หนังปี 2013 หรือ 10 ปีก่อน แต่ดูเมื่อใด ก็ได้รับความสุข สนุก และ แง่มุมที่ดีเสมอ ดูหลายรอบ ( นานๆ ครั้ง ) ก็จะเห็นอะไรมากขึ้นจากหนังเรื่องนี้
การดูหนัง คงเพื่อความพักผ่อนหย่อนใจ เป็นอันดับแรก แต่ถ้าคุณได้แง่มุมชีวีต ไปด้วย ไม่ว่าจะมากน้อย มันก็ทำให้ภาพยนตร์ มีอะไรมากกว่าแค่ ดูเพื่อฆ่าเวลาสนุกๆ
วอลเตอร์ มีตตี้ เป็นเรื่องของ วอลเตอร์ พนักงานแม็กกาซีน ไลฟ์ ( ผมคง สปอยล์ บางส่วนนะครับ ) ซึ่ง มีชีวีตที่ดูจะน่าเบื่อ และมักจะแอบนึกเสมอว่า ตนเองนั้นเป็นคนสำคัญ ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง ที่เท่ห์ มีคนสนใจ และเป็นที่ดึงดูด ซึ่ง เขามักจะเผลอทำที่เรียกกันว่า เหม่อ หลุดโลกไปเอง กับเรื่องที่เขาหวังในใจ แต่ไม่เคยทำ จนกระทั่ง เขาหลงรักสาวคนนึง นางเอก เชอรีล ที่ทำงานที่เดียวกัน ในช่วงที่ ที่ทำงานของเขากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง
ก่อนจะไปส่วนอื่น ผมอยากจะบอกเลยว่า ในบรรดาหนังที่มี CG หลายๆเรื่อง วอลเตอร์ มีตตี้ เป็นหนังที่ ใส่ CG ได้สร้างสรรค์ และเนียนตา ดูลื่นไหล และมีความสุขมากสุดๆเรื่องนึง แต่การดูหนังเรื่องนี้ อาจต้อง ตามทันความเพ้อฝันของพระเอก ให้ทันหน่อยนึง เพราะ หนังมักจะใส่ฉากความฝันกลางวัน เข้ามาแบบไม่ให้คนดูตั้งตัว แต่มาเฉลยต่อมาว่า ออ พระเอกนึกไปเองอีกแล้ว ซึ่ง มีหลายครั้ง แต่ก็คงไม่ทำให้ งง อะไรมากมาย น่าจะเข้าใจกันได้
แกนหลักของหนัง คือ กระตุ้น คน ถึงว่า ชีวีตคนเรานั้น ควรจะอยู่กันอย่างไร ใช้กันอย่างไร จะอยู่กันอย่าง น่าเบื่อ ไปวันๆ หรือ ทำตามที่วันเวลาอันน้อยและไม่ยืนยาวของคนเรา ควรจะทำ แต่บางครั้ง การมีความกล้า จะใช้ชีวีตตามความต้องการ หรือใจเรานั้น อาจต้องมี ตัวกระตุ้น หรือ แรงบันดาลใจ ซึ่งสำหรับในหนัง วอลเตอร์ ได้จาก นางเอกของเรื่อง เชอรีล ซึ่ง เป็นตัวละครที่ ธรรมดา มากๆ
เชอรีล เป็นสาวธรรมดา หน้าที่การงาน ธรรมดา แต่งตัวเป็นสาวออฟฟีศทั่วไป ซึ่ง หากได้ดูหนังแล้ว คุณจะเห็นเสน่ห์ของสาวธรรมดาว่า มีอย่างพอเหมาะ พอดีแค่ไหน หนังสร่าง สตอรี่บอร์ด ของ เชอรีล ได้สวยงาม เป็นสาวที่พระเอกหลงรักได้ แบบ ธรรมดาๆ แต่มีเสน่ห์ตามสไตล์ อีกส่วนนึงที่ ผมชอบคือ หนังฝรั่ง เขาสร้างนางเอก ในเรื่องนี้มาแบบ เธอเป็นคนไม่เยอะ แต่ก็ช่างเลือกในการคบคนอยู่ มีเหตุผล มีส่วนที่เธอจะค่อยๆ ทำความรู้จักพระเอก รวมถึง การที่เธอไม่ใช่สาวโสด คือ หม้ายลูก 1 แถมหน้าที่การงานไม่ดี ไม่ได้ทำให้เธอลดค่าตัวเอง แต่ยังคงคุณค่าไว้ ซึ่ง ฝรั่งทำตัวละครนี้ออกมาได้ พอเหมาะพอดี

ประโยคนึงที่คนเคยดูหนังเรื่องนี้ ชอบกันมาก คือ สี่งสวยงาม ไม่ต้องการเรียกร้องความสนใจ ฟังแล้ว แว่บแรกอาจนึกถึง คนสวย คนหล่อ คนเก่ง คนมีประโยชน์ แต่เท่าที่ผมดู หนังสื่อตรงถึง คนดี และ มีแต่คนดีด้วยกันเท่านั้น ในบางครั้ง ที่จะเห็นความดีของคนด้วยกัน เช่นในหนัง ตัวละครอีกตัวที่สำคัญคือ ฌอน เพนน์ ตากล้องของ แม็กกาซีน ซึ่ง อาร์ท มาก ทั้ง สไตล์การใช้ชีวีต และ มุขที่เขาเล่นกับพระเอก ดูแล้ว มีคนประเภทนี้อยู่ในโลกเรานี่แหล่ะ และ พวกนี้จะไม่ใช่พวก ตามกระแสอะไรเลย เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ ถ้าไม่เจ๋ง คงทำตัวแบบเขาลำบาก ต้องคนเก่ง ถึงจะกล้าทำ และ เขาคือคนที่มองเห็นความดี ของ วอลเตอร์ คนที่ภายนอก ไม่มีอะไรน่าสนใจ

