ช่ายแล้วอินเดียที่ใครๆหลายคนพอได้ยินจะคิดว่าไปทำไม น่ากลัวจะตาย สกปรก หรือแม้แต่กลิ่นที่หอมฟลุ้ง 🤣
เดวผมขอสรุปให้ฟังแชร์ประสบการณ์ครั้งแรกทั้งๆที่มีความคิดเหมือนเพื่อนๆทั้งหลายนะครับ
ทริปนี้รูปจะผสมๆกันนะครับด้วยที่ผมใช้ทั้ง Iphone และ Sony A7 ถ่ายคละๆกันนะครับ
และเมืองแรกที่ทำให้ความคิดนั่นจางลงคือ !! Jaipur !! เมืองเขต Rajasthan ที่สวยงามทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ India นะเอง
ทริปนี้เกิดขึ้นเร็วมาก เกิดจากเมียเลยครับ เปิดรูปเจอตึกชมพู ความฟรุ้งฟริ้งไปกระตุ้นต่อมอยาก (ทั้งๆที่เคยพูดหลายครั้งแต่งงานแล้วเราไปฮันๆที่อินเดียกันนะ แต่นางบอกไม่ยังไงก็ไม่) วันนั้นเหมือนหิมะตกในเมืองร้อน ผมนี่งงเลยเมืองไรถึงทำให้นางเปลี่ยนไปเยี่ยงนี้
และแล้วลุง Google ก็ทำให้กระจ่าง

สวยจริงวะ!!!!
ไม่รอช้าคืนนั้นจองเลยครัช ไม่รู้ว่ามีไรเที่ยวบ้าง จะเดินทางไง พักไหน เด๋วค่อยคิด 😄😄
สายการบินที่บินตรงไปยัง Jaipur คร่าวๆก็ตามข้างล่างคับ
1. Thai Smile - link:
https://www.thaismileair.com
2. Thai Air Asia - link:
https://www.airasia.com/en/home.page?cid=1
3. Thai Airways - link:
https://www.thaiairways.com/th_TH/index.page (แต่แนะนำจองตรง Thai Smile ดีกว่าเพราะจองกับป้าแพง แถมสุดท้ายก็บินเครื่อง Thai Smile คับ)
ส่วนเรื่องราคาก็แล้วแต่ว่าเพื่อนๆไปช่วงไหน แบบไหนนะครับ ส่วนทริปนี้ผมเลือกไปกับ Thai Smile คับ เพราะด้วยเวลาและเป็น Full Service ราคาก็พอรวมภาษีไรแล้วก็พอๆกับ Air Asia แต่ก็ตามแต่สะดวกว่าจะขึ้นที่ ดอนเมืองก็เจ้าหสงแดง หรือ สุวรรณภูมิก็หางส้ม/เจ้าป้า นะคับ
สิ่งสำคัญอีกอย่างนะ Visa คับ ไปอินเดียต้องมีวีซ่าแต่อย่าพึ่งตกใจ เพราะมี 2 วิธีในการทำคับ
1. e-Visa - ยื่นง่ายๆผ่านทางเวปไซ พอเสจทุกอย่างตามขั้นตอนบนเวปก็ต้องปริ้นเอาเอกสารนั้นติดตัวไปด้วยนะสำคัญมากๆจ้า ลิ้งก็ตามนี้เลย :
https://indianvisaonline.gov.in/evisa/tvoa.html (แนะนำนิดนึง!!! ตอนทำ e-Visa ใส่เลข Passport เล่มไหนไป ต้องเอาเล่มนั้นไปนะคับ เพราะเห็นด้วยตาเลย ตอนทำเล่มเก่าตอนไปถึงเล่มใหม่ โดนส่งตัวกลับเลยน้า สงสารบินมาไกลอีกแค่ก้าวเดียวจะได้เที่ยวละ 😭) อายุวีซ่าได้แค่ 2 เดือนหรือ 60วันนะครับ และเข้าได้ 2 ครั้งใน 60วัน ส่วนราคาก็ราวๆ 1,300฿ คับ
