เคยมั้ยคะ แบบบ้างาน อยากให้งานออกมาดี อยากให้งานส่งทันลูกค้า ทำงาน อดหลับอดนอนหลายวัน
กลางวันประชุม กลางคืนลงงานโพสต์ในยูทรูฟในโซเชี่ยล ชอบทำงานกลางคืน เพราะคิดว่าเงียบสงบดี มีสมาธิมากกว่า (คิดไปเอง)
ตอนนั้นก็คิดแค่ว่าทำงาน+หาเงินเยอะๆ แต่พอเกิดเหตุกาณ์ขับรถชนบ้านตัวเอง ทำให้คิดได้หลายอย่าง
วันนั้นออกจากบ้านเช้ากลับจากประชุมถึงบ้านก็เย็นแล้ว ขับรถถึงบ้านลงมาเปิดประตูบ้าน
แต่จังหวะเข้าจอด คือทำไมเรากลับเหมือนเหยียบพุ่งเข้าบ้าน
จนตอนนี้ก็ยัง งง กับตัวเอง คือ ถามตัวเองหลายครั้ง แต่ก็นึกไม่ออก ว่าเกิดอะไรขึ้น พยายามนึกก็ยังตอบตัวเองไม่ได้เลยว่า วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น
จำได้ตอนลงมาเปิดประตูบ้าน ก็ขับเข้ามาโรงจอดรถดีๆ แต่ว่าทำไมจังหวะ มันถึงพุ่งเหมือนเราเหยียบมาเร็ว เราจำได้ว่า เราจอดรถแล้วนะ
แต่ว่าทำไมกลายเป็นว่าเราเหยียบคันเร่งพุ่งเข้าบ้าน
รู้อีกที คือได้ยินเสียงเพื่อนบ้านวิ่งมาดูในบ้าน เค้าบอกเสียงมันดังสนั่นหวั่นไหวมาก
เราไม่รู้ว่ามันดังแค่ไหน ถึงขนาดทำให้เพื่อนบ้านวิ่งมาดูได้ แต่เพื่อนบ้านบอกว่า เสียงดังเหมือนหม้อไฟระเบิด
ยังคิดเลยว่าชนประสานรถด้วยกันข้างนอก แรงชนถึงขนาดทำให้หม้อน้ำแตกได้ มันจะร้ายแรงแค่ไหน
ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านพูดคุยกันข้างๆรถเรา พอตั้งสติได้ เพราะหายจุกแล้ว แต่ยังรู้สึกชาๆที่มือและเท้า
รู้สึกได้ถึงแรงเหวี่ยง มือที่จับพวงมาลัยสบัดออกจนเจ็บข้อมือ เจ็บหน้าอกไปกระแทกพวงมาลัย ตอนลงมาเปิดประตูบ้าน
ขึ้นมาขับเข้าบ้านไม่ได้คาดเข็มขัด
เพราะแรงอัดของพวงมาลัย แรงกระแทกอัดกับพื้นต่างระดับ ทำให้รถเด้งกลับ และเครื่องยนต์ก็ดับเองอัตโนมัติ
ได้สติเปิดประตูลงมาดูรถ เห็นน้ำไหลเป็นทางออกจากตัวรถ ฝากระโปรงหน้าหลุดพังยับเยิน แอร์พัง กระจกไฟตัดหมอกหลุดกระเด็นออกมาแตกหมด
คือต้องยกเครื่องใหม่ทั้งหมด พื้นกระเบื้อง แค่เปิดออกหลุดกระเด็นมาครึ่งแผ่น แต่สภาพรถดูไม่ได้เลย
ช่างยังบอกเลยว่า ดีนะตอนชน โดนส่วนที่แข็งแรงที่สุดชน เค้าบอกว่าตรงช่วงรอยต่อที่ยึดกับล้อ เหล็กมันเบี้ยว ต้องงัดดึงให้เข้ารูป (เรียกไม่ถูกว่าอะไรช่างบอกแต่ลืมแล้ว)
ถ้าไม่มีพื้นต่างระดับ ที่ยกขึ้นสูงเป็นขั้นบันไดก่อนถึงตัวบ้าน ถ้าไม่มีพื้นตัวนี้ช่วย รถต้องพุ่งเข้ากระจกทะลุเข้าไปถึงในบ้านแน่นอน
