"อยู่กับสิ่งที่มี.. ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด"
เพิ่งเข้าใจความหมายของบทเพลงท่อนนี้ก็ตอนที่ได้มายืนอยู่ในจุดที่ทุกข์ใจที่สุด
จุดที่ชีวิตถูกห้อมล้อมด้วยปัญหารอบด้าน
ก่อนนอน ก็เผลอฮัมเพลงในท่อนนี้ขึ้นมาซะงั้น
เลยตกผลึกทางความคิดได้ว่า
เราแยกแยะให้ออกว่า เราทุกข์-เราไม่สบ่ายใจ-เรานอนไม่หลับ เพราะอะไร?
.
.
.
ปิ๊ง!! เราทุกข์ เพราะคาดหวัง หรือจะเรียกว่าฝันก็ได้นะ
คาดหวัง/ฝันอยากให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจริง
ฝันอยากมี-อยากได้-อยากเป็น
จนลืมไปเลยว่า ความจริงคืออะไร
.
.
.
ตื่น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ก่อนอื่น ต้องแยกให้ออกว่า
ตอนนี้ (1)เรามีอะไรอยู่บ้าง และ (2)ความฝันของเราคืออะไร
แต่ก็นั่นแหละ สิ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้ มันย่อมมีทั้งดีและไม่ดี ปะปนกันไป
จงอย่าลืมว่า จะดีหรือร้าย อยู่ที่เราเป็นคนเลือกค่ะ
เราขอโฟกัสแต่สิ่งดีๆที่เรามีตอนนี้นะ
ส่วนสิ่งที่ไม่ดี ก็แค่รับรู้ว่ามันมีอยู่
ปัญหาต่างๆก็เช่นกันค่ะ
ถ้าเรากำหนดให้มันเป็นปัญหา มันก็จะกลายเป็นปัญหาสำหรับเรา
แต่ถ้าเราเลือกมองให้มันเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ...มันก็จะกลายเป็นแค่โจทย์คณิตศาสตร์ข้อนึง
โอเค//
กลับมา "อยู่กับสิ่งที่มี" กันต่อค่ะ
เชื่อว่าทุกคนต้องมีครอบครัว/เพื่อน/คนรัก/คนรู้จัก ที่ต้องใช้ชีวิตหรือพบเจอกันทุกวันจนกลายเป็นความเคยชิน
เราเองก็เช่นกันค่ะ
*เรามีแม่ มีหลานที่เราเป็นคนตั้งชื่อให้เค้าเองแหละ เรามีครอบครัวที่เรารักเค้าและเค้าก็รักเรามากด้วย
ถึงจะไม่ได้อยู่กับพ่อแล้ว แต่เราก็ยังดูแล โทรถามไถ่ สาระทุกข์สุขท่านได้
เราอยู่กับครอบครัว **เรามีครอบครัวที่สามารถดูแลเค้าได้ทุกวัน
ถามหลานว่าเย็นนี้อยากทานอะไรคะ /ไปตลาดกันมั้ย /วันนี้เราหันมาดูแลสุขภาพกันหน่อยมั้ย
มาๆทำสุกกี้กินกัน น่าสนุกนะ / หนูอยากกินติมหรอ เดี๋ยวเสาร์นี้เราไปกินติมกันนะ
/วันนี้แม่ทำงานเหนื่อยมั้ย เดี๋ยวหนูนวดๆให้น๊าา / แม่ปวดหัวหรอ นอนพักก่อนนะ เดี๋ยวหนูรีดชุดทำงานให้เอง
นี่ๆ ทานข้าว ทานยาก่อนนะ
*เรามีไอ้ตูบสี่ขา ที่เราตั้งชื่อให้นางเองด้วย
สัตว์เลี้ยงที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเราตลอด มันไม่เคยหนีเราไปไหน (เพราะบ้านเรามีรั่ว)
