บิ๊กตู่" ยกสุภาษิต ยืนยัน 4 ปีฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ
บิ๊กตู่" ยกสุภาษิต ยืนยัน 4 ปีฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ
"บิ๊กตู่" ยกสุภาษิต "จิ้กจกทักเรายังต้องฟัง" ยันตลอด 4 ปี ฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ พร้อมรับฟังโพล-เสียงบ่นในใจ เพราะเป้าหมายต้องการคืนความสุขให้กับคนในชาติ ให้รออีก 3 ปีข้างหน้าสัญญาใจที่มีต่อกัน เมื่อทุกอย่างทยอยเสร็จสมบูรณ์ ถึงตอนนั้นจะรู้ว่าพูดจริง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า สุภาษิตโบราณกล่าวว่า จิ้งจกทักเรายังต้องฟัง เพราะฉะนั้นทุกเสียง ทุกความเห็น โดยเฉพาะจากพี่น้องประชาชนเจ้าของประเทศ ”ผม-รัฐบาล-และคสช.ได้ยินและได้นำมาสู่กระบวนการแก้ไขอยู่ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เพราะเป้าหมายของเรา คือการคืนความสุขให้กับคนในชาติ” ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ได้ตีความความสุขแต่เพียงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ ใช้อ้างอิงในวงวิชาการ วงการธุรกิจ หรือเป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจต่างๆ แต่รัฐบาลมองและให้ความสำคัญในเรื่องอื่นๆ ที่กว้างกว่านั้น ทั้งเรื่องปากท้อง ความเหลื่อมล้ำ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปัญหาทุจริต การขาดโครงสร้างพื้นฐานที่ดีพอ รวมไปถึงความแตกแยกอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นต้น
ดังนั้นเสียงสะท้อนจากโพล หรือเสียงบ่นในใจก็ขอให้ถ่ายทอดมาเถิด ผ่านสายด่วนต่างๆ ตามที่ได้เคยบอกไปแล้วหลายครั้ง ทั้ง 1111 และศูนย์ดำรงธรรม 1567 รวมทั้ง “สายด่วนไทยนิยม” ซึ่งผมก็ดีใจ ที่วันนี้หลายเรื่องหลายราวเป็นความทุกข์ใจได้รับการแก้ไขแล้ว แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็จะไม่ถูกมองข้าม แต่เรื่องยากๆซับซ้อน ต้องขอเวลาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำงาน ได้มีเวลาพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสมหลายเรื่องซุกอยู่ใต้พรม คนรู้เบาะแสก็ไม่กล้าเปิดเผย เพราะกลัวภัยจะมาถึงตัวก็ถูกหยิบขึ้นมาสู่สังคม
รัฐบาลนี้ก็เอาจริงเอาจังในบังคับใช้กฎหมาย อาทิ เรื่องอาหารกลางวันเด็ก ขนมจีนน้ำปลา” เรื่องเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้-ผู้ประสบภัย เรื่องกองทุนเสมา ไปจนถึงเรื่องเงินทอนวัด แม้กระทั่ง ความเดือดร้อนจากโครงการพัฒนาต่างๆ เช่น ถนนชำรุดนะครับ เป็นต้น เราก็ได้พยายามแก้ไขมาตามลำดับ ขอให้ทุกคนแจ้งเข้ามาตามช่องทางที่กล่าวไว้ได้ อย่าทำให้เสียเวลา อย่าโทรมาโดยที่ไม่มีความจำเป็นมารบกวน มาว่ากล่าวเจ้าหน้าที่ บางที่ก็ไม่ได้ประโยชน์เท่าไร
สำหรับปัญหาเชิงโครงสร้าง หรือการปฏิรูปเรื่องใหญ่ๆ ก็คงต้องอาศัยเวลา ในการผลิดอกออกผล ารปลูกข้าว ยาง อ้อย ยังต้องใช้เวลา ระหว่างรอขอชาวสวน ชาวนาหาอาชีพเสริมทำ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และวันนี้เราลงทุนเพื่ออนาคตจำนวนมาก นอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนแล้ว ก็ยังเป็นการสร้างโอกาส สร้างสิ่งดีๆ เพื่อวันข้างหน้า อาทิ การเร่งสร้างรถไฟฟ้าเกือบ 10 สายในวันนี้ เพราะที่ผ่านมาเดินหน้าไม่ได้ อาจทำให้รถติดก็คงต้องอดทน เพื่อความสะดวกสบายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การสร้างอีอีซีที่จะเริ่มทยอยเห็นผล จะมีการจ้างงานหลายหมื่นอัตราในหลายสาขา จะมีการใช้วัตถุดิบในประเทศ กว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี จะมีการส่งออกสร้างรายได้เข้าประเทศ กว่า 7 หมื่นล้านบาทต่อปี เป็นต้น