แต่เพราะพื้นมันสูง ทำให้แรงกระแทกของรถเด้งกลับ และเครื่องก็ดับไปเอง
ทุกวันนี้ยังนึกภาพไม่ออกเลยเลยว่า เราทำยังไงถึงพุ่งชนได้ คือพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
แต่ยืนยันว่า เรามีสติทุกอย่าง รู้ว่าง่วงนอนมาก รู้กระทั่งตอนลงมาเปิดประตูบ้าน เพื่อขับไปจอดที่โรงจอดรถ
แล้วมันหลอน คือ เราไม่กล้าจับรถ กลัวแม้กระทั่งจะจับกุญแจรถไปสตาร์ท ประตูรถก็ไม่กล้าเปิด
ปกติก็เคยเฉี่ยวชนกันบนท้องถนนบ่อยๆ แต่ไม่เคยรู้สึกว่าจะ น่ากลัว อะไรมากมายเช่นนี้
แต่ชนในบ้านตัวเอง มันกลัว มองพื้นที่ชนก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ในใจ กลายเป็นขาดความมั่นใจในการขับรถ คือเหมือนสมองจะสั่งการสับสน
ย้ำคิดย้ำทำว่า เหยีบบเบรคหรือยัง เข้าเกียร์อะไรอยู่ จากเมื่อก่อนขับยังไงก็ดูมั่นใจไปหมด แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม กลายเป็นกลัวไปหมด
ใครเคยมีประสบการณ์เลวร้ายในการขับรถบ้าง แล้วทำยังไงถึงจะลืมภาพน่ากลัว แล้วกลับมามั่นใจเหมือนเดิม ต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน
สภาพจิตใจถึงจะกลับมาปกติ ดีเหมือนเดิม ปกติก็ขับเหยียบประมาณ 120 -140+ แต่ตอนนี้เหลือแค่ 100-120
เพราะทุกวันนี้แค่ขับรถขึ้นห้าง ขึ้นตึกหลายๆชั้นก็ขาสั่น มือสั่น ใจกลัวไปหมด สมองเราจะย้ำตลอดว่าเหยียบเกียร์อะไรอยู่ ขาเหยียบถูกมั้ย
คือมันสับสน
แล้วรถเวลาขับรถตอนฝนตก เมื่อถึงสะพาน พอขับมาเร็วขึ้นสะพาน ตอนขับลงสะพานต่างระดับ ทำไมมันชอบเหมือนรถ มันเหินบนอากาศ
พอลงพื้นมันเหมือนรถจะแฉลบคล้ายจะข้ามไปอีกเลน หรือไม่ก็เหมือนจะหลุดโค้งออกข้าง แล้วพอเราขับมาเร็วๆเจอแอ่งน้ำ แต่พอเราเหยียบเบรค
รถสั่น เหมือนพวงมาลัยมันสั่นไปด้วย เหมือนรถเราลอยอยู่ในน้ำ ได้ยินแต่เสียงน้ำใต้ท้องรถแต่รถมันสั่นคล้ายจะคว่ำ
มีคนบอกว่า ถ้าขับรถเจอพวกตัดหน้ากระชั้นชิด ให้เราเหยียบเบรคแล้วปล่อย คือ ให้ เหยียบปล่อยๆ ไม่ใช่เหยียบแช่ยาว
แต่มันกระชั้นชิด เหยียบปล่อยๆไม่ได้ ส่วนมากจะเหยียบแช่ยาวจนรถมันหยุดไม่ได้ต้องปะทะ
ส่วนมากยังไม่เคยเจอที่เหยียบเผื่อระยะ ส่วนมากจะเจอแบบกระชั้นชิดแล้วต้องเหยียบเบรคยาว แต่ไม่พ้นต้อง ปะทะอยู่ดี
เลยอยากรู้ว่าเหยียบเบรคแบบไหนให้มันมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเบรค
งงกับตัวเอง อดหลับหลายวันขับรถพุ่งเข้าชนพื้นต่างระดับในบ้าน ผลหม้อน้ำแตก
กลางวันประชุม กลางคืนลงงานโพสต์ในยูทรูฟในโซเชี่ยล ชอบทำงานกลางคืน เพราะคิดว่าเงียบสงบดี มีสมาธิมากกว่า (คิดไปเอง)
ตอนนั้นก็คิดแค่ว่าทำงาน+หาเงินเยอะๆ แต่พอเกิดเหตุกาณ์ขับรถชนบ้านตัวเอง ทำให้คิดได้หลายอย่าง
วันนั้นออกจากบ้านเช้ากลับจากประชุมถึงบ้านก็เย็นแล้ว ขับรถถึงบ้านลงมาเปิดประตูบ้าน
แต่จังหวะเข้าจอด คือทำไมเรากลับเหมือนเหยียบพุ่งเข้าบ้าน
จนตอนนี้ก็ยัง งง กับตัวเอง คือ ถามตัวเองหลายครั้ง แต่ก็นึกไม่ออก ว่าเกิดอะไรขึ้น พยายามนึกก็ยังตอบตัวเองไม่ได้เลยว่า วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น
จำได้ตอนลงมาเปิดประตูบ้าน ก็ขับเข้ามาโรงจอดรถดีๆ แต่ว่าทำไมจังหวะ มันถึงพุ่งเหมือนเราเหยียบมาเร็ว เราจำได้ว่า เราจอดรถแล้วนะ
แต่ว่าทำไมกลายเป็นว่าเราเหยียบคันเร่งพุ่งเข้าบ้าน
รู้อีกที คือได้ยินเสียงเพื่อนบ้านวิ่งมาดูในบ้าน เค้าบอกเสียงมันดังสนั่นหวั่นไหวมาก
เราไม่รู้ว่ามันดังแค่ไหน ถึงขนาดทำให้เพื่อนบ้านวิ่งมาดูได้ แต่เพื่อนบ้านบอกว่า เสียงดังเหมือนหม้อไฟระเบิด
ยังคิดเลยว่าชนประสานรถด้วยกันข้างนอก แรงชนถึงขนาดทำให้หม้อน้ำแตกได้ มันจะร้ายแรงแค่ไหน
ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านพูดคุยกันข้างๆรถเรา พอตั้งสติได้ เพราะหายจุกแล้ว แต่ยังรู้สึกชาๆที่มือและเท้า
รู้สึกได้ถึงแรงเหวี่ยง มือที่จับพวงมาลัยสบัดออกจนเจ็บข้อมือ เจ็บหน้าอกไปกระแทกพวงมาลัย ตอนลงมาเปิดประตูบ้าน
ขึ้นมาขับเข้าบ้านไม่ได้คาดเข็มขัด
เพราะแรงอัดของพวงมาลัย แรงกระแทกอัดกับพื้นต่างระดับ ทำให้รถเด้งกลับ และเครื่องยนต์ก็ดับเองอัตโนมัติ
ได้สติเปิดประตูลงมาดูรถ เห็นน้ำไหลเป็นทางออกจากตัวรถ ฝากระโปรงหน้าหลุดพังยับเยิน แอร์พัง กระจกไฟตัดหมอกหลุดกระเด็นออกมาแตกหมด
คือต้องยกเครื่องใหม่ทั้งหมด พื้นกระเบื้อง แค่เปิดออกหลุดกระเด็นมาครึ่งแผ่น แต่สภาพรถดูไม่ได้เลย
ช่างยังบอกเลยว่า ดีนะตอนชน โดนส่วนที่แข็งแรงที่สุดชน เค้าบอกว่าตรงช่วงรอยต่อที่ยึดกับล้อ เหล็กมันเบี้ยว ต้องงัดดึงให้เข้ารูป (เรียกไม่ถูกว่าอะไรช่างบอกแต่ลืมแล้ว)
ถ้าไม่มีพื้นต่างระดับ ที่ยกขึ้นสูงเป็นขั้นบันไดก่อนถึงตัวบ้าน ถ้าไม่มีพื้นตัวนี้ช่วย รถต้องพุ่งเข้ากระจกทะลุเข้าไปถึงในบ้านแน่นอน
