[CR] >มะหมูแบกเป้< Laos alone หลวงพระบาง-หนองเขียว ทางรถ เหนื่อยแต่คุ้ม^^

กระทู้รีวิว

ประเทศลาว หลวงพระบาง บันทึกนักเดินทาง Backpack

สวัสดีค่ะ เราชอบเดินทางเพราะเชื่อว่าการเดินทางจะทำให้เราโตขึ้นและเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ใครก็สอนให้เราไม่ได้....
ขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อเนตร ตอนนี้เรียนอยู่ที่เชียงใหม่
เนตรไปเจอข้อมูลเรื่องรถโดยสารระหว่างประเทศของบริษัทขนส่ง เป็นรถวิ่งตรงเชียงใหม่-หลวงพระบางมาสักพัก
เลยเกิดสนใจ อยากลองนั่งรถข้ามประเทศดู และยังไม่เคยไปประเทศลาวมาก่อน จึงเกิดทริปนี้ขึ้น
อีกทั้งเป็นทริปที่มีหลายความรู้สึก ทั้งตื่นเต้น กลัว ผิดหวัง สมหวัง ปลื้มใจ งอแง
เลยคิดว่าอยากมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางด้วยรถครั้งนี้ เผื่อเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆและคนที่สนใจค่ะ

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเนตร จะพยายามเขียนให้เข้าใจง่ายที่สุด และใช้รูปช่วยอธิบาย ผิดพลาดประการณ์ใด ขออภัยด้วยนะคะ ^^

แผนการเดินทาง (21-25 พฤษภาคม 2561)
วันที่ 1 เชียงใหม่-หลวงพระบาง  นอนบนรถ
วันที่ 2 หลวงพระบาง-หนองเขียว  นอนหนองเขียว
วันที่ 3 หนองเขียว-หลวงพระบาง  นอนหลวงพระบาง
วันที่ 4 หลวงพระบาง-บ่อแก้ว นอนบนรถ
วันที่ 5 บ่อแก้ว-เชียงของ-เชียงใหม่

--- การเดินทาง --- ส่วนใหญ่หมดเวลากับการนั่งรถค่ะ แหะๆ

รถเชียงใหม่-หลวงพระบาง
> ราคา 1,200 บาท
> จันทร์ พุธ ศุกร์ อาทิตย์  (จันทร์,พุธ เป็นรถไทยแบบนั่ง และ ศุกร์,อาทิตย์ เป็นรถลาวแบบนอน)
> รถออกเชียงใหม่ 9 โมงเช้า ถึงหลวงพระบางตี 5 ของอีกวัน
> รถไปจอดที่คิวสายใต้ (ท่ารถต่างประเทศ) (มีตุ๊กๆเข้าตัวเมือง 10,000 กีบ)
> การจอง ปกติสามารถไปซื้อตั๋วที่เคาร์เตอร์ของบริษัทขนส่ง อาเขตได้เลย ใช้ passport ในการซื้อตั๋ว

รถหลวงพระบาง-หนองเขียว
> ราคาขาไป 60,000 กีบ ขากลับ 90,000 กีบ (ขากลับเกสเฮาส์จองให้เลยโดยชาร์ตเพิ่มค่ะ)
> มีทุกวัน หลายเที่ยว ขาไปเนตรได้ขึ้นรถที่ไปถึงเดียนเบียนฟูของเวียดนาม รถออก 7 โมงเช้า ถึงหนองเขียว 10.30 น

* เนื่องจากขากลับ รถวิ่งตรงมาเชียงใหม่มีอีกทีวันศุกร์ แต่เนตรจำเป็นต้องกลับก่อน เลยตัดสินใจต่อรถเอาค่ะ
โดยนั่งรถ หลวงพระบาง-บ่อแก้ว (เมืองชายแดนลาว)
> ราคา 120,000 กีบ
> รถออกจากคิวสายเหนือ (ท่ารถในประเทศ) เวลา 5 โมงเย็น ถึงบ่อแก้วตีห้า
> ผิดพลาดตรงคิดว่าเป็นรถนั่ง สุดท้ายเป็นรถนอน ต้องนอนเตียงละ 2 คน และดันโดนนอนกับผู้ชาย

บ่อแก้ว-ด่านลาว
> ตุ๊กๆ 100 บาท (ประมาณ 3-4 กม)

ด่านลาว-ด่านไทย
> ห้ามเดิน ต้องนั่ง shuttle bus 25 บาท
> ผ่าน ตม ก็จะเจอรถจอดอยู่ รอคนประมาณ 10 คน รถออก

