[CR] [รีวิว] ประสบการณ์ Hong Kong Airlines ไปญี่ปุ่น แวะทรานซิสที่ฮ่องกง 1 วัน


เมื่อมีแผนเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น คำถามในใจที่ใครหลายๆอาจจะสงสัยก็คือ "แล้วจะเดินทางไปด้วยสายการบินอะไรดีล่ะ?" ไฟลต์เที่ยวบินเดินทางไปญี่ปุ่นจากประเทศไทยมีอยู่หลากหลายรูปแบบทั้ง Full service Airline, Low cost Airline แถมยังมีให้เลือกอีกว่าจะบินแบบ บินตรง หรือ Transit (Stop Over)

สำหรับใครที่ชอบความสะดวกสบายและไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน อาจเลือกบินสายการบินแบบ Full service แต่หากใครอยากจะประหยัดลงมาหน่อยก็คงเลือกบินสายการบิน Low cost แต่ถามว่าจะดีแค่ไหน ถ้าเราได้บินไปญี่ปุ่นในบริการแบบ Full service แต่จ่ายเงินในราคาเท่ากับเพียงสายการบิน Lowcost แล้วสายการบินแบบนี้จะมีจริงหรือ? คำตอบคือ มีครับ สายการบินนั้นก็คือ "ฮ่องกงแอร์ไลน์ (Hong Kong Airlines)" นั่นเอง!

"ฮ่องกงแอร์ไลน์ (Hong Kong Airlines)" เป็นสายการบินยอดนิยมอีกแห่งที่คนไทยนิยมใช้เดินทางไปญี่ปุ่น แต่ยังไม่ค่อยมีข้อมูลรีวิวบนอินเตอร์เน็ตมากนัก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2549 เป็นสายการบินที่มีฐานการบินหลักอยู่ที่ "สนามบินเช็กแล็บก็อก (Chek Lap Kok Airport)" หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ "ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง (Hong Kong International Airport)" มีดอกชงโค ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่บนธงของเขตเศรษฐกิจฮ่องกง เป็นโลโก้ของสายการบิน จากการจัดอันดับโดย Skytrax ครั้งล่าสุดปี 2017 นั้น สายการบินแห่งนี้ได้รับรางวัลให้เป็นสายการบินระดับ 4 ดาว

สแตนดี้แอร์โฮสเตทหน้าจุดเช็กอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ

จุดเด่นของของสายการบินแห่งนี้คือการให้บริการแบบ Full service บนเครื่องบิน มีเสริฟน้ำและอาหารระหว่างการเดินทาง มีหมอนและผ้าห่มให้ผู้โดยสาร มีบริการ Inflight entertainment หรือจอโทรทัศน์ส่วนตัวทุกที่นั่ง โดยผู้โดยสารชั้นประหยัดสามารถหิ้วกระเป่าขึ้นเครื่องไม่เกิน 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม และโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องได้ฟรี ไม่เกินคนละ 20 กิโลกรัม
ช็กรายละเอียดเรื่องข้อมูลกระเป๋าได้ที่ : http://www.hongkongairlines.com/en_HK/services/baggage/handcarry

เส้นทางการเดินทางของสายการบินมีหลากหลาย สำหรับการเดินทางไปญี่ปุ่น กรุงเทพ-โตเกียว (นาริตะ) ที่จะรีวิวในวันนี้นั้น จะเป็นการเดินทางแบบต้องเปลี่ยนเครื่อง (Transit) ที่สนามบินฮ่องกง (ฺBKK-HKG-NRT) มาดูกันดีกว่าครับว่าการเดินทางไปญี่ปุ่นด้วยสารการบินนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง...



ผมวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นครั้งนี้ในช่วงวันปีใหม่ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าในเวลาช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆแบบนี้ ราคาค่าตั๋วของแต่ละสายการบินสูงกว่าในช่วงเวลาปกติมากๆ ในขณะนั้นสายการบิน Full service อย่าง การบินไทย, Singapore Airlines, JAL และอื่นๆ ราคาตั๋วพุ่งทะยานขึ้นไปสูงถึง 30,000 บาท/คน (ปกติ 18,000-22,000 บาท/คน) แม้กระทั่งสายการบินต้นทุนต่ำต่างๆอย่าง Air Asia X, Jetstar หรือ Nok Scoot ที่คิดราคาเฉพาะค่าที่นั่งเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ยอมน้อยหน้าตั้งราคาพุ่งทะยานสูงถึง 15,000-17,000 บาท/คน เหมือนกัน (ปกติ 9,000-12,000 บาท/คน)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เป็นเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก ว่าในขณะที่ราคาสายการบินอื่นๆสูงมากขนาดนี้ ฮ่องกงแอร์ไลน์กลับราคาเพียง 11,000 บาท (ปกติ 10,000-13,000 บาท) และที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ บนหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสายการบิน Hongkong Airline เองกลับมีเวลาบินให้เลือกเยอะ และราคาตั๋วที่ดีกว่าตามเว็บไซต์ที่เปรียบเทียบราคาเสียอีก นั่นเป็นเหตุให้ผมรีบจองไฟลต์สายการบินนี้ สำหรับทริปญี่ปุ่นครั้งถัดไปแบบไม่รีรอ...