2. ยื่นทำวีซ่าเอง วีซ่าจะมีอายุ 1 ปีเข้ากี่ครั้งก็ได้ เหมาะสำหรับครั้งเดียวคุ้ม เผื่อติดใจจ้า ก็ลงทะเบียนบนเวปเสจแล้วไปยื่นที่ออฟฟิตแถวพระราม 9 เลยครับ 3 วันได้เร็วมากมาย ลิ้งตามนี้เลย :
http://www.vfsglobal.com/India/Thailand/English/index.html ส่วนราคาก็ราวๆ 4พันกว่าบาทคับ
สิ่งสำคัญต่อมา เงินคับ จำเป็นจิงๆ 💸💸💸 ก็จะหาแลกยากหน่อยสำหรับเงินสกุล RS(รูปี) ผมไปก็แลกกับเจ้าเขียวตามลิ้งคับลองเชคดูเรทแต่ละวันได้เลย
https://www.superrichthailand.com/#!/en เวลาคิดง่ายๆก็คือ ค่าเงินเค้าเท่าไหรา หารด้วย 2 คับก็จะเป็นค่าเงินบ้านเรา
ลำดับต่อมาด้วยความที่ว่าเป็นทริปด่วนเลยไม่ได้สนเรื่องอากาศมากนักแต่พอรู้นี่ถึงกับมึน อ้าวที่เราไปคือเริ่มเข้าช่วง pre-summer ของอินเดียแล้ว (มีคนเตือนมาหน้าร้อนอินเดียร้อนยังกับโดนย่าง) แต่จะไปต้องทำใจและที่เห็นก็ร้อนพอๆกับบ้านเราเอาน่าสู้ตาย เพื่อนๆท่านไหนไปเชคอากาศดีๆก่อนนะคับว่าไหวช่วงไหนเด๋วหาว่าไม่เตือน 😅😅
เรื่องถัดมาคือ ก้วยความกลัวที่ว่าจะโดนหลอกเลยพยายามหาพวกรถรับส่งที่ดูน่าไว้ใจได้และพาเที่ยวด้วยผมเลยเลือกจากบน tripadvisor นะ ส่วนเจ้าที่ผมเลือกก็ตามลิ้งนี้นะถ้าเพื่อนๆจะใช้ตามหรือหาดูก็แล้วแต่เลยคับ link:
https://www.tripadvisor.com/Attraction_Review-d10666737?m=19905
สุดท้ายก่อนไปเที่ยวกันที่ลืมไม่ได้ ของกิน ปากท้องนี่ต้องเน้นของแห้งเลยคับพกไปไว้ ถ้ายิ่งใครกลัวเรื่องอาหารการกินละก็พกไว้ดีกว่าเนอะ เพราะอาหารแขกคงไม่ค่อยถูกปากนักสำหรับใครหลายๆคน และเรื่องโรคก็ต้องระวังนะคับ
เอาละไปกันเลยดีกว่า....................
เริ่มต้นการเดินทางของกลุ่มผจญภัย ของคน 4 คนที่ไปอินเดียเป็นครั้งแรก
Thai Smile ออกจากไทย 22.05น ถึงที่ Jaipur ตามตารางคือ 01.15น แต่กัปตันเหมือนเหยียบคันเร่งรีบไปนอนหรือเปล่าไม่รู้เลยไปถึงก่อนกำหนด 40 นาที ผมนี่ดีใจเลยว่าถึงไวก็ได้เข้าที่พักนอนไวตื่นเช้าเที่ยวจะได้ไม่เหนื่อย
แต่นี่คืออะไรคิด ตม. ไทยว่าช้าแล้ว พี่อินเดียท่านนั้นช้ากว่าแม่เจ้า รอไปสิคับ 1.30ชม.
