รีวิวฝึกขับ “สามล้อไฟฟ้า” MuvMi กับการสอบใบขับขี่ – ของใหม่ที่ไม่เคยทำเมื่อลองแล้วสนุกสนานมาก

หลังจากที่ว่างงานเลยลองหาอะไรทำระหว่างนี้ การฝึกขับรถสามล้อไฟฟ้าก็เป็นหนึ่งในทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้มีรายได้อิสระ แต่ยังเป็นการเริ่มต้นใหม่ๆ อีกด้วย เนื่องจากเห็นโฆษณาว่ามีรถพร้อมให้ขับ เราลงทุนแต่แรงและเวลาของเราเท่านั้น จึงขอลองไปดูซะหน่อย เริ่มจากเราสมัครไปที่ศูนย์รับสมัคร เค้าจะขอตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และนัดวันเข้ามาเริ่มเรียนขับรถสามล้อ

วันแรก: การเรียนรู้เบื้องต้น
วันแรกของการฝึก เราได้เริ่มจากการทำความรู้จักกับ “สามล้อไฟฟ้า” ซึ่งประกอบด้วยการเรียนรู้ส่วนต่างๆ ของรถ รวมถึง การขับสามล้อไฟฟ้าจะแตกต่างจากการขับมอเตอร์ไซค์อยู่พอสมควร โดยเฉพาะห้องโดยสารที่ยาวและกว้างกว่า ซึ่งทำให้การควบคุมระหว่างการเลี้ยวต้องระมัดระวังมากขึ้น

สิ่งสำคัญที่ครูเน้นคือ การฝึกควบคุมคันเร่งและเบรก โดยที่ห้ามเหยียบเบรกพร้อมกับคันเร่ง เพราะอาจทำให้รถพุ่งได้ หรือเรียกว่าเบรคไม่อยู่ แม้ว่าเราจะเคยขับมอเตอร์ไซค์มาก่อน แต่สามล้อไฟฟ้าต้องใช้การเลี้ยงคันเร่งบิดและถอนทีละน้อยเพื่อให้ขับได้อย่างนิ่มนวลและปลอดภัย

ด่านแรกครูให้ฝึกขับไปข้างหน้าและถอยหลังโดยห้ามใช้เบรกเลย ใช้แค่ “คันเร่ง” เท่านั้น เพื่อให้ชินกับการควบคุมรถอย่างแม่นยำ เพราะถ้า “บิดคันเร่ง” ไม่เป็น รถจะพุ่งไปแบบคุมไม่ได้เลย หรือปล่อยคันเร่งทันที รถก็จะหยุดหัวทิ่มได้เลย การขับสามล้อไฟฟ้าจึงไม่ใช่แค่บิดไป เหยียบหยุด แต่ต้อง “เข้าใจจังหวะของรถ” ให้ดีด้วย

เมื่อเราเริ่มคุ้นเคยกับการขับแล้ว ด่านต่อมาครูก็ให้ฝึกเลี้ยวซ้ายในทางแคบ ต่อมาฝึกเลี้ยวขวา และตามด้วยการขับเป็นวนตัวเลข 8 เพื่อฝึกการควบคุมวงเลี้ยวรถในพื้นที่จำกัด โดยไม่ให้ชนกับกรวยหรือสิ่งกีดขวางต่างๆ ทั้งวงนอกและวงใน

การฝึกนี่ก็แล้วแต่ดวง วันที่เรามาเรียนมีคนมาเรียนพร้อมกัน 8 คน ครูจะมีรถ 2 คัน ก็จะได้ฝึกทีละ 2 คน แต่ด้วยคนจำนวนมาก เวลาการฝึกก็จะน้อยลงไปบ้างตามจำนวนคนรอคิวอยู่ ถ้ามาน้อยคนเราก็สามารถอยู่กับรถและฝึกฝนได้นานขึ้น แต่เราก็ถือว่าได้เพื่อนร่วมรุ่นมากมายและสนุกสนานกันมาก

วันต่อมา – ฝึกเลี้ยวซ้าย-ขวา และขับเป็นเลข 8
วันต่อมาเราก็มาฝึกการเลี้ยวซ้ำอีก ผู้ที่ผ่านด่านนี้ต้อง “ไม่ล้มกรวยแม้แต่ต้นเดียว” บางคนที่คล่องแล้วก็ได้ผ่านด่านไปด่าน 2 ในรอบแรกที่ทดสอบเลย ส่วนเรายังคงวนไปอีกหลายรอบ จนคนอื่นที่มาเมื่อวานไปกันหมดแล้ว เราก็ยังฝึกกับคนที่มาใหม่ในวันนี้ จนถึงช่วงเย็นจึงได้ทดสอบและผ่านไปด่านถัดไปได้เสียที

