สามสิบ เดือนสาม ปีสองพันห้าร้อยหกสิบเอ็ด
วันนี้เป็นวันสอบขับขี่ครั้งที่สาม และฉันได้วางแผนไว้เมื่อคืนว่า จะรีบไปแต่เช้า (เขานัดสิบโมงเช้า)
แล้วไปขอซ้อมขี่ในสนามก่อน คงจะทำให้เรากะจังหวะได้ แต่ แต่ แต่ เพราะตัวเองนี้แหละมัวแต่ดูละคร
พอพักเบรกก็ขออีกเบรก ขออีก ขออีก จนเกือบจะจบเรื่องทั้งที่ในใจก็บอกว่าปิดไฟนอน พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า
แต่ก็ไม่ได้นำพา ฉันยังคงนั่งนิ่งรอดูต่อไป จนสำนึกในใจคงทนไม่ไหว เริ่มนับถอยหลัง
ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง
ก่อนที่เลขศูนย์จะตามมา ฉันก็ลุกไปปิดไฟ ปิดทีวีนอนได้ซะที รู้งี้นับตั้งนานแล้ว
สุดท้ายก็นอนเกือบห้าทุ่ม แล้วการต้องตื่นมาช่วยแม่ตอนตีสาม ปรกติฉันจะนอนต่อ เพราะง่วง
และวันนี้หลังสวดวัตรเช้านั่งสมาธิเสร็จ ฉันก็ฝืนหนังตาไม่ไหวจริงๆ ล้มตัวนอนราวกับโดนมือที่มองไม่เห็นดึงลงไปเลย
นอนหลับเป็นตาย ลืมตาขึ้นมาอีกที ซวยแล้วเกือบแปดโมงเช้า ไม่ว่าจะรีบแค่ไหน
ผลก็คือไปถึงสนามตอนคนอยู่เต็มแล้วอยู่ดี ฉันพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จ้องไปที่สนามคิดในใจว่ามันง่ายนิดเดียว
แล้วช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง ท่าที่ฉันตกมาตลอดคือไต่กระดาน ครั้งแรกเผลอกางเท้า ครั้งที่สองตกไม้ และครั้งนี้ฉันตีวงเลี้ยวกว้างมากประหนึ่งว่าครึ่งสนามบอล (เอ่อเว่อร์ไป) และเมื่อตั้งลำได้ก็ไปทันที
ตึ่งงงง โลกทั้งใบกลายเป็นสีเทา อินโทรเพลงธรณีกันแสงดังขึ้นในวินาทีต่อมา ฉันตกไม้กระดานอีกแล้ว
ใครก็ได้ช่วยฉันที ม่ายยยยยย ฉันกรี๊ดร้องในใจก่อนจะปาดน้ำตาที่ตกใน เดินไปรับเอกสารนัดวันสอบครั้งต่อไป
ก่อนจะเดินออกมาฉันพยายามขอร้องคุณป้าว่าขอซ้อมในสนามได้หรือไม่ ตอนคนไม่มีแล้ว
คุณป้าผู้ใจดีบอกชัดเต็มสองรูหูว่า “ไม่ได้” ความจริงคุณป้าก็ใจดีนะเขาก็ทำตามหน้าที่ของเขา ช่างเถอะ
แต่คำว่า ไม่ได้.....................
ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้
ดังก้องสะท้อนเป็นเสียงตามสายตอนฉันเดินคอตกออกมา
ทำไมคนอื่นขับง่ายจัง ทำไมฉันตกทุกทีสิน่า
แม่บอกว่าเขาไม่ให้ซ้อมหรอกเพราะคนที่ไปสอบใบขับขี่หมายถึงคุณต้องพร้อมแล้วที่จะขับขี่ในทุกรูปแบบ
เอิ่มม หรือว่าเรายังไม่พร้อมจริงๆ
หรือจะเป็นที่ รถมันเป็นออโต้ ฉันเคยอ่านเจอคนที่มาเล่าเรื่องสอบขับขี่ว่า
รถออโต้จะผ่านด่านนี้ยาก เพราะบังคับยากกว่า ออกตัวไม่นิ่ง อัตราการเร่ง และอีกหลายสิ่งอย่าง ความจริงที่บ้านมีรถอีกแต่อีกคันแต่ใหญ่มาก ฉันคับไม่คล่อง ที่สำคัญเบรกทีได้ยินไปสามบ้าน คนทั้งสนามคงหันมามองตอนเบรก
คงตื่นเต้นไปอีกสิบเท่าและคงไม่ผ่านอีกเช่นเคย
หรือจะเป็นที่ ฉันเองไม่ค่อยได้ขับมานาน เลยประคอง ทรงตัวไม่ได้
หรือจะเป็นที่ ฉันสายตาเอียง แล้วดันไม่ใส่แว่น
ยอมรับว่าตอนนี้คิดวนไปวนมาว่าจะแก้ไขอย่างไร ให้อีกครั้งมันผ่านสักที
ข้อเขียนทำไมผ่านครั้งเดียวได้ ขับขี่มันยากตรงไหน
เคยไหมที่ช่วงไหนที่ชีวิตมันทำอะไรติดขัดก็จะติดไปหมด ฉันพยายามมองในแง่ดี
แต่ลึกๆก็รู้สึกแย่อยู่ดี
ระหว่างทางฉันได้แต่คิดว่าจะไปซ้อมที่ไหน ที่บ้านพื้นที่กว้างสุดก็โรงรถ ซึ่งไม่พอแน่ๆ
ส่วนลาดข้างนอกก็ เป็นที่ลาดเอียง จะซ้อมได้อย่างไร คิดแล้วก็คิดอีก
ในที่สุดก็ปิ๊งไอเดีย สนามบาสเก่าท้ายหมู่บ้าน คงจะเหมาะ แต่พอไปดูจริง มันไม่มีเส้น แถมเวลาเลี้ยว ฉันพบว่าตัวเองจะขับได้ถนัดเวลาเลี้ยวซ้าย แต่ในสนามสอบมันต้องเลี้ยวขวา ทำให้ฉันตั้งรถตรงๆไม่ได้ ตรงนี้น่าจะมีส่วนมาก
ตอนนี้ขอทำใจ และหาที่ซ้อมก่อน ไว้พร้อมค่อยไปอีกที
จบเรื่องใบขับขี่ไว้เพียงเท่านี้ก่อน ไม่อย่างนั้นคงต้องบ่น ต้องพร่ำเพ้ออะไรไม่สิ้นสุด
เคยมีคนบอกว่า ในชีวิตเราควรมี สองช่างให้ชินคือ ช่างเขา กับช่างมัน
และฉันก็เอาไปปรับใช้กับตัวเองว่า
ช่างเขา ใช้ตอนคนอื่นทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเรา
ช่างมัน ใช้ตอนเราทำอะไรที่ต้องการไม่ได้สักที
ช่างมัน ช่างมัน ช่างมัน ช่างมัน แล้วก็ไปซ้อม ซ้อม ซ้อม ซ้อม ให้ผ่านซะ
ร้อยวันที่ฉันเปลี่ยน วันที่สิบ
วันนี้เป็นวันสอบขับขี่ครั้งที่สาม และฉันได้วางแผนไว้เมื่อคืนว่า จะรีบไปแต่เช้า (เขานัดสิบโมงเช้า)
แล้วไปขอซ้อมขี่ในสนามก่อน คงจะทำให้เรากะจังหวะได้ แต่ แต่ แต่ เพราะตัวเองนี้แหละมัวแต่ดูละคร
พอพักเบรกก็ขออีกเบรก ขออีก ขออีก จนเกือบจะจบเรื่องทั้งที่ในใจก็บอกว่าปิดไฟนอน พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า
แต่ก็ไม่ได้นำพา ฉันยังคงนั่งนิ่งรอดูต่อไป จนสำนึกในใจคงทนไม่ไหว เริ่มนับถอยหลัง
ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง
ก่อนที่เลขศูนย์จะตามมา ฉันก็ลุกไปปิดไฟ ปิดทีวีนอนได้ซะที รู้งี้นับตั้งนานแล้ว