แต่เพราะพื้นมันสูง ทำให้แรงกระแทกของรถเด้งกลับ และเครื่องก็ดับไปเอง
ทุกวันนี้ยังนึกภาพไม่ออกเลยเลยว่า เราทำยังไงถึงพุ่งชนได้ คือพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
แต่ยืนยันว่า เรามีสติทุกอย่าง รู้ว่าง่วงนอนมาก รู้กระทั่งตอนลงมาเปิดประตูบ้าน เพื่อขับไปจอดที่โรงจอดรถ
แล้วมันหลอน คือ เราไม่กล้าจับรถ กลัวแม้กระทั่งจะจับกุญแจรถไปสตาร์ท ประตูรถก็ไม่กล้าเปิด
ปกติก็เคยเฉี่ยวชนกันบนท้องถนนบ่อยๆ แต่ไม่เคยรู้สึกว่าจะ น่ากลัว อะไรมากมายเช่นนี้
แต่ชนในบ้านตัวเอง มันกลัว มองพื้นที่ชนก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ในใจ กลายเป็นขาดความมั่นใจในการขับรถ คือเหมือนสมองจะสั่งการสับสน
ย้ำคิดย้ำทำว่า เหยีบบเบรคหรือยัง เข้าเกียร์อะไรอยู่ จากเมื่อก่อนขับยังไงก็ดูมั่นใจไปหมด แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม กลายเป็นกลัวไปหมด
ใครเคยมีประสบการณ์เลวร้ายในการขับรถบ้าง แล้วทำยังไงถึงจะลืมภาพน่ากลัว แล้วกลับมามั่นใจเหมือนเดิม ต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน
สภาพจิตใจถึงจะกลับมาปกติ ดีเหมือนเดิม ปกติก็ขับเหยียบประมาณ 120 -140+ แต่ตอนนี้เหลือแค่ 100-120
เพราะทุกวันนี้แค่ขับรถขึ้นห้าง ขึ้นตึกหลายๆชั้นก็ขาสั่น มือสั่น ใจกลัวไปหมด สมองเราจะย้ำตลอดว่าเหยียบเกียร์อะไรอยู่ ขาเหยียบถูกมั้ย
คือมันสับสน
แล้วรถเวลาขับรถตอนฝนตก เมื่อถึงสะพาน พอขับมาเร็วขึ้นสะพาน ตอนขับลงสะพานต่างระดับ ทำไมมันชอบเหมือนรถ มันเหินบนอากาศ
พอลงพื้นมันเหมือนรถจะแฉลบคล้ายจะข้ามไปอีกเลน หรือไม่ก็เหมือนจะหลุดโค้งออกข้าง แล้วพอเราขับมาเร็วๆเจอแอ่งน้ำ แต่พอเราเหยียบเบรค
รถสั่น เหมือนพวงมาลัยมันสั่นไปด้วย เหมือนรถเราลอยอยู่ในน้ำ ได้ยินแต่เสียงน้ำใต้ท้องรถแต่รถมันสั่นคล้ายจะคว่ำ
มีคนบอกว่า ถ้าขับรถเจอพวกตัดหน้ากระชั้นชิด ให้เราเหยียบเบรคแล้วปล่อย คือ ให้ เหยียบปล่อยๆ ไม่ใช่เหยียบแช่ยาว
แต่มันกระชั้นชิด เหยียบปล่อยๆไม่ได้ ส่วนมากจะเหยียบแช่ยาวจนรถมันหยุดไม่ได้ต้องปะทะ
ส่วนมากยังไม่เคยเจอที่เหยียบเผื่อระยะ ส่วนมากจะเจอแบบกระชั้นชิดแล้วต้องเหยียบเบรคยาว แต่ไม่พ้นต้อง ปะทะอยู่ดี
เลยอยากรู้ว่าเหยียบเบรคแบบไหนให้มันมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเบรค