เล็บครุฑ คืนแรก ประทับใจอะไรกันบ้าง?

คืนแรก.....ตอนแรก  ของ เล็บครุฑ ประทับใจอะไรกันบ้าง?  ส่วนตัวเราประทับใจเยอะแยะไปหมดทุกอย่างเลยนะ

     1.   เปิดตัวแต่ละคนได้น่าสนใจ กระชับฉับไว ให้เรื่องราวเล่าเองทั้งหมด / ชอบที่เอา เครื่องปริ้นท์ มาเข้าฉาก
          (ถ้าเป็นบู๊เรื่องอื่น คงคิดไม่ออกว่าเครื่องปริ้นท์จะแสดงละครได้) ใครงงกับเครื่องปริ้นท์ ก็ไปดูย้อนหลังเองนะ

     2.   ชอบความต่อเนื่องของเรื่องราว คือการกระทำใด การคิด พูด ของตัวละคร มันมีที่มาที่ไป มีเหตุผลเข้าใจได้
          และดู สมเหตุสมผล ถึงแม้มันจะเป็นละครก็ตาม... เช่น

          - คมน์ ถูกมัดติดเก้าอี้ แต่ด้วยความที่เป็นเจ้าหน้าที่ ย่อมถูกฝึกมาให้เอาตัวรอดได้ นางเลยสะบัดข้อมือจนแก้
          มัดตัวเองได้ ถ้าเป็นบู๊เรื่องอื่น... จะมีมีด มีเศษแก้ว โผล่มาเป็นตัวช่วยซึ่งชีวิตจริง คนเรามันต้องมีไหวพริบนะ
          จะมามัวรออุปกรณ์เสริมไม่ได้หรอก ต้องเอาตัวรอดมือเปล่านี่แหละ

          - และเมื่อ คมน์ เลือกจะสะบัดมือแก้มัดตัวเอง นางก็ต้องได้แผลจากการตัดสินใจนั้น คือฉากต่อมา เลือดเต็ม
          มือนะจ๊ะ ถ้าเป็นบู๊เรื่องอื่น อย่างดีแค่รอยแมวข่วน คงคิดว่าคนดูจะมองข้ามไปดูกล้ามแทนมั้ง?

          - คมน์ ต้องวิ่งหนีมอเตอร์ไซค์ และแน่นอน...ยังไงก็วิ่งไม่ทันหรอก นี่แหละความสมจริง ที่ละครบู๊เรื่องอื่นชอบ
          ให้พระเอกวิ่งหนีมอเตอร์ไซค์ไกลลิบประหนึ่งติดเทอร์โบ คมน์ คือคนธรรมดา ที่จะต้องเสียเวลากับมอเตอ์ไซค์

          - คมน์ ต้องตามรถ ปกรณ์ คือถ้าเป็นเรื่องอื่น คนดูจะเห็นว่าตามทัน แต่จะไม่รู้นะว่าทันจังหวะไหน แต่เล็บครุฑ
         ได้เล่าให้คนดูเข้าใจว่า เพราะรถของ ปกรณ์ เสียไง และทุกคนบนรถ ก็ต้องลงไปเปิดกระโปรงรถ...เพื่อซ่อมรถ
          จังหวะนั้นเองที่ คมน์ ไปโผล่ใต้ท้องรถได้โดยไม่มีใครเห็น เพราะนางสิงอยู่ส่วนท้ายของรถ สมเหตุสมผลมาก
          ลองเป็นค่ายอื่นสิ รถวิ่งๆ อยู่ ตัดภาพมาพระเอกอยู่ใต้ท้องรถได้ไงไม่รู้
          
          - สร้างสถานการณ์ได้เนียนดี ให้ ปกรณ์ โดนไอน้ำพุ่งเข้าตา จนแสบตา ต้องหรี่ตาปิดตาไว้ ทำให้มองไม่เห็น
          คมน์ นั่นคือความสมจริงที่ช่วยให้ คมน์ รอดสายตา ปกรณ์ ไปได้ ถ้าเป็นบู๊เรื่องอื่น ก็แค่ยืนหลบหลังต้นไม้เอง
          ไม่มีใครเห็นแล้ว เรื่องนี้ ต้นไม้และพงหญ้าไม่เคยช่วยบังตาใครได้ สมเหตุผลดี

     3.   นักแสดงสมทบ ทั้งที่มีชื่อเสียง และไม่ปรากฎบทบาทเด่น ล้วนทำให้เรื่องราวสมจริง น่าสนใจ
          
     4.   โอลิเวอร์ บีเวอร์ เมื่อปรากฎตัวในเรื่อง มักนำพาความพินาศมาสู่ผู้คนเสมอ และเตือนคนดูว่าต้องเบาเสียงนะ
          - ระเบิดรถปลิว ไม่ได้พังแค่รถ อะไรอยู่ใกล้รถพังไปด้วย กระเป๋าแม่พระเอกยังลอยหวือเลย เก็บรายละเอียด
          - ผู้คนบาดเจ็บล้มตายเลือดนองถนนจากแรงระเบิด สะเทือนใจคนที่รับบทเจ้าหน้าที่