ลงมากระเป๋ามารอน่าจะนานแล้วเลยไม่ต้องรอเป๋าคับ 🤣🤣 (เป็นที่ไทย คงราวๆ 30นาที-1ชม) สายพานกระเป๋ากับทางออกไม่ไกลมากเดินออกมาก็จะเจอกับกลุ่มก้อนคนขับที่มารอรับแขกที่จองเอาไว้ และมีทั้งแขกที่มารอเรียกว่าสนใจรถไปส่งยังที่พักไหมนะครับ
ในกรณีเพื่อนๆไม่ได้จองรถมาจากไทยโปรดระวังแขกโกงราคาแต่ถ้าชัวๆใช้แอป Uber ได้คับราคาก็ตามแต่ที่เรียก และเลือกเลย
พอดีผมจองรถมาจากไทยรวมทัววันที่2ของการเดินทางและขากลับไว้เลยมีรถรอรับไปส่งยังที่พักคับ ออกมาจนไปถึงที่พักก็ ตี3 เข้าไปละ (อย่าลืมแจ้งที่พักด้วยนะคับว่าเราจะไปถึงช้าเพราะถ้าไม่ได้พักโรงแรมใหญ่ๆเค้าจะต้องให้แจ้งเวลาถึงเพื่อรอเราคับ)
นี่คือที่ผมจอง : รับสนามบินวันถึง + พาทัวเที่ยวทั้งวันวันที่ 2 (วันแรกคือวันที่ถึงเช้ามืดคับ) + พาไปส่งสนามบินวันกลับ
และแล้วก็ถึงที่พักระหว่างทางก็ดูทางพลางลุ้นไป
เอาภาพเมืองยามค่ำคืนจากบนรถมาให้ดูแก้เบื่อก่อนไปเจอสิ่งสวยๆงามๆนะครับ😁
พอถึงที่พักก็แอบทำใจมาละว่าแนวๆ Boutique Hotel แต่เพื่อนๆทำใจนิดนะคับว่า โรงแรมในย่าน Old town นั้นมีน้อยและนี่คือหนึ่งในโรงแรมที่ผมคิดว่าง่ายต่อการเดินเที่ยวและใกล้จุดหมายที่จะไปสุดคับ
ที่พักคืนนี้ของผมคือ : Pandya Niwas hotel (3 stars) เจ้าของถึงกับนอนรอรับเชคอินให้เลยทีเดียวซาบซึ้ง😌😌 แถมให้ห้องนอนที่พึ่ง renovate ให้กับเราทั้งสองห้องด้วยน่ารักฟุดๆ
ยับบ้างเนอะมะคืนถึงง่วงมากเลยรีบนอนซะก่อน ห้องผมไม่มีภาพวาดที่หัวเตียงแต่ของเพื่อนมีแถมสวยได้ฟิวอินเดียดีคับ
ตื่นเช้าลงมาก็ตกใจเล็กน้อยเพราะพี่แขก3-4 คนนั่งอยู่แถวที่เค้าเตอโรงแรมแต่เราก็ ทำการฝากกระเป๋าและ check out เพราะคืนนี้เปลี่ยนไปพักอีกที่นึงเพื่อสัมผัสอีกบรรยากาศคับ😊😊
Check out เสจก็พุ่งมาเลยพี่แขกของเรา 1 ใน 4 คน ว่าสนใจรถพาไปที่ต่างๆแบบเที่ยวเดี่ยวหรือทั้งวันไหม (เพราะวันนี้ผมเป็นแบบ free and easy คับ) เลยถามราคาไปเพราะไม่งั้นก็เรียก uber จึงได้ราคาตามนี้
1. ตุ๊กตุ้ก นั่งได้ 3-4คนเบียดหน่อยแต่ได้อารมณ์ - 500 รูปี
2. รถเล็ก 4 ที่นั่ง - 1,000รูปี
3. รถขนาดกลาง 5 ที่นั่งพร้อมท้ายรถใส่กระเป๋าของพวกเรา4คนได้พอดี ราคาอยู่ที่ 2,000รูปี
ที่กล่าวข้างต้นมานั้นคือ พาไปได้หมดในเมือง จนถึงเวลา 17.50น นะคับถ้าเกินก็ชาตว่าตามกันไป
พวกผมเลือกเบอร์ 3 เพราะมีแพลนเต็มวันพอดีพร้อมย้ายที่พัก
ส่วนนี้คือรูปรอบๆที่พักของผมคืนแรกนะคับได้อารมณ์ไปอีกแบบแถมมีตึกสวยให้ถ่ายรูประหว่างรอรถมาด้วย
แพลนวันแรกตามนี้คับ..........
