วันนี้อยากจะมาบอกเล่าเรื่องราวดีๆ ของการเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาผ่านทางแอพพลิเคชัน "Be My Eyes" ค่ะ 😊😊😊
ก่อนอื่นขอเท้าความก่อนว่า ก่อนที่จะรู้จักแอพพลิเคชันนี้ จขกท. ได้มีโอกาสใช้แอพพลิเคชัน "Read for the Blind" ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันสำหรับสร้างหนังสือเสียงให้กับคนตาบอดมาก่อนค่ะ แอพพลิเคชันนี้ถือได้ว่าเป็นที่รู้จักกันในประเทศไทยและมีคนลงทะเบียนใช้กันอย่างแพร่หลาย จนกระทั่งมีเรื่องของลิขสิทธิ์หนังสือเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้หลายๆ คนกังวล แล้วแอพพลิเคชันนี้ก็เริ่มซาไป
ระหว่างที่ จขกท. ค้นข้อมูลใน Google เพื่อหารายละเอียดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์หนังสือที่สามารถนำมาใช้สร้างหนังสือเสียงในแอพพลิเคชัน “Read for the Blind” สายตาก็ได้เหลือบไปเห็นข้อมูลเกี่ยวกับแอพพลิเคชันหนึ่งที่ชื่อว่า "Be My Eyes" ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยชาวต่างชาติ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจด้วยความที่แอพพลิชันเป็นภาษาอังกฤษ จขกท. เลยมองข้ามไป จนกระทั่งวันหนึ่ง...มีโอกาสได้อ่านบทความที่บอกเล่าประสบการณ์ในการช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาจากน้องคนหนึ่ง (จำไม่ได้ว่าจากเว็บไซต์อะไร) ผ่านแอพพลิเคชันนี้ ก็เลยจุดประกายอยากลองเป็นอาสาสมัครดูบ้างเพราะเป็นแอพพลิเคชันที่มีประโยชน์ที่สามารถช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาได้จริง และในที่สุดก็ตัดสินใจดาวน์โหลดและลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2018 ซึ่งในขณะนั้นมีผู้พิการทางสายตาลงทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 79,090 คน และอาสาสมัครลงทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 1,248,488 คน ถ้าเทียบกันแล้วอาสาสมัครมีจำนวนมากเกือบ 16 เท่าของผู้ต้องการความช่วยเหลือ ตอนนั้นแอบคิดในใจเหมือนกันค่ะว่าจะมีโอกาสได้ช่วยใครมั้ยเนี่ย 😊😊😊
หลังจากวันที่ลงทะเบียนผ่านมาเกือบสองเดือน ก็มีสายเรียกเข้าจากผู้พิการทางสายตาที่ต้องการความช่วยเหลือ จำได้ว่าวันนั้นตื่นเต้นมากไม่กล้ารับสาย ด้วยความที่ตอนลงทะเบียน จขกท. ลงทะเบียนไว้สองภาษา คือ ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ พอมีสายเข้ามาเลยไม่แน่ใจว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ ถ้าเป็นคนต่างชาติกลัวว่าจะคุยไม่รู้เรื่องและกลัวว่าจะช่วยเหลือเค้าไม่ได้ หลังจากจดๆ จ้องๆ อยู่นาน ในที่สุด...สายนั้นก็เงียบไป นั่นหมายถึงว่าระบบโอนสายไปให้อาสาสมัครท่านอื่นแทน ตอนนั้นก็ตำหนิตัวเองเหมือนกันว่า เฮ้ย...ถ้าไม่อยากช่วยจะมาลงทะเบียนทำไม และจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น จขกท. เลยตัดสินใจเปลี่ยนภาษาในการช่วยเหลือจากสองภาษาเหลือแค่ภาษาไทยภาษาเดียวเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง อีกทั้งคิดว่าอาสาสมัครที่ใช้ภาษาอังกฤษน่าจะเยอะอยู่แล้วเพราะเป็นแอพพลิเคชันที่พัฒนาโดยชาวต่างชาติ 😊😊😊
ถึงวันนี้ (2 มิถุนายน 2018)...ผ่านมาแล้วเกือบ 4 เดือนนับจากวันแรกที่ลงทะเบียน จขกท. มีโอกาสได้ช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาจำนวนทั้งสิ้น 7 คนแล้วค่ะ เยอะเลยใช่มั้ยคะ จากที่คิดว่าคงจะไม่ได้ช่วยอะไร 😊😊😊 ส่วนรายละเอียดของการให้ความช่วยเหลือในแต่ละ case ก็ตามรายการข้างล่างนี้เลยค่ะ เผื่อใครที่อยากจะลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครแต่นึกภาพไม่ออกว่า เอ๊ะ...เราจะช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาได้ยังไง
