ละครหนึ่งเรื่อง ก็เหมือนภาพเขียนสักภาพ จะงดงาม ก็ด้วยองค์ประกอบทุกส่วน ทุกลายเส้น ทุกสีสัน จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปไม่ได้
พาร์ทขันที นำเสนอสภาพภายในวังหลวง ความแตกแยกในหมู่ขันทีกันเอง ที่นำไปสู่เหตุการณ์สะเทือนใจ เผยให้เห็นเรื่องการไขว่คว้าตำแหน่งสูงส่งของเหล่าสนม ที่ทำให้เกิดการตายของคุณท้าวสาลิกา ชักนำให้ "ขันทอง" เข้าวังเพื่อสืบหาการตายของแม่ พร้อมทั้งสืบหาไส้ศึกที่ยังแฝงตัวตั้งแต่คราวศึกอลองพญา
พาร์ท "แมงเม่า" นำเสนอวิถีชาวบ้าน ชีวิตของผู้คนในอโยธยาที่รื่นเริงกับเทศกาล สำราญกับชีวิตที่สงบสุขมาสี่ร้อยกว่าปี จนถึงวันข้าวยากหมากแพงเมื่อศึกอังวะเข้าประชิดเมือง เชื่อมโยงไปถึงวังในเมื่อแมงเม่าก้าวเข้าไปเป็นนางในของกรมขุนวิมลฯ สะท้อนภาพการไม่รู้สึกรู้สมต่อความทุกข์ยากของผู้คนนอกรั้วกำแพงวัง
พาร์ทพระยาพลเทพ เปิดหน้ากากขุนนางที่ไร้ความสามารถ ความอยุติธรรมที่สุดท้ายวันนี้หวนกลับมาสู่ "ผู้ใหญ่" ในบ้านเมืองที่นิ่งดูดาย รับสินบนและมองว่าความเดือดร้อนของผู้คนนั้น "ไม่ใช่ธุระ"
พาร์ทอังวะ สะท้อนการเตรียมตัวมาทำศึกอย่างเพียบพร้อม ดำเนินแผนทั้งการรบ รุก ไล่ ตะลอม กล่อมด้วยสารพัดวิธี ไปจนถึงการติดสินบนให้เป็นไส้ศึก ด้วยการเสนอการต่างตอบแทนที่โป้ปดมดเท็จ ตัดสลับกับพาร์ทของพระยาตาก ที่พยายามประคองความอยู่รอดท่ามกลางสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตราย เต็มไปด้วยการเมืองภายใน ไปจนถึงกลยุทธ์การรบที่น่าประทับใจ
พาร์ทกรมขุนวิมล เผยให้เห็นความไม่รู้ ความไร้เดียงสาทางการเมืองระหว่างประเทศ ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างหูหนวกตาบอด เป็นเหมือนด้านตรงข้ามของพาร์ทของเจ้าจอมเพ็ญ ที่มากเล่ห์ เจ้าแผนการ แต่สุดท้ายแพ้ภัยตัวเอง จนต้องถึงทางตันเพราะเชื่อในไสยศาสตร์และดวงชะตาอย่างงมงาย
วันนี้ไพ่ทุกใบเผยออกมา ทุกโฉมหน้าถูกเปิดโปง ตอนต่อจากนี้จะเป็นการเดินหน้าสู่ "ผล" จากการกระทำของแต่ละคน อย่างเข้มข้น และระทึกใจขึ้นเรื่อยๆ
ขอบคุณคุณปิ่น ที่เป็นผู้สนับสนุนใหญ่ในการทำละครพีเรียดที่มักถูกหยามเรื่องเรตติ้งเสมอ แต่ไม่เคยท้อ
ขอบคุณคุณฟิวส์ ที่ทุ่มเทศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี สร้างสรรค์งานภาพที่น่าประทับใจ ตั้งแต่ซีจีกลบทอันน่าทึ่ง ไปจนถึงภาพคั่นในระหว่างฉากทุกภาพที่งดงามและคมขลัง จนเชื่อว่าเราได้ไปเห็นเหตุการณ์สมัยกรุงแตกจริงๆ เชื่อว่าหลายข้อมูลที่ตีแผ่ในเรื่องนี้ กระตุ้นให้คนที่ไม่เคยสนใจประวัติศาสตร์ไทย หรือเคยบอกว่าประวัติศาสตร์ช่วงเสียกรุงนั้น "น่าเบื่อ" เริ่มหันมามองมุมใหม่ ตั้งแต่ชาติกำเนิดพระเจ้าตาก ไปจนถึงแผนการรบ เส้นทางการรบ และวีรกรรมอันเกรียงไกรของท่าน
