ดูดีๆก่อนทำประกันสุขภาพ

กระทู้สนทนา
คือ แม่เราอายุ65เค้าไปทำประกันสุขภาพ ทีเอ็มบี เบิกเต็มเม็ก เบียประกัน14,000บาท ค่ารักษา 300,000บาท/ปี ค่าห้อง 3,000 บาท/ครั้ง

เมื่อวานแม่ป่วยท้องเสียอาหารเป็นพิษเราพาไปโรงพยาบาลหมอ หมอให้นอนโรงพยาบาลเราก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามีประกันก็ยื่นบัตรไป เจ้าหน้าที่แจ้งมีจ่ายค่าห้องเพิ่มประมาน 1,500บาท เราก็ ok ไม่เป็นอะไร พอมาวันนี้หมอให้กลับ ทำเรื่องเคลมประกัน ปรากฎว่าแคลมไม่ได้ !!! ประกันให้สำรองจ่ายไปก่อน ซึ่งค่ารักษา24,500บาท ทำไงดีไม่มีเงิน  และงงมากด้วย ทำใมถึงเคลมไม่ได้ เราติดต่อแบงค์รับเรื่อง เจ้าหน้าที่ประกันก็โทรมา
ประกัน  :  สวัสดีคะ ทางแบงค์แจ้งว่าลูกค้าไม่สามารเคลมประกันได้ใช่มั้ยคะ
เรา. : ใช่ ทางฝ่ายเคลมของโรงพยาบาลแจ้งว่าทางบริษัทประกันบอกว่าคุณแม่มีโรคประจำตัวเป็นความดันกับไขมันในเลือด ให้เราสำรองเงินจ่ายก่อนแล้วทำเรื่องเบิก
ประกัน : ลูกค้าได้แจ้งตอนทำประกันหรือป่าวว่ามีโรคประจำตัว
เรา  :  ถามแม่ๆบอกธนาคารเค้าไม่ได้ถามแต่แม่บอกกับธนาคารไปว่าเคยกินยาความดันกับไขมันในเลือดแต่ตอนนี้หมอบอกควบคุมได้ เลิกกินมาหลายปีแล้ว เราตอบไปตามที่แม่บอกแบบนี้
ประกัน : ลูกค้าป่วยเป็นแค่ท้องเสียใช่มั้ยไม่ได้เกี่ยวกับความดันหรือไขมันใช่มั้ย
เรา : ใช่
ประกัน : รอสักครู่เดี๋ยวโทรกลับ

.....................รอไปครึ่งชั่วโมง.................,,

ประกัน  : คุณลูกค้าทางเราเช็คกับฝ่ายเคลมแล้ว พบว่ามีโรคประจำตัว ไม่สามารถเคลมได้ ให้ลูกค้าสำรองจ่ายไปก่อน แล้วนำใบเสร็จมาเบิก พูดเหมือนเดิม รอบที่ 2
เรา : ไม่มีเงินคะ เงินตั้ง 24,500บาท แล้วอีกอย่างเราทำประกันถ้าไม่เข้าเงื่อนไขไม่ผ่าน ทำใมถึงยังรับคะ
ประกัน  :  ลูกทำผ่านธนาคาร ธนาคารแจ้งมาแบบนี้ลูกค้าลองติดต่อธนาคารนะคะ
.................................
เรา โทรไปธนาคารอีกรอบเจ้าหน้าที่รับเรื่องไม่ใช่คนเดิม เราเล่าไปแบบเดิมว่าเคลมไม่ได้นู้นนี่นั่น....เจ้าหน้าที่ถามทำกับใคร เราบอกว่าทำกับผู้จัดการสาขา (แม่บอก) เมื่อประมานเกือบ 3 เดือนแล้ว เจ้าหน้าที่บอกเดี๋ยวโทรกลับ
............................รอ คราวนี้ผู้การโทรมา.................
ผู้การ  :  ผมชื่อ........
เรา    : ใช่ผู้การหรือป่าวคะ
ผู้การ    :  ใช่ครับ มีอะไรหรือป่าวครับ
เรา    :  ประกันที่ทำกับคุณไว้ บริษัทประกันแจ้งว่าแม่มีโรคประจำตัว ไม่สามารถเบิกได้ให้สำรองจ่าย คือมันเป็นความผิดของเราเหรอที่ต้องจ่ายในเมื่อคุณไม่ถามเรื่องสุขภาพสักคำแต่แม่บอกเอง
ผู้การ    :  เงียบไปสักพัก อืม...เคยเป็นโรคอะไร แล้ววันนี้รักษาโรคอะไร
เรา    : แอดมิดตั้งแต่เมื่อวาน ท้องเสียอาหารเป็นพิษ และเคยเป็นความดันกับไขมันในเลือด แต่หมอให้หยุดยามาหลายปี ไม่ได้รักษาที่ดี่ใช้สิทบัตรทองรักษาแถวบ้าน
ผู้การ  : เหรอคับ รอสักครู่เดี๋ยวโทรกลับ

