ญาติพ่อมาขอที่บ้านด้วยถาวร หรือ ขออยู่ที่ดิน และยืมเงินปลูกบ้าน ให้เราดูแลในอนาคต

ขอความเห็นทั้งทางธรรมมะ และ ทางโลก ชีวิตจริงว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร กวนใจมาก ๆ

นี่เป็นเรื่องของครอบครัวเรา ที่มีปัญหาต่อเนื่องมาตลอด เริ่มตั้งแต่ครอบครัวทางฝั่งพ่อเรา มีญาติพี่น้องหลายคน คนอีสาน
มีพี่น้องเยอะมาก 13 คน และญาติเป็นหมู่บ้านได้  ทางที่บ้านต่างจังหวัด จะลำบากในการกินอยู่กว่าปกติ พ่อเรามีน้องชายที่สนิทกันมาก อายุ ต่างกัน 2 ปี เหมือนเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็ก พ่อเราเป็นเด็กวัดมาก่อน เนื่องจากชีวิตเหมือนนิยาย โดนเมียใหม่พ่อไล่ออกจากบ้านมาอยู่วัดกับน้องชาย และมาเรียนกรุงเทพฯ รับจ้างทำงาน วาดรูป วาดเขียน

**** มีความผูกผักกับน้องชายมากเพราะสลับกันส่งเรียนหนังสือ สมัยเด็กๆ  *** จบจบปริญญาตรี แต่น้องชายเรียนแค่ ปวส. และทำงาน
แต่ตอนโต ต่างคนต่างมีครอบครัวเเยกย้าย ไปตามการทำงานของแต่ละคน แต่ละครอบครัวมีลูกคนเดียวหมดเลย
แต่ก่อนเราอยู่บ้านรวมกัน 3 ครอบครัว มีพี่ชาย พ่อ น้องชาย  มีปัญหาทะเลาะกัน เรื่องการกินอยู่ ค่าน้ำไฟต่างๆ อยู่บ้านหลังนั้นตั้งแต่เรียนหนังสือจบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เรียนปี 3  เลยตัดสินใจย้ายออกจากบ้านหลังที่อยุ่รวมกัน...

ครอบครัวเรา ตัดสินใจซื้อบ้านกันใหม่ และย้ายออกมาช่วงเราเรียนมหาลัย..


พี่ชายพ่อรวยมาก มีกิจการส่วนตัว
พ่อเรากำลังตั้งตัวได้ ทำกิจการส่วนตัว
น้องชายทำงานประจำและย้ายไปอยู่ภาคใต้ กับครอบครัว


ผ่านมาตลอดเวลา พ่อเรามีญาติ มาหยิบยืมเงินตลอด ทุกเดือน ญาติตจว  พ่อเราให้ทุกคน นิดน่อย หนึ่งหมื่อน ห้าพัน สองหมื่อน
ขนาดเพื่อนสนิทสมัยเรียนเพาะช่าง ก็มาขอยืมเงิน  (พ่อบอกว่า ตอนเด็กจนมากถ้าไม่มีเพื่อนพวกนี้เลี้ยงข้าวคงไม่มีทุกวันนี้)  ก็ให้ยืมอีกตามเคย
ตลอดเวลา พ่อเราจะคิดถึงน้องชายเสมอ คอยโทรหา โทรทีไรก็มีเรื่องราว มาหยิบยืมเงินตลอดเวลา...
น้องชายพ่อมีลูกชาย 1 คนค่อนข้างเกเร และเรียนที่ รร. เเห่งหนึ่งย่าน มาบุญครอง มีเรื่องเข้าคุก ตี ฟัน แทงตลอด จนตาย



