[CR] One day trip เดิน กิน เที่ยว ที่บางลำพู

สวัสดีค่ะ วันนี้ จขกท.มารีวิว one day trip ที่ย่านบางลำพูกัน
    โดย ใช้ชื่อทริปว่า Banglamphu culture and food
ตลอดทั้งทริปของเราก็จะเน้น กิน เที่ยวและเรียนรู้วัฒนธรรมของย่านบางลำพูกันนะคะ
...........
เดี๋ยวขอเกริ่นประวัตินิดนึงจร้า
สาเหตุที่เขาเรียกว่าบางลำพู นั้นเพราะเมื่อก่อนมีต้นลำพูนเบริเวณนั้นป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันย่านบางลำพูได้มีพัฒนา เป็นเป็นแหล่งขายเสื้อผ้า อาหาร
และเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวเข้ามาพักอาศัย แถวบริเวณ ถนนข้าวสาร

...................................
     การเดินทางมาที่นี่สะดวกและง่ายมากเลยค่ะ
สามารถเดินทางมาได้ทุกทาง
ใครที่เดินทางด้วยรถประจำทางก็สามารถนั่งสาย
3, 6, 9, 30, 32, 33, 53, 64, 524 ผ่านแถวพิพิธภัณฑ์บางลำพู
หรือใครที่จะลง แถววัดบวรก็จะมีสาย 56, 68,127 516 ค่ะ
ใครที่เอารถส่วนตัวก็ไม่ต้องกังวลว่าไม่มีที่จอดรถเพราะที่นี้มีลานจอดรถ กทม.
เปิด-ปิดตั้งแต่ 06:00-02:30
ค่าจอดรถยนตร์ ชม.แรก 15 บาท ชม.ต่อไป 20 บาท
ส่วนจักรยานยนต์ ชม.แรก 5 บาท ชม.ต่อไป 7 บาท

แต่สำหรับทริปนี้ จขกท. จะเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา ธงสีส้มค่ะ
โดยจขกท.ขึ้นที่ท่าเรือปิ่นเกล้า แล้วเดี๋ยวเราจะไปลงที่ท่าเรือพระอาทิตย์กัน
จขกท.พึ่งถ่ายรูปไปไม่กี่รูป รู้ตัวอีกที่ก็ถึงที่หมายซะแล้ว
ลงท่าปุ๊บก็หิวปั๊บ แต่เราจะยังไม่กิน เราจะเดินไปถ่ายรูป แถวป้อมพระสุเมรุกันก่อน
ต้นลำพูนร้อยปีซึ่งยังคงอยู่ ที่สวนสาธารณะสันติชัยปราการ
...................................................
เดินถ่ายรูปเสร็จเราก็ไปหาไรกินกันเลยดีกว่า
ซึ่งเราจะไปกินกันที่ร้าน KARIM ROTI MATABA เป็นอาหารแนว มุสลิม/อิสลาม
(ร้านแห่งนี้ยังได้เครื่องหมายรับรอง ฮาลาล)
ร้านนี้ตั้งอยู่ ถนนพระอาทิตย์ อยู่ฝั่งตรงข้ามป้อมพระสุเมรุ
สำหรับใครที่เอารถมาสามารถจอดหน้าร้านได้ค่ะ
จขกท. สั่งมะตะบะเนื้อ กับน้ำเก๊กฮวยมากิน
มะตะบะที่นี้กรอบนอกนุ่มในมากกก(ให้ ก ไก่สักล้านตัว) ยิ่งกินกับอาจาด ยิ่งอร่อย
อาจาดของร้านนี้ คือ มีรสเปรี้ยว หวาน  ไม่ได้เน้นไปทางรสใดรสหนึ่งมากเกินไป
เนื้อข้างในมะตะบะให้แบบเนื้อแน่นๆๆ
สรุป เลยง่ายๆอร่อย โคตรฟิน =.,=
.........................................................
สถานนีต่อไป พิพิธภัณฑ์บางลําพู
ที่ตั้ง:อยู่บน ถนนพระอาทิตย์ ใกล้กับป้อมพระสุเมรุ
ที่เปิดตั้งแต่ 10:00-18:00 (หยุดวันจันทร์)
   เข้าชมฟรีไม่เสียตังค์
ใครที่เอารถมาก็สามารถนำมาจอดได้ (จำนวนจำกัด)
ที่พิพิธภัณฑ์บางลำพูแห่งนี้ เคยเป็น โรงพิมพ์คุรุสภามาก่อน ปัจจุบันกลายเป็นศูนย์การเรียนวัฒนธรรมของชุมชน ที่ให้ นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชม
บริเวณชั้นหนึ่ง จัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรต์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
(จขกท. ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ ต้องขอ อภัยด้วยจร้าา)
บริเวณชั้น 2 จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชุมชนและประวัติความเป็นของชุมชน
จะมีเจ้าหน้าที่คอยพาไปตามจุดต่างๆ และคอยบรรยายภายในก็จะมีการบอกเล่าความเป็นมาของบางลำพู
มีการจำลองสถานที่เก่าๆที่เคยมีชื่อเสียง ตกแต่งเสมือนจริง ให้เราได้ชมว่ามีที่ไหนบ้างเป็นจุดเด่นของบางลำพู
มีการจัดแสดงวีดีทัศน์ให้เราได้ชม ประวัติความเป็นมา
อ่อ! ที่สำคัญอยากบอกว่าข้างในอากาศค่อนข้างหนาวนะคะ
รวมแล้วเราจะเจอกับเจ้าหน้าที่3ท่านนะคะ จะคอยประจำอยู่ในแต่ละจุดเพื่อให้คำบรรยาย
เจ้าหน้าที่ใจดีค่ะ และถามอะไรเกี่ยวกับบางลำพูก็ตอบได้หมดเลย
.......................
หลังจากเราเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์
เราก็หาอะไรกินกันกันสักหน่อยซึ่งร้านต่อไปที่แนะนำ
คือ ร้านพัวกี่
เปิด-ปิด 9:00-17:00 (หยุดวันอาทิตย์)
ที่นี้เปิดมานานกว่า 70 ปีแล้ว
พิกัดร้าน ถนนพระสุเมรุ ฝั่งตรงข้ามพิพิธภัณฑ์บางลำพู
สามารถจอดรถหน้าร้านได้
จุดเด่นของร้านนี้ คือซอสเย็นตาโฟที่ทำเอง กับเกี๊ยวกุ้ง ค่ะ

