ต่อจากกระทู้
https://pantip.com/topic/37603166 ความรู้สึกของคนที่ถูก โครงการรัฐบาล และ SME Bank หักหลัง
มีประเด็นหนึ่งที่มีคนโพสในกระทู้ เกี่ยวกับเงื่อนไขของโครงการรัฐบาล ที่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาแทรกแซงการใช้เงินทุน โดยไม่ต้องรับผิดชอบ
ผมต้องขออธิบายคร่าวๆ ครับ พอเราวางโครงการ วางวัตถุประสงค์ เสนอแผนต่างๆ เมื่อภาครัฐผ่านโครงการโดยหลักการ จะพยายามลงลึกในรายละเอียดทุกซอกทุกมุม ประหนึ่งโครงการรัฐ และพยายามเข้ามาแทรกแซง เจ้ากี้เจ้าการการใช้เงินต่างๆ ถ้าถามโดยหลักการมันคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่.... เราไม่ใช่ราชการ
พอในแนวปฏิบัติแล้ว เมื่อโครงการผ่านเราจะเปลี่ยนผู้ผลิต เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ประเด็นแรกที่เกิดขึ้นคือ ระยะเวลากว่าที่จะอนุมัติ ครึ่งปีขึ้นไป หากมีรุ่นที่ดีกว่า คุณก็เปลี่ยนไม่ได้ หากมีบริษัทที่ถูกกว่าคุณก็เปลี่ยนไม่ได้ คุณต้องก้มหน้าปิดตา ประเด็นที่สอง เมื่อผู้ผลิตรู้ว่าผ่าน เขาก็จะรู้ว่าคุณเปลี่ยนเขาไม่ได้ คุณก็ไม่เหลืออะไรต่อรองได้อีก เหมือนเอาระบบราชการที่ห่วยมาถ่วงการทำงานของเอกชน ที่ต้องการความรวดเร็วและคล่องตัว โดยที่ หากโครงการผิดพลาดเจ้าหน้าที่รัฐทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องรับผิดชอบ
ผมมีคำถามอยากถามภาครัฐที่คิดนโยบายวางระเบียบมาครอบ มากำหนด
1. ภาครัฐมีความสามารถพอมั้ย ที่จะมาวางแผนกำหนดกรอบต่างๆให้เอกชน ลองไปสำรวจดู รัฐวางระเบียบมากมายมาบังคับ แต่หน่วยงานภาครัฐทุจริตกันมโหฬาร รัฐวิสาหกิจถ้าไม่ผูกขาดแบบเบ็ดเสร็จ ก็เจ๊งแล้วเจ๊งอีก ขาดทุนซ้ำๆ แล้วยังมีหน้าจะมาควบคุมเอกชน คุณเอาความสามารถส่วนไหนมา?
2. ความรับผิดชอบ เมื่อมีการทุจริต คุณทำอะไร ถ้าเป็นราชการ คั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หลายคณะ กินเวลาหลายปี จบที่สั่งย้ายบ้าง เด้งไปนู่นไปนี่บ้าง ซึ่งไม่เคยเข้าใจเลย ปลาที่เน่าจะย้ายจากฝั่งซ้ายของบ่อไปฝั่งขวาของบ่อ มันก็คือบ่อปลาเน่าอยู่ดี อะไรคือความรับผิดชอบของข้าราชการ? รัฐวิสาหกิจ บริหารจัดการเจ๊ง ขอเงินอุดหนุน เงินรัฐ ซึ่งมาจากภาษีประชาชนทั้งนั้น แล้วก็ทำอะไรเดิมๆ โง่ยังไง โง่อย่างนั้น แล้วหวังการเปลี่ยนแปลง พวกคุณทำงานนอกจากจะได้เงินเดือน ซึ่งมีแต่ได้กับได้แล้วคุณเสียอะไร เวลากำไรปันผลกันหน้าบาน เวลาขาดทุนมาเอาเงินประชาชนมาหนุน
รัฐข้าราชการ รัฐของความไร้สำนึก ไร้ความรับผิดชอบ แล้วยังมาควบคุมกำหนดกะเกณฑ์ ให้เอกชนต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ คุณไปดูตัวคุณเองก่อนว่า คุณมีความสามารถพอมั้ย ตัวเองถ่วงตัวเองยังไม่พอ ยังมาถ่วงเอกชน
เอกชนหากตัดสินใจกู้เงินมา ถึงแม้ว่าเป็นเงินรัฐเป็นภาษีของประชาชน แต่อย่างน้อยเอกชนไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้อย่างน้อยให้คนที่ต้องรับผิดชอบเป็นคนตัดสินใจ หากวันหนึ่งมันผิดพลาดนั่นก็เพราะตัวเขาเองไม่ใช่เพราะคนอื่น