ขอบคุณคุณวรรณวรรธน์ ที่ประพันธ์ผลงานเขียนที่แตกต่าง สร้างนางเอกที่แกร่งกล้า ไม่ยึดติดเรื่องเพศ สร้างพระเอกคาร์แรคเตอร์ขันทีหนึ่งเดียว ผูกเรื่องราวกลบทเข้ามาในพาร์ทออกญาพลเทพ เชื่อมโยงไปถึงไส้ศึกคราวเสียกรุงได้อย่างแนบเนียน คนไทยหลายคนคงเพิ่งได้รู้จักกลบทไทหลงก็จากละครเรื่องนี้
ขอบคุณคุณเอกลิขิต ที่แทรกเนื้อหาประวัติศาสตร์เข้ามาอย่างเต็มที่ ปรับเปลี่ยน เพิ่มเส้นเรื่องอย่างมีสีสัน ส่วนที่น่าทึ่งคือการทำให้ทุกเหตุการณ์เชื่อมโยงกันอย่างเป็นเหตุเป็นผล หายากมากที่ละครไทยจะมีการผูกโยงเรื่องราว เรียงร้อยต่อกันตอนต่อตอนอย่างชาญฉลาดได้ขนาดนี้
สำหรับห้องบางขุนพรหม ขอบคุณแฟนหนึ่งด้าวทุกคน ที่ฝ่ากระแสตำหนิติเตียนรอบด้าน ด้วยความเชื่อมั่นในส่วนดีของละครเรื่องนี้ ร่วมเดินทางกันมาจนใกล้จะถึงตอนจบแล้ว เราจะเดินต่อไปด้วยกัน ต่อเนื่องถึงฉากใหญ่อาทิตย์หน้า การหักเข้าตีเมืองจันทบูร สมรภูมิครั้งประวัติศาสตร์ที่พระเจ้าตากจะตั้งทัพลงได้อย่างมั่นคง และหวนกลับมากอบกู้กรุงศรีอยุธยา
"สิ่งที่ดี ย่อมรักษาความดีไว้ในตัว แม้ใครจะบอกสักกี่ร้อยกี่พันปากว่ามันไม่ดีก็ตาม"
ต่างจิตต่างใจ หากแต่ทุกส่วนหลอมรวมจนมาเป็น "หนึ่งด้าวฟ้าเดียว"
พาร์ทขันที นำเสนอสภาพภายในวังหลวง ความแตกแยกในหมู่ขันทีกันเอง ที่นำไปสู่เหตุการณ์สะเทือนใจ เผยให้เห็นเรื่องการไขว่คว้าตำแหน่งสูงส่งของเหล่าสนม ที่ทำให้เกิดการตายของคุณท้าวสาลิกา ชักนำให้ "ขันทอง" เข้าวังเพื่อสืบหาการตายของแม่ พร้อมทั้งสืบหาไส้ศึกที่ยังแฝงตัวตั้งแต่คราวศึกอลองพญา
พาร์ท "แมงเม่า" นำเสนอวิถีชาวบ้าน ชีวิตของผู้คนในอโยธยาที่รื่นเริงกับเทศกาล สำราญกับชีวิตที่สงบสุขมาสี่ร้อยกว่าปี จนถึงวันข้าวยากหมากแพงเมื่อศึกอังวะเข้าประชิดเมือง เชื่อมโยงไปถึงวังในเมื่อแมงเม่าก้าวเข้าไปเป็นนางในของกรมขุนวิมลฯ สะท้อนภาพการไม่รู้สึกรู้สมต่อความทุกข์ยากของผู้คนนอกรั้วกำแพงวัง
พาร์ทพระยาพลเทพ เปิดหน้ากากขุนนางที่ไร้ความสามารถ ความอยุติธรรมที่สุดท้ายวันนี้หวนกลับมาสู่ "ผู้ใหญ่" ในบ้านเมืองที่นิ่งดูดาย รับสินบนและมองว่าความเดือดร้อนของผู้คนนั้น "ไม่ใช่ธุระ"
พาร์ทอังวะ สะท้อนการเตรียมตัวมาทำศึกอย่างเพียบพร้อม ดำเนินแผนทั้งการรบ รุก ไล่ ตะลอม กล่อมด้วยสารพัดวิธี ไปจนถึงการติดสินบนให้เป็นไส้ศึก ด้วยการเสนอการต่างตอบแทนที่โป้ปดมดเท็จ ตัดสลับกับพาร์ทของพระยาตาก ที่พยายามประคองความอยู่รอดท่ามกลางสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตราย เต็มไปด้วยการเมืองภายใน ไปจนถึงกลยุทธ์การรบที่น่าประทับใจ
