สวัสดีค่ะทุกๆคน
เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อจะมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวเองแบบไม่ใช้ทัวร์ครั้งแรก
แล้วโดนสายการบินเท!!!แบบกะทันหันกลางสนามบินเลยค่าาาาา
ที่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อมาเล่าประสบการณ์ที่ตอนนั้นสำหรับเราคือแย่มาก เคว้งคว้างไปหมดเลยค่ะ
ทุกคนจะได้เตรียมใจเอาไว้ก่อนว่ามันเกิดขึ้นได้ จะได้ไม่ตาแตกกลางสนามบินแถมยังเป็นในต่างประเทศแบบเราด้วยค่ะ
เรื่องเกิดขึ้นตอนที่เรากำลังต่อแถวเช็คอินโหลดกระเป๋าค่ะ
ไฟลท์ก่อนหน้าเราของสายการบินเดียวกันโดนยกเลิกด้วยสาเหตุจากสภาพอากาศ
เราก็เห็นคุณป้าชาวจีนโวยวายเสียงดังกับเจ้าหน้าที่สายการบินอยู่ค่ะ
ตอนนั้นเราก็ไม่เอะใจอะไรเพราะเพราะบนบอร์ดที่บอกไฟลท์บินก็ยังขึ้นเวลาของไฟลท์เราตามปกติ ไม่ได้บอกอะไร
แถมผู้โดยสารก็ต่อแถวยาวทุกอย่างดูปกติมากค่ะ จนกระทั่งก่อนเวลาที่เครื่องจะออกประมาณ 1 ชั่วโมง
บนบอร์ดของสนามบินก็ขึ้นว่าไฟลท์เราโดน cancel ด้วยสภาพอากาศเหมือนกันค่ะ
ต่อจากนั้นไม่มีคำอธิบายอะไรจากเจ้าหน้าที่สายการบินเลย
มีแค่กระดาษใบเล็กๆ ครึ่งกระดาษ a4 ทั้งใบเขียนด้วยภาษาจีน มีเบอร์โทรกับเว็บไซต์
ฟังจากเจ้าหน้าที่ได้ความว่าให้โทรไปเบอร์นั้นค่ะ ถ้ามีข้อสงสัยอะไร
ที่แย่กว่านั้นคือเจ้าหน้าที่ที่อยู่แถวนั้นทั้งหมดพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ค่ะ พูดได้แค่เป็นคำๆ
และผู้โดยสารที่ไปไฟลท์เดียวกับเราเป็นคนจีนเกือบทั้งลำเลยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เช่นกัน
ตอนนั้นเรามืดแปดด้านเลยค่ะ เพราะโทรศัพท์ต่างประเทศเราก็ต้องจ่ายเงินเองต่างหาก แถมยังไม่เคยใช้ด้วยค่ะ
สุดท้ายเราเลยตัดสินใจใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะของสนามบินค่ะ แต่!!!!!! ความพีคยังไม่จบเพราะโทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติดค่ะ
เราเลยกลับไปพยายามคุยกับเจ้าหน้าที่สายการบินอีกรอบ ปรากฎว่าคุยกันไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ด้วยความที่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ส่วนเราก็พูดได้แค่อังกฤษกับไทย
สุดท้ายเราเลยต้องคุยกับเจ้าหน้าที่สนามบินของญี่ปุ่นแทนค่ะ แต่อันนี้ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นค่ะ ว่าเขาช่วยเหลือเราดีมาก
