สวัสดีครับ นี่พึ่งเคยตั้งกระทู้ครั้งแรก แปลกยังไงขออภัยด้วยนะครับ เรื่องที่จะเล่านี้เป็นทั้งประสบการณ์ตรงของตัวผมเองและจากคำบอกเล่าของเพื่อน,รุ่นพี่,อาจารย์ และศิษย์เก่าของโรงเรียนผม ในโอกาศที่พึ่งจบออกมาแล้วสอบติดมหาลัยฯเรียบร้อย ขอเล่าให้ทุกคนฟังสักครั้ง คันปากมานานทีเดียว บอกเลยว่ามันยาวมากๆ
แรกเริ่มเดิมทีผมเรียน ม.ต้น จากโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง (ซึ่งก็เคยมีประสบการณ์หลอนๆจากที่นี่เหมือนกัน แต่ขอยกไปไว้โอกาสหน้านะครับ) หลังจบ ม.ต้น ผมพยายามสอบเข้าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เก่า เพราะทางบ้านคิดว่าถ้าไปเรียนที่นี่จะมีโอกาศสอบติดมหาลัยฯดีๆมากกว่า (โรงเรียนที่พึ่งเป็นข่าวไปไม่นานมานี้ ระดับประเทศ แข่งขันสูงๆหน่อยอ่ะ พูดชื่อไปใครก็อ๋อ) ความจริงแล้วผมตามสาวไปสอบด้วยแหละ แล้วดันติด 555555555 แต่เรื่องสยองมันเริ่มตั้งแต่วันมอบตัวนักเรียนเลย
หลังจากตรวจเครื่องแต่งกายนักเรียน, ฟัง ผ.อ. กล่างถึงวิสัยทัศ, จ่ายเงินบำรุงการศึกษาเรียบร้อย ผมกับพ่อก็ลงจากหอประชุมมาหาอะไรทานที่โรงอาหารด้านล่าง ผมรู้สึกปวดท้องเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ที่รร.นี้มีห้องน้ำชายอยู่บริเวณคือใต้อาคารห้าซึ่งอยู่ติดกับโรงอาหาร (เป็นสองจุด จุดแรกห้องใหญ่กว่าและอยู่ใกล้โรงอาหารมากกว่า อีกจุดที่เล็กกว่านิดหน่อยต้องเดินเลยไปอีกประมาณ10เมตร) ผมจำทางได้จากตอนมาสอบ เลยเดินไปคนเดียว
ตอนที่เดินพ้นโรงอาหารไปสู่ใต้อาคารห้า ผมสังเกตุว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินอยู่ด้านหน้าประมาณ 15 เมตร จากลักษณะน่าจะเป็นเด็ก ม.ต้น ตัวเตี้ย รูปร่างเล็ก แต่งตัวเรียบร้อย ตัดผมทรงนักเรียน (ตอนนั้นผมคิดว่าอีกเดือนกว่าถึงจะเปิดเทอม ทำไมถึงมีเด็กหัวเกรียนอยู่แถวนี้ แต่ไม่ได้สนใจอะไร) ผมทึกทักไปเองว่าคงมากับพี่ไรงี้ เลยหยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่น สายตาก็ชำเลืองมองทางอยู่ตลอด
ตัวห้องน้ำนั้นยกพื้นสูงขึ้นไปจากทางเดิน ต้องเลี้ยวและก้าวขึ้นบันไดไปสัก3-4ขั้นก็จะเข้าสู่ห้องน้ำ จังหวะที่ผมชำเลืองตามองครั้งสุดท้าย เด็ก ม.ต้น คนนั้นก็เลี้ยวก้าวขึ้นบันไดไปแล้ว ผมเห็นหน้าเขาไม่ชัดเพราะไม่ได้ตั้งใจมอง พอเด็กคนนั้นก้าวลับสายตาขึ้นไป ผมก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง เดินไปเรื่อยๆ สายตาก็จ้องมองทางเดินตลอด ประมาณสิบวินาที ผมก็มาถึงตีนบันได
สิ่งที่ผมสังเกตุได้คือ ประตูห้องน้ำถูกล็อคด้วยแม่กุญแจจากด้านนอก ไม่มีใครอยู่หน้าประตู และเด็กคนเมื่อกี้ก็
หายตัวไปแล้ว!!