แก่นสารของชีวีต เป็นหนึ่งใน คำที่อยุ่ในภาพยนต์ มันคืออะไร ? ผมดูแล้ว แก่นสารของคนเรา ในชั่วอายุของคน 1 คน ไม่ว่าจะอยู่จนอายุเท่าไหร่ เมื่อถึงจุดที่เป็นผุ้ใหญ่ แก่นสารของชีวีต แต่ละคนอาจแตกต่างตีความกันไป แต่จากภาพยนตร์ สื่อภาพรวมถึง ความดี ความฝัน ความกล้า และ ไมตรี ต่อเพื่อน และ ครอบครัว ที่สนับสนุน เพราะในหนัง อย่างที่บอก พระเอกเรา ดูภายนอก ก็ไม่น่าสนใจอะไร แต่ คนรอบตัวรักเขา เพราะความดี ความสามารถ สำนึกในหน้าที่ ทั้งการทำงาน และ การดูแลครอบครัว คือ แม่ และ น้องสาว ชีวีตคนเรา ถ้าว่ากันถึง แก่นสาร ผมว่าแค่นี้ก็ใครมีครบก็ถือว่า มีบุญแล้ว เพราะในหนัง พระเอกของเรา ได้คนรอบตัวช่วยเหลือ แม้ว่า จะเหมือนหลงทางไปไกลก็ตาม สุดท้าย ก็กลับมาได้ เพราะคนรอบตัว ที่ดีนั่นเอง
หนังเป็น แฟนตาซี ตลก ที่มีปรัชญาดีๆ แฝง ทำให้ดูแล้ว ขำ และ สุขใจ ตลอดเรื่อง ความยาวหนัง 1.54 ชั่วโมง กำลังดี ดูจบมีแต่ความฟูใจว่างั้น
หนังยังถ่ายทำในสถานที่สวยงาม ชนบท ซึ่งในเรื่องหมายถึง กรีนแลนด์ แต่ผมไม่ทราบว่า location แท้ๆ คือที่ไหน ฉากที่ Greenland ก็มีทั้งขำ ทั้งประทับใจ กับ เรื่องตลกๆ ของคนขับ เฮลีค็อปเตอร์ ที่ไม่น่าไปด้วยเลย กับ ที่พระเอกมีภาพแรงบันดาลใจจากนางเอก ให้กล้า มุ่งหน้าสู่อันตราย บอกตรงๆว่ามุขนี้ไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหน รวมถึง เพลง Major Tom ก็ ความหมายดีมากๆ ในการที่กระตุ้นคนให้ มีความกล้า ทำเรื่องที่ไม่เคยทำ ( ในหนังก็เรื่องนึงเวอร์ๆหน่อย เพื่อความสนุกกับความกล้า และ ฮาที่ กรีนแลนด์ )
พระเอก มีนางเอก เป็นแรงบันดาลใจ ผมว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจได้ ไม่มากก็น้อย กับคนที่ยังรีรอ อยากทำโน่น นี่ แต่ยังไม่เคยได้ทำเลย ให้กล้า ลงมือทำ ผมเชื่อนะว่า การอยู่เฉยๆ แบบไม่มีจุดหมาย คือชีวีตที่แย่สุดๆแล้ว แต่ถ้าอยู่เฉยๆ แบบมีจุดหมาย ก็ควรมีกรอบเวลา เพราะไม่มีใครอยู่เฉยๆ แล้ว จะดีกว่า การออกไปทำอะไรสักอย่าง ( ที่มันดีๆ และ ปลอดภัยนะ ) ชีวีตอาจต้องเสี่ยงกันบ้าง แต่ก็ High Risk High Return มากน้อยแล้วแต่คนนะครับ
หนทางชีวีตคนเรา แม้จะไม่ยั่งยืน แต่ก็ยาวไกล และ คุณเท่านั้นที่จะเลือกหนทางของตนเอง อาจต้องการกำลังใจบ้าง ในบางครา แต่อย่าให้ วันเวลาผ่านไป อย่างไร้ค่า ตราบที่ร่างกายคุณยังไหว ก็เหลือแค่ ใจของคุณเท่านั้น จะเลือกไปทางใด ล้มเหลวบ้าง สำเร็จบ้าง นั่นคือเรื่องธรรดา
จบแล้วครับ ดูหนังให้สนุก มีความสุขกับชีวีตครับ
Secret Life of Walter Mitty ความงามของชีวีต ( แนะนำให้หามาดู )