รีวิวเรื่องที่15/100


เราอาจจะคุ้นเคยกับBen Stiller ในฐานะของนักแสดงcomedyมากความสามารถ แต่หารู้ไม่ครับว่าเขามีความสามารถในการกำกับหนังอีกด้วยครับ ซึ่งเรื่องที่Ben Stillerกำกับเองและแสดงนำเองก็อย่างเช่นเรื่อง Zoolanderหนังปัญญาอ่อนเกี่ยวกับสายลับแห่งวงการแฟชั่นและTropic Thunder หนังAction Comedy ที่เต็มไปด้วยดาราเจ้าบทบาทอย่างRobert Downey Jr.และJack Blackที่รับประกันความสนุกได้เป็นอย่างดี จากผลงานที่ผ่านๆมาในฐานะผู้กำกับซึ่งส่วนมากจะออกไปทางComedy ทำให้ครั้งแรกที่ผมเห็นตัวอย่างหนังเรื่องThe Secret Life of Walter Mitty ค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยเพราะภาพรวมของหนังและตัวละครนำที่Stillerแสดงด้วยตนเองกลับไม่ได้มีความComedyให้เห็นเหมือนในหนังเรื่องก่อนๆที่พี่แกกำกับและแสดงเอง ในตัวอย่างเราจะเห็นความFantasyในโลกจินตนาการของตัวละครบวกความเป็นหนังAdventureอย่างชัดเจน ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้เลยทำให้ผมอยากดูหนังตั้งแต่Trailerแรกที่ปล่อยออกมาครับ อีกทั้งยังอยากรู้ว่าBen Stillerจะสามารถทำหนังเรื่องนี้ได้ออกมาน่าสนใจมากน้อยแค่ไหนและด้วยตัวอย่างที่ไม่ได้บอกเนื้อหาอย่างชัดเจนมากนักเลยอยากรู้ด้วยว่าเนื้อเรื่องจะเป็นเช่นไร


The Secret Life of Walter Mitty เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนายWalter Mitty พนักงานที่ทำงานให้กับนิตยสารLife แผนกnegative assets ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งที่รับหน้าที่ในการทำรูปภาพให้ออกมาให้ได้คุณภาพ Walter Mittyผู้ทำงานให้กับนิตยสารLifeซึ่งว่าด้วยเรื่องราวมุมมองและการใช้ชีวิต แต่Walterกลับมีชีวิตที่จำเจน่าเบื่อหน่ายไปวันๆโดยที่ไม่ได้รู้จักการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง จนบางครั้งเขาได้สร้างการผจญภัยในจินตนาการขึ้นมาเพื่อเติมสีสันให้กับชีวิตที่จำเจของตนเอง วันหนึ่งทางบริษัทนิตยสารLifeได้ทำการเปลี่ยนแปลงรูปแบบบริษัทโดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากนิตยสารกลายเป็นDigital Media ส่งผลให้ต้องมีการลดพนักงานที่ไม่จำเป็น ขณะเดียวกันปกของนิตยสารLifeเล่มสุดท้ายที่จะออกจำหน่ายนี้ยังได้รูปถ่ายจากSean O'Connell ช่างภาพชื่อดังระดับโลกอีกด้วย แต่ฟิลม์ที่Walter ได้รับมาทางไปรษณีย์จากO’Connell กลับปราศจากรูปที่จะต้องนำมาขึ้นปก เพราะฉะนั้นWalterจะต้องออกเดินทางเพื่อตามหาSean O'Connellเพื่อที่จะถามหารูปถ่ายที่ขาดหายไป(เนื่องจากO’Connell ไม่มีมือถือส่วนตัวหรือช่องทางติดต่อทางไหนเลย) ทำให้การผจญภัยและภารกิจของเขาได้เริ่มต้นขึ้น

รีวิวตัวละคร
Walter Mitty(Ben Stiller)แสดงออกมาได้ดีครับตามมาตรฐานนักแสดงระดับ Hollywood เรื่องนี้คุณจะไม่ได้เห็นความเพี้ยนความฮาแต่ที่คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนคือความเป็นมนุษย์ในตัวละครตัวนี้ครับ และความที่ Walter เป็นตัวละครที่มีโลกส่วนตัวสูงแต่ต้องการที่จะเข้าหาผู้อื่น(ในเรื่องเขาชอบหญิงคนหนึ่งในออฟฟิตครับ) ทำให้เป็นตัวละครที่มีความขัดแย้งในตัวเองในระดับหนึ่ง แต่Stillerก็ทำออกมาได้ดีครับ ทำให้เราลืมภาพนักแสดงตลกของเขาไปเลย

Cheryl Melhoff (Kristen Wiig) รับบทเป็นแม่ลูกติดเพื่อนร่วมงานในออฟฟิตของWalterครับ ซึ่งWalterให้ความสนใจและพยายามจะรู้จักเธอมากขึ้น แม้บทจะไม่มีอะไรแปลกใหม่และโดดเด่นมากนักสำหรับKristen Wiig แต่ลึกๆผมกลับชอบเคมีระหว่างKristen Wiig และBen Stillerนะครับ ได้แต่แอบลุ้นให้มีหนังromantic Comedyร่วมกัน

Sean O'Connell(Sean Pean) เป็นบทที่น้อยมาก(เพราะโผล่ออกมาแค่ท้ายเรื่อง)แต่ทรงอิทธิพลต่อเนื้อเรื่องอย่างมหาศาลครับเพราะเป็นเหตุผลให้ตัวเอกออกเดินทาง ต้องยอมรับว่าพี่Sean ออกมาน้อยแต่โคตรเท่ครับเป็นบทที่เท่ที่สุดของพี่แกเลยสำหรับผม

เป็นหนังอีกเรื่องครับที่มีลักษณะเทคนิคการตัดต่อในช่วงรอยต่อของแต่ละซีนแต่ละฉากที่น่าสนใจมาก อีกทั้งยังมีเพลงประกอบที่โดดเด่นและเลื่อนใหลเป็นหนึ่งเดียวกับการดำเนินเรื่องของหนังได้อย่างลงตัว หลังจากดูจบผมรู้สึกว่าในฐานะของผู้กำกับBen Stiller สามารถก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่งคือได้ทำหนังที่มีความลึกซึ้งมากขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ทำแต่หนังเน้นฮา และอีกทั้งยังทำหนังที่เน้นเทคนิคการตัดต่อภาพและเสียงเป็นจุดขาย ซึ่งต้องขอตบมือดังให้Ben Stiller จริงๆครับเพราะหนังเรื่องนี้ให้ได้ทั้งความบันเทิง ข้อคิด และความงดงามเชิงศิลป์ ซึ่งทุกอย่างรวมหลอมกันได้เป็นอย่างดี คุณจะได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากการเดินทางของWalter Mittyอย่างแน่นอนครับและผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้คนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานได้เงยหัวขึ้นมาเพื่อถามตัวเองว่าชีวิตคู่ควรแก่การลองออกไปค้นหาความหมายหรือไม่ครับ





บทภาพยนต์: 7.5/10
ความสนุก: 8/10
การตัดต่อภาพและเสียง:9/10