ผมตกใจสุดขีด หันรีหันขวาง มองหาเด็กหัวเกรียนคนนั้น คิดในใจ เป็นไปได้ไง เด็กคนนั้นจะหายไปไหนได้ ผมเด็กเขาเดินขึ้นมา แล้วเขาก็หายไป ผมลองสำรวจที่ประตูห้องน้ำ มันล๊อคอยู่จริงๆ ไม่ใช่การเล่นกลอะไร หลังจากได้สติ ผมลองเดินไปดูห้องน้ำอีกจุดที่อยู่ถัดไป คราวนี้มันเปิด แต่เมื่อเดินขึ้นไปดู ก็พบว่ามันว่างเปล่า ส้วนทุกห้องไม่มีใครใช้งาน ไม่มีวี่แววของมนุษย์คนไหนพึ่งเข้ามาเมื่อกี้ ทันใดนั้นเองผมถึงรู้ตัว ว่าตัวเองโดน
"รับน้อง" เข้าให้แล้ว (จากคำบอกเล่าของรุ่นพี่ เด็กสอบเข้าใหม่ตอน ม.4 จะมีเรื่องแปลกๆที่อธิบายไม่ได้แบบนี้กันทุกคน)
หลังจากนั้นเป็นเรื่องของห้องเรียนในมุมมืด
มันอยู่ในจุดที่ทางเดินเชื่อมจากตึกเรียนของผมเชื่อมกับตึกเรียนอีกหลัง คิดซะว่าเป็นสามแยกที่ทางเดินบนอาคารตัดกับทางเชื่อมละกัน บนทางเชื่อมนั้นมีห้องเรียนด้วย แถมมีถึงสามชั้น ถ้าเดินจากตึกผมไป ห้องเรียนบนทางเชื่อมจะอยู่ทางซ้ายมือ หนึ่งในห้องนั้นเป็นห้องของรุ่นพี่ที่ผมสนิทมากๆคนหนึ่ง ห้องของเขาอยู่บริเวณที่ทางเชื่อมสิ้นสุดลงและเข้าสู่อีกตึกเรียน (พิมพ์เองยังงงเองเลย ลองคิดภาพตามนะครับ 555555) เพราะเป็นจุดอับ ทำให้ห้องตรงจุดนี้ร้อนมากๆ แถมยังมืดมากเพราะโดนตึกเรียนและหลังคาบังแดดอยู่ตลอดเวลา
เรื่องนี่เริ่มขึ้นจากเย็นวันหนึ่ง มันเป็นวันสอบท่องสูตรเคมีวันสุดท้าย ผม พร้อมเพื่อนอีกสามคนเป็นชุดสุดท้ายที่อยู่สอบกับอาจารย์ประจำชั้น ตอนนั้นเป็นเวลาห้าโมงครึ่งแล้ว ผมจำได้ว่าตอนนั้นเป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น แสงอาทิตย์มืดลงเร็วมาก และท้องฟ้าเป็นสีแดงแล้ว หลังจากคนสุดท้ายสอบผ่าน อาจารย์ก็ให้พวกผมเก็บของ ปิดไฟและพัดลม ก่อนจะออกจากห้องเรียนมา
ทางลงจากตึกและทางเชื่อมไปโรงอาหารปิดหมดแล้วในเวลานี้ ทางลงเดียวที่ยังเปิดอยู่คือบันไดบริเวณหน้าห้องผ.อ ซึ่งต้องเดินข้ามทางเชื่อมไปอีกตึกนึง ตอนที่ออกจากห้อง อาจารย์ถามผมว่ากี่โมงแล้ว เมื่อผมตอบ อาจารย์ก็ทำสีหน้าเหมือนคิดอะไรออก และพูดพึมพัมออกมาว่า
"xิบหายละ" หลังจากนั้นพวกเราก็ออกเดินมาโดยมีอาจารย์เดินนำด้านหน้า ตอนนี้ผมเริ่มสังเกตว่าคนอื่นๆก็มีสีหน้าไม่สบายใจพอๆกับอาจารย์ และทุกคนเดินด้วยฝีเท้าที่เร็วมาก กึ่งวิ่งเลยทีเดียว (ในกลุ่มนี้ผมเป็นเด็กสอบเข้าใหม่คนเดียว) แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เราเดินกันไปเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณหน้าห้องเจ้ากรรม อาจารย์ที่เดินไม่พูดอะไรมาตลอดทาง อยู่ๆก็หันมาถามพวกเรา
"พวกเธอเชื่อเรื่องผีไหม?"
