++รีวิวฉบับบ้านๆกับ Avengers Infinity War พร้อมวิเคราะห์เนื้อเรื่องความเป็นไปได้ในภาคถัดไป!!(spoii))++

...วันนี้เพิ่งได้ดูหนังฟอร์มยักษ์ใหญ่แห่งปีที่ทุกคนรอคอยของค่าย MARVEL นั่นคือ Avengers: Infinity War 2018 หนังที่รวบรวมบรรดาตัวละครเอกๆจากเรืองต่างๆกือบ 30 คน ยัดเข้ามาในเรื่องเดียวกัน!! ซึ่งก่อนหนังฉายหลายคนคงได้ดู trailer และแหล่งข่าวของความคาดว่าน่าจะเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในเรื่อง Infinity War ... ซึ่งตอนแรกที่เราได้เห็นตัวอย่างหนังก็ยอมรับว่าตื่นเต้นและอยากดูมาก แต่ในขณะเดียวกันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าหนังที่รวมตัวละครเด่นๆจากหลายเรื่อง หลายตัวละครขนาดนี้จะสามารถคุมบทบาทและพาแกนของหนังไปได้ดีหรือไม่? จนวันนี้ได้เข้าไปดูเรื่องเต็มและต้องบอกเลยว่า
"มันสุดยอดมากๆ!!!!"


...ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้หนังของมาร์เวล ไม่ได้ติดตามซีรีส์หรือการ์ตูนของมาร์เวลมาก่อนนอกจากตัวหนังที่สร้างมาเท่านั้น ดังนั้นหากข้อมูลส่วนไหนผิดพลาดประการใดก็ขออภัยล่วงหน้านะเจ้าคะ เพราะจะเป็นการรีวิวด้วยความรู้สึกในฐานะคนธรรมดาๆที่ดูหนังเรื่องนึง หัวใจ


…เริ่มจากพูดภึงภาพรวมของตัวบทและเนื้อเรื่องก่อนเลย Avengers: Infinity War นั้นเป็นภาคต่อจาก Captain America: Civil War หลังจากที่ทั้งที่ทีม Avengers วงแตก ภารกิจของทีมก็ถูกยุบลงและโลกกำลังจะเข้าสู่ความสงบ แต่ทว่าในห้วงอวกาศอันไกลโพ้นกำลังเกิดสงครามระดับมหาจักรวาลนำโดยธานอสตัวร้ายที่แข็งแกร่งที่สุดในมาร์เวลกำลังไล่ล่าตามหาอัญมณีทั้งหก ซึ่งฮีโร่คนแรกที่เผชิญหน้าและรับความพ่ายแพ้ไปครั้งแรกนั่นคือ ธอร์ เทพค้อนสายฟ้าของเรานี่เอง  สาเหตุที่ไปเจอธานอสได้ เพราะหลังจากที่แอสการ์ดแตกและอุตสาห์ขนคนขึ้นมาบนยานเพื่อเอาชีวิต กลับต้องมาเจอยานธาร์นอสไล่ตามเพราะธาร์นอสรู้ว่าอัญมณีที่ชื่อ  Space Gem (มีพลังที่สามารถพาไปทีไหนก็ได้) อยู่ภายใต้การดูแลของแอสการ์ด เมื่อธอร์กับโลกิและฮัลค์ ต่างไม่สามารต้านพลังของธานอสได้ Heimdall นายทวารผู้รักษาประตูจึงตัดสินใจใช้พลังสุดท้ายส่งฮัลค์กลับไปยังโลกเพื่อแจ้งข่าวให้ทุกคนได้ทราบถึงภัยที่กำลังจะมาเยือน!!

]
…ก่อนถึงอื่นต้องขอชมผู้กำกับพี่น้องรุสโซ่ และคนเขียนบท คริสโตเฟอร์ มาร์คัส กับ สตีเวน แม็กฟีลี่ ที่สามารถสร้างสรรค์หนัง Avengers: Infinity War ได้สุดยอดและยอดเยี่ยมมากๆ! แม้ขนาดเราเองไม่ใช้แฟนพันธุ์แท้สายหนังฮีโร่แต่พอไปดูเรื่องนี้แล้วต้องขอยกนิ้วให้จริงๆ เพราะด้วยตัวละครฮีโร่หลักจำนวนมากที่เอามารวมในหนังเรื่องเดียว ทั้งรูปแบบพลังที่แตกต่างกัน ต่างคนมาจากคนละโลกคนละยุค แต่ทุกอย่างกลับนำมารวมกันในหนังเรื่องเดียวได้อย่างสมบรูณ์แบบ หรือพูดง่ายๆคือ “เอาอยู่” หนังไม่ได้เละเทะหรือเอาให้ตัวละครคนใดคนนึงเด่นเกินหน้าหรือด้อยจนดรอปไป ทุกคนกลายเป็นตัวละครสำคัญที่มีหน้าที่มีความสำคัญในแต่ะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป้าหมายของทุกคนต่างมีอย่างเดียวคือ “ปกป้องอัญมณี”ให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม


…นอกจากจะสามารถคุมหนังและบทบาทนักแสดงทุกคนได้แล้ว ซึ่งที่เราชอบมากๆคือหนังไม่ได้น่าเบื่อ ไม่มีจุดเนือย ทุกฉากที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์สำคัญหมด(ปวดฉี่มากแต่ไม่อยากลุกเลยค่า!! ไม่อยากพลาด) สิ่งที่เราประทับใจคือความใส่ใจรายละเอียดทุกอย่างที่ใส่ไปในหนังทั้งซาวด์ประกอบ ภาพ งานเอฟเฟต์ การเข้าถึงบทแต่ละอารมณ์ของหนังเรื่องนี้มีความหลากหลายมาก (สุข เศร้า ตลก และระทึก) นอกจากนี้ยังมีความแปลกใหม่ในการนำเสนอบนหนังนั่นคือ เราได้เห็นการต่อสู้ที่ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าทำออกมา เช่น การที่เอาพ่อมดอย่างดร.สเตรนจ์ นำเวทย์มนตร์มาสู้กับมนุษย์ต่างดาวหรือออกตะลอนท่องโลกในอวกาศ การใช้ทั้งจักรกล เวทย์มนตร์ เข้าปะทะกับมนุษย์ต่างดาวมันเป็นอะไรที่แบบ เฮ้ย! มันแปลกแต่มันลงตัวมาก ถึงแม้ว่าเราจะเห็นมาจากหนังเรื่องอื่นๆมาบ้าง แต่ Infinity War มาเราไปได้ลึกและไกลกว่าจากทั้งหนังเรื่องอื่น ทั้งยังมีการท่องไปยังดวงดาวต่างๆซึ่งทำให้เราเห็นสภาพแวดล้อมของดาวแต่ละดวงแตกต่างกัน ทำให้รู้สึกว่าหนังพาเราท่องไปในโลกที่กว้างมากๆ มันเลยรู้สึกว่ามันมีความอิสระ เหมือนพาเราท่องไปกับโลกผจญภัยกับตัวละครเข้าไปด้วย


…สิ่งหนึ่งที่เราเห็นการพัฒนาจากหนังเรื่องนี้คือ การใส่อารมณ์และฉากดิบๆมากขึ้น(เป็นฉากดิบที่เราพอรับได้) หนังไม่ได้ใสหรือโลกสวยตามสไตล์ฮีโร่จ๋า มีการฆ่า การทำลาย การสูญเสีย สิ่งนี้เองที่ทำให้ตัวหนังมีอรรถรสและความเข้มข้นมากขึ้น (ฉาก Intro ตอนที่ยานสมุนธาร์นอสบุกโลกครั้งแรกทำเอาเราลุ้นมากเหมือนกำลังเจอกับอะไรบางอย่างที่ทรงพลังมากๆรวมถึงฉากการมาของธาร์นอสที่วากานดาทำได้ระทึก จากหนังแอคชั่นมันส์ๆอยู่ๆก็สลับโหมดเข้าหนังผี!)

… Avengers: Infinity War น่าจะมีการสอดแทรก Easter Egg ไว้มาก ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้อาจจะดูเข้าใจ แต่เราเป็นผู้ชมทั่วไปก็จะขอวิเคราะห์แบบบ้านๆผิวเผินตามประสาแล้วกันนะเจ้าคะ ว่าเราเห็นฉากในสำคัญหรือมองข้ามไปบ้างและในส่วนนี้จะมีสปอยเนื้อเรื่องเชิงลึก+++

• ชาวแอสการ์ดทั้งหมดตอนนี้น่าจะเหลือเพียง "ธอร์" เพียงคนเดียวที่รอดชีวิต
...เพราะชาวแอสการ์ดที่อพยพขึ้นมาบนยานก็ตายกันยกลำด้วยฝีมือของธาร์นอส ในฉากเปิดตัวความเสียหายบนยานที่เต็มไปด้วยศพของชาวแอสการ์ด(หากไม่นับโลกิซึ่งไม่รู้รอบนี้ตายจริงหรือตายหลอก) และที่สำคัญเรารู้สึกว่าเหมือนจะเห็น Valkyrie ซึ่งเป็นนักรบหญิงคนสุดท้ายจาก Thor Ragnarok นอนเสียชีวิตในกองศพแอสการ์ดเหล่านั้นด้วย




