สวัสดีค่ะ ทุกโคนนนน อันเนื่องด้วย จขกท. อายุจะ เข้าเลข 3 ในอีกไม่กี่เดือนแล้วววววว
ถ้าจะให้บอกว่า อะไรที่กังวลที่สุดน่ะหรือ???
ก็ต้องเป็น ....
ความเหี่ยว!! แก่ไม่กลัว กลัวเหี่ยวจ้าาาาา
เพราะจขกท. ทั้งหน้าแห้ง ทั้งผิวแพ้ง่าย ซึ่งไอ้การหน้าแห้ง เนี่ยก็เพิ่มความเสี่ยงในการจะเหี่ยว มากกว่าคนหน้ามันอยู่เรี้ยวน้า
คือเราไม่อยากเป็นเขาคนนั้นอ่ะ .. คนที่ไปฉีดโบมา แล้วตึงโบเป็นหุ่นยนต์ จนยิ้มไม่ได้
..เราไม่อยากเป็นเขาคนนั้นอ่ะ คนที่หน้าเหี่ยวยาน ทั้งๆที่เพิ่งแค่ 30 ต้นๆ
คือ ไม่ได้จะบอกนะคะ ว่าหน้าเหี่ยว มันไม่ดี! เพราะยังไงซะทุกคนก็ต้องเหี่ยว ซึ่งเป็นความจริงแท้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็แค่อยากจะยืดเวลาที่หน้าตึงให้ออกไปอีกหน่อย แบบว่าขอไปเหี่ยวซักตอน 50 จะได้ไหม?!
แล้วมีหลายคนทำได้จริงๆๆๆๆๆนะ ไม่ได้ล้อเล่น แบบของจริง ไม่ใช่ Botox นะคะ
ดังนั้น ในวาระดิถี ใกล้วันเกิดย่าง 30 ของ จขกท.
จึงขอมารีวิว ตัวช่วย ที่จขกท. เพิ่งซื้อมาลองใช้ป้องกันหน้าเหี่ยว ถ้าใครจะใช้ตามก็ไม่ว่า หรือถ้าจะแนะนำเพิ่มก็จะขอบคุณมากค่า แนะนำกันมาเลยค่ะ เราจะไปขายไต เอามาซื้อสกินแคร์ เพราะเราไม่อยากเหี่ยวจีจี แต่ตอนนี้ เราอายุเท่านี้ เบี้ยน้อย หอยน้อยแบบนี้ ตัวที่จะรีวิวก็คงจิราคาไม่แรงเนาะ
บ่นมาก็นาน มาเริ่มกันเลยยย
1. Beauty Idol Donkey Milk Reborn Cream mask
นมวัวมันธรรมดาไปแล้วจ้า! ยุคนี้มันต้องนมลา ดองกีโฮเต้ เท่านั้นนนน ที่เราซื้อตัวนี้เพราะความนมลาของนางเนี่ยแหละ ......คือมันแปลกดีอ่ะค่ะ ไม่ค่อยเห็นแบรนด์ไหนทำ
ตัวเนื้อครีมมีความเข้มข้น เหนียวๆ คล้ายครีมรกแกะ ที่แบบข้นกว่ามากๆๆๆๆๆ คือ ….. มันเหนียวมาก และดูให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากกกก เหมาะกับคนหน้าแห้งอย่างเรา ที่มีสิทธิจะหน้าเหี่ยวได้เร็วกว่าคนหน้ามัน
เพราะนั้น เจ้านมลา ถือว่าตอบโจทย์ในแง่ความชุ่มฉ่ำ .... เพราะ การที่หน้าจะเหี่ยวได้ไว มันเกิดจากแสงแดด และความแห้งเนี่ยแหละจ้า
และในเมื่อมันเป็น Cream mask เนี่ยมันจะซึมยากนิดนึงเนาะ (หรือเค้าออกแบบมาไม่ให้ซึมเลย? เพราะเป็นมาส์ก????) อาจจะมีการทาไปแล้ว หน้าดูเหมือนมันมาก จนแฟนขอเอาไปทอดไก่ได้นะคะ คนที่ไม่ชอบครีมเนื้อหนักๆ อาจรำคาญได้นา
แต่จงคิดว่าไว้มันคือ Antioxidant อันหนักอึ้งละกันนะคะ \ ใครจะว่ามันเหนียวหนึบยังไง แต่สำหรับเรา เอามาเถอะ ถ้ามันจะทำให้หน้าไม่เหี่ยว ยอมมมมจ้า
