จากความเดิมตอนที่แล้ว https://pantip.com/topic/37581924

     ก็ถึงเวลาเดินเล่นลี่เจียงเมืองเก่าในเวลาค่ำคืนกันแล้วนะครับ


     ให้บรรยากาศเหมือนเดินย้อนเข้าไปในหนังจีนกำลังภายใน


     งานป้ายขอพรก็มา


     Lìjiāng Gǔchéng (ลี่เจียงกู่เฉิง) 丽江古城 เดินเข้ามาไม่ถึง10 นาที นี่คือ Landmark ที่ทุกคนที่มาเที่ยวที่ลี่เจียงจะต้องมาถ่ายรูปที่นี่


     ทางเดินคนค่อนข้างเยอะในตอนกลางคืน



     โซนนี้เหมือนFood court มีอาหารหลายอย่าง พร้อมด้วยกลิ่นแปลกๆของหมาล่า ซึ่งสามารถได้กลิ่นทั่วเมืองเก่า ในนี้มีเบียร์ขาย

ราคา 15 หยวน แนะนำว่าอย่าไปซื้อ ให้ไปซื้อร้านขายของชำด้านนอก แค่ 5 หยวนเอง ที่รู้เพราะซื้อมาแล้ว 5 5


     เดินเล่นเก็บบรรยากาศ ไปเรื่อยๆ




     กลางวันเป็นเมืองเก่า กลางคืนเป็นผับนะ อย่างงี้ก็ได้หรออหลังจากที่เดินเล่นอยู่พักใหญ่

อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ เราเลยตัดสินใจซื้อเบียร์แล้วกลับไปนั่งกินที่ดาดฟ้า ของโฮสเทล


     ภาพนี้ถ่ายจากดาดฟ้าของโฮสเทล หลังจากนั่งกินเบียร์ไปสักพัก อากาศค่อนข้างหนาวมาก น่าจะไม่ถึง 10 องศา เลยตัดสินใจกลับ

ห้องไปนอนซุกผ้าห่มไฟฟ้าหลับไปด้วยความเพลีย..หรือเมาหว่าา

     หลังจากหลับเป็นตายเรามาตื่นอีกทีประมาณ 7.30 น. ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วก็ออกมาหาอะไรกินตอนเช้ากันน


     เราสั่งอาหารคล้ายๆเกี๊ยวน้ำ แต่จืดดดดดดดดด ไม่มีรสชาติอะไร สักอย่างเลย กับซาลาเปาลูกเล็กๆ ก็จืดดอีก

แพลนของวันนี้หลังกินข้าวเสร็จคือ ต้องไปซื้อตั๋วรถทัวร์เดินทางไป แชงกรี-ล่า ในวันพรุ่งนี้ แนะนำให้นั่ง Taxi ไปได้เลย จากตรงหน้าเมืองเก่า

ไปถึงสถานนีรถบัส ค่ารถแค่ 8 หยวนเอง

     ด้านหน้าจะเขียนว่า Lijiang Passenger Station ป้ายสีน้ำเงินใหญ่ๆ พอดีตอนนั้นค่อนข้างรีบเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ

ก็ถึงเวลาCoffee time ภารกิจเดินตามหาร้านกาแฟ Starbucks ก็เริ่มขึ้น เพราะตอนนั่งรถ taxi มาเราเห็นว่ามันมี เลยตัดสินใจเดินกลับไป

ที่เราไม่นั่งรถเพราะว่าไม่รู้ว่าสายไหนมันผ่าน 5 5 5    ไม่แน่ใจว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ไม่น่าจะต่ำกว่าครึ่งชม.