แล้วอาจารย์ก็เริ่มออกวิ่ง (ตอนนั้นคือฮามากกว่าหลอน เพราะคนที่ถามเป็นอาจารย์สอนเคมี วิทยาศาสตร์ 555555555) พวกเราทุกคนก็พร้อมใจกันวิ่งขาแทบหลุดตามหลังอาจารย์ลงไป เมื่อลงมาถึงด้านล่าง อาจารย์ก็หัวเราะแหะๆ บอกว่าไม่มีอะไรหรอก แหย่เล่นน่ะๆ แต่สีหน้าของเขานั้นตื่นกลัวเลยทีเดียว
ผมพยายามสอบถามจากเพื่อน,รุ่นพี่ และอาจารย์ที่สนิทกันมากๆดู ในตอนแรกทุกคนก็ปฏิเสธที่จะพูด
"เรื่องนี้ไม่ควรพูดถึง" ใครๆก็บอกผมแบบนี้ แต่ในที่สุดผมก็สืบไปเรื่อยๆจนรู้เรื่องราวสยองของห้องนี้
เล่ากันว่า ห้องนี้เคยเป็นห้องประจำของนักเรียน ม.6 รุ่นหนึ่ง ในปีนั้น มีนักเรียนคนหนึ่งในห้องประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างเดินทางมาโรงเรียน จากนั้นมาไม่ได้ไม่กี่วัน มีอาจารย์ท่านหนึ่งเข้ามาสอน แล้วทักว่า "อ้าว วันนี้มาเรียนหรอ อาทิตย์ที่แล้วไปไหนมาถึงไม่ได้มาเรียนคาบครู" แถมตอนเช็คชื่อก็ยังขานชื่อของเด็กคนนั้นอีก ทำเอาทุกคนในห้องหลอนกันไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร หลังจบคาบ ทุกคนในห้องต่างตามไปสอบถามอาจารย์คนนั้นว่าพูดกับใคร "อะไรกัน ก็นายXไง วันนี้เขาก็ดูไม่พูดเลยนะ นั่งเงียบเชียว" "อาจารย์คะ Xโดนรถชน เสียไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วค่ะ" อาจารย์คนนั้นตกใจจนเผลอร้องออกมา เด็กทุกคนในห้องก็มองหน้ากันไปมาด้วยความสยองถึงขีดสุด
หลังจากนั้น ห้องนั่นก็กลายเป็นห้องประจำบองนักเรียนชั้นปีอื่น แต่ก็มีเหตุการณ์คล้ายๆกันทำนองนี้เกิดขึ้น นับคนเกินเวลาแบ่งกลุ่ม หรืออาจารย์เห็นใครไม่รู้นั่งเรียนอยู่ด้วย แต่อยู่ๆก็หายตัวไป แถมคนที่เดินผ่านไปมาบนทางเชื่อมก็มักจะนองเข้ามาเห็นใครสักคนยืนนิ่งอยู่ที่กลางห้อง เรื่องสยองนี้เป็นที่กล่าวขานถึงกันมากจนมีการทำบุญและนำพระมาสวด แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ต่อมา ห้องนี้ก็กลายเป็นห้องเก็บของ เช่น โต๊ะเรียนและเก้าอี้ที่พัง วัสดุสำหรับทำงานที่ไม่ได้ใช้ ฯลฯ
รุ่นพี่ของผมที่สนิทกันเล่าว่า ปีที่เขาสอบเข้า ม.4 มา ห้องเรียนมีไม่พอเพราะมีการรับเด็กสอบเข้ามากขึ้น ทางโรงเรียนจึงเปิดห้องนี้กลับมาเป็นห้องเรียนเหมือนเดิม แล้วก็มีเหตุการณ์แปลกๆเกิดกับห้องของเขาจนต้องไปสอบถามรุ่นพี่รุ่นก่อนๆ ถึงได้รู้ว่าห้องนี้เฮี้ยน
วันหนึ่งผมก็โดนดีเองกับตัว