.............................รอ 5 นาที................................

ผู้การ :  คุณลูกค้าสำรองเงินจ่ายไปก่อนนะแล้วเอาใบเสร็จใบรับรองแพทย์มาเบิก แล้วไปโรงพยาบาลเดิมที่ใช้บัตรทองเอาประวัติการรักษาโรคความดันกับไขมันมายื่นเบิก
เรา  :   ทำใมต้องสำรอง เราไม่มีตัง และอีกอย่างเราทำประกันแล้วจ่ายเบี้ยเต็มเงินสดด้วย ทำใมถึงต้องสำรองเงินตั้ง 24,500 ไม่ใช่2,500
ผู้การ  :  เดี๋ยวคุยกับประกันเองนะครับ เดี๋ยวให้เค้าโทรกลับ
....................,...ประกันโทรมา.................................

ประกัน. : พูดแบบเดิม สำรองจ่ายก่อน จะเร่งเบิกคืนให้
เรา. : ถามหน่อยเบิกคืนจะได้เหรอ ถ้าเบิกได้จริงทำใมไม่ให้เคลมไปเลย ในเมื่อมันเบิกได้จริงๆ
ประกัน  :  ขอเรียนคุณลูกค้าตามตรงนะคะ คือเคสลูกค้ามีโรคประจำตัวปกติไม่สามารถทำได้อยู่แล้วทางบริษัทก็ไม่รู้ว่ามีโรคประจำตัว เพราะตอนทำไม่ได้แจ้งถ้าแจ้งทำไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ทำแล้วเกิดปัญหาทางบริษัทขอรับผิดชอบโดยการคืนเบี้ยประกันให้ ทั้งหมด ยอดเต็ม 14,000 บาท ที่ลูกค้าทำไว้ขอแค่เอกสารให้ครบจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด  (ประกันอธิบาย) ตามโพรเซสงาน ธนาคารตัวแทนต้องสัมภาษลูกค่าเกี่ยวกับโรคประจำตัว ตามเอกสารมี5ข้อ ไม่แน่ใจว่าธนาคารถามหรือป่าวเพราะถ้าถามแล้วคีย์เข้าระบบว่ามีโรคประจำตัว ระบบก็จะไม่อนุมัติให้ทำ แต่ตอนนี้เกิดปัญหาแล้วทางประกันขอรับผิดชอบคืนเบี้ยให้คะ  
เรา : แบบนี้ความซวยก็ตกอยู่ที่ลูกค้า คือยังไงก็ต้องหาเงินมาสำรองจ่าย4,500 มาให้ได้ตอนนี้
ประกัน. :  ใช่คะ
................................เราโทรหาผู้การ..............
เรา  :  คือประกันเค้าบอกว่าไม่สามารถเบิกได้ แต่จะทำเรื่องคืนเบี้ยประกันให้
ผู้การ  :  อ๋อเหรอคับ เค้าพูดแบบนี้เหรอคับบ แล้วก็เงียบ...............................เงียบนานเลย
เรา  :  คือตอนทำประกันทำใมถึงไม่ให้ข้อมูลไปตามจริง สักแต่ว่าหาลูกค้าเหรอ เอาค่าคอมเหรอไม่สนใจว่าจะเป็นยังไง
ผู้การ : ผมบอกก่อนนะผมไม่ได้ค่าคอม
เรา  : คุณไม่ได้ค่าคอมคุณก็ต้องได้ยอดให้สาขาคุณ แล้วความซวยตกอยู่ที่ใคร แล้วจะหาเงินมาจากไหน ไม่ใช่พันสองพันนะ ถ้าคุณให้ข้อมูลตามจริงที่เราบอกก็จบ แล้วถ้าคุณบอกทำไม่ได้เราก็ไม่ทำเราก็ไม่ได้ตื้อขอให้ทำ
