซอสลูกพีช และเครื่องดื่มเป็นน้ำลูกพีชปั่น เอามาแบบครบเซ็ตเลยเชียว เพิ่มเติมด้วยน้ำพริกอ่องอีกเมนู ขอบอกว่าอร่อยมาก


ทานเสร็จแล้วเข้าห้องพักกัน พื้นที่ 36 ตารางเมตร ถือว่ากว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมตามมาตรฐานโรงแรมเครือเดียวกับอมารี ทีวี ตู้เย็น กาต้มน้ำ โต๊ะทำงาน ไดร์เป่าผม ตู้เซฟ เสื้อคลุมอาบน้ำ ฯลฯ ในห้องน้ำฝักบัวเป็นระบบน้ำร้อนน้ำเย็น



ที่นี่ไม่มีเครื่องปรับอากาศนะครับเพราะไม่จำเป็นต้องใช้ ที่เราต้องการมากกว่าคือสิ่งนี้... เตียงนอนซึ่งรองด้วยผ้าห่มไฟฟ้าให้ความอบอุ่นควมคุมด้วยรีโมตคอนโทรล กิ๊บเก๋ถูกใจอย่างแรง

ตรงระเบียงหน้าห้องมีเก้าอี้ให้นั่งเล่นพักผ่อน ปล่อยใจไปกับวิวสวนเขียวๆ ในอ้อมโอบของภูเขา นี่แหละครับความสดชื่นของอ่างขาง

เราลงมาเดินเล่นในสวนหย่อม ดอกไม้และนกเยอะมากโดยเฉพาะปรอดหัวโขน บางคนเรียกว่านกกรงหัวจุก บินเป็นฝูงนับสิบๆ ตัว ตอนแรกผมว่าจะขี่รถไปเที่ยวสถานีเกษตรหลวงหรือที่อื่นสักหน่อย แต่พอเจอแบบนี้แล้วปรากฏว่าไม่ต้องไปไหนเลย เดินส่องนกรอบที่พักก็ฟินเว่อร์แล้ว


ในรีสอร์ทปลูกต้นซากุระญี่ปุ่นเยอะมาก หากเป็นช่วงฤดูหนาวราวธันวาคม มกราคม จะออกดอกกันสะพรั่งเลยทีเดียว
เดินชมนกชมไม้จนมาถึงสวนเจ้านายซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ตรงนี้เป็นพื้นที่รวมต้นไม้ทรงปลูกของพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ รวมถึงพระราชอาคันตุกะ


ผมถ่ายรูปจนเม็มโมรี่แทบหมดแม็ก เพลินจนลืมเวลา มองนาฬิกาอีกทีหกโมงครึ่งเข้าไปแล้ว เมนูมื้อเย็นขอเป็นอาหารถิ่นแล้วกัน ไก่ทอดเครื่องเทศยูนนาน ลาบหมูคั่ว ผัดเห็ดหอมอ่างขาง เป็นเห็ดหอมแบบต้นเล็กๆ เหนียวหนึบนิ่มกำลังดี ทุกเมนูอร่อยเลยครับ ยิ่งแกล้มกับผักสดนะ เด็ดมาก