ทุกคนที่เป็นคนไทย จะได้รับอานิสงส์ได้รับโอกาสร่วมกัน ซึ่งเพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มที่ ต้องมีความจำเป็น ในการที่จะต้องมีปรับตัวพัฒนาตนเองไปด้วย แล้วหาช่องทางมีส่วนร่วม และลองมองย้อนไปยุค “โชติช่วงชัชวาล” เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา วันนี้เหมือนเรากำลังกินบุญเก่าอยู่ เมื่อใกล้จะหมดลง ประเทศเราก็จะมีอีอีซีเข้ามาทดแทน วันนี้ผมต้องการทำเพื่อลูก หลาน เพื่อคนรุ่นใหม่ ที่กำลังจะเติบโตขึ้นมา วันนี้แม้อาจจะยังไม่เห็นผล ก็ไม่เป็นไร แต่อีก 3 ปี ข้างหน้าเป็นต้นไป เมื่อโครงการต่างๆ ทยอยเสร็จสมบูรณ์ ท่านก็จะได้รู้ว่าสิ่งที่ผมพูดตอนนี้ เป็นความจริงเป็นการสนองตอบ สัญญาใจที่เรามีไว้ต่อกัน
http://www.banmuang.co.th/news/politic/114311
จิ้งจกร้องทัก
จิ้งจกเป็นสัตว์จำพวกเดียวกันกับตุ๊กแก ชอบอาศัยตามบ้านเรือนในร่องไม้หรือมุมอับเล็กๆภายในบ้าน มักหากินทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน มักไม่ค่อยได้ยินเสียงร้อง ซึ่งคนไทยโบราณมีความเชื่อมาตั้งแต่อดีตว่า
หากเมื่อใดได้ยินเสียงจิ้งจกร้องก่อนที่จะออกจากบ้านมักจะเป็นลางบอกเหตุร้ายห้ามออกจากบ้านในวันนั้นหรือที่มักเรียกกันว่า จิ้งจกทัก แต่ก็มีเคล็ดลับในการทำนายเมื่อเกิดจิ้งจกทักไว้ว่า
หากจิ้งจกร้องทักอยู่ด้านหลังหรืออยู่ด้านบนศีรษะ ให้พยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางหรือควรเลื่อนการเดินทางเป็นวันอื่นแทน อาจจะเป็นวันเดียวกันแต่คนละเวลาก็ได้ แต่หากเสียงร้องทักอยู่ทางด้านหน้าหรือซ้ายมือขวามือสามารถเดินทางได้ตามปกติ ไม่มีเหตุร้ายใดๆเข้ามากล้ำกลาย
http://www.mhodoo.com/sarahora_view.php?id=114
แล้วจิ้งจกตัวแดงๆฟังใครที่ร้องทักบ้างหรือเปล่า...?
🦎~มาลาริน~🦎 จิ้งจกทักก็ยังต้องฟัง.."ลุงตู่"ยกสุภาษิต ยืนยัน 4 ปีฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ แล้วจิ้งจกสีแดงฟังใครบ้าง
บิ๊กตู่" ยกสุภาษิต ยืนยัน 4 ปีฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ
บิ๊กตู่" ยกสุภาษิต ยืนยัน 4 ปีฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ
"บิ๊กตู่" ยกสุภาษิต "จิ้กจกทักเรายังต้องฟัง" ยันตลอด 4 ปี ฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ พร้อมรับฟังโพล-เสียงบ่นในใจ เพราะเป้าหมายต้องการคืนความสุขให้กับคนในชาติ ให้รออีก 3 ปีข้างหน้าสัญญาใจที่มีต่อกัน เมื่อทุกอย่างทยอยเสร็จสมบูรณ์ ถึงตอนนั้นจะรู้ว่าพูดจริง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า สุภาษิตโบราณกล่าวว่า จิ้งจกทักเรายังต้องฟัง เพราะฉะนั้นทุกเสียง ทุกความเห็น โดยเฉพาะจากพี่น้องประชาชนเจ้าของประเทศ ”ผม-รัฐบาล-และคสช.ได้ยินและได้นำมาสู่กระบวนการแก้ไขอยู่ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เพราะเป้าหมายของเรา คือการคืนความสุขให้กับคนในชาติ” ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ได้ตีความความสุขแต่เพียงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ ใช้อ้างอิงในวงวิชาการ วงการธุรกิจ หรือเป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจต่างๆ แต่รัฐบาลมองและให้ความสำคัญในเรื่องอื่นๆ ที่กว้างกว่านั้น ทั้งเรื่องปากท้อง ความเหลื่อมล้ำ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปัญหาทุจริต การขาดโครงสร้างพื้นฐานที่ดีพอ รวมไปถึงความแตกแยกอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นต้น