• ทำไม Heimdall ถึงเลือกจะส่งฮัลค์หนีไปที่โลกจากธานอสแทนที่จะส่งธอร์ซึ่งเป็นเจ้าชายแท้ๆของแอสการ์ดไป
...ประเด็นนี้เราเข้าใจว่า Heimdall มองเห็นอัญมณีที่อยู่บนโลกและคนที่จะช่วยได้คือ ดร.สเตรนจ์ (ผู้ครอบครองอัญมณีกาลเวลา) สังเกตว่าฮัลค์นั้นไม่ได้โดนส่งกลับบนพื้นโลกแบบไร้ทิศทาง แต่มีการจงใจตกมาในอาศรมของ ดร.สเตรนจ์ นั่นเพราะ Heimdall รู้แล้วว่าใครคือคนที่จะต้องรับมือศึกต่อหลังจากนี้ และธอร์ในภาพตอนนั้นก็โดนพันธนาการมีอาการเป็นตายเท่ากัน เหลือเพียงฮัลค์ที่ยังพอจะลุกไหวในตอนนั้น




• ตัวละครหลัก"ตายจริง" หรือ "ตายหลอก"
...หลายคนคงเห็นตัวละครหลักหลายตัวโดนฆ่าแบบไม่ไยดี ประเด็นนี้น่าวิเคราะห์ว่าตัวละครที่น่าจะสามารถดำเนินเรื่องต่อไปได้อีกจะโดนฆ่าทิ้งจริงๆหรือ? เราขอแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ
-ส่วนแรกตายจริง เพราะตัวละครหลักจากหนังบางเรื่องไม่มีที่ให้กลับไปสร้างเรื่องราวหรือดำเนินเรื่องต่อได้ (เช่น ดาวโดนทำลาย) ด้วยเหตุนี้ตัวละครประกอบที่มาจากหนังเรื่องเหล่านั้นจึงถูกตัดบททิ้งไปด้วยการฆ่าทิ้งซะ เพื่อจะได้เกิดประเด็นในภายหลังและสามารถดำเนินเข้าเรื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น
-ส่วนที่สองตายหลอก คือ ตัวละครบางตัวเรตติ้งยังดีและยังมีความสัมพันธ์กับตัวละครหลัก เราคิดว่ามาร์เวลไม่น่าจะหั่นบททิ้งไปดื้อๆอาจมีความเป็นไปได้ที่จะเกิด"เหตุการณ์บางอย่าง"ที่ทำให้ตัวละครที่ถูกสังหารไปยังสามารถกลับมามาชีวิตได้อีก ซึ่งจะกล่าวในข้อถัดไป


• เกิดอะไรขึ้นกับพลังธานอสที่ปล่อยออกมา หลังจากที่ได้อัญมณีครบทั้งหกเม็ด
...ในช่วงที่ธอร์กับธานอสสู้กันตอนท้าย จะเห็นว่าเกิดแสงสว่างวาบขึ้นซึ่งแม้แต่ธอร์เองยังถามธานอสว่าทำอะไรลงไป... และถุงมือของธานอสที่รองรับอัญมณีเองก็เสียหาย ถัดจากนั้นได้เกิดเหตุการณ์ที่สิ่งมีชีวิตทั้งจักรวาลสลายเป็นธุลีและปลิวในอวกาศ(เหมือนเป็นการสุ่มสิ่งมีชีวิต)ก่อนที่หนังจะจบลงและทิ้งให้คนทั้งโรงทั้งมึนและสตั๊นไปครู่นึง!!