ค่ำนี้อากาศกำลังดี 22 องศา ฝนตกพรำๆ สักราวสามสี่ทุ่มทำให้เรามีความหวังในการพบทะเลหมอกพรุ่งนี้มากขึ้น อาบน้ำอุ่นเข้านอนเอาตัวซุกในผ้าห่มแสนสบาย พรุ่งนี้เช้ารอลุ้นกันครับ
[SR] ธรรมชาติ / เดินป่า / อ่างขาง / ฤดูฝน สวยสงบสยบทุกสิ่ง
“ภูเขาของพ่อ” ดอยอ่างขาง มากมายด้วยความสวยงาม ร่ำรวยด้วยความเป็นมา จากดอยห่างไกลเมืองแต่ใกล้ชายแดน อุดมไปด้วยพืชคร่าชีวิตอย่างฝิ่น เปลี่ยนแปลงสู่ผืนป่าสมบูรณ์หลากหลาย เป็นสถานที่วิจัยพืชผลที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นที่เที่ยวปักหมุดในฤดูหนาวของผู้คนทั่วสารทิศ
ว่าแต่ว่า แล้วอ่างขางหน้าฝนเป็นอย่างไร
เจอคำถามนี้กระทั่งคนเที่ยวอ่างขางมาแล้วหลายรอบยังไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะไม่เคยไปหน้าฝน โลว์ซีซั่น กรีนซีซั่น ที่นักท่องเที่ยวลดน้อยลงจนแทบไม่เห็นใคร ขนาดผมเองยังไม่เคยเที่ยวอ่างข่างหน้าฝนเช่นกัน
จนถือเป็นโชคดีล่ะมั้ง เดือนพฤษภาคมต้นฤดูฝนที่ผ่านมา รีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง / Angkhang Nature Resort ได้เชื้อเชิญสอบถามมาว่าผมสนใจลองเที่ยวอ่างขางฤดูฝนบ้างไหม มีดีกว่าที่หลายคนมองข้ามอยู่นะ ... นั่นแหละครับ ทริปอ่างขางฤดูฝนซึ่งผมเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนจึงเกิดขึ้น
และเป็นทริปที่ทำให้ผมหลงรักฤดูฝนมากขึ้นอีกด้วย
อย่างที่หลายคนคงทราบคือเที่ยวดอยอ่างขางสะดวกที่สุดต้องรถส่วนตัว พาหนะของเราไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากมอเตอร์ไซค์เช่าร้านประจำที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ อาเขต ส่วนใครไม่ถึกทนเหมือนเรา แนะนำเช่ารถยนต์ดีกว่าครับ (ฮา...) หาเช่าง่ายทั้งจากสนามบินหรือในตัวเมือง
001
เส้นทางขึ้นดอยอ่างขางมีสามเส้น หนึ่งทางตรงกับสองทางอ้อม ทางตรงคือขึ้น ทล.1249 ที่อำเภอฝาง เป็นทางตัดดิ่งขึ้นดอย ลาดชัน รถยนต์เล็กหรือคนขับไม่ชำนาญควรเลี่ยงเส้นนี้ ส่วนทางอ้อมคือขึ้นจากอำเภอเชียงดาว หรืออำเภอไชยปราการ ซึ่งจะไปเจอกันที่บ้านสินชัยแล้วขึ้นสู่อ่างขางต่อไป ทางไม่ชันเท่าเส้นตรง
ครั้งนี้ผมเลือกขึ้นทางเชียงดาว จากถนนหลัก ทล.107 มาถึงแยกเมืองงายตัดกับ ทล.1178 ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยจะเจอป้ายบอกทางไปอ่างขาง ผ่านน้ำตกศรีสังวาลย์ อุทยานแห่งชาติผาแดง บ้านอรุโณทัย แล้วจึงเริ่มขึ้นเขาจนถึงบ้านสินชัย (แยกที่บรรจบกับเส้นจากไชยปราการ) แล้วขึ้นเขาต่อเนื่องถึงดอยอ่างขาง ระยะทางจากแยกเมืองงายราว 80 กิโลเมตร
เทียบจากเริ่มต้นตรงแยกเมืองงาย ขึ้นทางฝางหรือเชียงดาวก็ระยะไล่เลี่ยกันครับ แถมทางเชียงดาวใกล้กว่า 4-5 กิโลเมตรด้วยซ้ำ แต่ขึ้นฝั่งเชียงดาวต้องใช้เวลามากกว่าเพราะถนนแคบกว่า คดเคี้ยวกว่า แลกกับความชันน้อยกว่า ส่วนทางฝางเราวิ่งถนนใหญ่ฉิวๆ แล้วตัดตรงดิ่งขึ้นดอยเลย
แอบบอกนิดว่าผมแวะพักเที่ยวที่บ้านนาเลาใหม่ ดอยหลวงเชียงดาว หนึ่งคืน เดินทางออกจากเชียงดาวสายๆ ไปถึงดอยอ่างขางตรงจุดชมวิวม่อนสนใกล้บ่ายโมง บรรยากาศดีมาก ช่วงนี้ไม่เปิดให้กางเต็นท์ มีแค่เราสองคนมาชมวิวฟินกันไป
ที่พักทริปนี้คือ รีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง ซึ่งบริหารโดย เดอะ โมเสค คอลเลคชั่น (The Mosaic Collection) ในเครือ ONYX หรือที่เรารู้กันว่าเป็นเครือเดียวกับโรงแรมอมารีนั่นเอง ผมใช้คำว่าบริหารโดย เพราะเจ้าของที่แท้จริงไม่ใช่อมารี หรือ ONYX แต่เป็นโครงการหลวงต่างหาก
ความเป็นมาของรีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง เกิดขึ้นจากหลายฝ่ายในพื้นที่ช่วยกันสร้างที่พักระดับมาตรฐานเพื่อรองรับแขกบ้านแขกเมือง นักวิชาการ หรือชาวต่างชาติที่มาศึกษาดูงานโครงการหลวงบนดอยอ่างขาง เมื่อโรงแรมสร้างเสร็จก็ได้อมารีเข้ามาช่วยดูแลบริหารให้ พื้นที่ของโรงแรมก็เป็นของโครงการหลวงนั่นแหละ อยู่ติดสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