ราคา 990 มีความกัดฟันบ่นน้องลาเบาๆ

นมหนูแพงจังลูก
2. PHYSIOGEL Daily Moisture Therapy Dermo-Cleanser
ตัวนี้ที่ซื้อเลยเพราะมันคือแบรนด์แห่งชาติ...ของคนผิวแพ้ง่ายแบบเราเลยค่ะ จขกท.ตัดสินใจซื้อนางมาล้างหน้าเพราะ คำว่า *
ผ่านการทดสอบในเด็กอายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป ก็เอออออ เอาวะ ถ้าเด็กสี่เดือนน้องยังใช้ได้ ป้าก็ใช้ได้เด้อออ
ซึ่งนางมีค่า PH ที่เหมาะกับผิว ไม่เหมือนสบู่ทั่วไปที่จะมีความเป็นเบส (ฮั่นแหน่ วิทย์ ม.ต้น ก็มา)
แล้วที่ชอบฟิสิโอเจลตัวนี้อีกก็คือ มันใช้ได้ทั้งสองแบบ ทั้งแบบเช็ดด้วยสำลี และล้างออกด้วยน้ำ
ก็ 2 in 1 ดีนะ และที่สำคัญคือ นางไม่ทำให้หน้าตึงหลังล้าง... ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องรีบทาครีม ทุกครั้งหลัง
ล้างหน้า เพราะหน้าจะเหี่ยว
เพราะการที่หน้าตึง นั่นก็คือการที่หน้าโดนเอาน้ำมันที่ดีออกไปนั่นเอง ถ้าไม่รีบทาครีมมอยเจอไรเซอร์หลังล้างหน้า +ทำบ่อยๆ ทุกวัน …. หน้าก็จะเหี่ยวได้ค่ะ
ราคา 259 บาท ถือว่าคุ้มค่าาาา เมื่อเทียบกับปริมาณและคุณภาพค่ะ
3. Kindness Happy Glow – Antioxidant Radiance Moisturizer
และนี่ก็คือมอยเจอไรเซอร์ตัวที่ว่า ที่เราจะใช้หลังล้างหน้า และก่อนนอน กับตัวนี้จขกท.ค่อนข้างหวังผลพอสมควร เพราะนางใส่สารฟื้นฟูนู่นนี่ลงไปเยอะ ..ไคนด์เนสนางก็เป็นแบรนด์แห่งชาติของคนผิวแพ้ง่ายอีกเช่นกัน แต่คนที่ผิวปกติ ไม่ได้แพ้อะไรง่ายแบบเรา ก็อาจจะไม่ค่อยรู้จัก เพราะนางเด่นเรื่องผิวแพ้ง่าย และต้านริ้วรอยโดยเฉพาะ
นางใส่แอสตาแซนธิน ที่ช่วงหลังๆมานี้ได้ยินบ่อยขึ้น ว่ามันเป็น Antioxidant ที่เจ้มจ้นมาก ซึ่งพบในพวกสาหร่ายสีแดง ปลาแซลมอน เปลือกกุ้งปูไรงี้ .. คืออะไรที่มีสีแดงๆหน่อยนั่นแหละ
หลอดนี้ช่วยได้หลายเรื่องมากมาย ทั้งเรื่องริ้วรอยก็ได้ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ความชุ่มชื้น เพราะนั้น ซื้อหลอดเดียวก็ถือว่าคุ้มอยู่ แต่ที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อที่สุด ก็เรื่องหน้าเหี่ยวนั่นแหละค่ะ
เนื้อครีมสีส้มๆ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่ใส่สี เพราะทำมาให้คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ทาแล้วจะสบายๆ เย็นๆผิวหน่อย เพราะมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ด้วย จริงๆคือนางใส่นู่นนี่เยอะมาก แต่เราจำได้แต่สาหร่ายสีแดง ที่เป็นพระเอกค่ะ กับว่านหางจระเข้ค่ะ