เอาง่ายๆก็คือดีกว่าเจ้าหน้าที่ของสายการบินเองซะด้วยซ้ำ เจ้าหน้าที่ของสนามบินแนะนำให้เราโทรหา travel company
เราเลยลองโทรหาเว็บไซต์ที่เราจองตั๋วมาค่ะ
ปรากฎว่าเจอเรื่องน่าเศร้ากว่าเดิมค่ะ
เจ้าหน้าที่เว็บไซต์เป็นฝรั่งค่ะ แต่นางกลับหาว่าเราไปถึงสนามบินเลทค่ะ
เราก็พยายามอธิบายให้เขาฟังว่าเรามาก่อนล่วงหน้าตั้ง 4 ชั่วโมงนะ(เรามาถึงสนามบินเร็วเพราะอยากช็อปอะไรนิดๆหน่อยๆในduty freeก่อนกลับค่ะ)
เพราะเขาบอกว่าไม่มีอีเมลล์จากสายการบินมาแจ้งว่าไฟลท์ยกเลิก
ตอนนั้นเราโมโหมากค่ะ และเครียดมากด้วยอยากกลับบ้านมาก
แต่ก็พยายามเข้าใจว่าเราก็ไม่มีหลักฐานอะไรไปยืนยันว่าไฟลท์เราโดนยกเลิก เค้าก็ต้องไม่เชื่อเป็นธรรมดา
เราเลยพยายามจะเข้าไปในเคาน์เตอร์ของสายการบินค่ะ
แต่ความพีคก็เกิดขึ้นเคาน์เตอร์สายการบินปิด!!!แล้วค่ะ ทั้งๆที่ตอนนั้นเพิ่งจะ 6 โมงเย็น
ตอนนั้นเราหมดหวังแล้วค่ะ ตัดสินใจจะซื้อสายการบินอื่น แล้วคิดไว้ว่าพอถึงเมืองไทยค่อยจัดการกับสายการบินแล้วกัน
ตอนนั้นไม่ไหวแล้วค่ะหมดแรงแล้ว คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่อง คุยกันคนละภาษา เราเลยไปขอ cancellation certificate กับเจ้าหน้าที่สนามบินค่ะ
ปรากฎว่า!!!!! ในที่สุดเราก็ได้บทสรุปค่ะ คือจะมีไฟลท์ 10.00 น. ของวันรุ่งขึ้นไปเลย
เราก็โอเคสบายใจละ คืนนี้นอนสนามบินก็แล้วกัน ก็เลยเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมนอนสนามบินค่ะ
แต่ระหว่างที่แปรงฟันอยู่ก็คิดได้ว่า เฮ่ย!!! เราต้องไปต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้นี่หน่า แล้วจะมีไฟลท์ต่อกลับไทยมั้ยเนี่ย
เรากับเพื่อนเลยรีบวิ่งลงไปถามเค้าค่ะ ปรากฎเจอเจ้าหน้าที่สายการบินพอดี และคนนี้พอพูดอังกฤษได้
แต่คำตอบที่ได้มาไม่ได้ทำให้สบายใจขึ้นเลยค่ะ เพราะเค้าบอกว่าพอเราถึงเซี่ยงไฮ้เราต้องเช็คเอ้าท์ เอากระเป๋า แล้วไปติดต่อที่เซี่ยงไฮ้อีกที
เรากับเพื่อนนี่น้ำตาจะไหลเลยค่ะ เพราะไม่มีความแน่นอนอะไรเลยในชีวิตตู
เราพยายามถามเค้าว่าออกตั๋วหรือว่าจองที่ให้เราเลยได้มั้ย แต่ยังไงก็ไม่ได้ค่ะ
ยังค่ะ!!!! ความพีคยังไม่หมด
เราบังเอิญไปเจอคุณป้าชาวฮ่องกงที่พูดอังกฤษได้แล้วบินไฟลท์เดียวกับเราพอดี เราเลยลองเข้าไปคุยดู
ปรากฎว่าคุณป้าบอกว่า เรานอนสนามบินไม่ได้ค่ะ เพราะสนามบินปิดสี่ทุ่ม!!!!
