คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 26
" การตรวจกระเป๋าโดยศุลกากร ใครควรจะเป็นคนยกกระเป๋าเข้าเครื่องสแกนและยกขึ้นรถเข็นใหม่ "
^^^
^^^
ผู้โดยสารต้องยกเอง ทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการผ่านศุลกากรของประเทศไหน
ยกเว้นบางประเทศ บางเมือง ที่มีบริการพอร์เต้อร์ (เสียค่าบริการ หรือ เฟิสท์คลาสการบินไทยมีบริการโดยให้ทิปให้พนักงาน)
ที่ช่วยยกกระเป๋าให้ตรงสายพาน ไปจนถึงยกขึ้นรถแท็กซี่ หรือ รถลีมูซีน หรือ รถส่วนตัว ให้ รวมถึงยกขึ้น-ยกลงตรงจุดตรวจของศุลกากรให้
ถ้าหากว่าผู้โดยสารเจ้าของสัมภาระ โดนเรียกสุ่มตรวจ
และ บางประเทศก็มีพอร์ทเต้อร์ให้เรียกใช้บริการที่ขาออกด้วย (เสียค่าบริการเช่นกัน ยกเว้นของเฟิสท์คลาสการบินไทย
ที่สุวรรณภูมิ อันนี้อยู่ที่ ผดส ว่าจะทิปเท่าไหร่)
_______
" จริงๆตามระเบียบมันคือหน้าที่ใครกันแน่ กระเป๋าหนักบางทีใบนึง 20กิโล มันก็เป็นภาระของคนเดินทางเหมือนกัน เจ้าหน้าที่ยืนว่างๆกันก็หลายคน ทำไมโยนภาระยกกระเป๋าให้ผู้โดยสาร "
^^^
^^^
ไม่มีระเบียบของ ปท ไหน บอกว่าใครต้องยก
แต่ตามคอมม่อนเซ่นส์ คือ กระเป๋าของใคร คนๆ นั้นควรรับผิดชอบเอง มิควรทำแม้แต่จะคิดที่จะผลักภาระของสิ่งของของตนเองให้ผู้อื่น
//
เหมือนๆ กับการขึ้นเครื่องบิน ที่ผู้โดยสารต้องยกของเก็บเองบนที่เก็บของเหนือศีรษะด้วยตนเอง
เพราะ แอร์ สจ๊วต พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน มีหน้าที่ให้บริการด้านอาหาร เครื่องดื่ม ดูแลความเรียบร้อย ความปลอดภัย ฯลฯ บนเครื่อง
เพราะ จนท ศุลกากร มีหน้าที่สุ่มตรวจสัมภาระของ ผดส เช่น เพื่อหาของต้องห้ามนำเข้าฯ หาของผิดกฏหมาย หรือ ของที่หลีกเลี่ยงการเสียภาษี เป็นต้น
แค่นั้น แค่นี้เท่านั้นเอง พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มีหน้าที่ยกกระเป๋าให้ผู้โดยสาร
//
สัมภาระของใครก็แล้วแต่ ไม่มีใครมาบังคับให้ขน ให้ลาก ให้เอาใส่กระเป๋ามาเป็นภาระ
นอกจากตัวเจ้าของสัมภาระนั้นๆ เอง
หากไม่อยากให้เป็นภาระ ก็ต้องตัดภาระนั้นทิ้งไป เหมือนภาระอื่นๆ ในชีวิตนั่นแหละ
เช่น คนที่เขาไม่อยากมีภาระเรื่อง ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือ การมีลูก หรือ แม้แต่การเลี้ยงสัตว์
เขาก็เลือกที่จะไม่เอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นภาระ
ผู้โดยสารบางคนที่เขาไม่ขนของมากๆ ก็มี เขาถึงมีศัพท์ภาษาอังกฤษว่า "แทร๊ฟเว่ล ไล๊ท์" หรือ ไม่ก็ "แพ็คกิ้ง ไล๊ท์" ไงฮะ