     ในที่สุดดดดด   เราเป็นคนค่อนข้างติดกาแฟมาก ไปที่ไหนเลยต้องหาร้านกาแฟ


     อากาศค่อนข้างเย็น เลยจัดกาแฟร้อนมา 1 แก้ว ฟินมากเว่อร์


     หลังจากเติมพลังงานแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ Jade Dragon Snow Mountain คือเป้าหมายต่อไป จากการศีกษาข้อมูลมาเบื้องต้น

คนที่ไปเที่ยวที่นี่มักซื้อทัวร์ไปกัน ราคาประมาณ 300-400 หยวน ซึ่งเราว่ามันค่อนข้างแพงเลยทีเดียว อีกอย่างนึงคือ เราไม่อยากดูการแสดง

Impression Lijiang และเราก็ไม่อยากขึ้นไปที่ Glacier Park ด้วย เพราะเรารู้สึกว่ามันแค่เป็นทางเดินแคบๆ บนภูเขาที่มีหิมะเท่านั้นเอง  

     แต่ที่เราเห็นรูปแล้วอยากมามากที่สุดคือ Blue Moon Valley เราได้ถามจากทางโฮสเทล ว่าถ้าไปเอง จะไปยังไง คือมีวินรถไป

ราคามิตรภาพ 20 หยวน หลังจากซื้อกาแฟแล้ว เลยถามทางจากพนักงาน ซึ่งสามารถพูดอังกฤษได้บ้าง จากตรงร้านกาแฟเดินไปอีกไม่ไกล

ก็จะถึงวินรถตู้ไป Jade Dragon Snow Mountain รอคนเต็มแล้วก็ออกเดินทางกัน


     วิวระหว่างทาง นั่งรถประมาณ 45 นาที ถึงหน้าทางเข้าอุทยานรถก็จะแล้วเราต้องเสียค่าเข้าอุทยาน คนละ 130 หยวน


     ก็จะได้ตั๋วหน้าตาแบบนี้มาคนละใบนะครับ แล้วก็นั่งรถต่อไปอีกสักแปป รถก็จะแวะให้ซื้อตั๋วเคเบิ้ลคาร์ สำหรับคนที่ไป Glacier Park

ราคาประมาณ 180 หยวน แต่เราไม่ไปเลยไม่ซื้อ หลังจากนั้นนั่งรถต่อไปอีกประมาณ 5 นาที รถก็จะจอดให้เราลง


     ทางเข้าด้านหน้าจะเป็นลานกว้างๆ ตอนลงรถมาอากาศค่อนข้างเย็นมาก ฝนก็ตกลงมาเป็นน้ำ+เกล็ดน้ำแข็ง


     เดินเข้ามาก็จะเจอเสาแบบนี้ก่อนเข้าตัวอาคาร  


     ภายในอาคารที่ซื้อตั๋วรถเพื่อไป Blue Moon Valley  โชคดีที่เราเจอคนจีนที่พูดภาษาอังกฤษ ได้บนรถตู้ เค้าใจดีมากๆ พาเราไปซื้อตั๋วรถ

บัสพาไปต่อแถวขึ้นรถ พอรถมาจอดที่ Blue Moon Valley แล้ว เค้าถึงขอตัวไปเที่ยว แต่ถ้ามีอะไรก็ถามไปทาง Wechat ได้ น่ารักมากๆครับ


     นี่คือวิวที่พอเดินลงจากรถมาก็ต้องเห็น Jade Dragon Snow Mountain อย่างใกล้ชิด พร้อมกับอากาศที่หนาวเย็นและฝนปรอยๆนิดๆ

ที่มาพร้อมกับลม ทำให้ความหนาวเย็นทวีความรุนแรงมากขึ้น แนะนำให้หาเสื้อกันหนาวหนาๆที่มีฮูดกันฝนได้ด้วย จะดีมากๆ


    เดินลงมาจากศาลาที่ลงรถก็จะพบกับวิวแบบเต็มๆอีกหน บอกเลยว่าของจริงสวยกว่าในรูปเยอะครับ การเดินขึ้น-ลงตอนนี้เหนื่อยมากกว่าอยู่