...ประเด็นนี้เราขอเดาล้วนๆ(จริงๆทุกข้อก่อนหน้านั้นก็เดา 55+) เราว่าเหตุการณ์นี้คือที่ ดร.สเตรนจ์ ได้มองเห็นไว้แล้วว่าเป็นทางเดียวที่จะเอาชนะธานอสได้ และสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดนี้ เราเดาว่ามันคือ "Time Paradox" ซึ่งเกิดความไม่สัมพันธ์กันของความเป็นเหตุเป็นผลระหว่างเวลาในอดีต ปัจจุบัน อนาคต หรือพูดง่ายๆคือ เกิดความวุ่นวายของเรื่องเวลาและความสัมพันธ์กับทุกเหตุการณ์ ทุกภพ... สิ่งมีชีวิตที่สลายไปเราว่าอาจไม่ได้ตายแต่เกิดการย้ายไปอยู่ในมิติอื่นๆที่มั่วไปหมด (อาจหลุดไปโลกอนาคต หรืออดีต หรืออาจสาบสูญ หรืออาจไปอยู่ดาวดวงอื่น) สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้คงเพราะผลมาจากที่ธานอสคุมพลังไม่อยู่ จนทำให้อัญมณีทั้งหกเม็ดซึ่งแต่ละเม็ดมีความสามารถแตกต่างกันทำงานโดยการปล่อยพลังออกมาอย่างไร้ทิศทาง จนนำไปสู่กาลเวลาที่บิดเบี่ยว

• ตัวละครลับที่ปรากฏหลังจากจบเครดิต ซึ่งหลายคนคงจะทราบชื่อ นั่นคือ “Captain Marvel” ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นเท่าที่ทราบว่าเป็นฮีโร่ที่มีพลังสูงสุดในมาเวลและเป็นหมากตัวสุดท้ายที่จะพลิกเกมทั้งหมด… สิ่งหนึ่งที่เราสนใจคือการส่งข้อความช่วยเหลือไปหากัปตันมาร์เวลนั้นไม่ใช่โทรศัพท์แต่เป็นเพจเจอร์!! นั่นอาจหมายความว่ากัปตันนั้นอาจไม่ได้อยู่ในยุคเดียวกับเราแต่เราสามารถสื่อสารข้ามยุคได้! ซึ่งหากเป็นแบบนั้นนั่นหมายถึงกัปตันสามารถท่องไปในโลกอดีตและปัจจุบันได้อิสระนั่นเอง

นอกจากข้อมูลสำคัญที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เรายังขอวิเคราะห์ข้อมูลตัวละครในมุมมองส่วนตัว

• สการ์เล็ต วิทช์ กับพลังที่แข็งแกร่งกว่าที่เราคิด … โดยส่วนตัวเราชอบสการ์เล็ตมาตั้งแต่ปรากฏตัวในอเวนเจอร์ภาคแรก เพราะนอกจากความสวยแล้วเธอยังมีพลังที่ควบคุมสสารที่ทรงพลังอย่างมาก!! และมาในภาคนี้เราไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะได้เห็นเธอใช้พลังในการปกป้องวิชั่น ปกป้องทีม(ที่สามารถยกล้อรถไถคันใหญ่ให้ลอยละลิ่วได้!-0-) รวมถึงเป็นคนเดียวที่สามารถทำลายอัญมณีได้และใช้พลังต้านธานอสไปพร้อมๆกัน… แม้กระทั่งลูกสมุนของธานอสยังต้องล่อเธอให้ออกห่างจากวิชั่นเพื่อหลีกเลี่ยงการประทะนั่นเอง


• เจ้ากรูท กับบทต้นไม้ที่ไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไร
… กรูท เป็นตัวละครสำคัญและเคยโด่งดังมาจากการ์เดี้ยนแกแล็คซี่ทั้งสองภาค แต่ใน Infinity War เรากับรู้สึกไม่ค่อยประทับใจกับบทกรูทเวอร์ชั่นวัยรุ่นที่เอาแต่ใจเล่นแต่เกม ถึงแม้ว่าจะเป็นคาแรคเตอร์ตามสไตล์วัยรุ่นแต่เรากลับจดจำในบทกรูทที่มีความกล้าหาญและเป็นทีมไฟท์มากกว่าในภาคปัจจุบัน



• ความสามารถใหม่ของสไปเดอร์แมน… หลายคนคงจะทราบความสามารถใหม่ของปีเตอร์ นั่นคือ ร่างกายของเค้าสามารถรับรู้อันตรายที่เกิดขึ้นได้(โดยการที่ขนจะลุกตั้งชู) นอกจากความสามารถใหม่นี้แล้ว ยังมีเรื่องของชุดใหม่ที่พัฒนาโดยโทนี่ ซึ่งคิดว่าในหนังแยกภาคต่อของสไปเดอร์แมนเราคงได้เห็นพลังใหม่ๆนอกจากพ่นใย


และที่นี่เป็นการรีวิวหนังแบบคร่าวๆบ้านๆหากมีข้อผิดพลาดส่วนไหนต้องขออภัยล่วงหน้านะเจ้าคะ 🤘🏻😂📸
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่