1. Wind View Cafe
2. Hawa Mahal
3. City Palace
4. Lunch @Rambagh Palace Hotel
5. Move to Fairmont Hotel
ค่อนข้างชิวๆหน่อยเพราะคืนนี้พักโรงแรมแพงเพราะสาวๆอยากพักอารมณ์แบบ มหารานี 🧕🏻👸🏻 ซักคืนคับ
บอกก่อนเลยนะคับขับรถในไทยว่าไม่ค่อยมีมารยาทหรือกฏระเบียบแล้วผมว่ามาอินเดียนี่แทบจะหน้ามือเป็นหลังมือเลย มีทั้งมอไซ คนเดิน วัวยืนกลางถนน และคนบีบแตรเหมือนเรื่องปกติ แนวๆๆหลบจะรีบไปหรือเตือนว่าอย่าบังทางนะ😅 แถมปาดซ้ายขวาแบบไม่สนใจใคร ที่เห็นกับตาคือ มอไซขับเกี่ยวกันล้ม พูดทะเลาะกันนิดนึงระยกรถขึ้นขับต่อเลยโอ้แม่เจ้า เป็นที่ไทยคงมีเรื่องหันไปแล้วมั้งเนี่ย 5555
**รูปผ่านๆๆมาจะมาจาก iPhone นะครับแต่หลังจากนี้จะมาจากกล้องใหญ่ และ ประกอบข้อมูลจากเวปหน่อยๆน้า
ไร้สาระมาพอควร ไปหาของกินวิวดีกันดีกว่า
จุดแรก............ Wind view cafe
จุดนี้ไม่มาไม่ได้พูดเลย จริงๆแล้วมีอีกร้านข้างๆ The Tattoo Cafe จะได้วิวเดียวกันแต่ที่ผมเลือกร้านนี้เพราะมุมสวยกว่า(ในความคิดผมนะ) และขนาดพื้นที่นั่งของร้านกว้างกว่าหน่อยคับ
เพื่อนๆคงอยากเห็นละว่าวิวเป็นยังไงบอกเลย ราคาหลักร้อย วิวหลักร้อยล้านเลยจ้า
ส่วนอาหารนั้นก็พวกแซนวิส เครื่องดื่ม และอาหารพวก pasta pizza ก็แล้วแต่เพื่อนๆอยากลองเลยแต่พวกผมลองพวกแซนวิสถือว่าใช้ได้เลยคับ
แถมวิวอีกซักหน่อยแบบกว้างๆ
ก็ชิวกันไป 1 ชม.(พูดเลยถ่ายรูปจนเหนื่อยเพราะว่ามันสวยจิงๆๆ) และด้วยเวลานัดกับรถเอาไว้และทำเวลานิดหน่อยเพราะมีอีกหลายที่ต้องไป
ด้วยวันนี้เน้นสบายๆเลยไม่เข้าไปยังตัวอาคาร Hawa Mahal ไว้รอบหน้าละกันนะรักเราจะได้ไม่เก่าไป 5555 (เผื่อหาเรื่องมาอีก 🤩🤩)
นั่งรถมายังไม่หายเหนื่อยจากการเดินลงจากร้าน cafe ก็ถึงแล้ว City Palace
ขอเข้าสาระนิดนะ....... วังนี้เป็นของราชวงศ์ ที่ใช้อยู่อาศัยจริงนะคับแต่ได้มีการเปิดให้เข้าชมเป็นบางส่วนแบ่งเป็นสองส่วนคือ
1. ตัว Palace
2. Museum
ตั๋วก็เหมือนบ้านเราคนอินเดียราคานึง ต่างชาติก็ราคานึงนะครับ และอยู่ที่ว่าเราจะเข้าส่วนไหนบ้างแบ่งเป็น(ราคาต่างชาติ)
1. ส่วน Museum ราคา 500รูปี เดินเอง
2. Palace & Museum รวม private guide tour ราคา 2,500รูปี
ใช่คับมองไม่ผิด 2,500รูปี หรือ 1,250฿ บระเจ้าแพงมาก แต่มองไปที่ป้ายราคาคนอินเดียก็ 2,000รูปีนะ แต่ด้วยสิ่งเย้ายวนมันมีมากด้านในตัว Palace เงินในกระเป๋าจึงได้บินออกไป 💸💸🤣🤣