ผ่านมาช่วงเราเริ่มทำงาน น้องชายพ่อ ชอบโทรมาขอยืมเงิน  (อันนี้คร่าวๆ เท่าที่เราได้ยินและรับรู้เเอบฟังโทรศัพท์)
เนื่องจากเราช่วยพ่อทำงานที่บ้าน ดูเรื่องเงิน และจัดการทุกอย่าง รวมกับทำงานประจำด้วย พ่อจะฟังที่เราพูดหรือ ปรึกษาเราตลอด
ครั้งที่ 1 ขอเงินไปทำธุรกิจ สองสามหมื่น ไม่ได้คืน
ครั้งที่ 2 ขอยืมรักษาตัวลูกชาย เป็นโรคซึมเศร้าเนื่องจาก เคยมีอาการใช้ยาเสพติด ไม่ปกติ
ครั้งที่ 3 ขอยืมไปจัดงานศพ (ลูกชายฆ่าตัวตาย)  อันนี้พ่อทำบุญให้ไปไม่ขอคืน
ครั้งที่ 4 ขอยืมไปปลดหนี้บัตร 100,000 บาท อ้างว่ามาจากการรักษาตัวลูกชายและ จัดงานศพใช้ไม่พอไปกดเพิ่ม
           (อันนี้เราคุยเองเเทนพ่อให้ยืม แต่เราบอกว่าต้องจ่ายคืนผ่อนเดือนละ  5000 บาท - 10000 ซึ่งคืนมาครบแล้ว)


ครั้งล่าสุด งานที่เค้าทำประจำที่ภาคใต้กิจการเจ๋ง บ้านที่อาศัยอยู่ เป็นบ้านของคนที่โดนจับคดี ยาเสพติด แล้ว เค้าฝากเลี้ยงลูกให้ ที่บ้าน เนื่องจากเมียเจ้าของบ้านเป็นชาวต่างชาติ และไม่ได้โดนจับไปด้วย เลยต้องจ้างคนไทยมาคอยดูแลลูกที่บ้าน ตัวเจ้าของบ้านผู้ชายกำลังจะออกจากคุกมา พร้อมขอคืนบ้าน เค้าเลยต้องมาเดือดร้อนพ่อเราอีกครั้ง !!!

ครั้งนี้เค้ามาหาพ่อเรา พร้อมกับ การขอยืมเงินอีก (แต่ไม่รู้เท่าไหร่ ) แต่ที่พีคที่สุดคือ เราเป็นลูกสาวคนเดียวที่บ้าน
กำลังจะเเต่งงานอีกไม่เกิน 2 ปี เค้าพูดกับพ่อเราตอนกินข้าวที่บ้าน แม่เราอยู่ด้วย (ตัวเราไม่อยู่)
ว่าจะขอมาอาศัยอยู่ที่บ้านนี้ด้วย 2 คนผัวเมีย หลังจากเราแต่งงานออกไป เพราะตัวเค้าเองไม่มีลูกแล้วลูกตาย และเราก็แต่งออก
และห้องที่บ้านก็ว่าง จะได้อยุ่เป็นเพื่อนกันตอนแก่    (ประโยคนี้แม่บอก) ได้ยินแล้วจี๊ดมากพูดตรงๆ เพราะแค่มีแพลนแต่ยังไม่ได้แต่ง

และพูดบอกแม่ว่าขอ พ่อแล้วว่า จะมาอยู่ที่กรุงเทพด้วย หรือ  ถ้าไม่งั้น ก็จะขอไปอยู่ที่ (โรงงาน จ.นนทุบรี) ตอนแก่ เพราะว่าไม่มีใคร จะได้อยู่ใก้ลๆ พ่อ
พ่อเราเลยจะสร้างบ้าน บนที่เปล่า ข้างๆ โรงงานให้เค้าอยู่ ในอนาคต บอกพ่อไม่ต้องขายโรงงานและขายที่ ให้ปลูกบ้านอยู่ด้วยกันตอนแก่ 4 คน

---เวลาเค้าอยู่กับพ่อชอบชวนกินเหล้า ชอบยุเเยง ให้ทะเลาะกับแม่เราไม่ชอบเลยบอกตรงๆไม่ชอบ--- ตอนเป็นเด็กเราเห็นและตอนนี้โตพอจะรู้ประสา
เราเกียดคนประจบตอแหหหห ดูก็รู้ว่าเลีย ชัด เออดี นั่นดี นี่ ดี โคตรรำคาญเลย