เวลาเราป่วย นอนอยู่บ้านคนเดียว นางก็คอยเป็นยามรักาษความปลอดภัยให้ ป้องกันได้ทั้งโจรและงูเงี้ยวเขี้ยวขอ
ซึ่งเคยถูกนางสังหารมาแล้วก็มี
ที่สำคัยเราเองก็ว่างพอจะให้เวลากับมันในวันหยุด หรือแม้แต่ค่ำคืนที่ฟ้าโปร่งเราก็นุ่งนับดาวด้วยดัย (โรแมนติกไปอีก 5555)
เราเล่นกับนาง (ถึงแม้ว่างนางจะเล่นสมจริงไปนิด จนเราได้แผลกลับมาตลอดก็เหอะนะ)
ลูบหัวนางเพร้อมกับเรียกชื่อ เห็นนางทำตาปรือ กระดิกหางดุ๊กดิ๊กๆ ก็สบายใจดีนะ
ยิ่งไปกว่านั้นเหมือเราได้ซ้อมเลี้ยงลูกไปในตัว คือหน้าที่ให้อาหารทุกวัน วันละ 2 มื้อเช้า-เย็น
*เรามีคนรัก ที่ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกัน แต่ด็ยังดูแลหัวใจกันได้
เรายังไลน์หากัน โทรคุยกันทุกวัน วิดีโอคอลบ้างตามแต่สะดวก แบ่งเวลาส่วนตัวให้กันบ้าง วันหยุดก็เจอกันหน่อยก็ดี
*เรามีงานให้ทำถึงแม้จะเป็นงานที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ของความฝันเลยก็ตาม
แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่า ความสามารถเรายังไปได้ไกลกว่านี้ (ใช่! เราไม่ได้หลงตัวเองใช่มะ 5555)
อีกอย่าง ข้อคิดจากคนที่ทำงาน สอนให้เรารู้ว่า
ไม่มีที่ทำงานที่ไหนจะอยู่กันแบบครอบครัว เหมือนที่ฝ่ายบุคคลพ่ำบอกหรอก
มีแต่ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้าง กับลูกจ้าง... แค่นั่นเอง
เชื่อว่าประสบการณ์จะสอยคนทำงานให้เข้าใจเองค่ะ
แต่ที่แน่นอนไปกว่านั้นคือ
งานให้เรามีเงินเดือนค่ะ
กิน-มีใช้ทุกวัน ก็เพราเรามีงานทำ มีเงินเดือน
เลี้ยงปากท้องตัวเองและคนในบ้านได้ ไม่เป็นหนี้เป็นสิ้นใคร
เงินเดือนส่วนหนึ่งก็แบ่งทำประกันสังคมให้ตัวเอง/ให้แม่ ไว้เป็นทุนรักษายามเจ็บป่วย
หรือไม่ก็ สิทธิ์ 30.-
รพ.ของรัฐเราก็รักษาได้ค่ะ รักษา รพ.รัฐมาตั้งแต่เด็ก
(ง่ายๆคือ เสี้ยงตัวเองได้ พึ่งตัวเอง ไม่เดือดร้อนใคร)
*ที่สำคัญที่สุดคือ ร่างการที่แข็งแรง หายใจได้ด้วยจมูกตัวเองนะ ไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ ไม่ต้องใข้เครื่องช่วย
- หูก็ยังได้ยินหลานร้องเรียกทุกเช้า/เย็น ทั้งก่อนและหลังเลิกงาน ด้วยคำพูดที่ได้ยินจนชินหูว่า "ตั้งใจทำงานนะ ไปกินติมกันน๊าา)