พาร์ทกรมขุนวิมล เผยให้เห็นความไม่รู้ ความไร้เดียงสาทางการเมืองระหว่างประเทศ ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างหูหนวกตาบอด เป็นเหมือนด้านตรงข้ามของพาร์ทของเจ้าจอมเพ็ญ ที่มากเล่ห์ เจ้าแผนการ แต่สุดท้ายแพ้ภัยตัวเอง จนต้องถึงทางตันเพราะเชื่อในไสยศาสตร์และดวงชะตาอย่างงมงาย
วันนี้ไพ่ทุกใบเผยออกมา ทุกโฉมหน้าถูกเปิดโปง ตอนต่อจากนี้จะเป็นการเดินหน้าสู่ "ผล" จากการกระทำของแต่ละคน อย่างเข้มข้น และระทึกใจขึ้นเรื่อยๆ
ขอบคุณคุณปิ่น ที่เป็นผู้สนับสนุนใหญ่ในการทำละครพีเรียดที่มักถูกหยามเรื่องเรตติ้งเสมอ แต่ไม่เคยท้อ
ขอบคุณคุณฟิวส์ ที่ทุ่มเทศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี สร้างสรรค์งานภาพที่น่าประทับใจ ตั้งแต่ซีจีกลบทอันน่าทึ่ง ไปจนถึงภาพคั่นในระหว่างฉากทุกภาพที่งดงามและคมขลัง จนเชื่อว่าเราได้ไปเห็นเหตุการณ์สมัยกรุงแตกจริงๆ เชื่อว่าหลายข้อมูลที่ตีแผ่ในเรื่องนี้ กระตุ้นให้คนที่ไม่เคยสนใจประวัติศาสตร์ไทย หรือเคยบอกว่าประวัติศาสตร์ช่วงเสียกรุงนั้น "น่าเบื่อ" เริ่มหันมามองมุมใหม่ ตั้งแต่ชาติกำเนิดพระเจ้าตาก ไปจนถึงแผนการรบ เส้นทางการรบ และวีรกรรมอันเกรียงไกรของท่าน
ขอบคุณคุณวรรณวรรธน์ ที่ประพันธ์ผลงานเขียนที่แตกต่าง สร้างนางเอกที่แกร่งกล้า ไม่ยึดติดเรื่องเพศ สร้างพระเอกคาร์แรคเตอร์ขันทีหนึ่งเดียว ผูกเรื่องราวกลบทเข้ามาในพาร์ทออกญาพลเทพ เชื่อมโยงไปถึงไส้ศึกคราวเสียกรุงได้อย่างแนบเนียน คนไทยหลายคนคงเพิ่งได้รู้จักกลบทไทหลงก็จากละครเรื่องนี้
ขอบคุณคุณเอกลิขิต ที่แทรกเนื้อหาประวัติศาสตร์เข้ามาอย่างเต็มที่ ปรับเปลี่ยน เพิ่มเส้นเรื่องอย่างมีสีสัน ส่วนที่น่าทึ่งคือการทำให้ทุกเหตุการณ์เชื่อมโยงกันอย่างเป็นเหตุเป็นผล หายากมากที่ละครไทยจะมีการผูกโยงเรื่องราว เรียงร้อยต่อกันตอนต่อตอนอย่างชาญฉลาดได้ขนาดนี้
สำหรับห้องบางขุนพรหม ขอบคุณแฟนหนึ่งด้าวทุกคน ที่ฝ่ากระแสตำหนิติเตียนรอบด้าน ด้วยความเชื่อมั่นในส่วนดีของละครเรื่องนี้ ร่วมเดินทางกันมาจนใกล้จะถึงตอนจบแล้ว เราจะเดินต่อไปด้วยกัน ต่อเนื่องถึงฉากใหญ่อาทิตย์หน้า การหักเข้าตีเมืองจันทบูร สมรภูมิครั้งประวัติศาสตร์ที่พระเจ้าตากจะตั้งทัพลงได้อย่างมั่นคง และหวนกลับมากอบกู้กรุงศรีอยุธยา
"สิ่งที่ดี ย่อมรักษาความดีไว้ในตัว แม้ใครจะบอกสักกี่ร้อยกี่พันปากว่ามันไม่ดีก็ตาม"