[CR] ตอนที่ 2 จาก Jaisalmer เมืองสีทอง สู่ Jodhpur เมืองสีฟ้า ตามแบบฉบับแบกเป้เที่ยว

จากตอนที่แล้ว https://pantip.com/topic/36381321 จขกท. เดินทางจาก Delhi ไป Jaisalmer
ตอนที่ 2 นี้ เราจะออกจาก Jaisalmer แล้วนั่งรถไฟไป Jodhpur เมืองสีฟ้ากันค่ะ

Day 4 (9 Apr)
วันนี้เราจองตั๋วรถไฟแต่เช้าตู่ 6.45 ขบวน 14809 ไปถึง jodhpur 13.00 บรรยากาศสถานีรถไฟ jaisalmer ตอนเช้าๆค่ะ

ที่ Jodhpur นี้เราได้จองที่พักผ่าน booking.com ไว้เหมือนกันค่ะ ราคา 600 รูปี ชื่อ L.G.Guest House แต่ไม่มีแอร์ แต่ที่พักใหม่และสะอาดมาก แต่อยู่บนเขา ถ้าเดินขึ้นจะลำบากหน่อย ถ้าเรียกตุ๊กๆ เค้าจะบวกเพิ่มอีก 50 รูปี แต่วิวดีค่ะ ติดกับ Mehrangarh Fort เลย

ถ่ายกับเจ้าของ Guest house ซักหน่อย พี่เค้าใจดีมากจริงๆ ช่วยเหลือดีมาก เป็น guest house สไตล์บ้านๆ แบบครอบครัว แม่ทำอาหาร พ่อเป็นคนดูแลที่พัก ส่วนลูกสาว ลูกชาย ก็ช่วยอะไรเล็กๆน้อยๆ

มื้อกลางวันนี้เราฝากท้องกับที่นี่เป็นมังสวิรัติอีกเช่นเคย ที่ jodhpur นี่หาไม่มังยากมากค่ะ เราอยากกินไก่ เศร้าใจ มื้อนี้คนละ 200 รูปี แบบเติมไม่อั้น อิ่มแป้เลย

เนื่องจากเรามาถึงนี่ก็บ่ายมากแล้วเลยตั้งใจจะไปแค่ พระราชวัง Umaid Bhawan แล้วพรุ่งนี้ค่อยเดินไป Mehrangarh Fort

เค้าว่ากันว่า พระราชวัง Umaid Bhawan เป็นพระราชวังที่สร้างใหม่เพื่อเป็นการสร้างงานให้กับคนอินเดียค่ะ

กลับมาจาก พระราชวัง Umaid Bhawan เราก็มานั่งที่ดาดฟ้า guest house ลูกสาวเจ้าของ เค้าก็มานำเสนอเพ้นท์เฮนน่า ในราคาข้างละ 200 รูปี อ่ะ ลองดูก็ได้

Day 5 (10 Apr) Mehrangarh Fort - Sardar Market  - Jaipur

วันนี้เราตั้งใจออกสายๆหน่อย เนื่องจาก รร.ที่อยู่ อยู่ไม่ไกลจาก fort เราเดินออกไปตามแผนที่ที่พี่เจ้าของ guest house ให้มา ผ่านไปได้ซักพักก็เจอคุณลุงมาดัก นมัสเต ระหว่างทาง เรื่องของเรื่องก็คือโดนคุณลุงสกัดดาวรุ่งระหว่างทางเดินขึ้น Fort สรุปโดนไป 120 รูปี ค่าสีเฮนน่า 20 รูปีค่าเพ้นท์ Heena อีก 100 รูปี เนื่องจากเชื่อคนง่าย เค้าบอกให้เพ้นท์ฝ่ามือเพิ่มเพื่อความโชคดี ประเด็นคือก็เชื่อเค้า...รู้ตัวอีกทีคือเข้าไปนั่งในบ้านเค้าแล้ว

เอาล่ะค่ะ ไม่ได้ถึง fort ซักที ในที่สุดก็มาถึงค่ะ ที่นี่เราใช้บัตรนักเรียนค่ะ พอดีบัตรที่เรียนปริญญาโทยังไม่หมดอายุ เลยมาเนียนใช้ไป ใช้ได้นะคะ ส่วนลดเยอะกว่าราคาปกติมากมาย ค่าเข้าบัตรนักเรียนที่นี่ 400 รูปี ถ้าไม่มีบัตรราคา 600 รูปี

ขึ้นมาชมเมืองสีฟ้าไปด้วยกันค่ะ

เมืองสีฟ้า ตอนแรกเข้าใจว่าจะฟ้าทั้งเมือง มองไปมองมายังเป็นหย่อมๆอยู่ สวยจังเลย

สถาปัตยกรรมในป้อม Mehrangarh ค่ะ เราชอบป้อมที่นี่ที่สุดแล้ว ตรงสถาปัตยกรรมยังสวยงามมากแบบได้อารมณ์อินเดี๊ย อินเดียจิงๆ

เค้าแนะนำว่าทางลงจากป้อมนั้น ให้ลงที่ประตู Fateh Pol ซึ่งจะเจอ blue city หรือเมืองสีฟ้าพอดี เราเลยลงไปถ่ายรูปบ้านสีฟ้า น่ารักมากเลย เหมือนบ้านตุ๊กตามาก