อาหารของเราก็มาถึงแล้วจร้า
สั่งเกี๊ยวกุ้ง กุ้งเป็นตัว กัดแล้วรู้สึกถึงเนื้อกุ้ง แล้วกินกับน้ำเย็นตาโฟ คู่กันซึ่งมันเข้ากันสุดๆๆ
บางร้านนี้ สั่งเกี๊ยวกุ้ง(+แป้ง) กินลงไปแล้วไม่รู้กุ้งเยอะกว่าหรือแป้งเยอะกว่า
ที่นี้ไม่มีป้ายเมนูอาหารติดไว้ตามกำแพง
ตอนเดินเข้าไปในร้านนี้ งง เลยจร้าา มีแต่รูปภาพไม่กี่รูปก็ไม่รู้จะสั่งอะไร
ที่ไหนได้เขามีเมนูเให้เป็นเล่ม
ร้านนี้นะ ไม่ใช่ร้านก๋วยเตี๊ยวธรรมดาที่ขายแต่ก๋วยเตี๋ยว
เพราะเมนูร้านนี้ยังมีทั้งข้าวผัด,ก๋วยเตี๋ยว,ข้าวแกง,สปาเก็ตตี้ (ขายหลากหลายเว่อร์)
คือใครไม่รู้จะกินไรมาร้านนี้ที่เดียวจบ.
..................
..................
หลังจากรับประทานของคาวแล้วเรามาต่อที่ของหวานกัน ที่
ร้านขนมเบื้องแม่ประภา
เปิดตั้งแต่ 8:00-19:00
ร้านแห่งนี้ มีมากว่า 60 ปีแล้ว
ทำตั้งแต่ขายเป็น กระจาด จากนั้น ขายในตลาดบางลำพู
ต่อมาเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น เจ้าของร้านจึงย้ายมาตั้งอยู่ที่ใน
ห้าง ต.เง็กช้วน เดิมเป็นร้านขายแผ่นเสียงตรากระต่าย
เราจะพบหน้าตาร้านแบบนี้
ตอนเราไปคนสั่งไส้หวานกันเยอะ จึงต้องรอนานหน่อย
ถ้าสั่งไส้เค็มไม่ต้องรอค่ะ
…………....
ออกจากร้านมาก็เดินต่อเลยจร้า
เดินมาก็เจอ ข้าวตังทรงเครื่องแม่ชิต
แวะซื้อกลับบ้านสักหน่อย
ข้าวตังหน้าตั้ง
40บาท
(หลังจากเอากลับบ้านไปกิน เราว่าอร่อยดีค่ะ )
……………………
เราไปกันต่อเลยค่ะ
ร้านที่เราจะไปกัน
ร้าน คอนนิจิปัง ตั้งอยู่บน ถนนจักรพงษ์
เปิด-ปิด 7:30-20:00 (วันอาทิตย์ปิด)
การเดินทาง เมื่อถึงสี่แยก
แล้วเลี้ยวขวา เดินตรงไปตามทางไม่ไกลค่ะก็จะเจอร้าน
ใครที่อยากมาหลบร้อน แนะนำมาที่นี้ค่ะ มีแอร์เย็นๆ นั่งชิวๆ อีกอย่างมี wifi free ค่ะ
………................
มัสยิดจักรพงษ์
ชุมชนมุสลิม ที่เมื่อก่อนขึ้นชื่อในเรื่อง การทำทอง
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เชลยที่ถูกจับมาใครที่มีความรู้ความสามารถในการทำทอง จะถูกส่งตัวมาที่พระนครจึงทำให้ คนในชุมชนนี้มีความสามารถในการทำทอง สืบต่อกันมา
แต่ปัจจุบัน ชุมชนทำทองแห่งได้เลือนหายไปแล้ว
เดินเข้ามาก็จะพบร้านอาหารที่ขาย อาหาารมุสลิม
ชื่อสินค้า:   บางลำพู
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่