ขณะที่กำลังจะกลับบ้าน รุ่นพี่คนนี้ก็บอกว่า ลืมกระเป๋าเงินไว้ใต้โต๊ะ วานผมขึ้นไปหยิบให้หน่อย ตอนผมไปถึงห้องนั้น ไม่มีใครอยู่ที่นั่นแล้ว ผมเดินไปดูที่โต๊ะ ก้มลงไปดูในช่องวางของ ก้มลงไปดูที่พื้นข้างใต้ แม้แต่ดูใต้โต๊ะข้างๆก็ไม่มี ผมเดินออกจากห้องมาอย่างอารมณ์เสียเพราะเหมือนเดินมาเหนื่อยฟรี ตอนกำลังจะเดินลงบันไดมา รุ่นพี่คนนั้นก็เดินสวนขึ้นมา ผมบอกเขาว่าหาไม่เจอ แต่เขาก็ยืนยันจะกลับไปดูอีกครั้ง ผมก็เลยตามไปด้วย
สิ่งที่เราเห็นคือ กระเป๋าเงินสีดำของรุ่นพี่
วางอยู่บนโต๊ะของเขา วางอยู่อย่างนั้น เหมือนมันอยู่อย่างนั้นมาตลอด ทั้งๆที่ผมทั้งขยับทั้งเลื่อนโต๊ะแต่ก็ยังหาไม่เจอ ตอนนี้มันกลับวางอยู่บนโต๊ะซะงั้น เราสองคนมองหน้ากัน รุ่นพี่รีบเดินเข้าไปหยิบโดยไม่พูดอะไร แล้วเราทั้งคู่ก็รีบเผ่นออกมา สยองไปตามๆกัน
ด้านล่างห้องนี้เป็นห้องภูมิศาสตร์ อาจารย์ที่นั่งประจำในห้องนี้ก็เคยเล่าเรื่องหลอนๆให้ผมฟัง เช่น ตอนที่ห้องมืดยังเป็นห้องเก็บของอยู่ ในบางวันที่อาจารย์ต้องอยู่ทำงานจนมืด อาจารย์มักยินเสียงขยับโต๊ะ เสียงไม้กระดานลั่น เสียงคนเดิน หรือแม้กระทั่งวิ่งหรือกระโดด เมื่อขึ้นไปเช็คดู ก็พบว่าห้องนั้นล็อคจากด้านนอก ไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นสักคน
ถ้าเกิดสนใจ มีคนอยากฟังต่อ จะมาเล่าต่ออีกนะครับ ยังมีอีกหลายเรื่องทีเดียว แต่กลัวจะยาวเกินไปหน่อยถ้าพิมพ์ไปเลยทีเดียว
ประสบการณ์หลอน : 3 ปี กับชีวิตม.ปลายที่โดนผีหลอก
แรกเริ่มเดิมทีผมเรียน ม.ต้น จากโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง (ซึ่งก็เคยมีประสบการณ์หลอนๆจากที่นี่เหมือนกัน แต่ขอยกไปไว้โอกาสหน้านะครับ) หลังจบ ม.ต้น ผมพยายามสอบเข้าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เก่า เพราะทางบ้านคิดว่าถ้าไปเรียนที่นี่จะมีโอกาศสอบติดมหาลัยฯดีๆมากกว่า (โรงเรียนที่พึ่งเป็นข่าวไปไม่นานมานี้ ระดับประเทศ แข่งขันสูงๆหน่อยอ่ะ พูดชื่อไปใครก็อ๋อ) ความจริงแล้วผมตามสาวไปสอบด้วยแหละ แล้วดันติด 555555555 แต่เรื่องสยองมันเริ่มตั้งแต่วันมอบตัวนักเรียนเลย
หลังจากตรวจเครื่องแต่งกายนักเรียน, ฟัง ผ.อ. กล่างถึงวิสัยทัศ, จ่ายเงินบำรุงการศึกษาเรียบร้อย ผมกับพ่อก็ลงจากหอประชุมมาหาอะไรทานที่โรงอาหารด้านล่าง ผมรู้สึกปวดท้องเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ที่รร.นี้มีห้องน้ำชายอยู่บริเวณคือใต้อาคารห้าซึ่งอยู่ติดกับโรงอาหาร (เป็นสองจุด จุดแรกห้องใหญ่กว่าและอยู่ใกล้โรงอาหารมากกว่า อีกจุดที่เล็กกว่านิดหน่อยต้องเดินเลยไปอีกประมาณ10เมตร) ผมจำทางได้จากตอนมาสอบ เลยเดินไปคนเดียว