     5.   พร็อพเยอะมาก รู้จักใช้เทคโนโลยีดำเนินเรื่อง ซึ่งมันสมจริงกว่าละครบู๊ค่ายไหนๆ ที่เคยทำมา
           - ใช้เครื่องปริ้นท์เข้าฉากไม่กี่วินาที แต่ปกติเรื่องอื่นเขาไม่สนใจเครื่องปริ้นท์นะ
           - หมดยุครถตู้ติดฟิล์ตทึบ เพราะเล็บครุฑมีรถกระบะดัดแปลงต่อเติมหลังคา
           - หมดยุคจอโทรทัศน์และตลก IT เพราะเล็บครุฑยกจานดาวเทียมมาเลย
           - หมดยุค ที่ตัวละครธรรมดาจะเก่งไปหมด ยันเทคโนโลยีเฉพาะด้าน เพราะเล็บครุฑบอกว่า ดร.คิว เป็นนัก
           วิทยาศาสตร์ ที่คิดค้นเทคโนโลยีเหล่านั้น ไม่ใช่เขียนบทให้นักแสดงตลก IT แหกตาคนดูไปเรื่อยๆ เหมือน
           คนดูโง่ ชอบที่ไม่ดูถูกคนดูไม่ว่าจะคนที่รู้หรือไม่รู้เรื่อง IT ก็ตาม.....
           - หมดยุคที่ละครบู๊ จะอุตริดัดแปลงโทรศัพท์ให้เป็นยอดเทคโนโลยีเกินจริง หมดยุคที่ใช้แค่โทรเข้าโทรออก
           เพราะแพรวได้ใช้กล้องโทรศัพท์ให้เป็นประโยชน์แล้ว นี่แหละสิ่งที่โทรศัพท์ทำได้ไม่โอเวอร์ และนักข่าวมัก
           ใช้งานฟังก์ชั่นนี้ (แพรวนางรับบทนักข่าว)

     6.   คิวบู๊ดีงาม
           - เตะเสยปลายคาง เตะฟาดแก้ม เตะก้านคอ เตะตัดขา เป็น เตะแบบให้รู้ว่าเตะ
           - นักแสดงรักแร้เปียก เหงื่อกระเซ็น แต่ไม่ต้องอวดกล้ามเรียกแขกเลย ไม่เน้นขายหวิวเนาะ?
           - บทพูดสั้นกว่าบทบู๊ พูดง่ายๆ ได้ใจความ ไม่ต้องสวยหรู
           - การตัดต่อในฉากที่ ซีต้องสู้กับซี ทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ มันเหมือนมีซี 2 คน ทั้งที่ก็รู้ว่าเทคนิค แต่มันเนียนตามากๆ
           - เป็นละครบู๊เรื่องแรกมั้ง? ที่พระเอกจิกผมนางเอก นักแสดงหญิงมาเพื่อโดนรังแกชัดๆ เลย
                    
     [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าลองคิดภาพว่าค่ายอื่น หยิบ เล็บครุฑ ไปทำเป็นละคร ก็คง.....

     เปิดตัวให้พระนางดูสวยหล่อเก่งประหนึ่งยอดมนุษย์ เรื่องราวไม่ต่อเนื่อง เน้นตัดฉับจนงงกับเรื่องราวไปหลายตอน กว่าจะเข้าใจ
และคงขาดความสมเหตุสมผล ยัดเยียดเทคโนโลยีที่ปลอมขึ้นมา แบบไม่รู้หรอกว่าเทคโนโลยีที่เอามาเล่นนั้นทำอะไรได้-ไม่ได้บ้าง
แต่คนดูจะต้องได้เห็นรถตู้ติดฟิล์ม ติดตั้งเสาอากาศ ข้างในมีจอมอนิเตอร์เรียงกัน และเป็นจอสารพัดนึก
     คิวบู๊ ก็คงสร้างให้พระเอกเก่งอยู่คนเดียว ไม่เจ็บไม่ตาย เต็มที่แค่เลือดกลบปาก แต่ถ้าโดนจังๆ เซถลาถอยหลังเป็นพระเอกลิเก
ไปหลายก้าว ล้มกลิ้งตัดเข้าโฆษณา แต่ลุกขึ้นมาสู้ต่อได้เหมือนไม่เจ็บ

     ประทับใจ เล็บครุฑ ประทับใจนักแสดง ประทับใจผู้จัด ทีมงาน ทุกองค์ประกอบ ทุกรายละเอียด แสดงให้คนได้
เห็นชัดเจนเลยว่า บู๊สด 100%  กับ บู๊ปรุงแต่ง เป็นยังไง