เด๋วมาต่อนะคับพอดีเต็มกระทู้แรกแว้วอดใจรอแปปน้าพอดีอันนี้สาระเยอะไปนิดเพื่อช่วยให้เพื่อนๆไปเที่ยวง่ายขึ้นคับ
อินเดีย🧞♂️!! ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
เดวผมขอสรุปให้ฟังแชร์ประสบการณ์ครั้งแรกทั้งๆที่มีความคิดเหมือนเพื่อนๆทั้งหลายนะครับ
ทริปนี้รูปจะผสมๆกันนะครับด้วยที่ผมใช้ทั้ง Iphone และ Sony A7 ถ่ายคละๆกันนะครับ
และเมืองแรกที่ทำให้ความคิดนั่นจางลงคือ !! Jaipur !! เมืองเขต Rajasthan ที่สวยงามทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ India นะเอง
ทริปนี้เกิดขึ้นเร็วมาก เกิดจากเมียเลยครับ เปิดรูปเจอตึกชมพู ความฟรุ้งฟริ้งไปกระตุ้นต่อมอยาก (ทั้งๆที่เคยพูดหลายครั้งแต่งงานแล้วเราไปฮันๆที่อินเดียกันนะ แต่นางบอกไม่ยังไงก็ไม่) วันนั้นเหมือนหิมะตกในเมืองร้อน ผมนี่งงเลยเมืองไรถึงทำให้นางเปลี่ยนไปเยี่ยงนี้
และแล้วลุง Google ก็ทำให้กระจ่าง
ไม่รอช้าคืนนั้นจองเลยครัช ไม่รู้ว่ามีไรเที่ยวบ้าง จะเดินทางไง พักไหน เด๋วค่อยคิด 😄😄
สายการบินที่บินตรงไปยัง Jaipur คร่าวๆก็ตามข้างล่างคับ
1. Thai Smile - link: https://www.thaismileair.com
2. Thai Air Asia - link: https://www.airasia.com/en/home.page?cid=1
3. Thai Airways - link: https://www.thaiairways.com/th_TH/index.page (แต่แนะนำจองตรง Thai Smile ดีกว่าเพราะจองกับป้าแพง แถมสุดท้ายก็บินเครื่อง Thai Smile คับ)
ส่วนเรื่องราคาก็แล้วแต่ว่าเพื่อนๆไปช่วงไหน แบบไหนนะครับ ส่วนทริปนี้ผมเลือกไปกับ Thai Smile คับ เพราะด้วยเวลาและเป็น Full Service ราคาก็พอรวมภาษีไรแล้วก็พอๆกับ Air Asia แต่ก็ตามแต่สะดวกว่าจะขึ้นที่ ดอนเมืองก็เจ้าหสงแดง หรือ สุวรรณภูมิก็หางส้ม/เจ้าป้า นะคับ
สิ่งสำคัญอีกอย่างนะ Visa คับ ไปอินเดียต้องมีวีซ่าแต่อย่าพึ่งตกใจ เพราะมี 2 วิธีในการทำคับ
1. e-Visa - ยื่นง่ายๆผ่านทางเวปไซ พอเสจทุกอย่างตามขั้นตอนบนเวปก็ต้องปริ้นเอาเอกสารนั้นติดตัวไปด้วยนะสำคัญมากๆจ้า ลิ้งก็ตามนี้เลย : https://indianvisaonline.gov.in/evisa/tvoa.html (แนะนำนิดนึง!!! ตอนทำ e-Visa ใส่เลข Passport เล่มไหนไป ต้องเอาเล่มนั้นไปนะคับ เพราะเห็นด้วยตาเลย ตอนทำเล่มเก่าตอนไปถึงเล่มใหม่ โดนส่งตัวกลับเลยน้า สงสารบินมาไกลอีกแค่ก้าวเดียวจะได้เที่ยวละ 😭) อายุวีซ่าได้แค่ 2 เดือนหรือ 60วันนะครับ และเข้าได้ 2 ครั้งใน 60วัน ส่วนราคาก็ราวๆ 1,300฿ คับ