ด่านไทย-คิวรถกรีนบัสเชียงของ
> ตุ๊กๆ 60 บาท
> เนตรบังเอิญได้ขึ้นรถแท็กซี่ชาวบ้าน ที่พี่คนนึงติดต่อไว้ให้มารับ ราคา 50 บาท

เชียงของ-เชียงใหม่
> 259 บาท
> รถออก 10.30 น ถึงเชียงใหม่ 17.30 น

--- ที่พัก --- จองผ่าน agoda
หนองเขียว
> Vongmani guesthouse 458 บาท/คืน
> วิวดี เจ้าของน่ารัก
หลวงพระบาง
> Vanvisa guesthouse 200 บาท/คืน
> ความรู้สึกเหมือนพักบ้านญาติ เจ้าของน่ารัก ใกล้กับตลาดมืด

--- SIM ---
> ซิมราคา 10,000 กีบ (40 บาท)
> เติมเงินครั้งละ 10,000 กีบ สมัครแพคเกตเน็ต 1.5 GB ใช้ได้นาน 7 วัน

--- เงิน ---
> 100 บาท = 25,000-26,000 กีบ
> เงินลาวไม่มีเหรียญ มีแบงค์พันกีบ(1,000) สิบพันกีบ(10,000) ซาวพันกีบ(20,000) เป็นต้น
> วิธีคิดเงินกีบเป็นเงินไทย ตัด 0 ออก 3 ตัว และ x4 เช่น 10,000 กีบ = 10x4 = 40 บาท
> สามารถใช้เงินไทยได้ แต่เราจะขาดทุนนิดหน่อยค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันที่ 1 เชียงใหม่-หลวงพระบาง

รถจะออกไทยผ่านด่าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย

ข้ามแม่น้ำโขงและเข้าสู่ด่านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป ลาว

ด่านลาว - วันปกติไม่จ่ายค่าผ่าน วันเสาร์อาทิตย์จ่าย 40 บาท เขียนใบเข้าประเทศและเก็บอีกส่วนไว้ยื่นตอนขากลับ
วันที่เนตรไปเคาเตอร์แลกเงินปิด และไม่มีซิมลาวขายที่ด่าน จึงได้พี่คนลาวที่นั่งรถคันเดียวกันช่วยปล่อย wifi ให้บนรถ
ขอบคุณมากๆนะคะ แถมตอนมาถึงหลวงพระบางร้านขายซิมก็ยังไม่เปิดพี่เค้าเลยถอดซิมให้เนตร เนตรจึงขอให้เงินพี่เค้าแทน ซึ้งใจมากๆ

ภาพดวงอาทิตย์ตกของวันแรก มองออกไปออกรถ ทำให้ใจหวิวๆไม่เบาค่ะ

เริ่มเมื่อย เริ่มหิว ตอนนี้เริ่มอยากให้ถึงเร็วๆแล้วค่ะ อิอิ

ฝั่งลาวรถวิ่งเลนขวา ถนนก็จะแตกต่างกับฝั่งไทยพอสมควร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา การคมนาคมยังไม่ค่อยสะดวก

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันที่ 2 หลวงพระบาง-หนองเขียว

ถึงขนส่งหรือคิวรถสายใต้ของหลวงพระบางประมาณตี 5 ก็จะมีรถตุ๊กมารอรับเพื่อเข้าตัวเมืองหลวงพระบาง
แต่เนตรตั้งใจจะไปหนองเขียวก่อน ซึ่งสามารถซื้อตั๋วที่นี่ได้เลย เนตรจึงนั่งรอจนสว่าง และออกไปหาร้านแลกเงินด้านนอก

ที่นี่มีรถไปถึง คุนหมิง จีน และ เดียนเบียนฟู ฮานอย เวียดนามด้วยนะคะ

ด้านหน้าคิวรถมีตลาดเล็กๆ แต่ร้านแลกเงินยังไม่เปิด เนตรเลยต้องขอแลกเงินกับร้านค้าในคิวรถแทน

บางคนอาจจะยังไม่รู้จักหนองเขียว เนตรเองก็เพิ่งรู้จักไม่นานนี้เองค่ะ จากกระทู้นึงในพันทิป
ต้องขอขอบคุณมากๆค่ะ >> https://pantip.com/topic/36099577
ภาพหมอกหนาๆ บนหมู่บ้านเล็กๆ มียอดเข้าแทรกขึ้นมาจากทะเลหมอก

เนตรเห็นครั้งแรก ก็ตัดสินใจเลยว่าต้องไปที่นี่ให้ได้ ฮึบ!