ตัวเราเอง คิดว่าคงไมได้รับกิจการที่บ้านต่อ เนื่องจากพ่อมีหุ้นส่วน อีกคนที่โรงงาน และเราคิดว่าในอนาคตไม่เกิน 5 ปี
เราจะให้พ่อเลิกทำงาน แล้ว กิจการที่บ้านเป็นงานฝีมือที่ เราคิดว่า ยากที่จะไปต่อได้ และ เราไม่ชอบงานที่มีหุ้นส่วนชอบทำเองมากว่าเพราะไม่ชอบให้ใครมาบงการชีวิต หรือ ชีวิตขึ้นอยู่กับที่บ้านอย่างเดียว หุ้นส่วนพ่อบอกว่าจะทำอีกแค่ 5 ปีและอยากเลิก ขายที่แบ่งเงินให้หุ้นส่วนไปแยกธุรกิจจากกันด้วยดี  เพราะหุ้นส่วนอยากเลิก พ่อเราก็จะ 70 พอดี ถือว่า Happy

พอน้องชายพ่อเราขอมาอยู่ พ่อเราก็ตกปากรับคำไปแล้ว  กำลังจะย้ายมาอยู่ในอนาคตเร็วๆนี้ เนื่องจากตอนนี้เค้ามานอนที่บ้านเราได้ สองอาทิตย์
มาเพิ่ออะไรไม่รู้บอกว่ามาเยี่ยม แต่พ่อเราฝากให้โอนเงินให้เมียเค้าที่ต่างจังหวัด 8000 บาท / พ่อบอกว่า เงินน้องชาย แต่หลบสายตาเราไม่อยากเดาเบื่อ





เราคิดว่าเค้ามาดูลู่ทางอยู่อาศัย ที่นี่ เราไม่สบายใจ จะว่าเราเห็นแก่ตัวก็ได้ แต่เราอึดอัด รู้สึกลำบากใจ
เพราะการที่จะรับเลี้ยงคน มันไม่ได้จบแค่นี้ ในอนาคต ถ้าเค้าเกิดเจ็บป่วย หรือ ต้องไปหาหมอ ต้องมาวุ่นวายกับเราแน่ๆ เพราะขับรถกันไม่ได้ มีแต่พ่อเราที่ขับรถเป็น แม่เราไม่ค่อยถูกกับแฟนน้องชายพ่อ เนื่องจากเค้าชอบฟ้องแม่เราตั้งแต่สมัยเราเด็กๆ เราเห็นทุกอย่าง เราเลยไม่ค่อยอยากจะสนิทหรือมีบุญคุณในชีวิตเท่าไหร่  

1. คำถามทั้งหมดคือ เราจะทำยังไงดี ทุกคน เงินของพ่อไม่ใช่เงินเรา เราไม่สนใจ แต่เราไม่อยากรับเลี้ยงดูคนอื่นอีก 2 ชีวิต
เนื่องจากเราเป็นลูกคนเดียว เราเคยดูแลยาย และรู้ว่าเวลาแก่ไป ถ้ามีลูกต้องสลับกันพาไปหาหมอ คนเเก่ก็จะเป็นนั่นนี่ เยอะพอสมควร
ยายเราเลี้ยงได้ พ่อแม่ เราเลี้ยงได้ แต่ไม่สามารถจะดูแลน้องชายพ่อกับเมียในอนาคตได้ค่ะ  จะทำยังไงดี?


จะว่าเราคิดเกินไปก่อนกำหนดก็เห็นจะจริง เพราะเราเเอบมีเเพลนชีวิตให้พ่อเเม่เราเเล้ว  จริงๆอยุ่ที่บ้านตอนเกณียร ก็ไม่ได้เดือดร้อนเงินเท่าไหร่
แต่ตอนนี้พ่อจะไปสร้างบ้านบนที่เปล่าให้น้องชาย มีคำถาม

ขอปรึกษา ทางกฎหมาย 1 ข้อ
1. กรณีสร้างบ้านบนที่เปล่าโฉนดชื่อ พ่อ สมมุติถ้าน้องชายพ่อไปอยู่อาศัย ทำกิน เวลาพ่อเราตายไป เราจะทวงที่คืนได้หรือไม่ ถ้าพ่อไม่ได้ยกให้ใคร
2. ถ้าให้เค้าอยู่ที่นั่นจนเค้าตาย แล้ววันนึง เราจะทวงที่คืนได้หรือไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่