________
" ดิฉันมีมุมมองส่วนตัวว่าเราไม่เข้าช่องสำแดงสิ่งของแต่แรก แล้วถูกเรียกตรวจนั่นคือเราถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดแล้ว
ถูกเรียกตรวจไม่ได้ขัดข้อง แต่ในเมื่ออยากตรวจก็ควรเป็นหน้าที่ของคนอยากตรวจ "
^^^
^^^
จนท เขาสุ่มตรวจฮะ เพราะในทางปฏิบัติจริง บางครั้ง มี เช่น
1. ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์จริงๆ ที่อาจจะนำของต้องห้ามเข้า ปท ได้
2. ผู้ที่ตั้งใจ จงใจหลีกเลี่ยงจริงๆ
ทุกๆ ประเทศ ทุกๆ ทวีป ทั่วโลก เขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น มีช่องเขียว ช่องแดง แล้วยังมี จนท ยืนที่ช่องเขียว
คอยแรนด้อมสุ่มตรวจอีก
หรือ บางประเทศ เมื่อถึงตรงบริเวณศุลกากรขาเข้า ทาง จนท จะมีปุ่มให้ ผดส กดเอง กดแบบเล่นเกมส์โชว์
ถ้า ผดส คนไหน กดได้สีเขียว ก็ผ่านไปได้เลย แต่ถ้า ผดส คนไหนกดได้สีแดง ก็ต้องเอากระเป๋าไปเปิดให้ศุลกากรตรวจ
ทาง จนท เขาทำงานของเขา ตามหน้าที่
//
ส่วนผู้โดยสารก็มีหน้าที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการ มิเช่นนั้นแล้ว ก็หมายถึงการจงใจขัดขืน จงใจหลีกเลี่ยง
โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องกฏหมายทางด้านการนำเข้าสิ่งของ นั่นเอง
ทุกคนอยู่ภายใต้กฏเดียวกัน นอกเสียจากว่า เป็นบุคคล หรือ กลุ่มบุคคล ที่ได้รับการยกเว้นการตรวจ เช่น จนท สถานทูต เป็นต้น
//
ขนาดพวกลูกเรือ แอร์ สจ๊วต กัปตัน ก็โดนหมด ถ้าทางศุลกากรเขาอยากจะสุ่มตรวจอ่ะนะ
แล้วพวกลูกเรือ พวกกัปตัน เขาก็ยกของกันเองทั้งนั้น
มุมมองส่วนตัวของคุณอาจจะยังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หรือ การปฏิบัติจริง สิ่งที่เกิดขึ้นจริง
ตามเหตุ ตามผล ที่เป็นจริงนัก เพราะฉนั้น เมื่ออ่าน คห นี้ และ ความคิดเห็นต่างๆ ในกระทู้นี้
ที่ทุกคนพยายามมาช่วยตอบให้คุณ ก็หวังว่าจะทำให้คุณได้มุมมองอะไรใหม่ๆ บ้าง
แล้วนำเอาไปคิด ทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
แล้วเวลาที่เดินทางหนหน้า ก็ลองเหลียวมองดูไปรอบๆ ตอนที่ผ่านศุลกากรของ ปท ไหนก็แล้วแต่นะฮะ
ว่า ผดส คนอื่นๆ เขาทำกันอย่างไรบ้าง หรือ มีศุลกากรของ ปท ไหนบ้างที่ช่วย ผดส ยกของ
ไม่มีฮะ เพราะปกติแล้ว เขาจะพยายามแตะสัมภาระส่วนตัวของ ผดส ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ หรือ ไม่แตะเลย
________
กรณีที่ถ้าไม่อยากยกเอง เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้ว หรือ ก่อนมาถึง คุณสามารถจองบริการพอร์ทเต้อร์ได้
ที่สนามบินสุวรรณภูมิมีบริการนี้