ราคา 950 บาท ลดจากราคาเต็มพันห้า แต่บางเว็บขาย 795 บาท เพิ่งเห็นอะ ฮือๆๆ
4.GARNIER SKIN NATURALS UV COMPLETE SPF 50+/PA++++
อยากจิบอกว่า สิ่งนี่สำคัญที่สุด กว่าทุกตัว ในกระทู้นี้ และ ไม่จำเป็นต้องเป็นการ์นิเย่ก็ได้ คือ ..ขอแค่ทาครีมกันแดดก็พอค่ะ .. คุณลองเทียบกันจะๆได้เลย คนที่ทาครีมกันแดดทุกวัน ทาตลอด เทียบกับคนที่ไม่ได้ทาทุกวัน แบบพวก ผชแมนๆ ที่แมนมากกกก จนแม้แต่ครีมกันแดดยังไม่ทา... ผิด ผิด ผิด! มีสามีบอกสามี มีน้า มีลุง มีพี่ชาย น้องชาย บอกนางไปเลยค่ะ ว่ายังไงก็ต้องทาเด้ออออออ
แดดประเทศไทยแรงมากกก ซึ่งรอบดวงตา และใบหน้า เป็นจุดที่จะก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังมากที่สุด แต่เรายังไม่ต้องไปพูดถึงมะเร็งผิวหนัง แค่เอาความเหี่ยวเนี่ยล่ะ เทียบกันเลย คนที่ทากับไม่ได้ทา ผิวพรรณจะดูต่างกัน เป็น 10ปีอ่ะค่ะ เพราะแสงแดดจะทำลาย ผิวเราได้ไวมาก และ สิ่งที่ตามมาคือ เหี่ยว แห้ง ดำ .. ซึ่งดำหลายคนอาจชอบ แต่เหี่ยวนี่ไม่มีใครชอบแน่ๆ
เอาล่ะ มาเข้าเรื่องการ์นิเย่กัน 5555 ตัวนี้ก็ดังเรื่องความอ่อนโยน เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายอีกล้าว และไม่มีน้ำหอม และที่เราชอบคือ มันให้ SPF มาเยอะ และราคาถูกกกก แต่อาจจะเหนียวหนักหน้าไปนิดนึง ต้องรอให้มันแห้งซักแพรพ ละค่อยตามด้วยแป้งอีกทีค่ะ
ราคา 189 บาท ถูกจริงจังเด้อ ชอบๆ
5. NEUTROGENA HYDRO BOOST WATER GEL
ตัวนี้เหมาะอีกแล้วววกับคนผิวแห้งแบบเรา ซึ่งขนาดคนผิวแห้งแบบเราทา ใช้แล้วยังเยิ้มมมในระดับนึงเลย เพราะนั้น คนผิวมัน ต้องเยิ้มมากแน่นอน ตัวนี้เค้าเคลมว่าสามารถกักเก็บความชุ่มชื้น ได้ตลอดวัน จึงควรใช้ตอนเช้า นะคะ
นูโทรจีนา ตัวนี้ ไม่มีน้ำหอม และ มีเนื้อครีมอันหนักอึ้ง เยิ้มๆมันๆหน่อย … แต่เพราะเราจะต้านเหี่ยว เราต้องอัดความชุ่มชื้นเข้าไปๆๆๆๆ แต่ควรทาบางๆนะ ทาหนา นี่เยิ้มแน่นอนค่ะ
ด้านความซึมไว อ่านที่เค้าเคลม เค้าบอกซึมไว แต่จริงๆก็ไม่ค่อยไวนะ ทาแล้วเหมือนมันจะยังเกาะๆผิวเราอยู่ เยิ้มๆเลย
คือใช้นูโทรจีน่าตัวนี้แล้วเหมือนเติมน้ำให้ผิวแบบ ....หลายลิตรเลยค่า และ เพราะเราก็ใช้ตัว นมน้องลา อันแรกอยู่แล้ว ตัวนี้เราเลยใช้สลับๆๆไป อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง กำลังดี ตัวนมลา ใช้ก่อนนอน ตัวนี้ใช้ตอนเช้าวันที่ไม่รีบเร่ง
