ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
อากาศร้อน แดดเปรี้ยงแบบนี้ ทำให้นึกถึงคำพูดนักปรัชญาชาวกรีกยุคโบราณท่านหนึ่งที่ว่า
“หลบไปหน่อย ขอท่านอย่ายืนบังแสงแดดของข้า !”
ไดโอจีนีส นักปรัชญาผู้ใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัข
ไดโอจีนีส แห่ง ซิโนเพ (Diogenes of Sinope 412 – 323 B.C.) เป็นนักปรัชญาในกลุ่มสำนักที่ชื่อว่า “ซีนิก” (Cynic)
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มุ่งเน้นการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย โดยยึดเอาพฤติกรรมของโสกราตีส (Socrates) เป็นต้นแบบ
แต่ตีความแบบสุดโต่ง โดยจะดำเนินชีวิตแบบที่เรียบง่ายแทบไม่มีอะไรเลย
ไดโอจีนีสใช้ชีวิตอยู่ในย่านชุมชนหรือตลาดในเมือง โดยอาศัยอยู่ในถังไม้ที่ใช้บรรจุน้ำมันมะกอก
ไม่ครอบครองสมบัติ เลี้ยงชีพด้วยการขออาหารผู้คนเพื่อความอยู่รอดไปวันๆ
ไดโอจีนีสมีท่าทีที่เยาะเย้ยต่อความคิดความเชื่อของสังคม และบางครั้งก็แสดงอาการที่หยาบคายต่อหน้าผู้คน
เขาเห็นว่าปรัชญาควรจะถูกแสดงออกในรูปแบบของวิถีชีวิตมากกว่าเป็นเพียงการนำเสนอทฤษฎี
ในเรื่องราวของเขาจึงมีคำกล่าวที่เยาะเย้ยถากถางเพลโต (Plato) อยู่สม่ำเสมอ
ด้วยวีรกรรมต่างๆ ของเขา จึงมีการกล่าวว่าเขาเป็น นักปรัชญาผู้ใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัข (Diogenes the Dog)
อย่ายืนบังแสงแดดของข้า
มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่ง พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งมาซีดอน ผ่านมา
พบไดโอจีนีสกำลังนอนอาบแดดอยู่หน้าถังไม้ของตน คิดว่าเป็นขอทานจึงเกิดความรู้สึกสงสาร
จึงตรัสว่า “มีอะไรจะให้ช่วยไหม?”
ไดโอจีนีสครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบไปว่า
“มีซิ! ช่วยหลบไปหน่อย ท่านกำลังยืนบังแสงแดดของข้าฯ”
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ทรงประทับใจกับคำพูดของไดโอจีนีส แล้วตรัสกับองครักษ์ว่า
“ถ้าข้าฯ ไม่ใช่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ข้าฯ ก็จะเป็นอย่างไดโอจีนีส”
ในบางวัน กลางวันแสกๆ ไดโอจีนีสก็เดินถือโคมไฟเดินไปเดินมาในตลาด
จึงมีคนถามเขาว่าเหตุใดท่านจึงมาเดินถือตะเกียงกลางวันแสกๆ เช่นนี้
ไดโอจีนีสจึงกล่าวว่า “เรากำลังมองหามนุษย์ที่แท้จริงอยู่”
ตามความเห็นของไดโอจีนีสเขาเห็นว่า
มนุษย์ในสังคมต่างตกอยู่ภายใต้ความจอมปลอม
และห่างไกลจากธรรมชาติที่แท้จริงของตัวเอง
ไดโอจีนีสกับเพลโต
ครั้งหนึ่งเพลโตนักปราชญาผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค กล่าวดูถูกไดโอจีนีส
ที่กำลังล้างผักกาดหอมเพื่อนำไปเป็นอาหารว่า
“ถ้าท่านนับถือเทพไดโอนิซุส (Dionysus เทพเจ้าแห่งเก็บเกี่ยว)
ท่านคงไม่ต้องมาล้างผักกาดหอมอยู่เช่นนี้” (ไดโอจีนีสไม่ทำมาหากิน)
ไดโอจีนีสตอบกลับไปว่า
“ถ้าท่านล้างผักกาดหอม ท่านก็ไม่ต้องไปบูชาเทพไดโอนิซุสหรอก”
(เป็นการแสดงว่าเขาไม่ยึดติดกับอาหารว่าเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร)
เพลโตเคยนิยามว่ามนุษย์เหมือนกับสัตว์ แต่เป็น "สัตว์สองเท้าที่ไร้ขน"
(biped and featherless – เขาต้องการแยกแยะความแตกต่างของมนุษย์จากสัตว์โดยทั่วไป)
ไดโอจีนีสได้นำไก่ถอนขนไปที่ห้องเรียนของเพลโตแล้วกล่าวแก่เพลโตว่า “นี่ไงมนุษย์ของท่าน”
ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=easywandering&month=07-2011&date=09&group=16&gblog=62
https://www.meekhao.com/history/diogenes-of-sinope
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000058758
....................................................................