ตอนที่เดินพ้นโรงอาหารไปสู่ใต้อาคารห้า ผมสังเกตุว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินอยู่ด้านหน้าประมาณ 15 เมตร จากลักษณะน่าจะเป็นเด็ก ม.ต้น ตัวเตี้ย รูปร่างเล็ก แต่งตัวเรียบร้อย ตัดผมทรงนักเรียน (ตอนนั้นผมคิดว่าอีกเดือนกว่าถึงจะเปิดเทอม ทำไมถึงมีเด็กหัวเกรียนอยู่แถวนี้ แต่ไม่ได้สนใจอะไร) ผมทึกทักไปเองว่าคงมากับพี่ไรงี้ เลยหยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่น สายตาก็ชำเลืองมองทางอยู่ตลอด
ตัวห้องน้ำนั้นยกพื้นสูงขึ้นไปจากทางเดิน ต้องเลี้ยวและก้าวขึ้นบันไดไปสัก3-4ขั้นก็จะเข้าสู่ห้องน้ำ จังหวะที่ผมชำเลืองตามองครั้งสุดท้าย เด็ก ม.ต้น คนนั้นก็เลี้ยวก้าวขึ้นบันไดไปแล้ว ผมเห็นหน้าเขาไม่ชัดเพราะไม่ได้ตั้งใจมอง พอเด็กคนนั้นก้าวลับสายตาขึ้นไป ผมก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง เดินไปเรื่อยๆ สายตาก็จ้องมองทางเดินตลอด ประมาณสิบวินาที ผมก็มาถึงตีนบันได
สิ่งที่ผมสังเกตุได้คือ ประตูห้องน้ำถูกล็อคด้วยแม่กุญแจจากด้านนอก ไม่มีใครอยู่หน้าประตู และเด็กคนเมื่อกี้ก็หายตัวไปแล้ว!!
ผมตกใจสุดขีด หันรีหันขวาง มองหาเด็กหัวเกรียนคนนั้น คิดในใจ เป็นไปได้ไง เด็กคนนั้นจะหายไปไหนได้ ผมเด็กเขาเดินขึ้นมา แล้วเขาก็หายไป ผมลองสำรวจที่ประตูห้องน้ำ มันล๊อคอยู่จริงๆ ไม่ใช่การเล่นกลอะไร หลังจากได้สติ ผมลองเดินไปดูห้องน้ำอีกจุดที่อยู่ถัดไป คราวนี้มันเปิด แต่เมื่อเดินขึ้นไปดู ก็พบว่ามันว่างเปล่า ส้วนทุกห้องไม่มีใครใช้งาน ไม่มีวี่แววของมนุษย์คนไหนพึ่งเข้ามาเมื่อกี้ ทันใดนั้นเองผมถึงรู้ตัว ว่าตัวเองโดน "รับน้อง" เข้าให้แล้ว (จากคำบอกเล่าของรุ่นพี่ เด็กสอบเข้าใหม่ตอน ม.4 จะมีเรื่องแปลกๆที่อธิบายไม่ได้แบบนี้กันทุกคน)
หลังจากนั้นเป็นเรื่องของห้องเรียนในมุมมืด
มันอยู่ในจุดที่ทางเดินเชื่อมจากตึกเรียนของผมเชื่อมกับตึกเรียนอีกหลัง คิดซะว่าเป็นสามแยกที่ทางเดินบนอาคารตัดกับทางเชื่อมละกัน บนทางเชื่อมนั้นมีห้องเรียนด้วย แถมมีถึงสามชั้น ถ้าเดินจากตึกผมไป ห้องเรียนบนทางเชื่อมจะอยู่ทางซ้ายมือ หนึ่งในห้องนั้นเป็นห้องของรุ่นพี่ที่ผมสนิทมากๆคนหนึ่ง ห้องของเขาอยู่บริเวณที่ทางเชื่อมสิ้นสุดลงและเข้าสู่อีกตึกเรียน (พิมพ์เองยังงงเองเลย ลองคิดภาพตามนะครับ 555555) เพราะเป็นจุดอับ ทำให้ห้องตรงจุดนี้ร้อนมากๆ แถมยังมืดมากเพราะโดนตึกเรียนและหลังคาบังแดดอยู่ตลอดเวลา