ซึ่งใครหน้าแห้งตัวนี้เราแนะนำเลย ส่วนคนหน้ามันผ่านก่อนนะตัวนี้ เพราะเท่าที่อ่านๆมา ทากันแล้วมันมาก และมีคนแพ้กันเยอะเลยตัวนี้ สิวอุดตันเยอะด้วย แต่เราหน้าแห้งมั้ง เลยไม่แพ้
ราคา 499 ถูกกว่า น้องนมลานะ ถ้านมลาหมด อาจจะซื้อแต่ตัวนี้จ้า
6.It's Skin Power 10 Formula GF Effector
It's Skin ตัวนี้ซื้อเพราะ เราอยากซื้อขวด อะไรแบบหยดๆ แบบนี้มานานละค่ะ … มันดูวิทยาศาสตร์ดีอ่ะค่ะ 55555
โดยส่วนตัว เราชอบเซรั่มมากๆๆๆ แต่ในความรู้สึกคือ เซรั่มมันอาจจะไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นแก่คนหน้าแห้งอย่างเราเท่าที่ควร ซึ่งตัวนี้เค้าก็เคลมอีกล่ะ ว่าเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย ซึ่งก็ผ่านนน เพราะเราก็ไม่แพ้ แม้น้ำหอมตัวนี้จะกลิ่นแรงมากกกก็ตาม คือก็หอมดีนะ แต่ดูเคมีๆมากเลย
นางบอกว่านางมีส่วนผสมของ เห็ดไมตาเกะ ด้วย .. แพ้สิแบบนี้ เราชอบส่วนผสมอะไรแบบนี้มาก ตั้งแต่สาหร่ายแดง ของ Kindness ข้างบนละ ส่วนอันนี้ก็เห็ดไมตาเกะ 55 .. ไม่รู้สิ คือพอส่วนผสม ที่มันเป็นอะไรที่เรารู้จัก เราคุ้นชิน เราจะรู้สึกอยากกิน และอยากเอามันมาทาหน้าเราอ่ะ 55 ไม่รู้ใครเป็นเหมือนเรามั้ยนะ ?
อย่างแบรนด์ Skinfood นี่ตอน จขกท. อายุน้อยๆกว่านี้ จขกท.ก็ชอบมาก … แต่ตอนนี้รู้สึกว่า เรื่องหน้าเหี่ยวมันกำลังจะมาเยือน เราเลยอยากมาใช้แบรนด์โตๆบ้างอ่ะ
เซรั่มก็คือเซรั่ม น้ำใสแจ๋ว ซึมไว และแอบมีเม็ดกลมๆ เล็กๆ สีฟ้า นางสมราคานะ แม้จะเป็นเซรั่ม แต่ไม่เหลวเป๋ว คือยังมีความหนึบๆ ชุ่มชื้น แต่เบาสบายหน้า ตัวนี้ก็คงจะซื้อกันไปยาวๆจ้า
ราคา 690 ราคาเหมาะสมกับคุณตะพาบค่ะ
จบแล้ววค่ะ สำหรับรีวิวคนไม่อยากเหี่ยว .. แต่ถ้าใครเหี่ยวไปแล้ว ก็ไม่ต้องเสียใจไปนะคะ เพราะยังมีครีมอีกหลายตัว ที่ช่วยลดริ้วรอย แล้วไหนจะร้อยไหม การฉีดนู่นนี่ ฉีดไขมันเอย Botox เอย ..แต่ก็นั่นแหละค่ะ ราคามันก็สูงกว่าการใช้เครื่องสำอาง สกินแคร์ หรือครีมกันแดดสักตัวอยู่แล้ว เพราะนั้นหากเราป้องกันไว้ก่อนได้ มันก็จะดีค่ะ
แล้วเรื่องริ้วรอย ไม่ได้เกิดจากปัจจัยอย่างแสงแดดอย่างเดียวนะคะ ไหนจะแอลกอฮออล์ ปาร์ตี้หนัก นอนน้อย เครียด ก็ก่อให้เกิดความเหี่ยว และริ้วรอย ได้เช่นเดียวกันค่ะ เพราะนั้น ทำอะไร ทำกันแต่พอดีเนอะ
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ (:
[CR] โหดหน้าไม่เหี่ยว! สกินแคร์ที่จำเป็นต้องใช้ของสาววัย 30 ที่ไม่! อยาก! เหี่ยว!!