เห็นมีตั้งหลายบริษัท เป็นบริการประเภท มี๊ท แอนด์ กรี๊ท หรือ ฟ๊าสท์ แทร็ค อิมมิเกรชั่น เซอร์วิส หรือ วีไอพี เซอร์วิส แล้วแต่จะเรียก
เท่าที่เห็นบ่อยๆ ก็จะมีพนักงานมารอรับที่เกท ชูป้ายชื่อ พาขึ้นรถกอล์ฟ/รถบั๊กกี้ ขับพาจากเกทไป ตม พาผ่าน ตม (ถ้าเป็นคนต่างชาติ
หรือ ถ้าใช้พาสปอร์ตต่างชาติ จนท ที่มารับจะกรอกใบ ตม ให้ด้วย)
จากนั้นพาไปตรงสายพานรับกระเป๋า มีพอร์ทเต้อร์ช่วยยกกระเป๋า และ ทั้ง จนท กับ พอร์ทเต้อร์ พาไปส่งถึงรถ
//
หรือ ถ้าหากว่า คุณบินเฟิสท์คลาสของการบินไทย เป็นต้น ก็จะมีคนมารับที่เกทเช่นกัน แล้วพาขึ้นรถกอล์ฟไป ตม
และ จะมีพอร์ทเต้อร์ช่วยยกกระเป๋าตั้งแต่ที่สายพาน จนกระทั่งพาไปส่งขึ้นรถ
พอร์ทเต้อร์นี่แหละ จะเป็นคนยกกระเป๋าขึ้น-ลง จากรถเข็นให้คุณเอง ในกรณีที่คุณโดนศุลกากรเรียกสุ่มตรวจ
______
คนเขียน คห นี้ เดินทางเข้า-ออก ที่สนามบินสุวรรณภูมิเดือนละหลายหน และ เดินทางไปยังสนามบินหลายแห่งทั่วโลก
ปีละหลายหน ปีๆ นึง เข้าๆ ออกๆ หลายสนามบินในหลายเมือง
ก็เขียนเล่าให้ฟังตามที่เห็น
//
แล้วเท่าที่เคยเห็นมากับตาของตนเอง
คือ ขนาดที่ว่า คนไทยระดับนักการเมืองดัง หรือ ไฮโซดัง หรือ พวกเซเล็บ หรือ ลูกหลานมหาเศรษฐีระดับประเทศ
หรือ คนรวยระดับประเทศของเมืองไทย หรือ คนใหญ่คนโต คุณหญิงคุณนาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลาที่เครื่องบินไปถึงประเทศปลายทาง ที่ไม่มีบริการพอร์ทเต้อร์ หรือ ตอนเช็คอินขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย
ถ้าเช็คอินตามสนามบินที่ไม่มีบริการพอร์ทเต้อร์
เราก็เห็นคนกลุ่มดังที่กล่าวมานี้ ยกกระเป๋า เข็นกระเป๋ากันด้วยตนเองกันทั้งนั้น รวมทั้งการเข็นหรือยกขึ้นลง ในกรณีที่โดนศุลกากร
เรียกสุ่มตรวจด้วย หลายๆ ท่านก็เห็นเขาทำกันเป็นปกติ และ เห็นว่าเป็น ผดส ของการบินไทยในระดับบัตรทอง หรือ บัตรแพลตินั่มด้วยอีกต่างหาก
หมายถึงเป็นกลุ่มคนที่เดินทางบ่อยมากนั่นเอง
//
แต่คนกลุ่มที่เรากล่าวมาข้างต้น ถ้าจะไม่ยกกระเป๋าเอง ไม่ขนกระเป๋าเอง ไม่เข็นกระเป๋าเอง ในกรณีที่ไม่มีพอร์ทเต้อร์ให้จ้าง
เราเห็นคนรวยๆ มหาเศรษฐี หรือ นักการเมือง ที่เขาเดินทางกับลูกน้อง หรือ กับผู้ช่วย หรือ กับ เลขาส่วนตัว หรือ
คนไทยบางคนก็เดินทางกับคนรับใช้ เขาก็มีลูกน้อง มีผู้ช่วย หรือ มีคนรับใช้ทำให้
คนรวยคนไทยบางท่านที่เราเคยเห็นบินเฟิสท์คลาสของการบินไทย ก็ให้คนรับใช้นั่งเฟิสท์คลาสด้วย
บางท่านนี่ คนรับใช้ถือให้นายแม้กระทั่งสูท ถือโทรศัพท์ให้ หรือ แม้แต่กระทั่งพาสปอร์ตเลยทีเดียว เจ้านายไม่ต้องถือไม่ต้องหยิบจับอะไรเลย