Case 1: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อติดตั้งโปรแกรมสำหรับผู้พิการทางสายตา
Case 2: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยดูรีโมทแอร์เพื่อปรับให้ลมจากแอร์ swing ขึ้นลง
Case 3: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อติดตั้งวินโดว์ใหม่
Case 4: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยดูตัวเลขบนลอตเตอรี่ที่จะนำไปขาย
Case 5: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยแยกผ้าขาวกับผ้าสีเพื่อที่จะนำไปซัก
Case 6: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยดูรีโมทแอร์ในโรงแรมเพื่อปรับโหมดพัดลมเป็นแอร์
Case 7: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยอ่านซองขนมสำหรับขัดฟันสุนัข ว่าอายุเท่าไหร่ถึงกินได้
เห็นมั้ยคะว่าเรื่องที่ช่วยเหลือเป็นเรื่องง่ายมากๆ เลยสำหรับผู้ที่มองเห็น แต่สำหรับผู้พิการทางสายตาแล้วลำบากมาก จริงอยู่ที่หลายๆ อย่างพวกเขาสามารถทำเองได้ แต่อีกหลายๆ อย่าง พวกเขาก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากผู้ที่มองเห็นค่ะ เพราะฉะนั้นจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถให้ผู้พิการทางสายตาเหล่านั้นยืมดวงตาของเราได้ผ่านทางแอพพลิเคชัน "Be My Eyes" 😊😊😊 สำหรับใครที่สนใจสามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครได้นะคะ (รายละเอียดในความคิดเห็นที่ 44) แล้วจะรู้ว่าเวลาแค่เพียง 2-3 นาทีมันมีคุณค่าและสร้างความสุขใจได้มากแค่ไหน...หรือถ้าใครรู้จักผู้พิการทางสายตาก็สามารถแนะนำให้ลงทะเบียนเพื่อขอความช่วยเหลือได้ค่ะ ^^
ปล. ขอบคุณที่ตามอ่านจนจบนะคะ เขียนซะยาวเลย อิอิ พอดีเพิ่งตั้งกระทู้เป็นครั้งแรก ถ้าขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ ^^
ประสบการณ์การเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาผ่านแอพพลิเคชัน "Be My Eyes"
ก่อนอื่นขอเท้าความก่อนว่า ก่อนที่จะรู้จักแอพพลิเคชันนี้ จขกท. ได้มีโอกาสใช้แอพพลิเคชัน "Read for the Blind" ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันสำหรับสร้างหนังสือเสียงให้กับคนตาบอดมาก่อนค่ะ แอพพลิเคชันนี้ถือได้ว่าเป็นที่รู้จักกันในประเทศไทยและมีคนลงทะเบียนใช้กันอย่างแพร่หลาย จนกระทั่งมีเรื่องของลิขสิทธิ์หนังสือเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้หลายๆ คนกังวล แล้วแอพพลิเคชันนี้ก็เริ่มซาไป
ระหว่างที่ จขกท. ค้นข้อมูลใน Google เพื่อหารายละเอียดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์หนังสือที่สามารถนำมาใช้สร้างหนังสือเสียงในแอพพลิเคชัน “Read for the Blind” สายตาก็ได้เหลือบไปเห็นข้อมูลเกี่ยวกับแอพพลิเคชันหนึ่งที่ชื่อว่า "Be My Eyes" ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยชาวต่างชาติ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจด้วยความที่แอพพลิชันเป็นภาษาอังกฤษ จขกท. เลยมองข้ามไป จนกระทั่งวันหนึ่ง...มีโอกาสได้อ่านบทความที่บอกเล่าประสบการณ์ในการช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาจากน้องคนหนึ่ง (จำไม่ได้ว่าจากเว็บไซต์อะไร) ผ่านแอพพลิเคชันนี้ ก็เลยจุดประกายอยากลองเป็นอาสาสมัครดูบ้างเพราะเป็นแอพพลิเคชันที่มีประโยชน์ที่สามารถช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาได้จริง และในที่สุดก็ตัดสินใจดาวน์โหลดและลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2018 ซึ่งในขณะนั้นมีผู้พิการทางสายตาลงทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 79,090 คน และอาสาสมัครลงทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 1,248,488 คน ถ้าเทียบกันแล้วอาสาสมัครมีจำนวนมากเกือบ 16 เท่าของผู้ต้องการความช่วยเหลือ ตอนนั้นแอบคิดในใจเหมือนกันค่ะว่าจะมีโอกาสได้ช่วยใครมั้ยเนี่ย 😊😊😊
