หนองเขียว
… เมืองที่ต้องอยู่ในลิสต์ ของเหล่า Backpackers ทุกคน
และนักเดินทางสาวไทยคนนี้


ภาพจาก ig ของนักเดินทางทุกคนที่ได้มาเยือนหนองเขียว จากวิวภูเขาสูง ที่เบี้องล่างเป็นเมืองเล็กๆ มีแม่น้ำไหลผ่าน สะพานเชื่อมให้ผู้คนสัญจรไปมาหาสู่ระหว่างกัน หมอกสีขาวคลอเคลียไปกับภูเขาน้อยใหญ่ เห็นแล้วช่างดึงดูดนักท่องเที่ยวขาลุยแบบเราให้ไปเยือนยิ่งนัก แล้วใครจะรู้ว่าวันนี้ การมาเที่ยวลาวครั้งแรกในชีวิต เราได้มาเหยียบเมืองในฝัน พิชิต View Point อย่างที่ต้องการแล้ว

นี่เป็นแผนที่เมืองหนองเขียวที่เราบังคับให้น้องสาววาดให้ แล้วเอามาทำต่อในคอมอีกเล็กน้อย เพื่อที่จะให้เห็นบรรยากาศโดยรวมของเมืองหนองเขียว ที่เราได้ไปประสบพบเจอมาด้วยตัวเอง หากข้อมูลหากผิดพลาดประการใด แนะนำติชมได้เลยนะคะ
ก่อนออกเดินทางก็ขออนุญาตฝากเพจกันเล็กน้อย ตอนนี้ยอดไลค์อยู่ประมาณ 1.7 ล้านน ?? ม้ายย 1.7 พัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันศุกร์ขึ้นเขา วันเสาร์ลงห้วย https://www.facebook.com/ThoughtitFriday/
ออกเดินทางสนามบินดอนเมืองไปกับสายการบินแอเอเชียร์บินตรงสู่หลวงพระบาง ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็มาถึงหลวงพระบางแล้ววว หลังจากเช็คเที่ยวรถไปหนองเขียวแล้ว เราต้องค้างคืนที่หลวงพระบางก่อน เพราะเราบินมาถึงที่นี่ก็ 4 โมงเย็น เที่ยวรถไปหนองเขียวมีแค่ 3 เที่ยวเท่านั้น คือ รอบ 9 โมง 11 โมง และรอบ บ่าย 2 โมง


เช้าวันเดินทางไปหนองเขียว เราตื่นเช้าตักบาตรข้าวเหนียว หามื้อเช้าทานแถวๆ ที่พัก เช็คเอ้าท์ตอน 8 โมง หลังจากสอบถามกับ หนุ่มชาวลาวพนักงานของ Pakhongthong Villa, Saynamkhan ที่มาต้อนรับเราเมื่อวาน เค้าบอกว่าถ้าพี่เรียกรถไปเองจะดีกว่า เพราะถ้าให้ที่นี่เรียกให้เค้าจะบวกเพิ่ม เช้านี้เราจึงต้องแบกกระเป๋าเพื่อหาตุ๊กตุ๊กเพื่อไปส่งเราที่ บขส.สายเหนือ
ได้รถไปส่งที่ บขส. แล้ว คิดเหมาราคา 50,000 กีบ สำหรับ 2 คน ในตอนนั้นไม่รู้ว่าถูกหรือแพง เพราะไม่รู้ว่า บขส.สายเหนือ อยู่ไกลขนาดไหน
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึง บขส.สายเหนือ ภาพที่เห็นคล้ายกับคิวในต่างจังหวัดบ้านเรา อาคารที่พักผู้โดยสารขนาดเล็ก ด้านหน้าเป็นจุดขายตั๋ว ฝั่งซ้ายและขวาเป็นรถที่จอดคอยเวลา รอผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังเมืองนั้นๆ มีทั้งรถตู้ รถบัสขนาดเล็ก หรือรถสองแถวที่คล้ายกับตุ๊กตุ๊กแต่มีขนาดใหญ่กว่า ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะมีแต่ชาวลาว มีชาวต่างชาติบ้างบางตา