TIPS : สำหรับใครที่อยากมองหาเส้นทางบินราคาประหยัด แนะนำให้วางแผนจองตั๋วล่วงหน้า 2-3 เดือนก่อนเดินทาง ลองหาข้อมูลราคาจากเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสายการบินทั้งหลายก่อน เช่น Skyscanner, Traveloka หรืออื่นๆไว้ แต่อย่าเพิ่งจองนะครับ พอเห็นว่ามีราคาที่เราพอรับไหวแล้ว ให้ลองเปิดเช็กราคา และเที่ยวบินที่หน้าเว็บไซต์สายการบินนั้นจริงดูอีกที บางครั้งราคาที่จองจากเว็บไซต์สายการบินโดยตรงอาจถูกกว่าก็ได้ครับ

ผมเลือกเดินทางไปญี่ปุ่นช่วงปีใหม่วันที่ 2-18 มกราคมที่ผ่านมา สาเหตุที่ไม่เดินทางวันสิ้นปี หรือวันปีใหม่โดยตรงเป็นเพราะ ที่ประเทศญี่ปุ่นไม่นิยมจัดงานเฉลิมฉลองวันปีใหม่แบบครื้นเครงเช่นเดียวกับไทย คนส่วนใหญ่จะเลือกฉลองสิ้นปีอยู่กับครอบครัวที่บ้าน และไปขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่กันที่วัด ทำให้สถานท่องเที่ยวต่างๆ ห้างร้าน และร้านอาหารเกือบทั้งหมดปิดให้บริการในช่วงสองวันนี้

ไฟลต์การเดินทางของฮ่องกงแอร์ไลน์ตามกำหนดการขาไปจากกรุงเทพ-โตเกียว แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ BKK-HKG (HX774) 4.00-8.05 น. และ HKG-NRT (HX608) 9.15-13.55 น. เคาน์เตอร์ที่สนามบินจะเปิดให้เช็กอินเพื่อโหลดกระเป๋าก่อนเวลาบิน 3 ช่ั่วโมง เท่ากับว่าเราต้องมาถึงสนามบินเพื่อเช็กอินเวลาประมาณ ตี 1 ครับ (คืนนั้นทั้งคืนไม่ได้นอน 1 คืน)

เริ่มต้นจากการเช็กอินที่สนามบินสุวรรณภูมิที่ช่อง K

สีแดงและดอกชงโคเป็นสัญลักษณ์ของสายการบิน

ใช้เวลาต่อแถวไม่นานก็ได้คิวเช็กอินกระเป๋า

หลังจากเช็กอินเสร็จเราจะได้ Boarding Pass มาสองใบ คือ ใบของเที่ยวบินกรุงเทพ-ฮ่องกง และ ฮ่องกง-โตเกียว

หลังจากที่ผ่านตม.มาแล้ว ก็ได้เวลารอเกทเปิดครับ ช่วงเวลาดึกขนาดนี้ ถ้าไม่ช็อปปิ้งก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าไปนั่งทานขนมฟรีรอขึ้นเครื่องในเลาจน์ที่ Kingpower Space อีกแล้วครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เกทขึ้นเครื่องจะเปิดก่อนเวลา 45 นาที พอถึงเวลา 3.15 น.ได้เวลาไปขึ้นเครื่องที่ช่อง 7D ครับ

หน้าทางเข้าจะมีพนักงานคอยเช็ก Boarding Pass ก่อนที่จะให้เดินลงไป

เนื่องจากเป็นไฟลต์ดึกมาก ผู้คนส่วนใหญ่ที่ขึ้นเครื่องเลยเตรียมตัวกันพร้อม ใส่ชุดนอน พกหมอนรองคอกันมาเป็นแถว

พนักงานต้อนรับก็จะง่วงกันหน่อยๆ ทั้งหมดเป็นคนจีนแต่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ครับ

หลังจากที่เข้ามาในเครื่องแล้วเราจะพบกับหนังสือพิมพ์หลากหลายภาษาเป็นจำนวนมาก สามารถเลือกหยิบไปอ่านที่ที่นั่งกันได้ฟรี

มีหนังสือพิมพ์ไทยรัฐด้วย

เที่ยวบิน HX774 นี้ใช้เครื่องบิน Airbus A330-300 แบ่งที่นั่งบนเครื่องในแต่ละแถวเป็นแบบ 2-4-2 ลูกค้าสามารถจองหมายเลขที่นั่งได้ตั้งแต่ตอนซื้อตั๋วเครื่องบินบนเว็บไซต์ แนะนำให้เลือกแถวริมหน้าต่างนะครับ จะได้ไม่อึดอัด