เราตกใจมากค่ะ เพราะตอนนั้นสองทุ่มแล้วเราไม่รู้จะไปหาที่นอนที่ไหน แต่คุณป้าชาวฮ่องกงน่าร้ากกกมากค่ะ เอารายชื่อโรงแรมที่คุณป้าเอามาแล้วโทรไปเช็คแล้วส่วนใหญ่เต็มหมดแล้วค่ะที่อยู่ใกล้สนามบิน(ไฟลท์โดนยกเลิกตั้ง 2 ไฟลท์ค่ะ ไม่เต็มก็แปลกแล้ว) แล้วแนะนำโรงแรมที่ยังไม่เต็มให้เรา
เราขอบคุณคุณป้าแล้วตัดสินใจไปนอนในเมืองค่ะ
เรานั่ง subway เข้าเมืองอีกรอบ ไปนอนเรียวกังที่เปิด 24 ชั่วโมง
เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็นั่งรถบัสไปสนามบินอีกครั้งตั้งแต่ 8 โมงเช้า
ปรากฎว่าแถวยาวมากเลยค่ะ เพราะเป็นไฟลท์รวมจาก 2 ไฟลท์เมื่อวานที่โดน cancel ไป แต่ช่องที่ให้ check in เปิดแค่ 2-3 ช่องค่ะ
บทสรุปคือสายการบินเช็คอินให้ผู้โดยสารไม่ทันเครื่อง delay ไปอีกครึ่งชั่วโมง
สุดท้ายเรามาถึงเซี่ยงไฮ้แล้วได้ไฟลท์บินกลับไทยตอน 18.00 น.ค่ะ ถึงไทย 22.00น.ทั้งๆที่ความจริงแล้วต้องถึงตั้งแต่ 02.00น. ตามกำหนดการเดิม
ปล. เราไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้มาก่อน การรับมือบางอย่างอาจจะผิดพลาดหรือโก๊ะๆกังๆ อย่าถือสาเราเลยนะคะ🙏🏼🙏🏼🙏🏼
กระทู้นี้เขียนขึ้นเพื่อแชร์ประสบการณ์ที่เจอมา และเป็นข้อมูลให้มือใหม่แบบเรา ว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ จะได้ไม่ตกใจและงงเป็นไก่ตาแตกแบบเรา
เพราะตอนที่ไม่รู้จะเอายังไงต่อเราก็ได้พันทิปนี่แหละค่ะเป็นแหล่งข้อมูล ต้องขอขอบคุณจขกท.ก่อนๆที่เขียนเรื่องพวกนี้ไว้ด้วยนะคะ
ขอขอบคุณเพื่อนๆผู้ร่วมทริปที่มีสติมาก ช่วยเหลือกันดีมาก ร่วมทุกข์ร่วมสุขจนกลับไทยมาได้
ขอบคุณเจ้าหน้าที่สนามบินที่ญี่ปุ่นที่ช่วยเรา รวมถึงคนญี่ปุ่นและคุณป้าชาวฮ่องกงผู้ใจดี💓💓💓
แชร์!!! ประสบการณ์โดนสายการบินยกเลิกไฟลท์กะทันหันที่ญี่ปุ่น
เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อจะมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวเองแบบไม่ใช้ทัวร์ครั้งแรก
แล้วโดนสายการบินเท!!!แบบกะทันหันกลางสนามบินเลยค่าาาาา
ที่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อมาเล่าประสบการณ์ที่ตอนนั้นสำหรับเราคือแย่มาก เคว้งคว้างไปหมดเลยค่ะ
ทุกคนจะได้เตรียมใจเอาไว้ก่อนว่ามันเกิดขึ้นได้ จะได้ไม่ตาแตกกลางสนามบินแถมยังเป็นในต่างประเทศแบบเราด้วยค่ะ
เรื่องเกิดขึ้นตอนที่เรากำลังต่อแถวเช็คอินโหลดกระเป๋าค่ะ
ไฟลท์ก่อนหน้าเราของสายการบินเดียวกันโดนยกเลิกด้วยสาเหตุจากสภาพอากาศ
เราก็เห็นคุณป้าชาวจีนโวยวายเสียงดังกับเจ้าหน้าที่สายการบินอยู่ค่ะ
ตอนนั้นเราก็ไม่เอะใจอะไรเพราะเพราะบนบอร์ดที่บอกไฟลท์บินก็ยังขึ้นเวลาของไฟลท์เราตามปกติ ไม่ได้บอกอะไร
แถมผู้โดยสารก็ต่อแถวยาวทุกอย่างดูปกติมากค่ะ จนกระทั่งก่อนเวลาที่เครื่องจะออกประมาณ 1 ชั่วโมง
บนบอร์ดของสนามบินก็ขึ้นว่าไฟลท์เราโดน cancel ด้วยสภาพอากาศเหมือนกันค่ะ
ต่อจากนั้นไม่มีคำอธิบายอะไรจากเจ้าหน้าที่สายการบินเลย
มีแค่กระดาษใบเล็กๆ ครึ่งกระดาษ a4 ทั้งใบเขียนด้วยภาษาจีน มีเบอร์โทรกับเว็บไซต์
ฟังจากเจ้าหน้าที่ได้ความว่าให้โทรไปเบอร์นั้นค่ะ ถ้ามีข้อสงสัยอะไร
ที่แย่กว่านั้นคือเจ้าหน้าที่ที่อยู่แถวนั้นทั้งหมดพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ค่ะ พูดได้แค่เป็นคำๆ