แถมตอนเช้าๆก็ได้ฟังเพลงเพราะๆ ระหว่างแต่งตัวไปทำงาน-ได้ยินเสียงหมาเห่าคนแปลกหน้าที่กำลังมุ่งตรงมาที่บ้านเรา (อ๋อออ ไปรษีญีย์)
ได้ยินแม่ด่า พี่สาวบ่น-ได้ยินแฟนบอกคิดถึงอีก (ดีนะที่หูยังดีอยู่)
- มีตาดีทั้งซ้าย-ขวา ไว้มองหน้าแม่-มองหน้าหมาที่บ้าน-มองดูรถเวลาจะข้ามถนน
- ปากไว้พูดเรื่องดีๆ-ไว้โทรหาพ่อเวลาคิดถึง - ไว้โทรถามแม่ว่าดินข้าวรึยัง-มีปากมีเสียงไว้ใช้เวลาเจ้านายเปิดโอกาสให้แสดงความเห็น-ไว้ร้องเพลงเวลาอาบน้ำ แต่งตัว
และสำคัญที่สุดคือ เราภูมิใจที่เรามีสอง-เราคิดได้-เรามีจิตใจที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
... เหล่านี้คือ สิ่งที่เรามี
เราบอกตัวเองให้ #อยู่กับสิ่งที่มี
ขอบคุณทุกสิ่งที่เรามีในวันนี้
เราเป็นมิตรกับมัน มันก็จะเป็นมิตรกับเราเช่นกัน
กำลังใจของเราคือ สุขภาพที่ดีของตัวเอง และความอบอุ่นในครอบครัว
ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เรามีความฝัน และเชื่อว่าสักวัน เราต้องเปลี่ยนจากสิ่งที่ฝัน ให้เป็นสิ่งมี่เรามีให้ได้ค่ะ
คือ *** การมีหน้าที่การงานที่มั่นคงกว่าที่เป็นอยู่ *** (********* ก้าวร้อยดอก)
ไม่ใช่เพื่อเงินทอง หรือความร่ำรวย
แต่พี่ตัวเราเอง เพื่อชีวิตที่ดีของเรา เพื่อคนที่เรารัก และเพื่อครอบครัวของเราค่ะ
เราจะใช่หนึ่งสมอง สองมือ สองขาที่เรามีอยู่
เนรมิตรความฝัน ให้กลายเป็นความจริงให้ได้ค่ะ
"อยู่กับสิ่งที่มี.. ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด"
//ขอบคุณเพลงดีๆ
ขอบคุณทุกสิ่งที่เรามีในวันนี้
ขอบคุณพันทิป สำหรับพื้นที่ให้แชร์(ระบาย)ความรู้สึก
*** มาใช้ชีวิต * สร้างความฝัน * และเรียนรู้ไปด้วยกันนะคะ ***
Live and Learn.
"อยู่กับสิ่งที่มี.. ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด"
เพิ่งเข้าใจความหมายของบทเพลงท่อนนี้ก็ตอนที่ได้มายืนอยู่ในจุดที่ทุกข์ใจที่สุด
จุดที่ชีวิตถูกห้อมล้อมด้วยปัญหารอบด้าน
ก่อนนอน ก็เผลอฮัมเพลงในท่อนนี้ขึ้นมาซะงั้น
เลยตกผลึกทางความคิดได้ว่า
เราแยกแยะให้ออกว่า เราทุกข์-เราไม่สบ่ายใจ-เรานอนไม่หลับ เพราะอะไร?
.
.
.
ปิ๊ง!! เราทุกข์ เพราะคาดหวัง หรือจะเรียกว่าฝันก็ได้นะ
คาดหวัง/ฝันอยากให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจริง
ฝันอยากมี-อยากได้-อยากเป็น
จนลืมไปเลยว่า ความจริงคืออะไร
.
.
.