ตั๋วรถไปหนองเขียว ราคา 40,000 กีบ คนลาวเค้าพูด สี่สิบพัน คนขายตั๋วบอกกับเราว่ารถที่ไปหนองเขียวมี 2 แบบ คือแบบรถตู้และรถตุ๊กตุ๊ก เลือกเลยจะไปแบบไหน ...เห็นจากสภาพรถตุ๊กตุ๊กแล้ว ไปรถตู้แน่นอล
ความประทับใจแรกที่ลาวคือเราสามารถพูดไทยได้เลย เค้าฟังเข้าใจ ส่วนเราก็ฟังเข้าใจบ้าง บางคำก็ต้องนึกนานหน่อย คำที่เจอก็อย่างเช่นคำว่า เครื่อง ประโยคที่ว่า เอาเครื่องมายัง ก็คือ เอาของมาหรือยัง คงความหมายประมาณ ข้าวของเครื่องใช้ ก็เป็นได้
หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยเราก็เตรียมขึ้นรถเลย รถตู้สีขาวขนาดเล็ก สภาพเก่า คนขับกำลังแพ็คของ กระเป๋าเดินทางขึ้นไว้บนหลังรถ ด้านในเป็นเบาะที่นั่ง 3 แถว นั่งได้แถวละ 3 คน แถวแรกมีคนลาวนั่งอยู่ก่อนแล้ว 2 คน แถวถัดมามีฝรั่งนั่งอยู่ด้านในติดหน้าต่าง ส่วนที่นั่งฝั่งประตู ก็มีของวางไว้ทำเครื่องหมายเป็นการจอง คงเหลือแถวสุดท้ายที่เรากับเพื่อนจะเข้าไปนั่งด้วยกันได้ ใกล้เวลารถออกมีฝรั่งอีก 3 คน ก็มาขึ้นรถคนเดียวกับเรา



9 โมงได้เวลารถออกจากท่า ระยะทางจากหลวงพระบางไปหนองเขียว ประมาณ 150 กิโล ใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการเดินทาง ถนนที่รถวิ่งเป็นถนนเล็กๆ สองเลน แค่รถพอวิ่งสวนกันกันได้ บางช่วงลาดยาง บางช่วงเป็นดินแดง ทางค่อนข้างขรุขระ ชาวลาวที่เดินทางเส้นนี้บ่อยๆ คงรู้กันดีว่าฝุ่นค่อนข้างเยอะ ทุกคนจึงพกหน้ากากกันฝุ่นติดตัวมา ส่วนนักเดินทางมือใหม่แบบเราใช้มือปิดกันไป
รถวิ่งมาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็แวะจอดเข้าไปในร้านข้างทาง อารมณ์ประมาณเหมือนอู่ซ่อมรถ คนขับเปิดประตูให้ทุกคนออกจากรถ แล้วพูดว่า “แวะเข้าห้องน้ำก่อนก็ได้” แล้วหันไปพูดกับผู้ชายคนนึงว่า “ขับไปแล้วตรงนี้มันดังตลอดเลย” ได้ยินก็รู้เลยว่ารถเสียนี่เอง….

ใช้เวลาซ่อมไปอีก 1 ชั่วโมง เรามาถึงท่ารถปากมอง ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ จุดนี้ห่างจากตัวเมืองหนองเขียวประมาณ 2 กิโล ใครจะเดินไปหรือนั่งรถตุ๊กตุ๊กไปก็ได้ ค่าตุ๊กตุ๊ก 10,000 กีบ ไปส่งถึงหน้าที่พัก


จองที่ผ่าน Booking เข้าพักที่ Nam Ou River Lodge คืนละ 400 บาท เป็นห้องพัดลม เตียงเดี่ยว ด้านหลังเป็นระเบียงมองเห็นวิวแม่น้ำอู ห้องพักก็โอเคในระดับนึง ไม่มีทีวี ไม่มีที่ฉีดตรูด …..