ช่วงที่เราฝึกพายุเข้า สลับแดดจัดๆ ตอนนี้ใครไม่ถึก มีป่วยแน่ๆ บางวันร้อนจัด บางคนก้ยอมแพ้ สู้แดดไม่ไหว บางวันฝนตกก็ต้องหยุดรอฝนหยุดก่อน และพอมาขับหลังฝนตก สนามซ้อมขับก็เละด้วยน้าฝน
 
วันที่ 3-4: การฝึกถอยหลังและเทียบฟุตบาท
เข้าสู่วันที่ 3 เราต้องฝึกถอยหลังเข้าซองและถอยหลังเทียบฟุตบาท ซึ่งเป็นท่าที่ยากและใช้บ่อยในการเข้าจอดรถ การฝึกนี้เพิ่มความยากนิดหน่อย เนื่องจากสนามฝึกเป็นดินบดและเทหินคลุก และฝนได้ตกติดๆ กันมาหลายวัน ทำให้คนที่ผ่านมาก่อนหน้าเราได้ตะกุยดินจนเป็นหลุมเยอะพอสมควร ซึ่งเพิ่มระดับความยากและทำให้การฝึกนี้ยากขึ้นอีกเมื่อครูนำหินคลุกมาปรับพื้นดินที่เป็นหลุมโดยเราเป็นคนแรกๆ ที่ต้องใช้งานแล้วหินไม่ได้ถูกบดอย่างดี ทำให้เกิดการสไลด์ล้อหน้าบ้าง ล้อหลังบ้างไปอีก

ด่านนี้ต้องถอยหลังเข้าซองรูปตัว L และเลี้ยวให้พอดี การเลี้ยวขวาต้องไม่เบียดกรวยหรือเลี้ยวหลุดมุมก็ไม่ผ่าน เมื่อเลี้ยวมาเสร็จก็ต้องตั้งตัวรถให้ตรง และไม่ชนหลักด้านหลังที่ตั้งเอาไว้ ส่วนการจอดเทียบฟุตบาทก็ต้องเปลี่ยนเลนออกไปตั้งรถให้ตรง แล้วถอยเข้าจอด 45 องศาให้ท้ายรถเทียบกับขอบฟุตบาทแล้วตั้งรถให้ตรง หยุดรถ โดยไม่เบียบขอบฟุตบาทและไม่ชนหลักด้านหลังที่ตั้งไว้เช่นกัน เราฝึกได้สองวันจนคล่อง วันถัดไปก็ซ้อมและสอบผ่านเสียที

วันที่ 5-7: การฝึกหลบสิ่งกีดขวางและยูเทิร์น
ในช่วงนี้ เราเริ่มฝึกการหลบสิ่งกีดขวาง เช่น หูกระจกรถทัวร์ และคนเดินเท้า การฝึกนี้ต้องมีการเลี้ยวซิกแซกและยูเทิร์นในพื้นที่แคบ โดยต้องระวังไม่ให้ส่วนใดๆ ของรถไปชนสิ่งกีดขวาง การฝึกนี้ท้าทายมาก เพราะต้องใช้ความแม่นยำและความเร็วในการตัดสินใจ หลังจากฝึกไปหลายวัน จนมั่นใจแล้ว ครูก็บอกว่าเราพร้อมที่จะสอบจริง แต่เราตัดสินใจเพิ่มอีกหนึ่งวันเพื่อฝึกให้คล่องตัวมากขึ้น