ตื่น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ก่อนอื่น ต้องแยกให้ออกว่า
ตอนนี้ (1)เรามีอะไรอยู่บ้าง และ (2)ความฝันของเราคืออะไร
แต่ก็นั่นแหละ สิ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้ มันย่อมมีทั้งดีและไม่ดี ปะปนกันไป
จงอย่าลืมว่า จะดีหรือร้าย อยู่ที่เราเป็นคนเลือกค่ะ
เราขอโฟกัสแต่สิ่งดีๆที่เรามีตอนนี้นะ
ส่วนสิ่งที่ไม่ดี ก็แค่รับรู้ว่ามันมีอยู่
ปัญหาต่างๆก็เช่นกันค่ะ
ถ้าเรากำหนดให้มันเป็นปัญหา มันก็จะกลายเป็นปัญหาสำหรับเรา
แต่ถ้าเราเลือกมองให้มันเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ...มันก็จะกลายเป็นแค่โจทย์คณิตศาสตร์ข้อนึง
โอเค//
กลับมา "อยู่กับสิ่งที่มี" กันต่อค่ะ
เชื่อว่าทุกคนต้องมีครอบครัว/เพื่อน/คนรัก/คนรู้จัก ที่ต้องใช้ชีวิตหรือพบเจอกันทุกวันจนกลายเป็นความเคยชิน
เราเองก็เช่นกันค่ะ
*เรามีแม่ มีหลานที่เราเป็นคนตั้งชื่อให้เค้าเองแหละ เรามีครอบครัวที่เรารักเค้าและเค้าก็รักเรามากด้วย
ถึงจะไม่ได้อยู่กับพ่อแล้ว แต่เราก็ยังดูแล โทรถามไถ่ สาระทุกข์สุขท่านได้
เราอยู่กับครอบครัว **เรามีครอบครัวที่สามารถดูแลเค้าได้ทุกวัน
ถามหลานว่าเย็นนี้อยากทานอะไรคะ /ไปตลาดกันมั้ย /วันนี้เราหันมาดูแลสุขภาพกันหน่อยมั้ย
มาๆทำสุกกี้กินกัน น่าสนุกนะ / หนูอยากกินติมหรอ เดี๋ยวเสาร์นี้เราไปกินติมกันนะ
/วันนี้แม่ทำงานเหนื่อยมั้ย เดี๋ยวหนูนวดๆให้น๊าา / แม่ปวดหัวหรอ นอนพักก่อนนะ เดี๋ยวหนูรีดชุดทำงานให้เอง
นี่ๆ ทานข้าว ทานยาก่อนนะ
*เรามีไอ้ตูบสี่ขา ที่เราตั้งชื่อให้นางเองด้วย
สัตว์เลี้ยงที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเราตลอด มันไม่เคยหนีเราไปไหน (เพราะบ้านเรามีรั่ว)
เวลาเราป่วย นอนอยู่บ้านคนเดียว นางก็คอยเป็นยามรักาษความปลอดภัยให้ ป้องกันได้ทั้งโจรและงูเงี้ยวเขี้ยวขอ
ซึ่งเคยถูกนางสังหารมาแล้วก็มี
ที่สำคัยเราเองก็ว่างพอจะให้เวลากับมันในวันหยุด หรือแม้แต่ค่ำคืนที่ฟ้าโปร่งเราก็นุ่งนับดาวด้วยดัย (โรแมนติกไปอีก 5555)
เราเล่นกับนาง (ถึงแม้ว่างนางจะเล่นสมจริงไปนิด จนเราได้แผลกลับมาตลอดก็เหอะนะ)
ลูบหัวนางเพร้อมกับเรียกชื่อ เห็นนางทำตาปรือ กระดิกหางดุ๊กดิ๊กๆ ก็สบายใจดีนะ
ยิ่งไปกว่านั้นเหมือเราได้ซ้อมเลี้ยงลูกไปในตัว คือหน้าที่ให้อาหารทุกวัน วันละ 2 มื้อเช้า-เย็น
*เรามีคนรัก ที่ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกัน แต่ด็ยังดูแลหัวใจกันได้
เรายังไลน์หากัน โทรคุยกันทุกวัน วิดีโอคอลบ้างตามแต่สะดวก แบ่งเวลาส่วนตัวให้กันบ้าง วันหยุดก็เจอกันหน่อยก็ดี
*เรามีงานให้ทำถึงแม้จะเป็นงานที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ของความฝันเลยก็ตาม
แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่า ความสามารถเรายังไปได้ไกลกว่านี้ (ใช่! เราไม่ได้หลงตัวเองใช่มะ 5555)
