แบคทีเรียสังเคราะห์แสง


ปัจจุบันเกษตรกรไทยได้เพาะเลี้ยงแบคทีเรียสังเคราะห์แสงด้วยวิธีง่าย ๆ เพื่อใช้บำรุงพืชผัก ผลไม้ และใช้บำบัดของเสียในบ่อปลา, บ่อกุ้ง กันมากขึ้น

แบคทีเรียสังเคราะห์แสงถูกนำมาใช้บำบัดน้ำเสียจากอตุสาหกรรมในประเทศญีปุ่นเมื่อราว 60 ปีมาแล้ว เนื่องจากมีคุณสมบัติสามารถย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียโดยไม่ดึงออกซิเจนในน้ำไปใช้เหมือนบรรดาจุลินทรีย์ย่อยสลายตัวอื่น ๆ

ปัจจุบันเกษตรกรในประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีนได้มีการใช้แบคทีเรียสังเคราะห์แสงช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรกันอย่างแพร่หลาย ส่วนใหญ่ใช้ในการบำบัดของเสียในการเลี้ยงสัตว์น้ำ และใช้ผสมอาหารสัตว์เพื่อให้โปรตีน

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่ากรดอมิโนตัวหนึ่งในแบคทีเรียสังเคราะห์แสง (5-aminolevulinic acid) มีคุณสมบัติเป็นฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นให้ใบพืชสร้างคลอโรฟิลด์ได้เพิ่มขึ้นทำให้มีผลผลิตมากขึ้นโดยใช้ปุ๋ยเท่าเดิม ฮอร์โมนตัวนี้ยังช่วยให้พืชแข็งแรง มีความต้านทั้งโรคและแมลง ทนสภาพอากาศหนาวหรือร้อน และทนต่อสภาพดินเค็มได้ดีกว่าปกติ

แก้ไข ลิงค์ที่ให้ไว้เปลี่ยนแปลงแอดเดรส โปรดเสริซกูเกิ้ล 5-Aminolevulinic acid methyl ester hydrochloride - Alibaba
https://www.tandfonline.com/doi/abs/10.1271/bbb.61.2025
http://rdo.psu.ac.th/sjst…/journal/…/24-04-2002-717-726.pdf

ได้มีการสกัด/สังเคราะห์สาร 5-aminolevulinic acid ขึ้นเพื่อทางการค้าในต่างประเทศ

https://www.alibaba.com/…/5--aminolevulinic-acid-hydrochlor…
http://www.plantgrowthhormones.com/…/plant-growth-regulator…

มีการนำเข้ามาบรรจุแค๊ปซูลขายให้เกษตรกร โดยอ้างว่าหนึ่งแค๊ปซูลเท่ากับปุ๋ยเคมีสองกระสอบ ชาวไร่-ชาวนาบ้านเอาไปใช้ผสมน้ำฉีดพ่นพืชไร๋โดยไม่ใส่ปุ๋ย ปีแรกอาจได้ผลดี พอปีต่อ ๆ ไป ผลผลิตลดลง เมื่อสองปีที่แล้วทางการเอาไปตรวจสอบส่วนประกอบทางเคมีไม่พบธาตุอาหารที่เป็นปุ๋ยจึงเกิดเป็นคดีความกันขึ้นมา

สรุปแล้วจะใช้แบคทีเรียสังเคราะห์แสงโดยตรง หรือใช้ฮอร์โมน 5-aminolevulinic acid (ALA) กับพืช เพื่อให้ได้ผลยั่งยืนยังต้องใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยเคมีอยู่ แต่ใช้ในปริมาณที่น้อยลงโดยยังได้ผลผลิตมากเท่าเดิม หรือใช้ปุ๋ยเท่าเดิมแต่ได้ผลผลิตมากขึ้นได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่