ฉันจะเป็นผู้สูงอายุที่มีความสุข

กระทู้สนทนา
บันทึกของ ศาสตราจารย์นายแพทย์เสนอ อินทรสุขศรี
8  พฤษภาคม 2536
อายุครบ 6  รอบ

ฉันรำพึงถึงชีวิตของตัวเองตลอดมาว่า :-
นับแต่ฉันเกิดมา ฉันได้ผ่านวัยทารก วัยเด็ก วัยหนุ่มสาว วัยผู้ใหญ่   และบรรลุถึง  วัยสูงอายุแล้ว  
ตั้งแต่ เกิดมาฉันได้รับการ เลี้ยงดูจาก พ่อแม่ และอยู่ใน ครอบครัว ที่มี   ความสุข
และความอบอุ่น ที่จะได้รับร่วมกับพี่น้องทุกคน ฉันเจริญเติบโต ฉันได้   ศึกษา เล่าเรียน
ฉันมีอาชีพ การงาน และหลักฐาน อันมั่นคง ฉันมครอบครัว ของฉัน   ฉันมีลูก มีหลาน
และเวลานี้ ฉันเป็นผู้สูงอายุ
ฉันคิดว่า ฉันได้ผ่าน ชีวิตมาด้วยดี ได้รับ ความสำเร็จ ในการศึกษา   ความสำเร็จใน  ชีวิตการงาน ความสำเร็จ ในชีวิตครอบครัว ตลอดชีวิต ที่ผ่านมา   มีทั้งสุขและทุกข์ ประสบแล้วซึ่งทุกสิ่ง ทุกอย่างที่ ปุถุชนจะได้ประสบ

ฉันจึงได้รำพึง ถึงแก่ตัวเองว่า เมื่อฉัน เป็นผู้สูงอายุ ฉันควรจะได้   ปฏิบัติตนให้เป็น "คนแก่" ที่ดี และมีความสุข ในบั้นปลายชีวิต
การที่จะ ประพฤติ และปฏิบัติตามนี้ ความจริง ฉันได้เตรียมตัว และคิดถึง   การที่จะปฏิบัติมา ตั้งแต่ก่อนจะถึงวัยสูงอายุนานมาแล้ว เพื่อความสุขในวัยสูงอายุฉันจะประพฤติและปฏิบัติตัวดังนี้ :-

1. เมื่อฉันเข้าสู่วัยสูงอายุ อายุ 60 – 70 ปีขึ้นไป
ตามที่เรียกกันว่าคนสูงอายุ หรือคนแก่
ฉันจะไม่มัวแต่คิดถึงอายุที่ล่วงไป ด้วยความหวาดวิตก แต่จะคิดว่า ฉันก็เป็นคน ๆ หนึ่งที่ผ่านโลก ผ่านชีวิตมามากพอ เฉลียวฉลาด พอจากการ ได้รับประสบการณ์ต่าง ๆ มามากแล้ว พอที่จะให้คุณประโยชน์ แก่พวกเด็ก ๆ และคน หนุ่มสาว ได้มาก ในการให้ คำปรึกษาแนะนำ ให้ข้อคิด จากความชำนาญ ในชีวิตมามาก อย่างน้อย ฉันก็จะภาคภูมิใจในตัวเองว่าฉันยังคง เป็นคน มีค่า มีประโยชน์ ต่อสังคม แม้ว่าร่างกายอาจไม่สามารถจะกระทำ สิ่งใด ๆได้อย่าง ครั้งยังเป็น หนุ่มสาว แต่ความคิดอ่านสติปัญญา ความรอบรู้ นั้นจะยังคงมีให้ใคร ๆ ได้เสมอ

2. เมื่อฉันเข้าสู่วัยสูงอายุ ฉันก็ยังมีความ ปรารถนา
ที่จะให้ ทุกคนเห็นว่าฉันก็เป็นคนที่เหมือนคนทั้งหลาย
อยากให้ เห็นว่า ฉันก็เป็นคน ๆ หนึ่ง เป็นชีวิตหนึ่ง ซึ่งมีความ ต้องการ มีความพึงพอใจและไม่พึงใจ เยี่ยงปุถุชนทั้งหลาย ฉันประสงค์ จะให้ทุกคนเข้าใจ และเห็นใจฉัน
ดังนั้น ฉันก็จะ กระทำตัว ให้เป็นคนเหมือนคนทั่วไป และทำตัวเป็นคนมีค่ามีประโยชน์ต่อสังคม เรื่อยไป เท่าที่ฉัน จะสามารถทำได้

3. เมื่อฉันเข้าสู่วัยสูงอายุ ฉันจะไม่คอยรบกวนใคร ๆ เขาจนเกินไป
ฉันไม่อยาก ให้ใคร จะต้องมา คอยห่วง คอยกังวล สงสารฉัน จนเขา ไม่เป็น อัน
ทำงานประกอบอาชีพ หรือศึกษาเล่าเรียนใด ๆ ฉันไม่ต้องการรบกวนเวลา และความสุขของคนอื่น ฉันจะพยายาม ระวังดูแลตัวเอง จะใช้สมอง และความคิด ของฉันเอง ตัดสินปัญหาต่าง ๆ ของฉันเองจะไม่รบกวน ให้ใครมาวิตกกังวลด้วย  ฉันจะเลือกเสื้อผ้าสวมใส่เอง ไปที่ไหน ๆ เวลาใด ๆ เอง ฉันรู้ว่าเวลาไหนควรนอนเวลาไหนควรรับประทานอาหาร  ขอให้ใคร อย่าได้เอาใจใส่ ฉันจนเกินไปเลย   ยิ่งกว่านั้น ฉันจะคอยระวังตัว ไม่ทำตัว เป็นคนแสนงอน เหมือนพวก คนแก่หลายคนที่คอยคิดว่า ลูกหลานไม่เอาใจใส่ดูแล เรื่องอาหาร การกิน เรื่องไปไหน มาไหน เรื่องการหลับ การนอน ฉันไม่ชอบ ที่จะคิดมากเกินไป ในเมื่อพวกลูกหลานเขาก็มีเหตุผล ที่ต้องใช้ ชีวิต ของเขาไปในด้านต่าง ๆ โดยไม่อาจมาเอาใจใส่ฉัน อยู่ตลอดเวลาได้

4. เมื่อฉันเข้าสู่วัยสูงอายุ เวลามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว
ฉันก็เหมือนคนอื่น ๆ ทั่วไป ที่อยาก จะได้ คำแนะนำ ให้ข้อปรึกษา หารือ ฉันบ้าง แต่ก็เฉพาะ บางปัญหา และฉันเป็นฝ่ายขอร้อง ฉันจะไม่อวดดื้อ ถือดี ว่าตัวเองรู้ อะไรไปหมดเสีย ทุกอย่าง โดยไม่ต้อง พึ่งใคร

5. เมื่อฉันเข้าสู่วัยสูงอายุ ฉันจะคิดอยู่เสมอว่าชีวิตกับงานเป็นของคู่กัน
คนเรา ไม่ว่าอายุเท่าใด จะต้องทำงาน งานช่วยสร้าง ความสุขใจ ได้ ฉันจะ ไม่มัวมานั่ง ๆ นอน ๆ หรือยู่นิ่งเฉย แต่จะหางาน มาทำ เพื่อช่วย คลายเหงา และช่วยให้เกิดความสุข ทางจิตใจฉันจะ เลือกงานที่ฉันสามารถทำได้ จะไม่ยอมละทิ้งงานบางอย่างที่ทำมาแล้ว แต่จะทิ้งงาน บางอย่างเสีย    จะเลืองงาน ที่จะเกิดประโยชน์แก่ผู้อื่น เพื่อที่ฉันจะได้ภูมิใจว่าตัวเอง เป็นคนมีค่ามีประโยชน์ต่อสังคม (มีต่อค่ะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่