เป็นการคลายข้อสงสัยครับว่าทำไมบนอ่างขางถึงมีรีสอร์ทระดับติดดาวเพียงแห่งเดียว และมาเปิดได้อย่างไร
ทุกสิ่งแวดล้อมในรีสอร์ทต้องใช้คำว่าร่มรื่นมาก แทบไม่ต่างจากเดินเล่นในสถานีเกษตรหลวง สูดหายใจสดชื่นเต็มปอดจริงๆ และตกแต่งกลมกลืนกับธรรมชาติสมชื่อ
อุณหภูมิในหน้าฝนครับ เที่ยวอ่างขางช่วงนี้เย็นสบายแน่นอน
ห้องพักมี 76 ห้อง ลักษณะเดียวกันแต่แบ่งเป็นสองโซนคือ ดีลักซ์ เมาน์เท่น ตั้งอยู่บนเนินเขา และดีลักซ์ การ์เด้น ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนหย่อมด้านล่าง และเป็นห้องพักของเราสองคนครับ
แอบบอกนิดหน่อยว่าราคาห้องพักช่วงโลว์ซีซั่นหน้าฝนลดลงจากหน้าไฮสูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์เชียวล่ะ ห้องดีลักซ์ เมาน์เท่น เริ่มต้นพร้อมอาหารเช้า สำหรับเข้าพักสองคน ไม่ถึง 1,600 บาท เท่านั้นเอง คุ้มเว่อร์มาก >>> https://th.mosaic-collection.com/angkhang
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ในส่วนของห้องอาหารมีทั้งโซนเอาท์ดอร์ (มีหลังคากันฝน) และอินดอร์ เลือกนั่งได้ตามสะดวก ซึ่งอากาศดีๆ แบบนี้ผมขอนั่งด้านนอกดีกว่านะ
พักที่ รีสอร์ท ธรรมชาติ อ่างขาง รับรองว่าได้ทานพืชผลสดใหม่ทุกวันเพราะวัตถุดิบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นผลิตผลในโครงการหลวงและชาวบ้าน แต่ละฤดูจะมีไฮไลท์ต่างกัน ช่วงที่เราเข้าพักเดือนพฤษภาคม เป็นฤดูลูกพีช (แต่เราถนัดเรียกว่าลูกท้อ)
จัดไปสิครับเมนูเด่นจากลูกพีช ของคาวเป็นซี่โครงหมูอบซอสลูกพีช ของหวานคือเครปไอศกรีมซอสลูกพีช และเครื่องดื่มเป็นน้ำลูกพีชปั่น เอามาแบบครบเซ็ตเลยเชียว เพิ่มเติมด้วยน้ำพริกอ่องอีกเมนู ขอบอกว่าอร่อยมาก
ทานเสร็จแล้วเข้าห้องพักกัน พื้นที่ 36 ตารางเมตร ถือว่ากว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมตามมาตรฐานโรงแรมเครือเดียวกับอมารี ทีวี ตู้เย็น กาต้มน้ำ โต๊ะทำงาน ไดร์เป่าผม ตู้เซฟ เสื้อคลุมอาบน้ำ ฯลฯ ในห้องน้ำฝักบัวเป็นระบบน้ำร้อนน้ำเย็น
ที่นี่ไม่มีเครื่องปรับอากาศนะครับเพราะไม่จำเป็นต้องใช้ ที่เราต้องการมากกว่าคือสิ่งนี้... เตียงนอนซึ่งรองด้วยผ้าห่มไฟฟ้าให้ความอบอุ่นควมคุมด้วยรีโมตคอนโทรล กิ๊บเก๋ถูกใจอย่างแรง
ตรงระเบียงหน้าห้องมีเก้าอี้ให้นั่งเล่นพักผ่อน ปล่อยใจไปกับวิวสวนเขียวๆ ในอ้อมโอบของภูเขา นี่แหละครับความสดชื่นของอ่างขาง
เราลงมาเดินเล่นในสวนหย่อม ดอกไม้และนกเยอะมากโดยเฉพาะปรอดหัวโขน บางคนเรียกว่านกกรงหัวจุก บินเป็นฝูงนับสิบๆ ตัว ตอนแรกผมว่าจะขี่รถไปเที่ยวสถานีเกษตรหลวงหรือที่อื่นสักหน่อย แต่พอเจอแบบนี้แล้วปรากฏว่าไม่ต้องไปไหนเลย เดินส่องนกรอบที่พักก็ฟินเว่อร์แล้ว
ในรีสอร์ทปลูกต้นซากุระญี่ปุ่นเยอะมาก หากเป็นช่วงฤดูหนาวราวธันวาคม มกราคม จะออกดอกกันสะพรั่งเลยทีเดียว
เดินชมนกชมไม้จนมาถึงสวนเจ้านายซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ตรงนี้เป็นพื้นที่รวมต้นไม้ทรงปลูกของพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ รวมถึงพระราชอาคันตุกะ
ผมถ่ายรูปจนเม็มโมรี่แทบหมดแม็ก เพลินจนลืมเวลา มองนาฬิกาอีกทีหกโมงครึ่งเข้าไปแล้ว เมนูมื้อเย็นขอเป็นอาหารถิ่นแล้วกัน ไก่ทอดเครื่องเทศยูนนาน ลาบหมูคั่ว ผัดเห็ดหอมอ่างขาง เป็นเห็ดหอมแบบต้นเล็กๆ เหนียวหนึบนิ่มกำลังดี ทุกเมนูอร่อยเลยครับ ยิ่งแกล้มกับผักสดนะ เด็ดมาก
ค่ำนี้อากาศกำลังดี 22 องศา ฝนตกพรำๆ สักราวสามสี่ทุ่มทำให้เรามีความหวังในการพบทะเลหมอกพรุ่งนี้มากขึ้น อาบน้ำอุ่นเข้านอนเอาตัวซุกในผ้าห่มแสนสบาย พรุ่งนี้เช้ารอลุ้นกันครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้