วันที่ 8: วันฝึกซ้ำและสอบด่านที่สาม
วันที่ 8 ของการฝึกเราก็ซ้อมในด่านที่ 3 ซึ่งคนเก่าๆ ที่ยังไม่ผ่านก็จะมามุงกันด่านนี้ ทำให้การซ้อมต้องผลัดกันบ่อยๆ จนครูเห็นว่าพอจะคล่องแล้วจึงเรียกคนเข้าสอบ สลับปนไปกับคนที่กำลังซ้อมในสนามฝึก ให้วนรถยูเทิร์น ตั้งตำแหน่งให้ตรง หลบหูช้างรถทัวร์ และมีสิ่งกีดขวาง 5 จุดต้องวิ่งซิกแซกโดยไม่ให้มีส่วนใดของรถขนสิ่งกีดขวาง ขับในทางแคบ และกลับรถอีกครั้ง ก็สอบผ่าน เมื่อผ่านด่านสุดท้ายโดยไม่ชนกับสิ่งใด ๆ ครูบอกว่าเราผ่านการสอบแล้ว พร้อมนัดให้ไปอบรมเพื่อทำใบขับขี่วันถัดไป

วันที่ 9: ไปอบรมใบขับขี่สามล้อก่อน
หลังจากการสอบผ่านด่านที่ 3 เราจึงไปอบรมเพื่อขอใบขับขี่ ซึ่งมีขั้นตอนอบรมและทดสอบทั้งทฤษฎี ใช้เวลา 1 วัน ระหว่างนั้นจะมีการนัดหมายการสอบปฏิบัติในวันถัดไปตามกำหนดของขนส่ง ซึ่งเราได้จองอีก 2 วันถัดไป

วันที่ 10: กลับมาซ้อมเตรียมสอบปฏิบัติและไปออกถนนจริง
ด่านสุดท้าย ครูพาออกถนนจริงในละแวกใกล้สนามฝึก จุดนี้คนที่มีพื้นฐานขับรถยนต์หรือมอไซต์มาก่อนจะได้เปรียบ เพราะต้องตัดสินใจเร็ว จังหวะแซง จังหวะเบรก ต้องมาให้ถูกที่ถูกเวลา ครูให้ขับรถเข้าซอยที่แคบและถนนใหญ่ ฉันผ่านด่านนี้ด้วยดี ไม่ชนไม่ตกหลุม ไม่เบียดฟุตบาท รู้สึกโล่งใจมาก การซ้อมเทียบฟุตบาทก็ถือว่ามั่นใจแล้ว พร้อมที่จะไปสอบวันถัดไป

วันสอบใบขับขี่ – ปิดฉากภารกิจเบอร์หนึ่ง!
การสอบปฏิบัติประกอบด้วย 3 ด่านหลัก:
1. วิ่งตรงเหยียบเส้นข้างขอบฟุตบาท โดยไม่เบียดขอบ และหยุดรถในจุดที่กำหนด
2. เดินหน้าและถอยหลังในเส้นทางกำหนด ห้ามชนหลักที่ตั้งไว้
3. จอดเทียบฟุตบาท – ซึ่งก็เหมือนกับที่ฝึกที่โรงเรียน ก็ผ่านไปไม่ยาก

ส่วนอื่นๆ ที่ดูโดยรวมก็คือการปฏิบัติตามกฎจราจร เปิดไฟเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หยุดในที่ให้หยุดรถ ขับรถด้วยความปลอดภัย เมื่อผ่านการสอบ เจ้าหน้าที่จะให้ใบผลสอบไปถ่ายรูปเพื่อออกใบขับขี่สามล้อชั่วคราว ซึ่งมีอายุ 2 ปี


สรุป: สิ่งที่เรียนรู้จากการฝึกขับสามล้อไฟฟ้า
การฝึกขับสามล้อไฟฟ้าครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ แต่ยังเป็นการท้าทายตัวเองในการเริ่มต้นใหม่ในชีวิต การขับสามล้อไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องยากเมื่อมีการฝึกฝนที่ดีและครูที่มีประสบการณ์และดูแลอย่างเข้มงวด

ถึงแม้ว่าเราจะเคยขับมอเตอร์ไซค์และรถยนต์มาก่อน แต่การขับสามล้อไฟฟ้ายังมีความท้าทายและเทคนิคที่ต้องใช้ความพยายามมากกว่าที่คิด หากใครที่กำลังสนใจ อย่าลังเลที่จะลองฝึกดูค่ะ เพราะมันไม่เพียงแต่เป็นอาชีพที่ให้รายได้อิสระ อาจจะเลือกเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักหรือเป็นทักษะติดตัวไว้ก็ได้

ส่วนการไปเป็นคนขับสามล้อของ MuvMi ก็จะต้องไปเรียนการใช้แอพนำทาง และสำรวจเส้นทางที่จะทำงานตามโซนที่แบ่งไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่