และผู้โดยสารที่ไปไฟลท์เดียวกับเราเป็นคนจีนเกือบทั้งลำเลยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เช่นกัน
ตอนนั้นเรามืดแปดด้านเลยค่ะ เพราะโทรศัพท์ต่างประเทศเราก็ต้องจ่ายเงินเองต่างหาก แถมยังไม่เคยใช้ด้วยค่ะ
สุดท้ายเราเลยตัดสินใจใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะของสนามบินค่ะ แต่!!!!!! ความพีคยังไม่จบเพราะโทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติดค่ะ
เราเลยกลับไปพยายามคุยกับเจ้าหน้าที่สายการบินอีกรอบ ปรากฎว่าคุยกันไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ด้วยความที่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ส่วนเราก็พูดได้แค่อังกฤษกับไทย
สุดท้ายเราเลยต้องคุยกับเจ้าหน้าที่สนามบินของญี่ปุ่นแทนค่ะ แต่อันนี้ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นค่ะ ว่าเขาช่วยเหลือเราดีมาก
เอาง่ายๆก็คือดีกว่าเจ้าหน้าที่ของสายการบินเองซะด้วยซ้ำ เจ้าหน้าที่ของสนามบินแนะนำให้เราโทรหา travel company
เราเลยลองโทรหาเว็บไซต์ที่เราจองตั๋วมาค่ะ
ปรากฎว่าเจอเรื่องน่าเศร้ากว่าเดิมค่ะ
เจ้าหน้าที่เว็บไซต์เป็นฝรั่งค่ะ แต่นางกลับหาว่าเราไปถึงสนามบินเลทค่ะ
เราก็พยายามอธิบายให้เขาฟังว่าเรามาก่อนล่วงหน้าตั้ง 4 ชั่วโมงนะ(เรามาถึงสนามบินเร็วเพราะอยากช็อปอะไรนิดๆหน่อยๆในduty freeก่อนกลับค่ะ)
เพราะเขาบอกว่าไม่มีอีเมลล์จากสายการบินมาแจ้งว่าไฟลท์ยกเลิก
ตอนนั้นเราโมโหมากค่ะ และเครียดมากด้วยอยากกลับบ้านมาก
แต่ก็พยายามเข้าใจว่าเราก็ไม่มีหลักฐานอะไรไปยืนยันว่าไฟลท์เราโดนยกเลิก เค้าก็ต้องไม่เชื่อเป็นธรรมดา
เราเลยพยายามจะเข้าไปในเคาน์เตอร์ของสายการบินค่ะ
แต่ความพีคก็เกิดขึ้นเคาน์เตอร์สายการบินปิด!!!แล้วค่ะ ทั้งๆที่ตอนนั้นเพิ่งจะ 6 โมงเย็น
ตอนนั้นเราหมดหวังแล้วค่ะ ตัดสินใจจะซื้อสายการบินอื่น แล้วคิดไว้ว่าพอถึงเมืองไทยค่อยจัดการกับสายการบินแล้วกัน
ตอนนั้นไม่ไหวแล้วค่ะหมดแรงแล้ว คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่อง คุยกันคนละภาษา เราเลยไปขอ cancellation certificate กับเจ้าหน้าที่สนามบินค่ะ
ปรากฎว่า!!!!! ในที่สุดเราก็ได้บทสรุปค่ะ คือจะมีไฟลท์ 10.00 น. ของวันรุ่งขึ้นไปเลย
เราก็โอเคสบายใจละ คืนนี้นอนสนามบินก็แล้วกัน ก็เลยเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมนอนสนามบินค่ะ
แต่ระหว่างที่แปรงฟันอยู่ก็คิดได้ว่า เฮ่ย!!! เราต้องไปต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้นี่หน่า แล้วจะมีไฟลท์ต่อกลับไทยมั้ยเนี่ย
เรากับเพื่อนเลยรีบวิ่งลงไปถามเค้าค่ะ ปรากฎเจอเจ้าหน้าที่สายการบินพอดี และคนนี้พอพูดอังกฤษได้
แต่คำตอบที่ได้มาไม่ได้ทำให้สบายใจขึ้นเลยค่ะ เพราะเค้าบอกว่าพอเราถึงเซี่ยงไฮ้เราต้องเช็คเอ้าท์ เอากระเป๋า แล้วไปติดต่อที่เซี่ยงไฮ้อีกที
เรากับเพื่อนนี่น้ำตาจะไหลเลยค่ะ เพราะไม่มีความแน่นอนอะไรเลยในชีวิตตู
เราพยายามถามเค้าว่าออกตั๋วหรือว่าจองที่ให้เราเลยได้มั้ย แต่ยังไงก็ไม่ได้ค่ะ
ยังค่ะ!!!! ความพีคยังไม่หมด
เราบังเอิญไปเจอคุณป้าชาวฮ่องกงที่พูดอังกฤษได้แล้วบินไฟลท์เดียวกับเราพอดี เราเลยลองเข้าไปคุยดู
ปรากฎว่าคุณป้าบอกว่า เรานอนสนามบินไม่ได้ค่ะ เพราะสนามบินปิดสี่ทุ่ม!!!!