เก็บข้าวของเครื่องเรียบร้อย เราก็เดินเท้าออกไปสำรวจเมืองกัน
[CR] เล่าเรื่อง 'ลาว’ หนองเขียว เมืองงอย กับการพิชิตหมอกในฝัน
หนองเขียว
… เมืองที่ต้องอยู่ในลิสต์ ของเหล่า Backpackers ทุกคน
และนักเดินทางสาวไทยคนนี้
ภาพจาก ig ของนักเดินทางทุกคนที่ได้มาเยือนหนองเขียว จากวิวภูเขาสูง ที่เบี้องล่างเป็นเมืองเล็กๆ มีแม่น้ำไหลผ่าน สะพานเชื่อมให้ผู้คนสัญจรไปมาหาสู่ระหว่างกัน หมอกสีขาวคลอเคลียไปกับภูเขาน้อยใหญ่ เห็นแล้วช่างดึงดูดนักท่องเที่ยวขาลุยแบบเราให้ไปเยือนยิ่งนัก แล้วใครจะรู้ว่าวันนี้ การมาเที่ยวลาวครั้งแรกในชีวิต เราได้มาเหยียบเมืองในฝัน พิชิต View Point อย่างที่ต้องการแล้ว
ก่อนออกเดินทางก็ขออนุญาตฝากเพจกันเล็กน้อย ตอนนี้ยอดไลค์อยู่ประมาณ 1.7 ล้านน ?? ม้ายย 1.7 พัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ออกเดินทางสนามบินดอนเมืองไปกับสายการบินแอเอเชียร์บินตรงสู่หลวงพระบาง ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็มาถึงหลวงพระบางแล้ววว หลังจากเช็คเที่ยวรถไปหนองเขียวแล้ว เราต้องค้างคืนที่หลวงพระบางก่อน เพราะเราบินมาถึงที่นี่ก็ 4 โมงเย็น เที่ยวรถไปหนองเขียวมีแค่ 3 เที่ยวเท่านั้น คือ รอบ 9 โมง 11 โมง และรอบ บ่าย 2 โมง
เช้าวันเดินทางไปหนองเขียว เราตื่นเช้าตักบาตรข้าวเหนียว หามื้อเช้าทานแถวๆ ที่พัก เช็คเอ้าท์ตอน 8 โมง หลังจากสอบถามกับ หนุ่มชาวลาวพนักงานของ Pakhongthong Villa, Saynamkhan ที่มาต้อนรับเราเมื่อวาน เค้าบอกว่าถ้าพี่เรียกรถไปเองจะดีกว่า เพราะถ้าให้ที่นี่เรียกให้เค้าจะบวกเพิ่ม เช้านี้เราจึงต้องแบกกระเป๋าเพื่อหาตุ๊กตุ๊กเพื่อไปส่งเราที่ บขส.สายเหนือ
ได้รถไปส่งที่ บขส. แล้ว คิดเหมาราคา 50,000 กีบ สำหรับ 2 คน ในตอนนั้นไม่รู้ว่าถูกหรือแพง เพราะไม่รู้ว่า บขส.สายเหนือ อยู่ไกลขนาดไหน
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึง บขส.สายเหนือ ภาพที่เห็นคล้ายกับคิวในต่างจังหวัดบ้านเรา อาคารที่พักผู้โดยสารขนาดเล็ก ด้านหน้าเป็นจุดขายตั๋ว ฝั่งซ้ายและขวาเป็นรถที่จอดคอยเวลา รอผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังเมืองนั้นๆ มีทั้งรถตู้ รถบัสขนาดเล็ก หรือรถสองแถวที่คล้ายกับตุ๊กตุ๊กแต่มีขนาดใหญ่กว่า ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะมีแต่ชาวลาว มีชาวต่างชาติบ้างบางตา