เรื่องนี่เริ่มขึ้นจากเย็นวันหนึ่ง มันเป็นวันสอบท่องสูตรเคมีวันสุดท้าย ผม พร้อมเพื่อนอีกสามคนเป็นชุดสุดท้ายที่อยู่สอบกับอาจารย์ประจำชั้น ตอนนั้นเป็นเวลาห้าโมงครึ่งแล้ว ผมจำได้ว่าตอนนั้นเป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น แสงอาทิตย์มืดลงเร็วมาก และท้องฟ้าเป็นสีแดงแล้ว หลังจากคนสุดท้ายสอบผ่าน อาจารย์ก็ให้พวกผมเก็บของ ปิดไฟและพัดลม ก่อนจะออกจากห้องเรียนมา
ทางลงจากตึกและทางเชื่อมไปโรงอาหารปิดหมดแล้วในเวลานี้ ทางลงเดียวที่ยังเปิดอยู่คือบันไดบริเวณหน้าห้องผ.อ ซึ่งต้องเดินข้ามทางเชื่อมไปอีกตึกนึง ตอนที่ออกจากห้อง อาจารย์ถามผมว่ากี่โมงแล้ว เมื่อผมตอบ อาจารย์ก็ทำสีหน้าเหมือนคิดอะไรออก และพูดพึมพัมออกมาว่า "xิบหายละ" หลังจากนั้นพวกเราก็ออกเดินมาโดยมีอาจารย์เดินนำด้านหน้า ตอนนี้ผมเริ่มสังเกตว่าคนอื่นๆก็มีสีหน้าไม่สบายใจพอๆกับอาจารย์ และทุกคนเดินด้วยฝีเท้าที่เร็วมาก กึ่งวิ่งเลยทีเดียว (ในกลุ่มนี้ผมเป็นเด็กสอบเข้าใหม่คนเดียว) แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เราเดินกันไปเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณหน้าห้องเจ้ากรรม อาจารย์ที่เดินไม่พูดอะไรมาตลอดทาง อยู่ๆก็หันมาถามพวกเรา
"พวกเธอเชื่อเรื่องผีไหม?"
แล้วอาจารย์ก็เริ่มออกวิ่ง (ตอนนั้นคือฮามากกว่าหลอน เพราะคนที่ถามเป็นอาจารย์สอนเคมี วิทยาศาสตร์ 555555555) พวกเราทุกคนก็พร้อมใจกันวิ่งขาแทบหลุดตามหลังอาจารย์ลงไป เมื่อลงมาถึงด้านล่าง อาจารย์ก็หัวเราะแหะๆ บอกว่าไม่มีอะไรหรอก แหย่เล่นน่ะๆ แต่สีหน้าของเขานั้นตื่นกลัวเลยทีเดียว
ผมพยายามสอบถามจากเพื่อน,รุ่นพี่ และอาจารย์ที่สนิทกันมากๆดู ในตอนแรกทุกคนก็ปฏิเสธที่จะพูด "เรื่องนี้ไม่ควรพูดถึง" ใครๆก็บอกผมแบบนี้ แต่ในที่สุดผมก็สืบไปเรื่อยๆจนรู้เรื่องราวสยองของห้องนี้
เล่ากันว่า ห้องนี้เคยเป็นห้องประจำของนักเรียน ม.6 รุ่นหนึ่ง ในปีนั้น มีนักเรียนคนหนึ่งในห้องประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างเดินทางมาโรงเรียน จากนั้นมาไม่ได้ไม่กี่วัน มีอาจารย์ท่านหนึ่งเข้ามาสอน แล้วทักว่า "อ้าว วันนี้มาเรียนหรอ อาทิตย์ที่แล้วไปไหนมาถึงไม่ได้มาเรียนคาบครู" แถมตอนเช็คชื่อก็ยังขานชื่อของเด็กคนนั้นอีก ทำเอาทุกคนในห้องหลอนกันไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร หลังจบคาบ ทุกคนในห้องต่างตามไปสอบถามอาจารย์คนนั้นว่าพูดกับใคร "อะไรกัน ก็นายXไง วันนี้เขาก็ดูไม่พูดเลยนะ นั่งเงียบเชียว" "อาจารย์คะ Xโดนรถชน เสียไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วค่ะ" อาจารย์คนนั้นตกใจจนเผลอร้องออกมา เด็กทุกคนในห้องก็มองหน้ากันไปมาด้วยความสยองถึงขีดสุด
