เรื่องมันมีอยู่ว่าเราและครอบครัวเดินทางไปญี่ปุ่นลงนาริตะ โดยเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง ตอนเช็คอินก็ปกติยื่นพาสปอร์ท แล้วเค้าก็คีย์ๆอะไรสักพัก เหมือนยังเด็กหรือไม่คล่องหรือไง แล้วเค้าก็หันไปถามพนง.ผู้หญิงอีกคน เราก็แบบถามรีเช็คเผื่อว่า กระเป๋าถึงนาริตะเลยนะคะ พนักงานผู้ชายเช็คอินก็บอกไม่แน่ใจว่าต้องเช็คอินอีกรอบรึป่าวครับ เราก็งงๆปกติไม่ได้เช็คทรูให้หรอ
พอตอนเครื่องแลนด์ถึงฮ่องกง ก็มีกราวสตาฟฮ่องกงชูป้ายชื่อครอบครัวเรา แล้วบอกให้เดินตามไป เราก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าบอกเดี๋ยวจะพาไปเช็คอิน เราก็ถามอีกว่ามีแค่ครอบครัวเราสามคนหรอ เค้าบอกใช่ เอ้า! ทำไมหวยมาตกที่เรางี้อะ แต่เรื่องนี้พอรับได้ เพราะเวลาเราเหลือและเจ้าหน้าที่ที่ฮ่องกงบริการใส่ใจและสุภาพ
แต่เรื่องที่รับไม่ได้มากๆๆๆๆๆคือ
เมื่อเราแลนด์ถึงนาริตะ เดินไปเอากระเป๋าที่สายพาน มีพนักงานผู้ชายญี่ปุ่นชูป้ายชื่อครอบครัวเรา(อีกแล้ว) แจ้งว่ากระเป๋าเราไม่ได้มาพร้อมไฟลท์นั้น ต้องรอไปอีก พร้อมขอโทษขอโพยยกใหญ่

คือเรื่องมันวุ่ยวายกว่านั้นมาก เราถึง NRT ประมาณ 14.15 แล้วรถไฟที่ต้องนั่งไป(ใช้JR all pass) รอบสุดท้ายของรูทเราคือ 15.47 แต่กระเป๋ามาถึงห้าโมงกว่า บ้าป่ะ ทำไมสะเพร่าขนาดนี้อะ รอตั้งกี่ชั่วโมง แล้วแพลนมันก็ต้องเลื่อนไปเรื่อยๆ ระหว่างที่รอนั้นคือต้องขอชมพนง.ญี่ปุ่นคือทำทุกอย่างให้ ตามเรื่อง หารอบรถไฟให้ ฯลฯ
พอตอนกลับถึงสุวรรณภูมิตั้งใจไว้ว่าจะไปคุยกับพนง.ที่เช็คอินแต่สุดท้ายก็ลืม ไฟลท์ถึง 04.00แล้วเช้าวันนั้นต้องไปทำงานต่อ มานึกถึงก็เซ็งทุกที ว่าจะไม่เขียนด่าแล้ว ทนไม่ได้จริงๆ วิ่งเป็นคนบ้าเลยวันนั้น ไม่ใช่แค่เราแต่แม่เราต้องมาวิ่งด้วย หงุดหงิดมาก ทั้งเสียเวลา เสียเงิน และเสียความรู้สึกจริงๆ
กราวด์สตาฟ Hongkong Airlines ไม่ได้เข้ารับการเทรนมาก่อนหรอคะ
พอตอนเครื่องแลนด์ถึงฮ่องกง ก็มีกราวสตาฟฮ่องกงชูป้ายชื่อครอบครัวเรา แล้วบอกให้เดินตามไป เราก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าบอกเดี๋ยวจะพาไปเช็คอิน เราก็ถามอีกว่ามีแค่ครอบครัวเราสามคนหรอ เค้าบอกใช่ เอ้า! ทำไมหวยมาตกที่เรางี้อะ แต่เรื่องนี้พอรับได้ เพราะเวลาเราเหลือและเจ้าหน้าที่ที่ฮ่องกงบริการใส่ใจและสุภาพ
แต่เรื่องที่รับไม่ได้มากๆๆๆๆๆคือ
เมื่อเราแลนด์ถึงนาริตะ เดินไปเอากระเป๋าที่สายพาน มีพนักงานผู้ชายญี่ปุ่นชูป้ายชื่อครอบครัวเรา(อีกแล้ว) แจ้งว่ากระเป๋าเราไม่ได้มาพร้อมไฟลท์นั้น ต้องรอไปอีก พร้อมขอโทษขอโพยยกใหญ่
คือเรื่องมันวุ่ยวายกว่านั้นมาก เราถึง NRT ประมาณ 14.15 แล้วรถไฟที่ต้องนั่งไป(ใช้JR all pass) รอบสุดท้ายของรูทเราคือ 15.47 แต่กระเป๋ามาถึงห้าโมงกว่า บ้าป่ะ ทำไมสะเพร่าขนาดนี้อะ รอตั้งกี่ชั่วโมง แล้วแพลนมันก็ต้องเลื่อนไปเรื่อยๆ ระหว่างที่รอนั้นคือต้องขอชมพนง.ญี่ปุ่นคือทำทุกอย่างให้ ตามเรื่อง หารอบรถไฟให้ ฯลฯ
พอตอนกลับถึงสุวรรณภูมิตั้งใจไว้ว่าจะไปคุยกับพนง.ที่เช็คอินแต่สุดท้ายก็ลืม ไฟลท์ถึง 04.00แล้วเช้าวันนั้นต้องไปทำงานต่อ มานึกถึงก็เซ็งทุกที ว่าจะไม่เขียนด่าแล้ว ทนไม่ได้จริงๆ วิ่งเป็นคนบ้าเลยวันนั้น ไม่ใช่แค่เราแต่แม่เราต้องมาวิ่งด้วย หงุดหงิดมาก ทั้งเสียเวลา เสียเงิน และเสียความรู้สึกจริงๆ