2. ยื่นทำวีซ่าเอง วีซ่าจะมีอายุ 1 ปีเข้ากี่ครั้งก็ได้ เหมาะสำหรับครั้งเดียวคุ้ม เผื่อติดใจจ้า ก็ลงทะเบียนบนเวปเสจแล้วไปยื่นที่ออฟฟิตแถวพระราม 9 เลยครับ 3 วันได้เร็วมากมาย ลิ้งตามนี้เลย : http://www.vfsglobal.com/India/Thailand/English/index.html ส่วนราคาก็ราวๆ 4พันกว่าบาทคับ
สิ่งสำคัญต่อมา เงินคับ จำเป็นจิงๆ 💸💸💸 ก็จะหาแลกยากหน่อยสำหรับเงินสกุล RS(รูปี) ผมไปก็แลกกับเจ้าเขียวตามลิ้งคับลองเชคดูเรทแต่ละวันได้เลย https://www.superrichthailand.com/#!/en เวลาคิดง่ายๆก็คือ ค่าเงินเค้าเท่าไหรา หารด้วย 2 คับก็จะเป็นค่าเงินบ้านเรา
ลำดับต่อมาด้วยความที่ว่าเป็นทริปด่วนเลยไม่ได้สนเรื่องอากาศมากนักแต่พอรู้นี่ถึงกับมึน อ้าวที่เราไปคือเริ่มเข้าช่วง pre-summer ของอินเดียแล้ว (มีคนเตือนมาหน้าร้อนอินเดียร้อนยังกับโดนย่าง) แต่จะไปต้องทำใจและที่เห็นก็ร้อนพอๆกับบ้านเราเอาน่าสู้ตาย เพื่อนๆท่านไหนไปเชคอากาศดีๆก่อนนะคับว่าไหวช่วงไหนเด๋วหาว่าไม่เตือน 😅😅
เรื่องถัดมาคือ ก้วยความกลัวที่ว่าจะโดนหลอกเลยพยายามหาพวกรถรับส่งที่ดูน่าไว้ใจได้และพาเที่ยวด้วยผมเลยเลือกจากบน tripadvisor นะ ส่วนเจ้าที่ผมเลือกก็ตามลิ้งนี้นะถ้าเพื่อนๆจะใช้ตามหรือหาดูก็แล้วแต่เลยคับ link: https://www.tripadvisor.com/Attraction_Review-d10666737?m=19905
สุดท้ายก่อนไปเที่ยวกันที่ลืมไม่ได้ ของกิน ปากท้องนี่ต้องเน้นของแห้งเลยคับพกไปไว้ ถ้ายิ่งใครกลัวเรื่องอาหารการกินละก็พกไว้ดีกว่าเนอะ เพราะอาหารแขกคงไม่ค่อยถูกปากนักสำหรับใครหลายๆคน และเรื่องโรคก็ต้องระวังนะคับ
เอาละไปกันเลยดีกว่า....................
เริ่มต้นการเดินทางของกลุ่มผจญภัย ของคน 4 คนที่ไปอินเดียเป็นครั้งแรก
Thai Smile ออกจากไทย 22.05น ถึงที่ Jaipur ตามตารางคือ 01.15น แต่กัปตันเหมือนเหยียบคันเร่งรีบไปนอนหรือเปล่าไม่รู้เลยไปถึงก่อนกำหนด 40 นาที ผมนี่ดีใจเลยว่าถึงไวก็ได้เข้าที่พักนอนไวตื่นเช้าเที่ยวจะได้ไม่เหนื่อย
แต่นี่คืออะไรคิด ตม. ไทยว่าช้าแล้ว พี่อินเดียท่านนั้นช้ากว่าแม่เจ้า รอไปสิคับ 1.30ชม.
