
ใกล้เปิดเทอมเข้ามาทุกที คงทำให้คุณพ่อคุณแม่บางท่านที่มีลูกเรียนอยู่ในสถาบันต่างๆ เริ่มมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าหนังสือ อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี นี่ยังไม่นับรวมกับค่าใช้จ่ายส่วนตัวของลูก คงทำให้บางท่านถึงขนาดต้องกุมขมับกันเลยทีเดียว และยิ่งหากบ้านไหนที่มีเหตุให้ไม่สามารถหาเงินได้ทันก็คงต้องหาแหล่งเงินกู้จากที่ต่างๆ
วันนี้
K-Expert จึงอยากที่จะมาให้ข้อมูลแหล่งเงินทุนใกล้ตัว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่ในช่วงที่เงินขาดมือกันครับ
การหาแหล่งเงินจาก ประกันชีวิต โดยเฉพาะ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ แบบตลอดชีพ หรือแบบบำนาญ ที่คุณพ่อคุณแม่ทำเอาไว้ ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถใช้ในการกู้ได้ แต่ประกันที่ทำนั้น ส่วนใหญ่ต้องชำระเบี้ยตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป จึงจะมีมูลค่าเงินสด ที่สามารถกู้มาใช้จ่ายยามจำเป็นได้
โดยดอกเบี้ยที่ต้องชำระ มักจะสูงกว่าหน้ากรมธรรม์ 2-3 % ต่อปี ขึ้นอยู่กับแบบประกันและบริษัทประกัน เช่น อัตราดอกเบี้ยหน้ากรมธรรม์อยู่ที่ 4% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมกรมธรรม์จะอยู่ที่ประมาณ 6% ต่อปีเป็นต้น
การหาแหล่งเงินจาก โรงรับจำนำ ถือเป็นแหล่งเงินที่คนส่วนใหญ่มักเลือกใช้ ซึ่งโรงรับจำนำ มีทั้งของรัฐบาล ของกรุงเทพมหานคร รวมถึงของเอกชน การจำนำจะเป็นการนำของมีมาเป็นหลักประกันเช่น เพชร ทอง นาก ฯลฯ มาจำนำไว้กับโรงรับจำนำเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสด โดยคนจำนำต้องส่งดอกเบี้ยให้กับคนโรงรับจำนำก่อนครบกำหนด
ดอกเบี้ยจ่ายนั้นจะคิดจากเงินต้น ซึ่งโดยทั่วไปเงินต้น 2,000 บาทแรกจะมีดอกเบี้ย 2% ต่อเดือน (ประมาณ 24% ต่อปี) ส่วนที่เกิน 2,000 บาท จะมีดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน (ประมาณ 15% ต่อปี) ซึ่งการรับจำนำแต่ละครั้งมีระยะเวลา 4 เดือน 30 วัน หรือประมาณ 5 เดือน หรือนานกว่า ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อตกลงของโรงรับจำนำแต่ละแห่ง นอกจากนี้ ในช่วงเปิดเทอมส่วนใหญ่โรงรับจำนำจะมีโปรโมชั่นเพื่อช่วยเหลือนักเรียนและผู้ปกครองซึ่งสามารถสอบถามก่อนไปใช้บริการ
การหาแหล่งเงินจาก บัตรกดเงินสด บัตรกดเงินสดจะไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ แม้ผู้สมัครไม่ใช้บัตรก็ตาม โดยสำหรับกรณีฉุกเฉินหากเงินที่มีอยู่ไม่สามารถชำระค่าเทอม หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ บัตรกดเงินสดก็ถือเป็นทางออกหนึ่งที่สามารถทำได้
แต่จะมีดอกเบี้ยที่สูงแต่จะไม่เกิน 28% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับปริมาณเงินที่กดออกมาใช้จ่ายและสถาบันการเงินที่เลือกใช้บริการ
การหาแหล่งเงินจาก บัตรเครดิต สำหรับกรณีชำระ ค่าเทอม ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าหนังสือ หรือชุดนักเรียน หากสถาบันการศึกษาหรือร้านค้า รับชำระด้วยบัตรเครดิต จะเป็นการช่วยคุณพ่อคุณแม่ทางหนึ่ง ในการยืดเวลาในการชำระออกไปได้อย่างน้อยอีก 45-55 วัน (ขึ้นอยู่กับบริษัทเจ้าของบัตรเครดิต) แต่หากสถาบันการศึกษาหรือร้านค้าที่ต้องการซื้อไม่รับชำระด้วยบัตรเครดิต หากตัดสินใจใช้บัตรเครดิตในการกดเงินสด จะมีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดจากบัตรเครดิต 3% ของจำนวนเงินที่เบิกถอนออกมาใช้ นอกจากนี้ยังมีดอกเบี้ยจ่าย 18 % ต่อปี โดยจะเกิดขึ้นทันทีที่กดเงินสด (ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงิน)

แม้จะเป็นแหล่งเงินทุนใกล้ตัว แต่เมื่อต้องการใช้ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาเสมอ การวางแผนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น และเตรียมกันเงินไว้ล่วงหน้าสำหรับค่าการศึกษาของลูก จะช่วยทำให้ภาระดังกล่าวลดน้อยลงได้ หากเพื่อนๆ ท่านอื่นมีแนวทาง หรือวิธีการอื่นๆ สามารถมาช่วยกันแบ่งปันข้อมูลได้เลยนะครับ
หลากหลายตัวช่วย! ยามเงินขาดมือช่วงเปิดเทอม
ใกล้เปิดเทอมเข้ามาทุกที คงทำให้คุณพ่อคุณแม่บางท่านที่มีลูกเรียนอยู่ในสถาบันต่างๆ เริ่มมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าหนังสือ อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี นี่ยังไม่นับรวมกับค่าใช้จ่ายส่วนตัวของลูก คงทำให้บางท่านถึงขนาดต้องกุมขมับกันเลยทีเดียว และยิ่งหากบ้านไหนที่มีเหตุให้ไม่สามารถหาเงินได้ทันก็คงต้องหาแหล่งเงินกู้จากที่ต่างๆ
วันนี้ K-Expert จึงอยากที่จะมาให้ข้อมูลแหล่งเงินทุนใกล้ตัว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่ในช่วงที่เงินขาดมือกันครับ
การหาแหล่งเงินจาก ประกันชีวิต โดยเฉพาะ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ แบบตลอดชีพ หรือแบบบำนาญ ที่คุณพ่อคุณแม่ทำเอาไว้ ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถใช้ในการกู้ได้ แต่ประกันที่ทำนั้น ส่วนใหญ่ต้องชำระเบี้ยตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป จึงจะมีมูลค่าเงินสด ที่สามารถกู้มาใช้จ่ายยามจำเป็นได้
โดยดอกเบี้ยที่ต้องชำระ มักจะสูงกว่าหน้ากรมธรรม์ 2-3 % ต่อปี ขึ้นอยู่กับแบบประกันและบริษัทประกัน เช่น อัตราดอกเบี้ยหน้ากรมธรรม์อยู่ที่ 4% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมกรมธรรม์จะอยู่ที่ประมาณ 6% ต่อปีเป็นต้น
การหาแหล่งเงินจาก โรงรับจำนำ ถือเป็นแหล่งเงินที่คนส่วนใหญ่มักเลือกใช้ ซึ่งโรงรับจำนำ มีทั้งของรัฐบาล ของกรุงเทพมหานคร รวมถึงของเอกชน การจำนำจะเป็นการนำของมีมาเป็นหลักประกันเช่น เพชร ทอง นาก ฯลฯ มาจำนำไว้กับโรงรับจำนำเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสด โดยคนจำนำต้องส่งดอกเบี้ยให้กับคนโรงรับจำนำก่อนครบกำหนด
ดอกเบี้ยจ่ายนั้นจะคิดจากเงินต้น ซึ่งโดยทั่วไปเงินต้น 2,000 บาทแรกจะมีดอกเบี้ย 2% ต่อเดือน (ประมาณ 24% ต่อปี) ส่วนที่เกิน 2,000 บาท จะมีดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน (ประมาณ 15% ต่อปี) ซึ่งการรับจำนำแต่ละครั้งมีระยะเวลา 4 เดือน 30 วัน หรือประมาณ 5 เดือน หรือนานกว่า ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อตกลงของโรงรับจำนำแต่ละแห่ง นอกจากนี้ ในช่วงเปิดเทอมส่วนใหญ่โรงรับจำนำจะมีโปรโมชั่นเพื่อช่วยเหลือนักเรียนและผู้ปกครองซึ่งสามารถสอบถามก่อนไปใช้บริการ
การหาแหล่งเงินจาก บัตรกดเงินสด บัตรกดเงินสดจะไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ แม้ผู้สมัครไม่ใช้บัตรก็ตาม โดยสำหรับกรณีฉุกเฉินหากเงินที่มีอยู่ไม่สามารถชำระค่าเทอม หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ บัตรกดเงินสดก็ถือเป็นทางออกหนึ่งที่สามารถทำได้
แต่จะมีดอกเบี้ยที่สูงแต่จะไม่เกิน 28% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับปริมาณเงินที่กดออกมาใช้จ่ายและสถาบันการเงินที่เลือกใช้บริการ
การหาแหล่งเงินจาก บัตรเครดิต สำหรับกรณีชำระ ค่าเทอม ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าหนังสือ หรือชุดนักเรียน หากสถาบันการศึกษาหรือร้านค้า รับชำระด้วยบัตรเครดิต จะเป็นการช่วยคุณพ่อคุณแม่ทางหนึ่ง ในการยืดเวลาในการชำระออกไปได้อย่างน้อยอีก 45-55 วัน (ขึ้นอยู่กับบริษัทเจ้าของบัตรเครดิต) แต่หากสถาบันการศึกษาหรือร้านค้าที่ต้องการซื้อไม่รับชำระด้วยบัตรเครดิต หากตัดสินใจใช้บัตรเครดิตในการกดเงินสด จะมีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดจากบัตรเครดิต 3% ของจำนวนเงินที่เบิกถอนออกมาใช้ นอกจากนี้ยังมีดอกเบี้ยจ่าย 18 % ต่อปี โดยจะเกิดขึ้นทันทีที่กดเงินสด (ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงิน)
แม้จะเป็นแหล่งเงินทุนใกล้ตัว แต่เมื่อต้องการใช้ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาเสมอ การวางแผนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น และเตรียมกันเงินไว้ล่วงหน้าสำหรับค่าการศึกษาของลูก จะช่วยทำให้ภาระดังกล่าวลดน้อยลงได้ หากเพื่อนๆ ท่านอื่นมีแนวทาง หรือวิธีการอื่นๆ สามารถมาช่วยกันแบ่งปันข้อมูลได้เลยนะครับ