สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เท่าที่เคยอ่านเจอนะครับ
1. การตัด Jack 3.5 มม.ออกไป เพื่อให้ระบบกันน้ำกันฝุ่น (IP standard) ของเครื่องทำได้ง่ายขึ้น
พูดง่าย ๆ คือ ทำให้เครื่องได้ IP class ที่สูงขึ้น โดยออกแบบง่าย และ ใช้ต้นทุนต่ำลง
2. บางแบรนด์ต้องการผลักดันให้ผู้ใช้เข้าสู่เทคโนโลยีที่ควรจะก้าวไป เช่น หูฟัง Bluetooth
3. ทำให้ตัวเครื่องเรียบหรูขึ้น
(ส่วนตัวผม โคตรเกลียดเลยหากเครื่องใหนไม่มี Jack 3.5 มม.)
1. การตัด Jack 3.5 มม.ออกไป เพื่อให้ระบบกันน้ำกันฝุ่น (IP standard) ของเครื่องทำได้ง่ายขึ้น
พูดง่าย ๆ คือ ทำให้เครื่องได้ IP class ที่สูงขึ้น โดยออกแบบง่าย และ ใช้ต้นทุนต่ำลง
2. บางแบรนด์ต้องการผลักดันให้ผู้ใช้เข้าสู่เทคโนโลยีที่ควรจะก้าวไป เช่น หูฟัง Bluetooth
3. ทำให้ตัวเครื่องเรียบหรูขึ้น
(ส่วนตัวผม โคตรเกลียดเลยหากเครื่องใหนไม่มี Jack 3.5 มม.)
สมาชิกหมายเลข 3788874 ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 1476906 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 837107 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1109979 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5434501 ถูกใจ, นายหัวไข่ ถูกใจ, BikerMan ถูกใจ, puylogin ถูกใจ, musicstyle1969 ซึ้ง, argu ถูกใจรวมถึงอีก 1 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ทำไม หลายแบรนด์มือถือต้องตัดช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม ไปครับ เกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตรึเปล่า?
เรือธงรุ่นใหม่แบรนด์ใหญ่ๆของโลกตอนนี้ไม่มีช่อง
เสียบหูฟัง 3.5 mm แล้ว ตอนนี้เหลือแค่ OnePlus
กับซัมซุงเองมั้งที่ยังมีอยู่ ผมสงสัยว่าตัดช่องนี้ไปแล้ว
ทำให้มีอะไรดีขึ้นเหรอครับ ส่วนตัวรู้สึกว่าลำบากคน
ใช้ต้องคอยพกตัวแปลง หายไปก็ลำบากเสียตังซื้อใหม่ อยากได้ดีๆก็ 5-6 ร้อย
สำคัญเลยคือผมสงสัยว่าคุณภาพเสียงมันตกไปรึเปล่า
พอฟังผ่าน type c แล้ว วันนี้ผมลองเอาหูฟังต่อผ่าน
Adapter ของ Google ที่แถมมากับ pixel 2 ลองเอาไป
ต่อฟังเพลงผ่านช่อง type c ของ S9 ลองเทียบคุณภาพเสียงกับตอนต่อเข้ารูหูฟังตรงๆ คุณภาพเสียงสู้ไม่ได้
เสียงเบากว่าราวๆ20% ด้วย ผมเป็นคนชอบฟังเพลง
ไม่ชอบเลยแบบนี้ สงสัยว่าทำไมถึงต้องตัดช่องเสียบ
หูฟังทิ้งด้วยครับ มันทำให้ได้ประโยชน์อะไรมากขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้