[CR] รีวิว " District 9 " (รีวิวหนัง100เรื่อง/100วัน)

รีวิวเรื่องที่13/100



หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้ผมได้รู้จักผู้กำกับสัญชาติแอฟริกาใต้อย่างNeill Blomkamp ด้วยความที่วันหนึ่งผมเลือกซื้อDVD District9 เพราะได้ยินคนพูดถึงหนังเรื่องนี้ว่าเป็นหนังเอเลี่ยนที่มีมุมมองแปลกใหม่อีกเรื่องหนึ่งอีกทั้งยังอำนวยการสร้างโดยPeter Jacksonแห่งLord of the Ring อีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผมได้มีโอกาสดูและได้ค้นพบหลายสิ่งที่น่าสนใจที่ผู้กำกับต้องการนำเสนอทั้งการเล่าเรื่องซึ่งเปรียบเอเลี่ยนต่างดาวพวกนี้เหมือนคนต่างด้าวคนชั้นแรงงานที่ไม่มีการศึกษาที่ลี้ภัยมาอยู่ที่โจฮันเนสเบิร์ก เมืองหลวงของแอฟริกาใต้ รัฐบาลได้สร้างเขตกักกันเอเลี่ยนต่างดาวพวกนี้ไว้ในมุมหนึ่งของเมือง(อยู่ไปอยู่มาดันมีลักษณะความเป็นอยู่คล้ายสลัมซะงั้น) ผมไม่ค่อยเห็นไอเดียแปลกๆอย่างนี้ในหนังเรื่องอื่นที่เปรียบมนุษย์ต่างดาวเป็นชาวต่างด้าวสักเท่าไหร่นัก อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือมุมมองของกล้องที่คล้ายการถ่ายทำรายการหรือสารคดีในช่วงแรกของหนังซึ่งทำให้เรารู้สึกได้ถึงความreal ของหนังโดยอัตโนมัติ ซึ่งผมชอบมากในการที่หนังเล่นมุมมองของกล้องแบบนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ในปี1982 เอเลี่ยนไร้สัญชาติกลุ่มใหญ่ได้ทำการอพยพลงจอดที่โจฮันเนสเบิร์ก เมืองหลวงของแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกเป็นอย่างมาก สุดท้ายภายใต้ความกดดันต่างๆรัฐบาลได้ตั้งDistrict 9 เขตลี้ภัยพิเศษเพื่อช่วยเหลือเอเลี่ยนเหล่านี้ หลายปีให้หลังเนื่องจากแอเลี่ยนเหล่านี้เป็นกลุ่มคนชั้นแรงงานเป็นส่วนใหญ่ทำให้District 9 กลายเป็นชุมชนสลัมไปโดยปริยายอีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องความสะอาด การควบคุมการขยายพันธุ์ประชากรเอเลี่ยน อีกทั้งปัญหาการค้าอาวุธเอเลี่ยนเถื่อนและปัญหาอื่นๆอีกมากมายที่ชุมชนแออัดหลายๆที่พอจะมีได้ วันหนึ่งWikus เจ้าหน้าที่ภาคสนามรับหน้าที่กระจายข่าวเรื่องการย้ายพื้นที่ลี้ภัย, ตรวจค้นบ้านเพื่อสำรวจความเป็นอยู่และจำนวนประชากร หลังการตรวจค้นบ้านของ Christopher Johnson และลูกชาย ได้มีการพบวัตถุเอเลี่ยนต้องสงสัย ซึ่งWikusดันเผลอโดนสารปนเปลื้อนโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากที่เขากลับบ้านเริ่มมีอาการอาเจียนและอาการผิดปกติกับแขนของเขา(ร่างการของWikusค่อยๆกลายพันธ์กลายเป็นเอเลี่ยนต่างดาวนั้นเอง) Wikus ต้องพยายามหาทางทำให้ตัวเองกลับมามีร่างกายเหมือนเดิมด้วยความช่วยเหลือของChristopher Johnson ผู้ซึ่งรู้ว่าสารที่เขาโดนโดยบังเอิญนั้นคืออะไร สุดท้ายชีวิตของWikus จะเป็นอย่างไรแนะนำให้ลองดูเอาเองครับ