ดังนั้นเสียงสะท้อนจากโพล หรือเสียงบ่นในใจก็ขอให้ถ่ายทอดมาเถิด ผ่านสายด่วนต่างๆ ตามที่ได้เคยบอกไปแล้วหลายครั้ง ทั้ง 1111 และศูนย์ดำรงธรรม 1567 รวมทั้ง “สายด่วนไทยนิยม” ซึ่งผมก็ดีใจ ที่วันนี้หลายเรื่องหลายราวเป็นความทุกข์ใจได้รับการแก้ไขแล้ว แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็จะไม่ถูกมองข้าม แต่เรื่องยากๆซับซ้อน ต้องขอเวลาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำงาน ได้มีเวลาพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสมหลายเรื่องซุกอยู่ใต้พรม คนรู้เบาะแสก็ไม่กล้าเปิดเผย เพราะกลัวภัยจะมาถึงตัวก็ถูกหยิบขึ้นมาสู่สังคม
รัฐบาลนี้ก็เอาจริงเอาจังในบังคับใช้กฎหมาย อาทิ เรื่องอาหารกลางวันเด็ก ขนมจีนน้ำปลา” เรื่องเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้-ผู้ประสบภัย เรื่องกองทุนเสมา ไปจนถึงเรื่องเงินทอนวัด แม้กระทั่ง ความเดือดร้อนจากโครงการพัฒนาต่างๆ เช่น ถนนชำรุดนะครับ เป็นต้น เราก็ได้พยายามแก้ไขมาตามลำดับ ขอให้ทุกคนแจ้งเข้ามาตามช่องทางที่กล่าวไว้ได้ อย่าทำให้เสียเวลา อย่าโทรมาโดยที่ไม่มีความจำเป็นมารบกวน มาว่ากล่าวเจ้าหน้าที่ บางที่ก็ไม่ได้ประโยชน์เท่าไร
สำหรับปัญหาเชิงโครงสร้าง หรือการปฏิรูปเรื่องใหญ่ๆ ก็คงต้องอาศัยเวลา ในการผลิดอกออกผล ารปลูกข้าว ยาง อ้อย ยังต้องใช้เวลา ระหว่างรอขอชาวสวน ชาวนาหาอาชีพเสริมทำ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และวันนี้เราลงทุนเพื่ออนาคตจำนวนมาก นอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนแล้ว ก็ยังเป็นการสร้างโอกาส สร้างสิ่งดีๆ เพื่อวันข้างหน้า อาทิ การเร่งสร้างรถไฟฟ้าเกือบ 10 สายในวันนี้ เพราะที่ผ่านมาเดินหน้าไม่ได้ อาจทำให้รถติดก็คงต้องอดทน เพื่อความสะดวกสบายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การสร้างอีอีซีที่จะเริ่มทยอยเห็นผล จะมีการจ้างงานหลายหมื่นอัตราในหลายสาขา จะมีการใช้วัตถุดิบในประเทศ กว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี จะมีการส่งออกสร้างรายได้เข้าประเทศ กว่า 7 หมื่นล้านบาทต่อปี เป็นต้น
ทุกคนที่เป็นคนไทย จะได้รับอานิสงส์ได้รับโอกาสร่วมกัน ซึ่งเพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มที่ ต้องมีความจำเป็น ในการที่จะต้องมีปรับตัวพัฒนาตนเองไปด้วย แล้วหาช่องทางมีส่วนร่วม และลองมองย้อนไปยุค “โชติช่วงชัชวาล” เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา วันนี้เหมือนเรากำลังกินบุญเก่าอยู่ เมื่อใกล้จะหมดลง ประเทศเราก็จะมีอีอีซีเข้ามาทดแทน วันนี้ผมต้องการทำเพื่อลูก หลาน เพื่อคนรุ่นใหม่ ที่กำลังจะเติบโตขึ้นมา วันนี้แม้อาจจะยังไม่เห็นผล ก็ไม่เป็นไร แต่อีก 3 ปี ข้างหน้าเป็นต้นไป เมื่อโครงการต่างๆ ทยอยเสร็จสมบูรณ์ ท่านก็จะได้รู้ว่าสิ่งที่ผมพูดตอนนี้ เป็นความจริงเป็นการสนองตอบ สัญญาใจที่เรามีไว้ต่อกัน
http://www.banmuang.co.th/news/politic/114311
จิ้งจกร้องทัก
จิ้งจกเป็นสัตว์จำพวกเดียวกันกับตุ๊กแก ชอบอาศัยตามบ้านเรือนในร่องไม้หรือมุมอับเล็กๆภายในบ้าน มักหากินทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน มักไม่ค่อยได้ยินเสียงร้อง ซึ่งคนไทยโบราณมีความเชื่อมาตั้งแต่อดีตว่า
หากเมื่อใดได้ยินเสียงจิ้งจกร้องก่อนที่จะออกจากบ้านมักจะเป็นลางบอกเหตุร้ายห้ามออกจากบ้านในวันนั้นหรือที่มักเรียกกันว่า จิ้งจกทัก แต่ก็มีเคล็ดลับในการทำนายเมื่อเกิดจิ้งจกทักไว้ว่า
หากจิ้งจกร้องทักอยู่ด้านหลังหรืออยู่ด้านบนศีรษะ ให้พยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางหรือควรเลื่อนการเดินทางเป็นวันอื่นแทน อาจจะเป็นวันเดียวกันแต่คนละเวลาก็ได้ แต่หากเสียงร้องทักอยู่ทางด้านหน้าหรือซ้ายมือขวามือสามารถเดินทางได้ตามปกติ ไม่มีเหตุร้ายใดๆเข้ามากล้ำกลาย
http://www.mhodoo.com/sarahora_view.php?id=114
แล้วจิ้งจกตัวแดงๆฟังใครที่ร้องทักบ้างหรือเปล่า...?