หลังจากวันที่ลงทะเบียนผ่านมาเกือบสองเดือน ก็มีสายเรียกเข้าจากผู้พิการทางสายตาที่ต้องการความช่วยเหลือ จำได้ว่าวันนั้นตื่นเต้นมากไม่กล้ารับสาย ด้วยความที่ตอนลงทะเบียน จขกท. ลงทะเบียนไว้สองภาษา คือ ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ พอมีสายเข้ามาเลยไม่แน่ใจว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ ถ้าเป็นคนต่างชาติกลัวว่าจะคุยไม่รู้เรื่องและกลัวว่าจะช่วยเหลือเค้าไม่ได้ หลังจากจดๆ จ้องๆ อยู่นาน ในที่สุด...สายนั้นก็เงียบไป นั่นหมายถึงว่าระบบโอนสายไปให้อาสาสมัครท่านอื่นแทน ตอนนั้นก็ตำหนิตัวเองเหมือนกันว่า เฮ้ย...ถ้าไม่อยากช่วยจะมาลงทะเบียนทำไม และจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น จขกท. เลยตัดสินใจเปลี่ยนภาษาในการช่วยเหลือจากสองภาษาเหลือแค่ภาษาไทยภาษาเดียวเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง อีกทั้งคิดว่าอาสาสมัครที่ใช้ภาษาอังกฤษน่าจะเยอะอยู่แล้วเพราะเป็นแอพพลิเคชันที่พัฒนาโดยชาวต่างชาติ 😊😊😊
ถึงวันนี้ (2 มิถุนายน 2018)...ผ่านมาแล้วเกือบ 4 เดือนนับจากวันแรกที่ลงทะเบียน จขกท. มีโอกาสได้ช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาจำนวนทั้งสิ้น 7 คนแล้วค่ะ เยอะเลยใช่มั้ยคะ จากที่คิดว่าคงจะไม่ได้ช่วยอะไร 😊😊😊 ส่วนรายละเอียดของการให้ความช่วยเหลือในแต่ละ case ก็ตามรายการข้างล่างนี้เลยค่ะ เผื่อใครที่อยากจะลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครแต่นึกภาพไม่ออกว่า เอ๊ะ...เราจะช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาได้ยังไง
Case 1: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อติดตั้งโปรแกรมสำหรับผู้พิการทางสายตา
Case 2: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยดูรีโมทแอร์เพื่อปรับให้ลมจากแอร์ swing ขึ้นลง
Case 3: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อติดตั้งวินโดว์ใหม่
Case 4: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยดูตัวเลขบนลอตเตอรี่ที่จะนำไปขาย
Case 5: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยแยกผ้าขาวกับผ้าสีเพื่อที่จะนำไปซัก
Case 6: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยดูรีโมทแอร์ในโรงแรมเพื่อปรับโหมดพัดลมเป็นแอร์
Case 7: ผู้พิการทางสายตาให้ช่วยอ่านซองขนมสำหรับขัดฟันสุนัข ว่าอายุเท่าไหร่ถึงกินได้
เห็นมั้ยคะว่าเรื่องที่ช่วยเหลือเป็นเรื่องง่ายมากๆ เลยสำหรับผู้ที่มองเห็น แต่สำหรับผู้พิการทางสายตาแล้วลำบากมาก จริงอยู่ที่หลายๆ อย่างพวกเขาสามารถทำเองได้ แต่อีกหลายๆ อย่าง พวกเขาก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากผู้ที่มองเห็นค่ะ เพราะฉะนั้นจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถให้ผู้พิการทางสายตาเหล่านั้นยืมดวงตาของเราได้ผ่านทางแอพพลิเคชัน "Be My Eyes" 😊😊😊 สำหรับใครที่สนใจสามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครได้นะคะ (รายละเอียดในความคิดเห็นที่ 44) แล้วจะรู้ว่าเวลาแค่เพียง 2-3 นาทีมันมีคุณค่าและสร้างความสุขใจได้มากแค่ไหน...หรือถ้าใครรู้จักผู้พิการทางสายตาก็สามารถแนะนำให้ลงทะเบียนเพื่อขอความช่วยเหลือได้ค่ะ ^^
ปล. ขอบคุณที่ตามอ่านจนจบนะคะ เขียนซะยาวเลย อิอิ พอดีเพิ่งตั้งกระทู้เป็นครั้งแรก ถ้าขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ ^^