^^^
^^^
ผู้โดยสารต้องยกเอง ทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการผ่านศุลกากรของประเทศไหน
ยกเว้นบางประเทศ บางเมือง ที่มีบริการพอร์เต้อร์ (เสียค่าบริการ หรือ เฟิสท์คลาสการบินไทยมีบริการโดยให้ทิปให้พนักงาน)
ที่ช่วยยกกระเป๋าให้ตรงสายพาน ไปจนถึงยกขึ้นรถแท็กซี่ หรือ รถลีมูซีน หรือ รถส่วนตัว ให้ รวมถึงยกขึ้น-ยกลงตรงจุดตรวจของศุลกากรให้
ถ้าหากว่าผู้โดยสารเจ้าของสัมภาระ โดนเรียกสุ่มตรวจ
และ บางประเทศก็มีพอร์ทเต้อร์ให้เรียกใช้บริการที่ขาออกด้วย (เสียค่าบริการเช่นกัน ยกเว้นของเฟิสท์คลาสการบินไทย
ที่สุวรรณภูมิ อันนี้อยู่ที่ ผดส ว่าจะทิปเท่าไหร่)
_______
" จริงๆตามระเบียบมันคือหน้าที่ใครกันแน่ กระเป๋าหนักบางทีใบนึง 20กิโล มันก็เป็นภาระของคนเดินทางเหมือนกัน เจ้าหน้าที่ยืนว่างๆกันก็หลายคน ทำไมโยนภาระยกกระเป๋าให้ผู้โดยสาร "
^^^
^^^
ไม่มีระเบียบของ ปท ไหน บอกว่าใครต้องยก
แต่ตามคอมม่อนเซ่นส์ คือ กระเป๋าของใคร คนๆ นั้นควรรับผิดชอบเอง มิควรทำแม้แต่จะคิดที่จะผลักภาระของสิ่งของของตนเองให้ผู้อื่น
//
เหมือนๆ กับการขึ้นเครื่องบิน ที่ผู้โดยสารต้องยกของเก็บเองบนที่เก็บของเหนือศีรษะด้วยตนเอง
เพราะ แอร์ สจ๊วต พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน มีหน้าที่ให้บริการด้านอาหาร เครื่องดื่ม ดูแลความเรียบร้อย ความปลอดภัย ฯลฯ บนเครื่อง
เพราะ จนท ศุลกากร มีหน้าที่สุ่มตรวจสัมภาระของ ผดส เช่น เพื่อหาของต้องห้ามนำเข้าฯ หาของผิดกฏหมาย หรือ ของที่หลีกเลี่ยงการเสียภาษี เป็นต้น
แค่นั้น แค่นี้เท่านั้นเอง พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มีหน้าที่ยกกระเป๋าให้ผู้โดยสาร
//
สัมภาระของใครก็แล้วแต่ ไม่มีใครมาบังคับให้ขน ให้ลาก ให้เอาใส่กระเป๋ามาเป็นภาระ
นอกจากตัวเจ้าของสัมภาระนั้นๆ เอง
หากไม่อยากให้เป็นภาระ ก็ต้องตัดภาระนั้นทิ้งไป เหมือนภาระอื่นๆ ในชีวิตนั่นแหละ
เช่น คนที่เขาไม่อยากมีภาระเรื่อง ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือ การมีลูก หรือ แม้แต่การเลี้ยงสัตว์
เขาก็เลือกที่จะไม่เอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นภาระ
ผู้โดยสารบางคนที่เขาไม่ขนของมากๆ ก็มี เขาถึงมีศัพท์ภาษาอังกฤษว่า "แทร๊ฟเว่ล ไล๊ท์" หรือ ไม่ก็ "แพ็คกิ้ง ไล๊ท์" ไงฮะ
________
" ดิฉันมีมุมมองส่วนตัวว่าเราไม่เข้าช่องสำแดงสิ่งของแต่แรก แล้วถูกเรียกตรวจนั่นคือเราถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดแล้ว