ตั๋วรถไปหนองเขียว ราคา 40,000 กีบ คนลาวเค้าพูด สี่สิบพัน คนขายตั๋วบอกกับเราว่ารถที่ไปหนองเขียวมี 2 แบบ คือแบบรถตู้และรถตุ๊กตุ๊ก เลือกเลยจะไปแบบไหน ...เห็นจากสภาพรถตุ๊กตุ๊กแล้ว ไปรถตู้แน่นอล
ความประทับใจแรกที่ลาวคือเราสามารถพูดไทยได้เลย เค้าฟังเข้าใจ ส่วนเราก็ฟังเข้าใจบ้าง บางคำก็ต้องนึกนานหน่อย คำที่เจอก็อย่างเช่นคำว่า เครื่อง ประโยคที่ว่า เอาเครื่องมายัง ก็คือ เอาของมาหรือยัง คงความหมายประมาณ ข้าวของเครื่องใช้ ก็เป็นได้
หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยเราก็เตรียมขึ้นรถเลย รถตู้สีขาวขนาดเล็ก สภาพเก่า คนขับกำลังแพ็คของ กระเป๋าเดินทางขึ้นไว้บนหลังรถ ด้านในเป็นเบาะที่นั่ง 3 แถว นั่งได้แถวละ 3 คน แถวแรกมีคนลาวนั่งอยู่ก่อนแล้ว 2 คน แถวถัดมามีฝรั่งนั่งอยู่ด้านในติดหน้าต่าง ส่วนที่นั่งฝั่งประตู ก็มีของวางไว้ทำเครื่องหมายเป็นการจอง คงเหลือแถวสุดท้ายที่เรากับเพื่อนจะเข้าไปนั่งด้วยกันได้ ใกล้เวลารถออกมีฝรั่งอีก 3 คน ก็มาขึ้นรถคนเดียวกับเรา
9 โมงได้เวลารถออกจากท่า ระยะทางจากหลวงพระบางไปหนองเขียว ประมาณ 150 กิโล ใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการเดินทาง ถนนที่รถวิ่งเป็นถนนเล็กๆ สองเลน แค่รถพอวิ่งสวนกันกันได้ บางช่วงลาดยาง บางช่วงเป็นดินแดง ทางค่อนข้างขรุขระ ชาวลาวที่เดินทางเส้นนี้บ่อยๆ คงรู้กันดีว่าฝุ่นค่อนข้างเยอะ ทุกคนจึงพกหน้ากากกันฝุ่นติดตัวมา ส่วนนักเดินทางมือใหม่แบบเราใช้มือปิดกันไป
รถวิ่งมาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็แวะจอดเข้าไปในร้านข้างทาง อารมณ์ประมาณเหมือนอู่ซ่อมรถ คนขับเปิดประตูให้ทุกคนออกจากรถ แล้วพูดว่า “แวะเข้าห้องน้ำก่อนก็ได้” แล้วหันไปพูดกับผู้ชายคนนึงว่า “ขับไปแล้วตรงนี้มันดังตลอดเลย” ได้ยินก็รู้เลยว่ารถเสียนี่เอง….
ใช้เวลาซ่อมไปอีก 1 ชั่วโมง เรามาถึงท่ารถปากมอง ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ จุดนี้ห่างจากตัวเมืองหนองเขียวประมาณ 2 กิโล ใครจะเดินไปหรือนั่งรถตุ๊กตุ๊กไปก็ได้ ค่าตุ๊กตุ๊ก 10,000 กีบ ไปส่งถึงหน้าที่พัก
จองที่ผ่าน Booking เข้าพักที่ Nam Ou River Lodge คืนละ 400 บาท เป็นห้องพัดลม เตียงเดี่ยว ด้านหลังเป็นระเบียงมองเห็นวิวแม่น้ำอู ห้องพักก็โอเคในระดับนึง ไม่มีทีวี ไม่มีที่ฉีดตรูด …..
เก็บข้าวของเครื่องเรียบร้อย เราก็เดินเท้าออกไปสำรวจเมืองกัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น