รัฐข้าราชการ กับนโยบายที่ถ่วงความก้าวหน้าของเอกชน
มีประเด็นหนึ่งที่มีคนโพสในกระทู้ เกี่ยวกับเงื่อนไขของโครงการรัฐบาล ที่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาแทรกแซงการใช้เงินทุน โดยไม่ต้องรับผิดชอบ
ผมต้องขออธิบายคร่าวๆ ครับ พอเราวางโครงการ วางวัตถุประสงค์ เสนอแผนต่างๆ เมื่อภาครัฐผ่านโครงการโดยหลักการ จะพยายามลงลึกในรายละเอียดทุกซอกทุกมุม ประหนึ่งโครงการรัฐ และพยายามเข้ามาแทรกแซง เจ้ากี้เจ้าการการใช้เงินต่างๆ ถ้าถามโดยหลักการมันคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่.... เราไม่ใช่ราชการ
พอในแนวปฏิบัติแล้ว เมื่อโครงการผ่านเราจะเปลี่ยนผู้ผลิต เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ประเด็นแรกที่เกิดขึ้นคือ ระยะเวลากว่าที่จะอนุมัติ ครึ่งปีขึ้นไป หากมีรุ่นที่ดีกว่า คุณก็เปลี่ยนไม่ได้ หากมีบริษัทที่ถูกกว่าคุณก็เปลี่ยนไม่ได้ คุณต้องก้มหน้าปิดตา ประเด็นที่สอง เมื่อผู้ผลิตรู้ว่าผ่าน เขาก็จะรู้ว่าคุณเปลี่ยนเขาไม่ได้ คุณก็ไม่เหลืออะไรต่อรองได้อีก เหมือนเอาระบบราชการที่ห่วยมาถ่วงการทำงานของเอกชน ที่ต้องการความรวดเร็วและคล่องตัว โดยที่ หากโครงการผิดพลาดเจ้าหน้าที่รัฐทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องรับผิดชอบ
ผมมีคำถามอยากถามภาครัฐที่คิดนโยบายวางระเบียบมาครอบ มากำหนด
1. ภาครัฐมีความสามารถพอมั้ย ที่จะมาวางแผนกำหนดกรอบต่างๆให้เอกชน ลองไปสำรวจดู รัฐวางระเบียบมากมายมาบังคับ แต่หน่วยงานภาครัฐทุจริตกันมโหฬาร รัฐวิสาหกิจถ้าไม่ผูกขาดแบบเบ็ดเสร็จ ก็เจ๊งแล้วเจ๊งอีก ขาดทุนซ้ำๆ แล้วยังมีหน้าจะมาควบคุมเอกชน คุณเอาความสามารถส่วนไหนมา?
2. ความรับผิดชอบ เมื่อมีการทุจริต คุณทำอะไร ถ้าเป็นราชการ คั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หลายคณะ กินเวลาหลายปี จบที่สั่งย้ายบ้าง เด้งไปนู่นไปนี่บ้าง ซึ่งไม่เคยเข้าใจเลย ปลาที่เน่าจะย้ายจากฝั่งซ้ายของบ่อไปฝั่งขวาของบ่อ มันก็คือบ่อปลาเน่าอยู่ดี อะไรคือความรับผิดชอบของข้าราชการ? รัฐวิสาหกิจ บริหารจัดการเจ๊ง ขอเงินอุดหนุน เงินรัฐ ซึ่งมาจากภาษีประชาชนทั้งนั้น แล้วก็ทำอะไรเดิมๆ โง่ยังไง โง่อย่างนั้น แล้วหวังการเปลี่ยนแปลง พวกคุณทำงานนอกจากจะได้เงินเดือน ซึ่งมีแต่ได้กับได้แล้วคุณเสียอะไร เวลากำไรปันผลกันหน้าบาน เวลาขาดทุนมาเอาเงินประชาชนมาหนุน
รัฐข้าราชการ รัฐของความไร้สำนึก ไร้ความรับผิดชอบ แล้วยังมาควบคุมกำหนดกะเกณฑ์ ให้เอกชนต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ คุณไปดูตัวคุณเองก่อนว่า คุณมีความสามารถพอมั้ย ตัวเองถ่วงตัวเองยังไม่พอ ยังมาถ่วงเอกชน
เอกชนหากตัดสินใจกู้เงินมา ถึงแม้ว่าเป็นเงินรัฐเป็นภาษีของประชาชน แต่อย่างน้อยเอกชนไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้อย่างน้อยให้คนที่ต้องรับผิดชอบเป็นคนตัดสินใจ หากวันหนึ่งมันผิดพลาดนั่นก็เพราะตัวเขาเองไม่ใช่เพราะคนอื่น