ลงมากระเป๋ามารอน่าจะนานแล้วเลยไม่ต้องรอเป๋าคับ 🤣🤣 (เป็นที่ไทย คงราวๆ 30นาที-1ชม) สายพานกระเป๋ากับทางออกไม่ไกลมากเดินออกมาก็จะเจอกับกลุ่มก้อนคนขับที่มารอรับแขกที่จองเอาไว้ และมีทั้งแขกที่มารอเรียกว่าสนใจรถไปส่งยังที่พักไหมนะครับ
ในกรณีเพื่อนๆไม่ได้จองรถมาจากไทยโปรดระวังแขกโกงราคาแต่ถ้าชัวๆใช้แอป Uber ได้คับราคาก็ตามแต่ที่เรียก และเลือกเลย
พอดีผมจองรถมาจากไทยรวมทัววันที่2ของการเดินทางและขากลับไว้เลยมีรถรอรับไปส่งยังที่พักคับ ออกมาจนไปถึงที่พักก็ ตี3 เข้าไปละ (อย่าลืมแจ้งที่พักด้วยนะคับว่าเราจะไปถึงช้าเพราะถ้าไม่ได้พักโรงแรมใหญ่ๆเค้าจะต้องให้แจ้งเวลาถึงเพื่อรอเราคับ)
นี่คือที่ผมจอง : รับสนามบินวันถึง + พาทัวเที่ยวทั้งวันวันที่ 2 (วันแรกคือวันที่ถึงเช้ามืดคับ) + พาไปส่งสนามบินวันกลับ
และแล้วก็ถึงที่พักระหว่างทางก็ดูทางพลางลุ้นไป
เอาภาพเมืองยามค่ำคืนจากบนรถมาให้ดูแก้เบื่อก่อนไปเจอสิ่งสวยๆงามๆนะครับ😁
พอถึงที่พักก็แอบทำใจมาละว่าแนวๆ Boutique Hotel แต่เพื่อนๆทำใจนิดนะคับว่า โรงแรมในย่าน Old town นั้นมีน้อยและนี่คือหนึ่งในโรงแรมที่ผมคิดว่าง่ายต่อการเดินเที่ยวและใกล้จุดหมายที่จะไปสุดคับ
ที่พักคืนนี้ของผมคือ : Pandya Niwas hotel (3 stars) เจ้าของถึงกับนอนรอรับเชคอินให้เลยทีเดียวซาบซึ้ง😌😌 แถมให้ห้องนอนที่พึ่ง renovate ให้กับเราทั้งสองห้องด้วยน่ารักฟุดๆ
ยับบ้างเนอะมะคืนถึงง่วงมากเลยรีบนอนซะก่อน ห้องผมไม่มีภาพวาดที่หัวเตียงแต่ของเพื่อนมีแถมสวยได้ฟิวอินเดียดีคับ
ตื่นเช้าลงมาก็ตกใจเล็กน้อยเพราะพี่แขก3-4 คนนั่งอยู่แถวที่เค้าเตอโรงแรมแต่เราก็ ทำการฝากกระเป๋าและ check out เพราะคืนนี้เปลี่ยนไปพักอีกที่นึงเพื่อสัมผัสอีกบรรยากาศคับ😊😊
Check out เสจก็พุ่งมาเลยพี่แขกของเรา 1 ใน 4 คน ว่าสนใจรถพาไปที่ต่างๆแบบเที่ยวเดี่ยวหรือทั้งวันไหม (เพราะวันนี้ผมเป็นแบบ free and easy คับ) เลยถามราคาไปเพราะไม่งั้นก็เรียก uber จึงได้ราคาตามนี้
1. ตุ๊กตุ้ก นั่งได้ 3-4คนเบียดหน่อยแต่ได้อารมณ์ - 500 รูปี
2. รถเล็ก 4 ที่นั่ง - 1,000รูปี
3. รถขนาดกลาง 5 ที่นั่งพร้อมท้ายรถใส่กระเป๋าของพวกเรา4คนได้พอดี ราคาอยู่ที่ 2,000รูปี
ที่กล่าวข้างต้นมานั้นคือ พาไปได้หมดในเมือง จนถึงเวลา 17.50น นะคับถ้าเกินก็ชาตว่าตามกันไป
พวกผมเลือกเบอร์ 3 เพราะมีแพลนเต็มวันพอดีพร้อมย้ายที่พัก
ส่วนนี้คือรูปรอบๆที่พักของผมคืนแรกนะคับได้อารมณ์ไปอีกแบบแถมมีตึกสวยให้ถ่ายรูประหว่างรอรถมาด้วย
แพลนวันแรกตามนี้คับ..........