ที่ลี่เจียงอีก  เราซื้อออกซิเจนมา 1 กป. ราคา 20 หยวนเท่านั้นนะครับ ให้ซื้อตามร้านโชว์ห่วยทั่วไป ตามร้านขายยาหรือร้านในเมืองเก่า

ราคาจะประมาณ 30-35 หยวน สำหรับเรา เราว่ามันไม่ได้ช่วยให้หายเหนื่อยเลยสักนิด แต่มันทำให้รู้สึกดีเท่านั้นเอง


     น้ำสีเขียวใส สวยมากๆ




     น้ำที่นี่เขียวและใสมากเว่อออออร์


     ก่อนขึ้นรถเราแวะซื้ออะไรบางอย่างคล้ายๆกับแซนวิส เผื่อมากินบนนี้ และนี้วิวที่เรานั่งกินอาหารกลางวัน


     เราชอบภาพนี้ อย่างกะอยู่ยุโรป 555 แล้วก็ได้เวลากลับ จะมีรถบัสมารับเรื่อยๆ กลับไปลงที่เดิม เดินออกไปตรงที่ลงรถตู้ ตรงลานจอดรถ

จะมีวินรถเพื่อกลับไป Lìjiāng Gǔchéng (ลี่เจียงกู่เฉิง) 丽江古城 ราคา 25 หยวน พยายามต่อให้เหลือ 20 หยวนเท่าขามา โดยใช้แอพแปล

ภาษา ที่ใช้ได้เพราะบนภูเขาสัณญาณ4G แรงดีมาก พอกลับมาก็หาอะไรกิน แล้วก็ตัดสินใจว่าจะไปเดิน ลี่เจียงเมืองเก่า ดูว่าบรรยากาศตอน

กลางวันเป็นยังไง
      
    ระหว่างทางกลับเข้าเมือง หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่นเมืองเก่าอีกรอบ เราจำได้ว่าเคยเห็นร้านกาแฟสตาบัคในเน็ต ที่เค้ารีโนเวทให้เข้ากับ

บรรยากาศของเมืองเก่าลี่เจียงเลยอยากลองไปดูสักครั้ง เพราะคงไม่ได้มาบ่อยๆ ภารกิจตามหาร้านกาแฟในเมืองที่แทบจะไม่มีคนพูดภาษา

อังกฤษได้เลยจึงเริ่มขึ้น
  

      
    เดินหามาซะเหนื่อยเลยนั่งกินกาแฟพักซะหน่อย ร้านนี้น่าจะเป็นร้านกาแฟที่สูงที่สุดในลี่เจียง

  
    มีการทำลาเต้อาร์ตเล็กน้อย รสชาติokเลย
    
    เรายังไม่ล้ม้ลิกความพยายาม เดินหาต่อไป

    
    
    
    
    เดินจนรอบเมืองเก่าละโคตรเมื่อยย ก็ยังไม่เจอ เลยตัดสินใจออกจากเมืองเก่า เลี้ยวซ้ายมาก็เห็นสัญลักษณ์ที่คุ้นๆอยู่ลิบๆ

    

    
   
    ตั้งใจว่าจะมาซื้อแก้ว ชอบการตกแต่งร้านให้เข้ากับเมืองเก่า หลังจากเดินมาทั้งวันเลยตัดสินใจกลับที่พัก

  เพราะเมื่อยมาก ก่อนเข้าที่พักก็หาอะไรกิน วันนี้ซื้อเบียร์ร้านโชว์ห่วยใกล้ๆที่พัก ราคาขวดละ 5 หยวน !!!  25 บาทไทย

  ซื้อเมืองไทยขวดเกือบ 100 บาท คืออัลไลลล วันนี้กินเบียร์เสร็จรีบนอนเพราะ พรุ่งนี้ต้องไปเดินทางไปแชงกรีล่า

  ติดามต่อได้ใน Ep 3: https://pantip.com/topic/38154252