อีกอย่าง ข้อคิดจากคนที่ทำงาน สอนให้เรารู้ว่า
ไม่มีที่ทำงานที่ไหนจะอยู่กันแบบครอบครัว เหมือนที่ฝ่ายบุคคลพ่ำบอกหรอก
มีแต่ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้าง กับลูกจ้าง... แค่นั่นเอง
เชื่อว่าประสบการณ์จะสอยคนทำงานให้เข้าใจเองค่ะ
แต่ที่แน่นอนไปกว่านั้นคือ
งานให้เรามีเงินเดือนค่ะ
กิน-มีใช้ทุกวัน ก็เพราเรามีงานทำ มีเงินเดือน
เลี้ยงปากท้องตัวเองและคนในบ้านได้ ไม่เป็นหนี้เป็นสิ้นใคร
เงินเดือนส่วนหนึ่งก็แบ่งทำประกันสังคมให้ตัวเอง/ให้แม่ ไว้เป็นทุนรักษายามเจ็บป่วย
หรือไม่ก็ สิทธิ์ 30.-
รพ.ของรัฐเราก็รักษาได้ค่ะ รักษา รพ.รัฐมาตั้งแต่เด็ก
(ง่ายๆคือ เสี้ยงตัวเองได้ พึ่งตัวเอง ไม่เดือดร้อนใคร)
*ที่สำคัญที่สุดคือ ร่างการที่แข็งแรง หายใจได้ด้วยจมูกตัวเองนะ ไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ ไม่ต้องใข้เครื่องช่วย
- หูก็ยังได้ยินหลานร้องเรียกทุกเช้า/เย็น ทั้งก่อนและหลังเลิกงาน ด้วยคำพูดที่ได้ยินจนชินหูว่า "ตั้งใจทำงานนะ ไปกินติมกันน๊าา)
แถมตอนเช้าๆก็ได้ฟังเพลงเพราะๆ ระหว่างแต่งตัวไปทำงาน-ได้ยินเสียงหมาเห่าคนแปลกหน้าที่กำลังมุ่งตรงมาที่บ้านเรา (อ๋อออ ไปรษีญีย์)
ได้ยินแม่ด่า พี่สาวบ่น-ได้ยินแฟนบอกคิดถึงอีก (ดีนะที่หูยังดีอยู่)
- มีตาดีทั้งซ้าย-ขวา ไว้มองหน้าแม่-มองหน้าหมาที่บ้าน-มองดูรถเวลาจะข้ามถนน
- ปากไว้พูดเรื่องดีๆ-ไว้โทรหาพ่อเวลาคิดถึง - ไว้โทรถามแม่ว่าดินข้าวรึยัง-มีปากมีเสียงไว้ใช้เวลาเจ้านายเปิดโอกาสให้แสดงความเห็น-ไว้ร้องเพลงเวลาอาบน้ำ แต่งตัว
และสำคัญที่สุดคือ เราภูมิใจที่เรามีสอง-เราคิดได้-เรามีจิตใจที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
... เหล่านี้คือ สิ่งที่เรามี
เราบอกตัวเองให้ #อยู่กับสิ่งที่มี
ขอบคุณทุกสิ่งที่เรามีในวันนี้
เราเป็นมิตรกับมัน มันก็จะเป็นมิตรกับเราเช่นกัน
กำลังใจของเราคือ สุขภาพที่ดีของตัวเอง และความอบอุ่นในครอบครัว
ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เรามีความฝัน และเชื่อว่าสักวัน เราต้องเปลี่ยนจากสิ่งที่ฝัน ให้เป็นสิ่งมี่เรามีให้ได้ค่ะ
คือ *** การมีหน้าที่การงานที่มั่นคงกว่าที่เป็นอยู่ *** (********* ก้าวร้อยดอก)
ไม่ใช่เพื่อเงินทอง หรือความร่ำรวย
แต่พี่ตัวเราเอง เพื่อชีวิตที่ดีของเรา เพื่อคนที่เรารัก และเพื่อครอบครัวของเราค่ะ
เราจะใช่หนึ่งสมอง สองมือ สองขาที่เรามีอยู่
เนรมิตรความฝัน ให้กลายเป็นความจริงให้ได้ค่ะ
"อยู่กับสิ่งที่มี.. ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด"
//ขอบคุณเพลงดีๆ
ขอบคุณทุกสิ่งที่เรามีในวันนี้
ขอบคุณพันทิป สำหรับพื้นที่ให้แชร์(ระบาย)ความรู้สึก
*** มาใช้ชีวิต * สร้างความฝัน * และเรียนรู้ไปด้วยกันนะคะ ***
Live and Learn.