เราตกใจมากค่ะ เพราะตอนนั้นสองทุ่มแล้วเราไม่รู้จะไปหาที่นอนที่ไหน แต่คุณป้าชาวฮ่องกงน่าร้ากกกมากค่ะ เอารายชื่อโรงแรมที่คุณป้าเอามาแล้วโทรไปเช็คแล้วส่วนใหญ่เต็มหมดแล้วค่ะที่อยู่ใกล้สนามบิน(ไฟลท์โดนยกเลิกตั้ง 2 ไฟลท์ค่ะ ไม่เต็มก็แปลกแล้ว) แล้วแนะนำโรงแรมที่ยังไม่เต็มให้เรา
เราขอบคุณคุณป้าแล้วตัดสินใจไปนอนในเมืองค่ะ
เรานั่ง subway เข้าเมืองอีกรอบ ไปนอนเรียวกังที่เปิด 24 ชั่วโมง
เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็นั่งรถบัสไปสนามบินอีกครั้งตั้งแต่ 8 โมงเช้า
ปรากฎว่าแถวยาวมากเลยค่ะ เพราะเป็นไฟลท์รวมจาก 2 ไฟลท์เมื่อวานที่โดน cancel ไป แต่ช่องที่ให้ check in เปิดแค่ 2-3 ช่องค่ะ
บทสรุปคือสายการบินเช็คอินให้ผู้โดยสารไม่ทันเครื่อง delay ไปอีกครึ่งชั่วโมง
สุดท้ายเรามาถึงเซี่ยงไฮ้แล้วได้ไฟลท์บินกลับไทยตอน 18.00 น.ค่ะ ถึงไทย 22.00น.ทั้งๆที่ความจริงแล้วต้องถึงตั้งแต่ 02.00น. ตามกำหนดการเดิม
ปล. เราไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้มาก่อน การรับมือบางอย่างอาจจะผิดพลาดหรือโก๊ะๆกังๆ อย่าถือสาเราเลยนะคะ🙏🏼🙏🏼🙏🏼
กระทู้นี้เขียนขึ้นเพื่อแชร์ประสบการณ์ที่เจอมา และเป็นข้อมูลให้มือใหม่แบบเรา ว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ จะได้ไม่ตกใจและงงเป็นไก่ตาแตกแบบเรา
เพราะตอนที่ไม่รู้จะเอายังไงต่อเราก็ได้พันทิปนี่แหละค่ะเป็นแหล่งข้อมูล ต้องขอขอบคุณจขกท.ก่อนๆที่เขียนเรื่องพวกนี้ไว้ด้วยนะคะ
ขอขอบคุณเพื่อนๆผู้ร่วมทริปที่มีสติมาก ช่วยเหลือกันดีมาก ร่วมทุกข์ร่วมสุขจนกลับไทยมาได้
ขอบคุณเจ้าหน้าที่สนามบินที่ญี่ปุ่นที่ช่วยเรา รวมถึงคนญี่ปุ่นและคุณป้าชาวฮ่องกงผู้ใจดี💓💓💓