หลังจากนั้น ห้องนั่นก็กลายเป็นห้องประจำบองนักเรียนชั้นปีอื่น แต่ก็มีเหตุการณ์คล้ายๆกันทำนองนี้เกิดขึ้น นับคนเกินเวลาแบ่งกลุ่ม หรืออาจารย์เห็นใครไม่รู้นั่งเรียนอยู่ด้วย แต่อยู่ๆก็หายตัวไป แถมคนที่เดินผ่านไปมาบนทางเชื่อมก็มักจะนองเข้ามาเห็นใครสักคนยืนนิ่งอยู่ที่กลางห้อง เรื่องสยองนี้เป็นที่กล่าวขานถึงกันมากจนมีการทำบุญและนำพระมาสวด แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ต่อมา ห้องนี้ก็กลายเป็นห้องเก็บของ เช่น โต๊ะเรียนและเก้าอี้ที่พัง วัสดุสำหรับทำงานที่ไม่ได้ใช้ ฯลฯ
รุ่นพี่ของผมที่สนิทกันเล่าว่า ปีที่เขาสอบเข้า ม.4 มา ห้องเรียนมีไม่พอเพราะมีการรับเด็กสอบเข้ามากขึ้น ทางโรงเรียนจึงเปิดห้องนี้กลับมาเป็นห้องเรียนเหมือนเดิม แล้วก็มีเหตุการณ์แปลกๆเกิดกับห้องของเขาจนต้องไปสอบถามรุ่นพี่รุ่นก่อนๆ ถึงได้รู้ว่าห้องนี้เฮี้ยน
วันหนึ่งผมก็โดนดีเองกับตัว
ขณะที่กำลังจะกลับบ้าน รุ่นพี่คนนี้ก็บอกว่า ลืมกระเป๋าเงินไว้ใต้โต๊ะ วานผมขึ้นไปหยิบให้หน่อย ตอนผมไปถึงห้องนั้น ไม่มีใครอยู่ที่นั่นแล้ว ผมเดินไปดูที่โต๊ะ ก้มลงไปดูในช่องวางของ ก้มลงไปดูที่พื้นข้างใต้ แม้แต่ดูใต้โต๊ะข้างๆก็ไม่มี ผมเดินออกจากห้องมาอย่างอารมณ์เสียเพราะเหมือนเดินมาเหนื่อยฟรี ตอนกำลังจะเดินลงบันไดมา รุ่นพี่คนนั้นก็เดินสวนขึ้นมา ผมบอกเขาว่าหาไม่เจอ แต่เขาก็ยืนยันจะกลับไปดูอีกครั้ง ผมก็เลยตามไปด้วย
สิ่งที่เราเห็นคือ กระเป๋าเงินสีดำของรุ่นพี่ วางอยู่บนโต๊ะของเขา วางอยู่อย่างนั้น เหมือนมันอยู่อย่างนั้นมาตลอด ทั้งๆที่ผมทั้งขยับทั้งเลื่อนโต๊ะแต่ก็ยังหาไม่เจอ ตอนนี้มันกลับวางอยู่บนโต๊ะซะงั้น เราสองคนมองหน้ากัน รุ่นพี่รีบเดินเข้าไปหยิบโดยไม่พูดอะไร แล้วเราทั้งคู่ก็รีบเผ่นออกมา สยองไปตามๆกัน
ด้านล่างห้องนี้เป็นห้องภูมิศาสตร์ อาจารย์ที่นั่งประจำในห้องนี้ก็เคยเล่าเรื่องหลอนๆให้ผมฟัง เช่น ตอนที่ห้องมืดยังเป็นห้องเก็บของอยู่ ในบางวันที่อาจารย์ต้องอยู่ทำงานจนมืด อาจารย์มักยินเสียงขยับโต๊ะ เสียงไม้กระดานลั่น เสียงคนเดิน หรือแม้กระทั่งวิ่งหรือกระโดด เมื่อขึ้นไปเช็คดู ก็พบว่าห้องนั้นล็อคจากด้านนอก ไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นสักคน
ถ้าเกิดสนใจ มีคนอยากฟังต่อ จะมาเล่าต่ออีกนะครับ ยังมีอีกหลายเรื่องทีเดียว แต่กลัวจะยาวเกินไปหน่อยถ้าพิมพ์ไปเลยทีเดียว