ถ้าจะให้บอกว่า อะไรที่กังวลที่สุดน่ะหรือ???
ก็ต้องเป็น ....
ความเหี่ยว!! แก่ไม่กลัว กลัวเหี่ยวจ้าาาาา
เพราะจขกท. ทั้งหน้าแห้ง ทั้งผิวแพ้ง่าย ซึ่งไอ้การหน้าแห้ง เนี่ยก็เพิ่มความเสี่ยงในการจะเหี่ยว มากกว่าคนหน้ามันอยู่เรี้ยวน้า
คือเราไม่อยากเป็นเขาคนนั้นอ่ะ .. คนที่ไปฉีดโบมา แล้วตึงโบเป็นหุ่นยนต์ จนยิ้มไม่ได้
..เราไม่อยากเป็นเขาคนนั้นอ่ะ คนที่หน้าเหี่ยวยาน ทั้งๆที่เพิ่งแค่ 30 ต้นๆ
คือ ไม่ได้จะบอกนะคะ ว่าหน้าเหี่ยว มันไม่ดี! เพราะยังไงซะทุกคนก็ต้องเหี่ยว ซึ่งเป็นความจริงแท้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็แค่อยากจะยืดเวลาที่หน้าตึงให้ออกไปอีกหน่อย แบบว่าขอไปเหี่ยวซักตอน 50 จะได้ไหม?!
แล้วมีหลายคนทำได้จริงๆๆๆๆๆนะ ไม่ได้ล้อเล่น แบบของจริง ไม่ใช่ Botox นะคะ
ดังนั้น ในวาระดิถี ใกล้วันเกิดย่าง 30 ของ จขกท.
จึงขอมารีวิว ตัวช่วย ที่จขกท. เพิ่งซื้อมาลองใช้ป้องกันหน้าเหี่ยว ถ้าใครจะใช้ตามก็ไม่ว่า หรือถ้าจะแนะนำเพิ่มก็จะขอบคุณมากค่า แนะนำกันมาเลยค่ะ เราจะไปขายไต เอามาซื้อสกินแคร์ เพราะเราไม่อยากเหี่ยวจีจี แต่ตอนนี้ เราอายุเท่านี้ เบี้ยน้อย หอยน้อยแบบนี้ ตัวที่จะรีวิวก็คงจิราคาไม่แรงเนาะ
1. Beauty Idol Donkey Milk Reborn Cream mask
นมวัวมันธรรมดาไปแล้วจ้า! ยุคนี้มันต้องนมลา ดองกีโฮเต้ เท่านั้นนนน ที่เราซื้อตัวนี้เพราะความนมลาของนางเนี่ยแหละ ......คือมันแปลกดีอ่ะค่ะ ไม่ค่อยเห็นแบรนด์ไหนทำ
ตัวเนื้อครีมมีความเข้มข้น เหนียวๆ คล้ายครีมรกแกะ ที่แบบข้นกว่ามากๆๆๆๆๆ คือ ….. มันเหนียวมาก และดูให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากกกก เหมาะกับคนหน้าแห้งอย่างเรา ที่มีสิทธิจะหน้าเหี่ยวได้เร็วกว่าคนหน้ามัน
เพราะนั้น เจ้านมลา ถือว่าตอบโจทย์ในแง่ความชุ่มฉ่ำ .... เพราะ การที่หน้าจะเหี่ยวได้ไว มันเกิดจากแสงแดด และความแห้งเนี่ยแหละจ้า
และในเมื่อมันเป็น Cream mask เนี่ยมันจะซึมยากนิดนึงเนาะ (หรือเค้าออกแบบมาไม่ให้ซึมเลย? เพราะเป็นมาส์ก????) อาจจะมีการทาไปแล้ว หน้าดูเหมือนมันมาก จนแฟนขอเอาไปทอดไก่ได้นะคะ คนที่ไม่ชอบครีมเนื้อหนักๆ อาจรำคาญได้นา
แต่จงคิดว่าไว้มันคือ Antioxidant อันหนักอึ้งละกันนะคะ \ ใครจะว่ามันเหนียวหนึบยังไง แต่สำหรับเรา เอามาเถอะ ถ้ามันจะทำให้หน้าไม่เหี่ยว ยอมมมมจ้า
ราคา 990 มีความกัดฟันบ่นน้องลาเบาๆ
