จากที่แจ๊คหม่ามาไทยและลงนาม MOU ไป เห็นสื่อต่างๆ นำเสนอแต่ประเด็นที่ไทยได้รับประโยชน์ เช่น การลงทุนสร้าง Digital Hub, การสนับสนุนการพัฒนาความรู้ทางด้าน digital ฯลฯ แต่ยังไม่เห็นรายละเอียดทางด้านที่ว่าอาลีบาบาจะได้รับอะไรจากการลงนามไปบ้าง มีใครพอทราบไหมครับ?
และยังมีข้อสงสัยในหลายๆ เรื่อง ส่วนตัวไม่คิดว่าเขาจะมาลงทุนให้โดยไม่หวังผลประโยชน์กลับไป และกลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบในหลายๆ ด้าน ขอถามผู้รู้หน่อยครับ
1. เรื่องขายทุเรียน 80,000 ลูก ใน 1 นาที ลูกละ 5 กิโล รวมค่าส่งและภาษีตกลูกละ 1000 บาท เกษตรกรได้ประโยชน์จริงเหรอครับ การที่จะเอาสินค้าไปลงใน tmall ไม่ว่าเกษตรกรคนไหนก็สามารถลงขายได้เองเลยเหรอครับ หรือต้องลงผ่านคนกลางอีกที ถ้าลงผ่านคนกลางแล้วคนกลางคนนั้นเป็นคนไทยหรือจีน
2. คำนวณราคาทุเรียนปกติที่ขายทั่วไปในประเทศ โลละประมาณ 120 บาท ×5 =600 บาท ค่าขนส่งไปจีนคิดไป 60×5 = 300 ต้นทุนรวม 900 แล้ว ยังไม่รวมค่าภาษี ขายไปลูกละ 1,000 บาท อย่างนี้คนไทยได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นไหมครับ ทำไมอ่านข่าวแล้วเหมือนสื่อออกข่าวแตกตื่นว่าขายได้เยอะในเวลาเพียงแค่ 1 นาที ส่วนตัวคิดว่าราคานี้ไม่น่าแพงสำหรับคนจีนที่ซื้อไปครับ ทั้งได้ของเกรดดีที่รัฐบาลคัดให้ด้วย ซื้อไปขายต่อในจีนเองยังน่าจะขายได้มากกว่าราคานี้อีก
3. การลงขายสินค้าใน tmall ที่ลงนามไปลงฟรีไหมครับ และการใช้บริการขนส่งมีกำหนดว่าจะต้องใช้กับบริษัทที่เป็น partner กับ tmall หรือไม่
4. การให้ความรู้ด้าน digital เขาจะช่วยยังไงครับ ส่งคนออกมาเปิดอบรมให้ฟรีๆ เลยหรือไม่ แล้วทำไมมหาวิทยาลัยในไทยให้ความรู้ด้านนี้สู้เขาไม่ได้เหรอครับ
5. MOU ที่เซ็นไปเป็นการเซ็นร่วมกับอาลีบาบา แล้วรัฐบาลจีน ยอมรับทุกด้านไหมครับ เหมือนว่าสินค้าเกษตรแต่ละประเภทจะต้องมีการกำหนดปริมาณการนำเข้าไปในจีน และใน MOU ประเทศไทยได้กำหนดปริมาณการนำเข้าสินค้าจีนด้วยหรือไม่
โดยส่วนตัวก็เห็นประโยชน์จากการที่ประเทศไทยจะขายสินค้าได้มากขึ้น แต่ก็อยากให้มีการควบคุมที่รัดกุมสินค้าจีนที่จะทะลักเข้ามามากขึ้น
รบกวนสอบถามผู้รู้หน่อยนะครับ เป็นห่วงประเทศไทยมากๆ
ขอบคุณครับ
มีใครพอทราบรายละเอียด MOU ที่ไทยลงนามร่วมกับอาลีบาบาไหมครับ ?
และยังมีข้อสงสัยในหลายๆ เรื่อง ส่วนตัวไม่คิดว่าเขาจะมาลงทุนให้โดยไม่หวังผลประโยชน์กลับไป และกลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบในหลายๆ ด้าน ขอถามผู้รู้หน่อยครับ
1. เรื่องขายทุเรียน 80,000 ลูก ใน 1 นาที ลูกละ 5 กิโล รวมค่าส่งและภาษีตกลูกละ 1000 บาท เกษตรกรได้ประโยชน์จริงเหรอครับ การที่จะเอาสินค้าไปลงใน tmall ไม่ว่าเกษตรกรคนไหนก็สามารถลงขายได้เองเลยเหรอครับ หรือต้องลงผ่านคนกลางอีกที ถ้าลงผ่านคนกลางแล้วคนกลางคนนั้นเป็นคนไทยหรือจีน
2. คำนวณราคาทุเรียนปกติที่ขายทั่วไปในประเทศ โลละประมาณ 120 บาท ×5 =600 บาท ค่าขนส่งไปจีนคิดไป 60×5 = 300 ต้นทุนรวม 900 แล้ว ยังไม่รวมค่าภาษี ขายไปลูกละ 1,000 บาท อย่างนี้คนไทยได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นไหมครับ ทำไมอ่านข่าวแล้วเหมือนสื่อออกข่าวแตกตื่นว่าขายได้เยอะในเวลาเพียงแค่ 1 นาที ส่วนตัวคิดว่าราคานี้ไม่น่าแพงสำหรับคนจีนที่ซื้อไปครับ ทั้งได้ของเกรดดีที่รัฐบาลคัดให้ด้วย ซื้อไปขายต่อในจีนเองยังน่าจะขายได้มากกว่าราคานี้อีก
3. การลงขายสินค้าใน tmall ที่ลงนามไปลงฟรีไหมครับ และการใช้บริการขนส่งมีกำหนดว่าจะต้องใช้กับบริษัทที่เป็น partner กับ tmall หรือไม่
4. การให้ความรู้ด้าน digital เขาจะช่วยยังไงครับ ส่งคนออกมาเปิดอบรมให้ฟรีๆ เลยหรือไม่ แล้วทำไมมหาวิทยาลัยในไทยให้ความรู้ด้านนี้สู้เขาไม่ได้เหรอครับ
5. MOU ที่เซ็นไปเป็นการเซ็นร่วมกับอาลีบาบา แล้วรัฐบาลจีน ยอมรับทุกด้านไหมครับ เหมือนว่าสินค้าเกษตรแต่ละประเภทจะต้องมีการกำหนดปริมาณการนำเข้าไปในจีน และใน MOU ประเทศไทยได้กำหนดปริมาณการนำเข้าสินค้าจีนด้วยหรือไม่
โดยส่วนตัวก็เห็นประโยชน์จากการที่ประเทศไทยจะขายสินค้าได้มากขึ้น แต่ก็อยากให้มีการควบคุมที่รัดกุมสินค้าจีนที่จะทะลักเข้ามามากขึ้น
รบกวนสอบถามผู้รู้หน่อยนะครับ เป็นห่วงประเทศไทยมากๆ
ขอบคุณครับ