ถูกเรียกตรวจไม่ได้ขัดข้อง แต่ในเมื่ออยากตรวจก็ควรเป็นหน้าที่ของคนอยากตรวจ "
^^^
^^^
จนท เขาสุ่มตรวจฮะ เพราะในทางปฏิบัติจริง บางครั้ง มี เช่น
1. ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์จริงๆ ที่อาจจะนำของต้องห้ามเข้า ปท ได้
2. ผู้ที่ตั้งใจ จงใจหลีกเลี่ยงจริงๆ
ทุกๆ ประเทศ ทุกๆ ทวีป ทั่วโลก เขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น มีช่องเขียว ช่องแดง แล้วยังมี จนท ยืนที่ช่องเขียว
คอยแรนด้อมสุ่มตรวจอีก
หรือ บางประเทศ เมื่อถึงตรงบริเวณศุลกากรขาเข้า ทาง จนท จะมีปุ่มให้ ผดส กดเอง กดแบบเล่นเกมส์โชว์
ถ้า ผดส คนไหน กดได้สีเขียว ก็ผ่านไปได้เลย แต่ถ้า ผดส คนไหนกดได้สีแดง ก็ต้องเอากระเป๋าไปเปิดให้ศุลกากรตรวจ
ทาง จนท เขาทำงานของเขา ตามหน้าที่
//
ส่วนผู้โดยสารก็มีหน้าที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการ มิเช่นนั้นแล้ว ก็หมายถึงการจงใจขัดขืน จงใจหลีกเลี่ยง
โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องกฏหมายทางด้านการนำเข้าสิ่งของ นั่นเอง
ทุกคนอยู่ภายใต้กฏเดียวกัน นอกเสียจากว่า เป็นบุคคล หรือ กลุ่มบุคคล ที่ได้รับการยกเว้นการตรวจ เช่น จนท สถานทูต เป็นต้น
//
ขนาดพวกลูกเรือ แอร์ สจ๊วต กัปตัน ก็โดนหมด ถ้าทางศุลกากรเขาอยากจะสุ่มตรวจอ่ะนะ
แล้วพวกลูกเรือ พวกกัปตัน เขาก็ยกของกันเองทั้งนั้น
มุมมองส่วนตัวของคุณอาจจะยังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หรือ การปฏิบัติจริง สิ่งที่เกิดขึ้นจริง
ตามเหตุ ตามผล ที่เป็นจริงนัก เพราะฉนั้น เมื่ออ่าน คห นี้ และ ความคิดเห็นต่างๆ ในกระทู้นี้
ที่ทุกคนพยายามมาช่วยตอบให้คุณ ก็หวังว่าจะทำให้คุณได้มุมมองอะไรใหม่ๆ บ้าง
แล้วนำเอาไปคิด ทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
แล้วเวลาที่เดินทางหนหน้า ก็ลองเหลียวมองดูไปรอบๆ ตอนที่ผ่านศุลกากรของ ปท ไหนก็แล้วแต่นะฮะ
ว่า ผดส คนอื่นๆ เขาทำกันอย่างไรบ้าง หรือ มีศุลกากรของ ปท ไหนบ้างที่ช่วย ผดส ยกของ
ไม่มีฮะ เพราะปกติแล้ว เขาจะพยายามแตะสัมภาระส่วนตัวของ ผดส ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ หรือ ไม่แตะเลย
________
กรณีที่ถ้าไม่อยากยกเอง เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้ว หรือ ก่อนมาถึง คุณสามารถจองบริการพอร์ทเต้อร์ได้
ที่สนามบินสุวรรณภูมิมีบริการนี้
เห็นมีตั้งหลายบริษัท เป็นบริการประเภท มี๊ท แอนด์ กรี๊ท หรือ ฟ๊าสท์ แทร็ค อิมมิเกรชั่น เซอร์วิส หรือ วีไอพี เซอร์วิส แล้วแต่จะเรียก