2. PHYSIOGEL Daily Moisture Therapy Dermo-Cleanser
ตัวนี้ที่ซื้อเลยเพราะมันคือแบรนด์แห่งชาติ...ของคนผิวแพ้ง่ายแบบเราเลยค่ะ จขกท.ตัดสินใจซื้อนางมาล้างหน้าเพราะ คำว่า *ผ่านการทดสอบในเด็กอายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป ก็เอออออ เอาวะ ถ้าเด็กสี่เดือนน้องยังใช้ได้ ป้าก็ใช้ได้เด้อออ
ซึ่งนางมีค่า PH ที่เหมาะกับผิว ไม่เหมือนสบู่ทั่วไปที่จะมีความเป็นเบส (ฮั่นแหน่ วิทย์ ม.ต้น ก็มา)
ก็ 2 in 1 ดีนะ และที่สำคัญคือ นางไม่ทำให้หน้าตึงหลังล้าง... ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องรีบทาครีม ทุกครั้งหลัง
ล้างหน้า เพราะหน้าจะเหี่ยว
เพราะการที่หน้าตึง นั่นก็คือการที่หน้าโดนเอาน้ำมันที่ดีออกไปนั่นเอง ถ้าไม่รีบทาครีมมอยเจอไรเซอร์หลังล้างหน้า +ทำบ่อยๆ ทุกวัน …. หน้าก็จะเหี่ยวได้ค่ะ
ราคา 259 บาท ถือว่าคุ้มค่าาาา เมื่อเทียบกับปริมาณและคุณภาพค่ะ
3. Kindness Happy Glow – Antioxidant Radiance Moisturizer
และนี่ก็คือมอยเจอไรเซอร์ตัวที่ว่า ที่เราจะใช้หลังล้างหน้า และก่อนนอน กับตัวนี้จขกท.ค่อนข้างหวังผลพอสมควร เพราะนางใส่สารฟื้นฟูนู่นนี่ลงไปเยอะ ..ไคนด์เนสนางก็เป็นแบรนด์แห่งชาติของคนผิวแพ้ง่ายอีกเช่นกัน แต่คนที่ผิวปกติ ไม่ได้แพ้อะไรง่ายแบบเรา ก็อาจจะไม่ค่อยรู้จัก เพราะนางเด่นเรื่องผิวแพ้ง่าย และต้านริ้วรอยโดยเฉพาะ
นางใส่แอสตาแซนธิน ที่ช่วงหลังๆมานี้ได้ยินบ่อยขึ้น ว่ามันเป็น Antioxidant ที่เจ้มจ้นมาก ซึ่งพบในพวกสาหร่ายสีแดง ปลาแซลมอน เปลือกกุ้งปูไรงี้ .. คืออะไรที่มีสีแดงๆหน่อยนั่นแหละ
หลอดนี้ช่วยได้หลายเรื่องมากมาย ทั้งเรื่องริ้วรอยก็ได้ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ความชุ่มชื้น เพราะนั้น ซื้อหลอดเดียวก็ถือว่าคุ้มอยู่ แต่ที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อที่สุด ก็เรื่องหน้าเหี่ยวนั่นแหละค่ะ
เนื้อครีมสีส้มๆ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่ใส่สี เพราะทำมาให้คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ทาแล้วจะสบายๆ เย็นๆผิวหน่อย เพราะมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ด้วย จริงๆคือนางใส่นู่นนี่เยอะมาก แต่เราจำได้แต่สาหร่ายสีแดง ที่เป็นพระเอกค่ะ กับว่านหางจระเข้ค่ะ
ราคา 950 บาท ลดจากราคาเต็มพันห้า แต่บางเว็บขาย 795 บาท เพิ่งเห็นอะ ฮือๆๆ
4.GARNIER SKIN NATURALS UV COMPLETE SPF 50+/PA++++
อยากจิบอกว่า สิ่งนี่สำคัญที่สุด กว่าทุกตัว ในกระทู้นี้ และ ไม่จำเป็นต้องเป็นการ์นิเย่ก็ได้ คือ ..ขอแค่ทาครีมกันแดดก็พอค่ะ .. คุณลองเทียบกันจะๆได้เลย คนที่ทาครีมกันแดดทุกวัน ทาตลอด เทียบกับคนที่ไม่ได้ทาทุกวัน แบบพวก ผชแมนๆ ที่แมนมากกกก จนแม้แต่ครีมกันแดดยังไม่ทา... ผิด ผิด ผิด! มีสามีบอกสามี มีน้า มีลุง มีพี่ชาย น้องชาย บอกนางไปเลยค่ะ ว่ายังไงก็ต้องทาเด้ออออออ
แดดประเทศไทยแรงมากกก ซึ่งรอบดวงตา และใบหน้า เป็นจุดที่จะก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังมากที่สุด แต่เรายังไม่ต้องไปพูดถึงมะเร็งผิวหนัง แค่เอาความเหี่ยวเนี่ยล่ะ เทียบกันเลย คนที่ทากับไม่ได้ทา ผิวพรรณจะดูต่างกัน เป็น 10ปีอ่ะค่ะ เพราะแสงแดดจะทำลาย ผิวเราได้ไวมาก และ สิ่งที่ตามมาคือ เหี่ยว แห้ง ดำ .. ซึ่งดำหลายคนอาจชอบ แต่เหี่ยวนี่ไม่มีใครชอบแน่ๆ
เอาล่ะ มาเข้าเรื่องการ์นิเย่กัน 5555 ตัวนี้ก็ดังเรื่องความอ่อนโยน เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายอีกล้าว และไม่มีน้ำหอม และที่เราชอบคือ มันให้ SPF มาเยอะ และราคาถูกกกก แต่อาจจะเหนียวหนักหน้าไปนิดนึง ต้องรอให้มันแห้งซักแพรพ ละค่อยตามด้วยแป้งอีกทีค่ะ
ราคา 189 บาท ถูกจริงจังเด้อ ชอบๆ
5. NEUTROGENA HYDRO BOOST WATER GEL
ตัวนี้เหมาะอีกแล้วววกับคนผิวแห้งแบบเรา ซึ่งขนาดคนผิวแห้งแบบเราทา ใช้แล้วยังเยิ้มมมในระดับนึงเลย เพราะนั้น คนผิวมัน ต้องเยิ้มมากแน่นอน ตัวนี้เค้าเคลมว่าสามารถกักเก็บความชุ่มชื้น ได้ตลอดวัน จึงควรใช้ตอนเช้า นะคะ
นูโทรจีนา ตัวนี้ ไม่มีน้ำหอม และ มีเนื้อครีมอันหนักอึ้ง เยิ้มๆมันๆหน่อย … แต่เพราะเราจะต้านเหี่ยว เราต้องอัดความชุ่มชื้นเข้าไปๆๆๆๆ แต่ควรทาบางๆนะ ทาหนา นี่เยิ้มแน่นอนค่ะ
ด้านความซึมไว อ่านที่เค้าเคลม เค้าบอกซึมไว แต่จริงๆก็ไม่ค่อยไวนะ ทาแล้วเหมือนมันจะยังเกาะๆผิวเราอยู่ เยิ้มๆเลย
คือใช้นูโทรจีน่าตัวนี้แล้วเหมือนเติมน้ำให้ผิวแบบ ....หลายลิตรเลยค่า และ เพราะเราก็ใช้ตัว นมน้องลา อันแรกอยู่แล้ว ตัวนี้เราเลยใช้สลับๆๆไป อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง กำลังดี ตัวนมลา ใช้ก่อนนอน ตัวนี้ใช้ตอนเช้าวันที่ไม่รีบเร่ง