มีหลายๆจุดที่ตัวหนังทำออกมาได้ดีมากครับทั้งProduction Designต่างๆไม่ว่าจะเป็น รูปร่างของเอเลี่ยนซึ่งออกแบบมาหน้าตาคล้ายกุ้งทำออกมาให้ดูไม่น่ากลัวจนเกินไปและยังมีลักษณ์ดวงตาที่สื่อสารอารมณ์ให้เราได้เห็น การออกแบบอาวุธต่างดาวก็ทำได้ดี และที่สุดคือการเนรมิต District 9 ให้มีหน้าตาเหมือนชุมชนแออัดซึ่งทำมาได้ดีมากครับ หนังพยายามใส่เรื่องปัญหาในแหล่งเสื่อมโทรมได้อย่างลงตัวทั้งเรื่องการค้าอาวุธ ผู้มีอิทธิพลในชุมชน ในหนังเราจะเห็นถึงการถูกเอารัดเอาเปรียบและการดูถูกของมนุษย์ที่มีต่อเอเลี่ยนซึ่งก็เหมือนการมองชาวต่างด้าวของคนเราครับ ที่มักมองว่าเขาไม่มีคุณค่าในสังคมสักเท่าไหร่ทั้งๆที่เขาก็มีหัวใจมีชีวิตเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าหนังมีเจตนาลึกๆต้องการสื่อถึงเรื่องการถูกกดขี่ด้านเชื้อชาติของประเทศแอฟริกาใต้นี้ด้วยหรือเปล่านะครับ เพราะอย่างที่รู้กันว่าแอฟริกาใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกันอีกทั้งผู้กำกับเป็นคนแอฟริกาใต้ด้วยซึ่งถ้าใช่ หนังเรื่องนี้จะถือว่าเป็นหนังเสียดสีสังคมเหมือนกัน

ฉากแอคชั่นทำออกมาได้ดีเหนือคาดมากครับอีกทั้งการที่หนังเป็นrate R ทำซีนที่มีการตายหลายๆซีนในเรื่องค่อนข้างrealมากเพราะคุณจะเห็นอวัยวะหลุดระเบิดออกจากร่างอย่างชัดเจนเลยทีเดียว คุณจะรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของอาวุธต่างดาวได้อย่างชัดเจนครับและความโหดร้ายที่มนุษย์นำเอเลี่ยนเหล่านี้มาทดลองก็ได้ถูกถ่ายทอดให้เห็นในเรื่องอยู่บ้างเหมือนกันครับแสดงให้เห็นถึงการตักตวงผลประโยชน์เพื่อเศรษฐกิจโดยไม่คำนึงถึงเรื่องหลักมนุษยชน

ผมค่อนข้างซูฮกNeill Blomkamp มากครับ ที่ทำหนังเรื่องนี้ออกมาค่อนข้างถึงแก่นเลยทีเดียวหลังจากหนังเรื่องนี้ เรื่องอื่นๆของเขากลับไม่สามารถหนีความเป็น District 9 ได้เลย ทำให้หนังเรื่องอื่นจึงมีกลิ่นไอเดิมๆ เช่น Elysiumและ Chappie จึงไม่มีอะไรใหม่เท่าที่ควรครับ

รีวิวตัวละคร
Wikus Van De Merwe (Sharlto Copley) นับว่าเป็นหนังเรื่องแรกที่ทำให้ผมสนใจความสามารถการแสดงของเขาครับ เพราะเขาแสดงเป็นตัวละครหลักในเรื่องอีกทั้งยังทำออกมาได้ดีมาก  หลังจากเรื่องนี้เราได้เห็นงานของเขามากขึ้นเรื่อยๆครับ นับว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงคุณภาพจากแอฟริกาใต้คนหนึ่งเลยทีเดียวครับ

ถ้าคุณต้องการหนังที่สามารถทำให้คุณตื่นเต้นและประสบการณ์ใหม่ๆละก็ District 9 สามารถให้คุณได้อย่างถึงอกถึงใจเลยครับผมรับประกัน เตือนไว้ก่อนว่าหนังเรื่องนี้เป็นrate R นะครับไม่เหมาะกับการเป็นหนังครอบครัว ตัวหนังไม่ใช่หนังน่ากลัวอะไรแต่มีหลายซีนที่โหดอยู่เอาการเหมือนกัน แนะนำให้ลองหาชมกันดูนะครับ



บทภาพยนต์: 7/10
ความสนุก: 8.5/10
การตัดต่อภาพและเสียง:8/10
ชื่อสินค้า:   District 9
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่