1. Wind View Cafe
2. Hawa Mahal
3. City Palace
4. Lunch @Rambagh Palace Hotel
5. Move to Fairmont Hotel
ค่อนข้างชิวๆหน่อยเพราะคืนนี้พักโรงแรมแพงเพราะสาวๆอยากพักอารมณ์แบบ มหารานี 🧕🏻👸🏻 ซักคืนคับ
บอกก่อนเลยนะคับขับรถในไทยว่าไม่ค่อยมีมารยาทหรือกฏระเบียบแล้วผมว่ามาอินเดียนี่แทบจะหน้ามือเป็นหลังมือเลย มีทั้งมอไซ คนเดิน วัวยืนกลางถนน และคนบีบแตรเหมือนเรื่องปกติ แนวๆๆหลบจะรีบไปหรือเตือนว่าอย่าบังทางนะ😅 แถมปาดซ้ายขวาแบบไม่สนใจใคร ที่เห็นกับตาคือ มอไซขับเกี่ยวกันล้ม พูดทะเลาะกันนิดนึงระยกรถขึ้นขับต่อเลยโอ้แม่เจ้า เป็นที่ไทยคงมีเรื่องหันไปแล้วมั้งเนี่ย 5555
**รูปผ่านๆๆมาจะมาจาก iPhone นะครับแต่หลังจากนี้จะมาจากกล้องใหญ่ และ ประกอบข้อมูลจากเวปหน่อยๆน้า
ไร้สาระมาพอควร ไปหาของกินวิวดีกันดีกว่า
จุดแรก............ Wind view cafe
จุดนี้ไม่มาไม่ได้พูดเลย จริงๆแล้วมีอีกร้านข้างๆ The Tattoo Cafe จะได้วิวเดียวกันแต่ที่ผมเลือกร้านนี้เพราะมุมสวยกว่า(ในความคิดผมนะ) และขนาดพื้นที่นั่งของร้านกว้างกว่าหน่อยคับ
เพื่อนๆคงอยากเห็นละว่าวิวเป็นยังไงบอกเลย ราคาหลักร้อย วิวหลักร้อยล้านเลยจ้า
ส่วนอาหารนั้นก็พวกแซนวิส เครื่องดื่ม และอาหารพวก pasta pizza ก็แล้วแต่เพื่อนๆอยากลองเลยแต่พวกผมลองพวกแซนวิสถือว่าใช้ได้เลยคับ
แถมวิวอีกซักหน่อยแบบกว้างๆ
ก็ชิวกันไป 1 ชม.(พูดเลยถ่ายรูปจนเหนื่อยเพราะว่ามันสวยจิงๆๆ) และด้วยเวลานัดกับรถเอาไว้และทำเวลานิดหน่อยเพราะมีอีกหลายที่ต้องไป
ด้วยวันนี้เน้นสบายๆเลยไม่เข้าไปยังตัวอาคาร Hawa Mahal ไว้รอบหน้าละกันนะรักเราจะได้ไม่เก่าไป 5555 (เผื่อหาเรื่องมาอีก 🤩🤩)
นั่งรถมายังไม่หายเหนื่อยจากการเดินลงจากร้าน cafe ก็ถึงแล้ว City Palace
ขอเข้าสาระนิดนะ....... วังนี้เป็นของราชวงศ์ ที่ใช้อยู่อาศัยจริงนะคับแต่ได้มีการเปิดให้เข้าชมเป็นบางส่วนแบ่งเป็นสองส่วนคือ
1. ตัว Palace
2. Museum
ตั๋วก็เหมือนบ้านเราคนอินเดียราคานึง ต่างชาติก็ราคานึงนะครับ และอยู่ที่ว่าเราจะเข้าส่วนไหนบ้างแบ่งเป็น(ราคาต่างชาติ)
1. ส่วน Museum ราคา 500รูปี เดินเอง
2. Palace & Museum รวม private guide tour ราคา 2,500รูปี
ใช่คับมองไม่ผิด 2,500รูปี หรือ 1,250฿ บระเจ้าแพงมาก แต่มองไปที่ป้ายราคาคนอินเดียก็ 2,000รูปีนะ แต่ด้วยสิ่งเย้ายวนมันมีมากด้านในตัว Palace เงินในกระเป๋าจึงได้บินออกไป 💸💸🤣🤣
เด๋วมาต่อนะคับพอดีเต็มกระทู้แรกแว้วอดใจรอแปปน้าพอดีอันนี้สาระเยอะไปนิดเพื่อช่วยให้เพื่อนๆไปเที่ยวง่ายขึ้นคับ