จากนั้นก็นั่งตุ๊กๆ ไป Sardar Market ตลาดกลางใจเมืองตรงหอนาฬิกา ที่นี่มีของขายเยอะมาก มีทุกอย่างที่อยากได้ ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย

จากนั้นก็กลับมาที่ guest house เพื่อมาเก็บของเพื่อเตรียมนั่งรถไฟไป Jaipur เมืองสีชมพูต่อตอน 16:30 เราจะไปถึง jaipur กันตอนดึกคืนนี้เวลา 21:15
บนรถไฟมีเครื่องดื่มมาขาย เห็นคนอินเดียเค้าซื้อดื่มกันเยอะ เอาวะ ซื้อมั่ง มันคือ นมควายรสชาเขียว เราว่ารสชาติมันทะยิ้มๆเหมือนมีกลิ่นเครื่องเทศ่นนิดๆ

Day 6 (11 Apr)

เนื่องจากเมื่อคืนกว่าจะมาถึงรร.ที่จองไว้ก็เกือบๆจะห้าทุ่มแล้ว บวกกับง่วงนอนด้วย ลืมถ่ายรูปรร.ไว้ เอาเป็นว่าตัดภาพมาตอนเช้ากันเลยนะคะ วันนี้เนื่องจากเราไปเจอคนขับตุ๊กๆที่สถานีรถไฟเมือง Jaipur เค้าให้เบอร์กับน้องเราไว้ ว่าถ้าพรุ่งนี้อยากให้เค้าขับพาเที่ยว โทรตามนะ 400 รูปี เห้ยมันถูกมากนะ ทั้งวัน 200 บาท (ในใจแอบคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ แต่ก็โทตามเค้าตั้งแต่เมื่อคืน ให้มารับเช้าวันนี้)

เมืองชัยปุระ นครแห่งชัยชนะ คนอินเดียเรียกเมืองนี้ว่า จัยปูร์ หรือ จัยเปอร์ รัฐราชสถานได้ชื่อว่า นครสีชมพู (Pink city) โดยที่มาของเมืองสีชมพูก็เนื่องจากในปีค.ศ. 1876 มหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) ได้มีรับสั่งให้ประชาชนทาสีชมพูทับบนสีปูนเก่าของบ้านเรือนตนเอง เพื่อแสดงถึงไมตรีจิตครั้งต้อนรับการมาเยือนของเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Waies) เจ้าชายมกุฎราชกุมารของอังกฤษ ซึ่งภายหลังคือกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 (King Edward Vll) แห่งสหราชอาณาจักรและต่อมารัฐบาลอินเดียก็ยังออกกฎหมายควบคุมให้สิ่งก่อสร้างภายในเขตกำแพงเมืองเก่าต้องทาสีชมพูเช่นเดิม จนกลายเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาและทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ต่างพากันเดินทางมายังเมืองชัยปุระอย่างไม่ขาดสาย

ที่แรกที่เราจะไปคือ city palace ทีนี่เราก็ยังไม่อินเท่าไร อีกเหมือนเดิม ชมภาพ

รูปนี้เห็นทหารที่ยืนเค้าเรียกให้ไปถ่ายรูป พอถ่ายเสร็จ แบบมือบอก ทิปๆๆ เห้ย ขอกันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ งงมาก เลยให้ไป 20 รูปี เอาไปแบ่งกัน 4 คน

ต่อไปอันนี้สวยค่ะ ฮาวามาฮาล (Hawa Mahal) หรือ “พระราชวังแห่งสายลม“ ประกอบด้วยหน้าต่างขนาดเล็กตกแต่งด้วยลวดลายฉลุเป็นช่องลมจำนวน 953 บาน แต่ของจริงคืออยู่ติดถนนแล้วเราก็ไม่ได้เข้าไปถ่ายข้างใน สถาปัตยกรมงดงาม ละเอียดอ่อนและสวยงามมาก เออ ตรงนี้อิน

ที่สุดท้ายของวันอันอบอ้าว แสงแดดร้อนแผดเผานี้ เราไปกันที่ Amber fort ค่ะ ที่ราชสถานนี่ที่ไปมา สังเกตว่าจะมี fort ทุกเมืองเลย fort นี้ก็ยิ่งใหญ่ อลังการดาวล้านดวงมากค่ะ

แต่ที่แปลกใจก็คือ มีคนมารุมแย่งกันถ่ายรูปกับฉัน คือดูสวยมาก อะไรจะขนาดนั้น เค้าเข้าใจอะไรผิดหรือป่าว ฮามากแต่ละรูป

ขากลับจาก Amber fort แวะถ่ายรูป Jal Mahal on Man Sagar lake พระราชวังกลางน้ำค่ะ

เมือง Jaipur ไม่เห็นจะชมพูเลย

ตอนเย็นเราเดินออกไปหาข้าวเย็นกัน ระหว่างทางเจอร้านขายเจ้าตัวนี้ เลยอยากลองค่ะ 5 คำ 10 รูปี สอบถามแล้วมันเรียกว่า Pani Puri เค้าจะตักน้ำซุปใส่ในกระทงให้เรา แล้วตัวข้างในจะเป็นแป้งกรอบ ข้างในเหมือนเป็นมันฝรั่งแล้วราดซอสออกหวานๆ พอดีกินค่ะ

ตอนที่ 3 Agra-delhi https://pantip.com/topic/36386208
ชื่อสินค้า:   อินเดีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่