สังคมเต็มไปด้วยความอยุติธรรมและเรื่องจอมปลอม
แต่มีบางอย่างที่ทุกคนล้วนมีสิทธิเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่ต้องร้องขอจากใคร
แสงสุดท้าย - bodyslam (for fanclub version)
ในค่ำคืนที่ฟ้าท้าทายใจคน อยู่ตรงนี้
และฉันยังคงก้าวไป
ยัง คงมีรักแท้ เป็นแสงนำไปในคืนที่หลงทาง
และที่ๆ ความฝันนั้นพร้อมเป็นเพื่อนตาย
เส้นทางนี้ ฉันยังมีจุดหมาย
ตราบใดที่ปลายท้องฟ้ามีแสงรำไร
จะไปจนถึงแสงสุดท้าย
https://www.youtube.com/watch?v=BqLhkRaze_k
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 20/4/2018 (ไดโอจีนีส...อย่ายืนบังแสงแดดของข้า)
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
อากาศร้อน แดดเปรี้ยงแบบนี้ ทำให้นึกถึงคำพูดนักปรัชญาชาวกรีกยุคโบราณท่านหนึ่งที่ว่า
“หลบไปหน่อย ขอท่านอย่ายืนบังแสงแดดของข้า !”
ไดโอจีนีส นักปรัชญาผู้ใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัข
ไดโอจีนีส แห่ง ซิโนเพ (Diogenes of Sinope 412 – 323 B.C.) เป็นนักปรัชญาในกลุ่มสำนักที่ชื่อว่า “ซีนิก” (Cynic)
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มุ่งเน้นการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย โดยยึดเอาพฤติกรรมของโสกราตีส (Socrates) เป็นต้นแบบ
แต่ตีความแบบสุดโต่ง โดยจะดำเนินชีวิตแบบที่เรียบง่ายแทบไม่มีอะไรเลย
ไดโอจีนีสใช้ชีวิตอยู่ในย่านชุมชนหรือตลาดในเมือง โดยอาศัยอยู่ในถังไม้ที่ใช้บรรจุน้ำมันมะกอก
ไม่ครอบครองสมบัติ เลี้ยงชีพด้วยการขออาหารผู้คนเพื่อความอยู่รอดไปวันๆ
ไดโอจีนีสมีท่าทีที่เยาะเย้ยต่อความคิดความเชื่อของสังคม และบางครั้งก็แสดงอาการที่หยาบคายต่อหน้าผู้คน
เขาเห็นว่าปรัชญาควรจะถูกแสดงออกในรูปแบบของวิถีชีวิตมากกว่าเป็นเพียงการนำเสนอทฤษฎี
ในเรื่องราวของเขาจึงมีคำกล่าวที่เยาะเย้ยถากถางเพลโต (Plato) อยู่สม่ำเสมอ
ด้วยวีรกรรมต่างๆ ของเขา จึงมีการกล่าวว่าเขาเป็น นักปรัชญาผู้ใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัข (Diogenes the Dog)
อย่ายืนบังแสงแดดของข้า
มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่ง พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งมาซีดอน ผ่านมา
พบไดโอจีนีสกำลังนอนอาบแดดอยู่หน้าถังไม้ของตน คิดว่าเป็นขอทานจึงเกิดความรู้สึกสงสาร
จึงตรัสว่า “มีอะไรจะให้ช่วยไหม?”
ไดโอจีนีสครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบไปว่า
“มีซิ! ช่วยหลบไปหน่อย ท่านกำลังยืนบังแสงแดดของข้าฯ”
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ทรงประทับใจกับคำพูดของไดโอจีนีส แล้วตรัสกับองครักษ์ว่า
“ถ้าข้าฯ ไม่ใช่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ข้าฯ ก็จะเป็นอย่างไดโอจีนีส”
ในบางวัน กลางวันแสกๆ ไดโอจีนีสก็เดินถือโคมไฟเดินไปเดินมาในตลาด
จึงมีคนถามเขาว่าเหตุใดท่านจึงมาเดินถือตะเกียงกลางวันแสกๆ เช่นนี้
ไดโอจีนีสจึงกล่าวว่า “เรากำลังมองหามนุษย์ที่แท้จริงอยู่”
ตามความเห็นของไดโอจีนีสเขาเห็นว่า มนุษย์ในสังคมต่างตกอยู่ภายใต้ความจอมปลอม
และห่างไกลจากธรรมชาติที่แท้จริงของตัวเอง
ไดโอจีนีสกับเพลโต
ครั้งหนึ่งเพลโตนักปราชญาผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค กล่าวดูถูกไดโอจีนีส
ที่กำลังล้างผักกาดหอมเพื่อนำไปเป็นอาหารว่า
“ถ้าท่านนับถือเทพไดโอนิซุส (Dionysus เทพเจ้าแห่งเก็บเกี่ยว)
ท่านคงไม่ต้องมาล้างผักกาดหอมอยู่เช่นนี้” (ไดโอจีนีสไม่ทำมาหากิน)
ไดโอจีนีสตอบกลับไปว่า
“ถ้าท่านล้างผักกาดหอม ท่านก็ไม่ต้องไปบูชาเทพไดโอนิซุสหรอก”
(เป็นการแสดงว่าเขาไม่ยึดติดกับอาหารว่าเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร)
เพลโตเคยนิยามว่ามนุษย์เหมือนกับสัตว์ แต่เป็น "สัตว์สองเท้าที่ไร้ขน"
(biped and featherless – เขาต้องการแยกแยะความแตกต่างของมนุษย์จากสัตว์โดยทั่วไป)
ไดโอจีนีสได้นำไก่ถอนขนไปที่ห้องเรียนของเพลโตแล้วกล่าวแก่เพลโตว่า “นี่ไงมนุษย์ของท่าน”
ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=easywandering&month=07-2011&date=09&group=16&gblog=62
https://www.meekhao.com/history/diogenes-of-sinope
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000058758
....................................................................
สังคมเต็มไปด้วยความอยุติธรรมและเรื่องจอมปลอม
แต่มีบางอย่างที่ทุกคนล้วนมีสิทธิเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่ต้องร้องขอจากใคร
แสงสุดท้าย - bodyslam (for fanclub version)
ในค่ำคืนที่ฟ้าท้าทายใจคน อยู่ตรงนี้
และฉันยังคงก้าวไป
ยัง คงมีรักแท้ เป็นแสงนำไปในคืนที่หลงทาง
และที่ๆ ความฝันนั้นพร้อมเป็นเพื่อนตาย
เส้นทางนี้ ฉันยังมีจุดหมาย
ตราบใดที่ปลายท้องฟ้ามีแสงรำไร
จะไปจนถึงแสงสุดท้าย
https://www.youtube.com/watch?v=BqLhkRaze_k