ซึ่งใครหน้าแห้งตัวนี้เราแนะนำเลย ส่วนคนหน้ามันผ่านก่อนนะตัวนี้ เพราะเท่าที่อ่านๆมา ทากันแล้วมันมาก และมีคนแพ้กันเยอะเลยตัวนี้ สิวอุดตันเยอะด้วย แต่เราหน้าแห้งมั้ง เลยไม่แพ้
ราคา 499 ถูกกว่า น้องนมลานะ ถ้านมลาหมด อาจจะซื้อแต่ตัวนี้จ้า
6.It's Skin Power 10 Formula GF Effector
It's Skin ตัวนี้ซื้อเพราะ เราอยากซื้อขวด อะไรแบบหยดๆ แบบนี้มานานละค่ะ … มันดูวิทยาศาสตร์ดีอ่ะค่ะ 55555
โดยส่วนตัว เราชอบเซรั่มมากๆๆๆ แต่ในความรู้สึกคือ เซรั่มมันอาจจะไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นแก่คนหน้าแห้งอย่างเราเท่าที่ควร ซึ่งตัวนี้เค้าก็เคลมอีกล่ะ ว่าเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย ซึ่งก็ผ่านนน เพราะเราก็ไม่แพ้ แม้น้ำหอมตัวนี้จะกลิ่นแรงมากกกก็ตาม คือก็หอมดีนะ แต่ดูเคมีๆมากเลย
นางบอกว่านางมีส่วนผสมของ เห็ดไมตาเกะ ด้วย .. แพ้สิแบบนี้ เราชอบส่วนผสมอะไรแบบนี้มาก ตั้งแต่สาหร่ายแดง ของ Kindness ข้างบนละ ส่วนอันนี้ก็เห็ดไมตาเกะ 55 .. ไม่รู้สิ คือพอส่วนผสม ที่มันเป็นอะไรที่เรารู้จัก เราคุ้นชิน เราจะรู้สึกอยากกิน และอยากเอามันมาทาหน้าเราอ่ะ 55 ไม่รู้ใครเป็นเหมือนเรามั้ยนะ ?
อย่างแบรนด์ Skinfood นี่ตอน จขกท. อายุน้อยๆกว่านี้ จขกท.ก็ชอบมาก … แต่ตอนนี้รู้สึกว่า เรื่องหน้าเหี่ยวมันกำลังจะมาเยือน เราเลยอยากมาใช้แบรนด์โตๆบ้างอ่ะ
เซรั่มก็คือเซรั่ม น้ำใสแจ๋ว ซึมไว และแอบมีเม็ดกลมๆ เล็กๆ สีฟ้า นางสมราคานะ แม้จะเป็นเซรั่ม แต่ไม่เหลวเป๋ว คือยังมีความหนึบๆ ชุ่มชื้น แต่เบาสบายหน้า ตัวนี้ก็คงจะซื้อกันไปยาวๆจ้า
ราคา 690 ราคาเหมาะสมกับคุณตะพาบค่ะ
จบแล้ววค่ะ สำหรับรีวิวคนไม่อยากเหี่ยว .. แต่ถ้าใครเหี่ยวไปแล้ว ก็ไม่ต้องเสียใจไปนะคะ เพราะยังมีครีมอีกหลายตัว ที่ช่วยลดริ้วรอย แล้วไหนจะร้อยไหม การฉีดนู่นนี่ ฉีดไขมันเอย Botox เอย ..แต่ก็นั่นแหละค่ะ ราคามันก็สูงกว่าการใช้เครื่องสำอาง สกินแคร์ หรือครีมกันแดดสักตัวอยู่แล้ว เพราะนั้นหากเราป้องกันไว้ก่อนได้ มันก็จะดีค่ะ
แล้วเรื่องริ้วรอย ไม่ได้เกิดจากปัจจัยอย่างแสงแดดอย่างเดียวนะคะ ไหนจะแอลกอฮออล์ ปาร์ตี้หนัก นอนน้อย เครียด ก็ก่อให้เกิดความเหี่ยว และริ้วรอย ได้เช่นเดียวกันค่ะ เพราะนั้น ทำอะไร ทำกันแต่พอดีเนอะ
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ (:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้