รอจนเคาเตอร์ขายตั๋วเปิด ก็พุ่งเข้าไปจองตั๋วรถไปหนองเขียว เที่ยวแรกคือ 9.30 น (55,000 กีบ) แต่พี่เค้าบอกว่ามีรถตู้ออก 7 โมง (60,000 กีบ) ไปไหม? เนตรตอบตกลง วิ่งขึ้นรถทันที

ตอนออกจากคิวมีเนตรเป็นผู้โดยสารเพียงคนเดียว กับคนรถที่ไม่ฟังไทยไม่ออก พูดอังกฤษไม่ได้อีก 3 คน ตอนนั้นแอบกลัวๆ
แต่ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มีชาวบ้านโบกรถและขึ้นลงระหว่างทาง ค่อยโล่งใจขึ้นค่ะ

รถที่นั่งมา ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งค่ะ

สวัสดีบ้านหนองเขียว เมืองน้ำบาก แขวงหลวงพระบาง

แม่น้ำอู คือแม่น้ำสายหลักของที่นี่ และมีสะพานข้ามแม่น้ำที่บรรยากาศดีมาก

เข้าที่พัก เอาของเก็บ ออกไปเดินสำรวจหมู่บ้าน หาของกินกันค่ะ

ที่พัก Vongmani gueshouse หลังจากลงรถ เดินข้ามสะพานอีกประมาณ 200 เมตรก็จะมีทางลงขวามือค่ะ

ยายบอกว่าเป็นข้าวซอย แต่หน้าตาและรสชาติต่างกับข้าวซอยเชียงใหม่เลยนะคะ

บรรยากาศ ภูเขา ต้นไม้ แม่น้ำ สายหมอก ตอนเย็นมีฝนตกลงมา ยิ่งทำให้บรรยากาศดีไปอีกค่ะ
เหมาะแก่การอยู่นิ่งๆกับตัวเอง หรือหนังสือสักเล่มมากๆ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันที่ 3 หนองเขียว-หลวงพระบาง

วันนี้ตั้งใจจะเดินขึ้นเขา ไปจุดวิวผาแดง ดูทะเลหมอกตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนมา
ถามเจ้าของที่พักว่าอันตรายไหม ถ้าขึ้นไปคนเดียว เค้าก็บอกว่าไม่อันตราย แต่ก็ไม่แนะนำให้เดินขึ้นคนเดียว
เอายังดีไงละเนตร ???

มาถึงนี่แล้ว ก็อยากลองดู ออกจากที่พักตี 5 ครึ่ง สว่างมาก เดินไปที่ทางขึ้น
ซื้อบัตรเข้า 20,000 กีบ รวบรวมพลังไขมันที่สะสมมาเดิน เดิน เดิน

วิวระหว่างทางค่ะ
ป้ายบอกว่าใช้เวลาเดินทั้งหมด 1 ชั่วโมงครึ่ง
แต่... เนตรสามารถฝืนเดินไปได้แค่ ครึ่งชั่วโมง T-T
เกิดอาการกลัว เพราะมันเข้าไปในป่าเรื่อยๆ ระหว่างทางไม่เจอนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย
ร่างกายก็ไม่ได้ซ้อม ออกกำลังกายมาเลย สุดท้ายเลยตัดสินใจเดินลง
กลัวจะเป็นอะไรระหว่างทาง แล้วไม่มีมาคนมาเจอ ฮึบ ตัดใจค่ะ ค่อยมาใหม่เนอะ ค่อยลากเพื่อนมาสักคน T-T

เดินลง ไปหาของกิน เตรียมตัวกลับหลวงพระบางกันค่ะ

ข้าวเหนียวไก่ย่างเยียวยาความพ่ายแพ้ 15,000 กีบ ร้านยายคนเดิมค่ะ

10.30 น ตุ๊กๆมารับที่หน้าที่พัก และไปส่งขึ้นรถตู้ที่คิวรถ บนรถมีชาวลาวแค่คนเดียว ที่เหลือเป็นต่างชาติ รถออกประมาณ 11 โมง
ถึงหลวงพระบางประมาณบ่าย 2 โมง
บาย บาย หนองเขียว ..... สักวันจะกลับมาอีก

แม้ครั้งนี้เนตรจะไปไม่ถึงจุดที่ตั้งใจมา แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ก็สอนเนตรหลายๆอย่าง
เช่น ควรศึกษาข้อมูลการเดินทางให้ดีกว่านี้ ควรรู้จักเตรียมความพร้อมของร่างกาย
รู้จักประมาณตน เราจะชนะทุกอย่างไปไม่ได้หรอก เรียนรู้ความไม่สมหวัง
แต่ก็ต้องขอบคุณตัวเองมากนะที่ตัดสินใจถอย เพราะถ้าฝืนไป แล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
อาจเสียใจมากกว่านี้ก็ได้ ^^

ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้

ไว้มาต่อกันที่หลวงพระบาง เมืองมรดกโลกกันนะคะ