ที่มา : http://www.seatplans.com/

ไฟล์ตนี้คนค่อนข้างแน่นครับ ผู้โดยสารไม่ค่อยมีคนไทย ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งและคนจีน (แอบมีเสียงดังหน่อยๆ) เมื่อนั่งได้สักพัก แอร์โอสเตทก็จะเริ่มเดินแจกหูฟังใช้แล้วทิ้ง และผ้าห่มให้ผู้โดยสาร (แต่หูฟังเสียงไม่ค่อยดีครับ แนะนำใช้ของส่วนตัวจะดีกว่า)

พนักงานสาวกำลังเดินแจกหูฟังและผ้าห่ม

ผ้าห่มที่แจกบนเครื่องบิน

ด้านหน้าของที่นั่งชั้น Economy จะมีช่อง USB สำหรับชาร์จโทรศัพท์ มีจอทัชสกรีพร้อมรีโมต และเอกสารคู่มือความปลอดภัยหน้าที่นั่ง ทางสายการบินไม่มีหมอนแจกให้ หากเราต้องการที่พิงหนุนให้ปรับหัวเบาขึ้นมาจะสามารถเป็นหมอนรองคอได้ บริเวณแขนที่นั่งจะมีปุ่มปรับเอนเบาะ และช่องเสียบหูฟัง

นั่งรอได้สักพักไฟในห้องโดยสารก็เริ่มหรี่ลงสัญญาณคาดเข็มขัดนิรภัยก็สว่างขึ้น เตรียม Take off

บรรยากาศขณะเครื่องกำลัง Take Off

วิดีโอสาธิตความปลอดภัยก็จะเปิดขึ้นอัตโนมัติที่หน้าจอ...
https://www.youtube.com/watch?v=QJgoCsrlalk

หลังจากวีดีโอจบ หน้าจอทัชสกรีนจะถูกปลดล็อก ผู้โดยสารสามารถใช้บริการ Inflight Entertainment ได้เลยครับ

หน้าจอความบันเทิงมีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งภาพยนตร์ เพลง เกมส์ และ E-Books

ภาพยนตร์ที่ให้เลือกชมมีทั้งฮอลลีวูดและหนังจีน แต่อาจลำบากเล็กน้อยสำหรับคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ เพราะภาพยนตร์ไม่มี Subtitle ให้ครับ หลังจากทีเครื่องขึ้นได้ประมาณ 30 นาที แอร์โอสเตทก็เริ่มทำการแจกของว่างและเครื่องดื่ม

เครื่องดื่มที่มีให้เลือกมีทั้ง แป๊ปซี่ น้ำผลไม้ และชา (เที่ยวบินนี้เขาบอกว่าไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)

และของว่างที่มาเสริฟนั้นก็คือ.... "ขนมปังร้อน 1 ก้อนในตำนาน" นั่นเอง

ขนมปังถูกห่อฟลอยมาอย่างร้อนๆ พร้อมน้ำเปล่า และน้ำแอ๊ปเปิ้ล

เปิดออกมาแล้ว

แท่นแท้น!!! ใส้ในขนมปังคือแฮมชีส

อยากจะบอกว่าแอบรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยครับ เพราะตลอดไฟล์ตบินนี้ ไม่มีอะไรแจกเพิ่มเติมนอกจากขนมปังก้อนนี้อีกแล้ว (ขนมปังแอบแห้งและแข็งไปหน่อย) โดยก่อนเครื่องลงมีการเสริฟน้ำให้แขกทุกคนอีกรอบ อาจเป็นเพราะไฟลต์นี้บินดึกด้วยแหละครับ ของกินจึงมีเสริฟให้แค่นี้ ระหว่างที่เดินทางอยู่หากใครหิวน้ำ หรือไม่อิ่มสามารถกดปุ่มเรียกบริการจากแอร์โฮสเตทเพิ่มได้ครับ

มาสำรวจห้องน้ำกันบ้างดีกว่า... ห้องน้ำบนเครื่องลักษณะเป็นแบบมาตรฐานเหมือนสายการบินทั่วๆไป ไม่มีช่องลับแจกสิ่งของอะไรใดๆ และไม่มีน้ำหอมให้ใช้เหมือนอย่างสายการบินระดับ 5 ดาว

เครื่องบินเที่ยวนี้เป็นช่วงคาบเกี่ยวที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น ระหว่างที่เราอยู่บนเครื่อง เราจะค่อยๆเห็นแสงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า

แสงอาทิตย์สาดส่องเหนือเมฆ

เครื่องบินกำลังบินผ่านจุดตัดระหว่างเวลากลางวันและกลางคืน

หลังจากใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เครื่องบินก็พาเรามาถึงน่านน้ำฮ่องกง และลงจอดโดยสวัสดิภาพ

ถึงสนามบินฮ่องกงแล้วครับ :]
ชื่อสินค้า:   Hongkong Airlines
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่