ผู้การ  :  ก็ผมไม่รู้ ผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะลูกค้าหยุดยามานานหลายปี และไม่ได้กินยาประจำ แล้วลูกค้าต้องการให้รับผิดชอบยังไง
เรา  : ตอนนี้ไม่มีเงิน 25,000มาจ่ายให้โรงพยาบาลอยากให้รับผิดชอบหาเงินมาจ่ายให้ (รู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้) ถ้าคุณบอกเบิกได้คุยก็ค่อยรอเอาเหมือนที่คุณบอก เพราะเราไม่ผิดเราไม่ได้ปกปิดข้อมูลเราบอกตามความจริงแต่คุณไม่ได้เขียนไปตามที่เราบอก
ผู้การ  :  ทางแบงค์ไม่มีนโยบายครับ
เรา  :  และจะรับผิดชอบยังไง
ผู้การ.  :  เราทำได้แค่จะช่วยเรื่องเอกสารเร่งเบิกคืนให้เร็วขึ้น ทำได้แค่นี้ ความจริงผมไม่ผิดนะครับ เพราะทางประกันออกบัตรแคร์การ์ดให้แล้ว เราแค่ส่งเรื่องไป  ทางประกันต้องรับผิดชอบ คุณต้องไปคุยกับประกัน
เรา :แต่คุณเป็นคนรับเรื่องและส่งเรื่องให้ประกัน คุณเป็นถึงผู้จัดการสาขาประสบการทำงานตั้งเท่าไหร่ คุณจะเอาแต่ผลประโยชน์โดยไม่นึกถึงลูกค้า แล้วใครเสียหายใครซวย เราไงเราต้องหาเงินมา เราไม่มีเงินนะ เงินเยอะขนาดนี้เราจะหาจากไหน ดีนะแค่คืนเดียวถ้ามากกว่านี้ จะทำไง คุณทำงานแย่มากเป็นถึงผู้การตำแหน่งใหญ่โตไม่มีความรับผิดชอบ เกิดปัญหาโยนไปโยนมา ทั้งที่ต้นเรื่องมาจากคุณ
ผู้การ. ...............................เงียบหลายนาที ไม่พูดอะไรเลยเราก็เงียบ รอคำตอบว่าเค้าจะตอบว่าอะไร
แต่สุดท้ายพูดว่า .......
ผู้การ : .....แค่นี้นะครับสายเข้าวางสาย จบ...


และหลังจากนั้นประมาน 2 ชั่วโมงโทรไปอีก ไม่รับสายไม่โทรกลับคะ สงสัยตายไปแล้ว
คืออะไรแบบนี้ก็มีเหรอ

เราไม่โทษบริษัทประกัน
เราไม่โทษธนาคาร
เราไม่อยากให้ทั้งบริษัทประกันและธนาคารเสียชื่อเสียง  เราเข้าไปติดต่อเค้าบริการดีทั้ง2ที่ เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลดี ตามเรื่องเร็วมาก
แต่ เราเสียความรู้สึกกับตัวผู้จัดการสาขา ที่เป็นคนรับเรื่องตั้งแต่แรก แค่คำขอโทษสักคำ เรายังไม่ได้ยินจากปากผู้การเลย

ปล1. เรื่องยาวนิดนะคะ พิมผิดบ้างหรืออาจจะงง บ้างขออภัยด้วยคะ

ปล.2  วันที่แม่เราไปทำประกันเราไม่ได้ไปแม่ไปคนเดียวคนแก่เนอะอาจไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

ปล3 ฝากไว้เป็นตัวอย่างจะได้ไม่เจอแบบเรา และโชคดีที่เรายังหายืมเงินจากเพื่อนเราได้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่