[CR] ธรรมชาติเน้นๆ ที่..... ลาวใต้ ~

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


       โปรเจคเป็นไง โปรเจคถึงไหน จะจบทันไหม โอ๊ยยยย เรียกว่าได้ยินกันจนเบื่อกับบั้นปลายชีวิตในมหาวิทยาลัย ความเครียดสะสมจากการทำโปรเจค บีบคั้นให้พวกเราต้องหันหัวไปซบอกธรรมชาติที่ ...ลาวใต้
จากที่ได้ยินมาจนหนาหูว่า ลาวใต้กับความเจริญเป็นสิ่งที่ยังไม่มาบรรจบกัน นั่นทำให้ธรรมชาติยังคงความ ดิบ! เถื่อน! อุดมสมบูรณ์อยู่ ด้วยเหตุประการฉะนี้ กลุ่มชายฉะกัน 5 คน จึงเลือกที่นี่เป็นแหล่งเติมพลัง

ออกเดินทาง !!!
       ขาไปพวกเราเลือกรถทัวร์จากหมอชิตไปลงที่ขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี (เนื่องจากตั๋วเครื่องบินขาไปแพงมากกก) โดนค่าตั๋วไปคนละ 521 บาท รถออกเวลา 21.00 น.ถึงสถานีขนส่งอุบลราชธานี ประมาณ 7.00 น. หลังจากนั้นไปต่อรถตู้ ลงที่ด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี ด่านที่ปราศจากร่มเงา เต็มไปด้วยแสงแดดที่ร้อนระอุ สามารถซื้อซิมลาวได้เลย โดยจะมีพ่อค้าแม่ขายมาขายที่ฝั่งไทย ในราคา 150 บาท ได้อินเตอร์เน็ตถึง 4 GB  โทรศัพท์พร้อมแล้วก็ตรวจพลาสปอร์ตแล้วเดินลงหลุมไปประเทศลาวกันโลดด

หลังจากขึ้นมาจากหลุม ก็ไปกันที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จากที่อ่านรีวิวมาจะมีค่าเข้าตั้งแต่ 60 – 200 บาท เลยต้องมาวัดดวงกันว่าจะเสียกี่บาท และผลก็คือ 200 T^T  เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นวันหยุดต้องเสียเพิ่ม (มีงี้ด้วย) ต่อรถจากช่องเม็กไปจนถึงปักเซ เพื่อเข้าที่พักแสนถูกของพวกเรา ราคาคืนละประมาณ 1100 บาท อยู่ได้ 5 ชีวิต กับ 2 ห้องนอน เก็บของแล้วท้องก็เริ่มร้องหาอาหารลาว แต่เงินดั๊นเป็นเงินไทย แลกซะ!! (แนะนำให้แลกที่ประเทศลาวเลยเพราะจะได้เรทดีกว่า)
กลายเป็นเศรษฐีเงินล้านเลยทีเดียว

พบผี 1 ea


มาถึงลาวใต้อาหารมื้อแรกที่ต้องโดนก็คือ เฝอชามน้อย ราคาชามละ 15000 กีบแปลงเป็นไทยก็ประมาณ 70 บาท ราคาเหมือนจะแพงแต่ชามใหญ่มากกก (ไม่เห็นน้อยตามชื่อเลย) มีจานผักเป็นเครื่องเคียง ให้แบบไม่มีกั๊กเลย ท้องอิ่มแล้วก็เดินทางไปยังสถานที่แรกกัน การเดินทางในวันแรกจะเหมารถ 3 ล้อตลอดทั้งวัน


รถที่นี่พวงมาลัยอยู่ฝั่งซ้ายมือ แอบแปลกตาหน่อยๆ
    

มาถึง วัดพู หรือ “ ปราสาทหินปราสาทหินวัดพู ” ซึ่งถือเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาวและเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดอีกด้วย โปรไฟล์ดีสุดๆ แต่ค่าเข้าก็แพ๊งงแพง คนละตั้ง 5500 กีบนู่นน บริเวณภายในวัดใหญ่มากและยังคงสภาพเดิมไว้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ทางเดินไปจนถึงตัววัด

เดินขึ้นมาตามขั้นบันใดอันแสนชันจะพบ ทวารบาลหินซึ่งคือ พระยากามะทา เป็นผู้ดูแลการสร้างปราสาทวัดภู เดินขึ้นมาอีกเรื่อยๆก็จะเห็นพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ซึ่งหน้าของพระพุทธรูปจะแตกต่างจากของประเทศไทย รอบๆจะพบหินที่ถูกสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆอยู่ ขอท้าว่าหาหินรูปจระเข้ให้เจอ


พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ดูแปลกตาแตกต่างจากบ้านเรา


เขียดย่าง ของดีประจำปราสาทหินวัดพู


ต่อจากปราสาทหินวัดพู ก็ “วัดพูเสลา” มีคำว่า “พู” เหมือนกันแต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับปราสาทหินวัดพูซักนิด สิ่งที่ทำให้ที่วัดนี้เด่นออกมาคือ พระพุทธรูปองค์สูงประมาณ 10 เมตรที่ตั้งเด่นอยู่ กับความสูงของขั้นบันใดที่แค่มองขึ้นไปก็สูงสุดลูกหูลูกตา พอเดินขึ้นไปถึงก็พบกับความจริงอันน่าเศร้าคือ นั่นมันแค่จุดพัก!! ตัวพระพุทธรูปยังต้องเดินขึ้นไปอีกกก O_o


ในที่สุดก็ถึงพระพุทธรูปซักที วิวด้านบนสวยไม่แพ้พระพุทธรูปเลยย ยิ่งตอนขึ้นไปถึงก็เย็นพอดีบวกกับมองจากที่สูง ทำให้พระอาทิตย์ที่กำลังจะลับของฟ้า ในมุมนั้นดูสวยขึ้นจมเลย นั่งชมความสวยของพระพุทธรูปกับพระอาทิตย์ตกดินยังไม่ทันหายเหนื่อย ก็ได้ยินเสียงเพื่อนตะโกนลั่นออกมาว่า “เฮ้ย !!! มันขับรถขึ้นมาได้นี่หว่า” จังหวะนั้นไม่มีใครส่งเสียงออกมาจนเดินกลับลงไปถึงรถ ….

ลืมบอกไปว่าที่พักที่เลือกมา ด้านล่างเป็นร้านอาหาร ด้านบนเป็นโรงแรม ก็เลยกินกันตอนเย็นล่างโรแรมเลย อยากรู้ว่าถ้าสั่งอาหารไทยๆที่ลาวกินแล้วเนี่ยจะต่างกันมั้ย  ก็ต่างนะ....ไทยอร่อยกว่าอยู่แหละ ชินกะรสชาติละมั้ง


หัวถึงหมอนก็แทบจะหลับเลย อยู่ดีๆก็มีความสงสัยผุดขึ้นมาในหัว “รายการทีวีที่ลาวจะเป็นยังไงหนอ”  แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเกือบทุกช่องดั้นนน เป็นรายการที่ฉายในไทยเกือบทั้งหมดเลย T T
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่