เท่าที่เห็นบ่อยๆ ก็จะมีพนักงานมารอรับที่เกท ชูป้ายชื่อ พาขึ้นรถกอล์ฟ/รถบั๊กกี้ ขับพาจากเกทไป ตม พาผ่าน ตม (ถ้าเป็นคนต่างชาติ
หรือ ถ้าใช้พาสปอร์ตต่างชาติ จนท ที่มารับจะกรอกใบ ตม ให้ด้วย)
จากนั้นพาไปตรงสายพานรับกระเป๋า มีพอร์ทเต้อร์ช่วยยกกระเป๋า และ ทั้ง จนท กับ พอร์ทเต้อร์ พาไปส่งถึงรถ
//
หรือ ถ้าหากว่า คุณบินเฟิสท์คลาสของการบินไทย เป็นต้น ก็จะมีคนมารับที่เกทเช่นกัน แล้วพาขึ้นรถกอล์ฟไป ตม
และ จะมีพอร์ทเต้อร์ช่วยยกกระเป๋าตั้งแต่ที่สายพาน จนกระทั่งพาไปส่งขึ้นรถ
พอร์ทเต้อร์นี่แหละ จะเป็นคนยกกระเป๋าขึ้น-ลง จากรถเข็นให้คุณเอง ในกรณีที่คุณโดนศุลกากรเรียกสุ่มตรวจ
______
คนเขียน คห นี้ เดินทางเข้า-ออก ที่สนามบินสุวรรณภูมิเดือนละหลายหน และ เดินทางไปยังสนามบินหลายแห่งทั่วโลก
ปีละหลายหน ปีๆ นึง เข้าๆ ออกๆ หลายสนามบินในหลายเมือง
ก็เขียนเล่าให้ฟังตามที่เห็น
//
แล้วเท่าที่เคยเห็นมากับตาของตนเอง
คือ ขนาดที่ว่า คนไทยระดับนักการเมืองดัง หรือ ไฮโซดัง หรือ พวกเซเล็บ หรือ ลูกหลานมหาเศรษฐีระดับประเทศ
หรือ คนรวยระดับประเทศของเมืองไทย หรือ คนใหญ่คนโต คุณหญิงคุณนาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลาที่เครื่องบินไปถึงประเทศปลายทาง ที่ไม่มีบริการพอร์ทเต้อร์ หรือ ตอนเช็คอินขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย
ถ้าเช็คอินตามสนามบินที่ไม่มีบริการพอร์ทเต้อร์
เราก็เห็นคนกลุ่มดังที่กล่าวมานี้ ยกกระเป๋า เข็นกระเป๋ากันด้วยตนเองกันทั้งนั้น รวมทั้งการเข็นหรือยกขึ้นลง ในกรณีที่โดนศุลกากร
เรียกสุ่มตรวจด้วย หลายๆ ท่านก็เห็นเขาทำกันเป็นปกติ และ เห็นว่าเป็น ผดส ของการบินไทยในระดับบัตรทอง หรือ บัตรแพลตินั่มด้วยอีกต่างหาก
หมายถึงเป็นกลุ่มคนที่เดินทางบ่อยมากนั่นเอง
//
แต่คนกลุ่มที่เรากล่าวมาข้างต้น ถ้าจะไม่ยกกระเป๋าเอง ไม่ขนกระเป๋าเอง ไม่เข็นกระเป๋าเอง ในกรณีที่ไม่มีพอร์ทเต้อร์ให้จ้าง
เราเห็นคนรวยๆ มหาเศรษฐี หรือ นักการเมือง ที่เขาเดินทางกับลูกน้อง หรือ กับผู้ช่วย หรือ กับ เลขาส่วนตัว หรือ
คนไทยบางคนก็เดินทางกับคนรับใช้ เขาก็มีลูกน้อง มีผู้ช่วย หรือ มีคนรับใช้ทำให้
คนรวยคนไทยบางท่านที่เราเคยเห็นบินเฟิสท์คลาสของการบินไทย ก็ให้คนรับใช้นั่งเฟิสท์คลาสด้วย
บางท่านนี่ คนรับใช้ถือให้นายแม้กระทั่งสูท ถือโทรศัพท์ให้ หรือ แม้แต่กระทั่งพาสปอร์ตเลยทีเดียว เจ้านายไม่ต้องถือไม่ต้องหยิบจับอะไรเลย
แสดงความคิดเห็น
การตรวจกระเป๋าโดยศุลกากร ใครควรจะเป็นคนยกกระเป๋าเข้าเครื่องสแกนและยกขึ้นรถเข็นใหม่