สุดท้ายก็นอนเกือบห้าทุ่ม แล้วการต้องตื่นมาช่วยแม่ตอนตีสาม ปรกติฉันจะนอนต่อ เพราะง่วง
และวันนี้หลังสวดวัตรเช้านั่งสมาธิเสร็จ ฉันก็ฝืนหนังตาไม่ไหวจริงๆ ล้มตัวนอนราวกับโดนมือที่มองไม่เห็นดึงลงไปเลย
นอนหลับเป็นตาย ลืมตาขึ้นมาอีกที ซวยแล้วเกือบแปดโมงเช้า ไม่ว่าจะรีบแค่ไหน
ผลก็คือไปถึงสนามตอนคนอยู่เต็มแล้วอยู่ดี ฉันพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จ้องไปที่สนามคิดในใจว่ามันง่ายนิดเดียว
แล้วช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง ท่าที่ฉันตกมาตลอดคือไต่กระดาน ครั้งแรกเผลอกางเท้า ครั้งที่สองตกไม้ และครั้งนี้ฉันตีวงเลี้ยวกว้างมากประหนึ่งว่าครึ่งสนามบอล (เอ่อเว่อร์ไป) และเมื่อตั้งลำได้ก็ไปทันที
ตึ่งงงง โลกทั้งใบกลายเป็นสีเทา อินโทรเพลงธรณีกันแสงดังขึ้นในวินาทีต่อมา ฉันตกไม้กระดานอีกแล้ว
ใครก็ได้ช่วยฉันที ม่ายยยยยย ฉันกรี๊ดร้องในใจก่อนจะปาดน้ำตาที่ตกใน เดินไปรับเอกสารนัดวันสอบครั้งต่อไป
ก่อนจะเดินออกมาฉันพยายามขอร้องคุณป้าว่าขอซ้อมในสนามได้หรือไม่ ตอนคนไม่มีแล้ว
คุณป้าผู้ใจดีบอกชัดเต็มสองรูหูว่า “ไม่ได้” ความจริงคุณป้าก็ใจดีนะเขาก็ทำตามหน้าที่ของเขา ช่างเถอะ
แต่คำว่า ไม่ได้.....................
ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้
ดังก้องสะท้อนเป็นเสียงตามสายตอนฉันเดินคอตกออกมา
ทำไมคนอื่นขับง่ายจัง ทำไมฉันตกทุกทีสิน่า
แม่บอกว่าเขาไม่ให้ซ้อมหรอกเพราะคนที่ไปสอบใบขับขี่หมายถึงคุณต้องพร้อมแล้วที่จะขับขี่ในทุกรูปแบบ
เอิ่มม หรือว่าเรายังไม่พร้อมจริงๆ
หรือจะเป็นที่ รถมันเป็นออโต้ ฉันเคยอ่านเจอคนที่มาเล่าเรื่องสอบขับขี่ว่า
รถออโต้จะผ่านด่านนี้ยาก เพราะบังคับยากกว่า ออกตัวไม่นิ่ง อัตราการเร่ง และอีกหลายสิ่งอย่าง ความจริงที่บ้านมีรถอีกแต่อีกคันแต่ใหญ่มาก ฉันคับไม่คล่อง ที่สำคัญเบรกทีได้ยินไปสามบ้าน คนทั้งสนามคงหันมามองตอนเบรก
คงตื่นเต้นไปอีกสิบเท่าและคงไม่ผ่านอีกเช่นเคย
หรือจะเป็นที่ ฉันเองไม่ค่อยได้ขับมานาน เลยประคอง ทรงตัวไม่ได้
หรือจะเป็นที่ ฉันสายตาเอียง แล้วดันไม่ใส่แว่น
ยอมรับว่าตอนนี้คิดวนไปวนมาว่าจะแก้ไขอย่างไร ให้อีกครั้งมันผ่านสักที
ข้อเขียนทำไมผ่านครั้งเดียวได้ ขับขี่มันยากตรงไหน
เคยไหมที่ช่วงไหนที่ชีวิตมันทำอะไรติดขัดก็จะติดไปหมด ฉันพยายามมองในแง่ดี
แต่ลึกๆก็รู้สึกแย่อยู่ดี
ระหว่างทางฉันได้แต่คิดว่าจะไปซ้อมที่ไหน ที่บ้านพื้นที่กว้างสุดก็โรงรถ ซึ่งไม่พอแน่ๆ
ส่วนลาดข้างนอกก็ เป็นที่ลาดเอียง จะซ้อมได้อย่างไร คิดแล้วก็คิดอีก
ในที่สุดก็ปิ๊งไอเดีย สนามบาสเก่าท้ายหมู่บ้าน คงจะเหมาะ แต่พอไปดูจริง มันไม่มีเส้น แถมเวลาเลี้ยว ฉันพบว่าตัวเองจะขับได้ถนัดเวลาเลี้ยวซ้าย แต่ในสนามสอบมันต้องเลี้ยวขวา ทำให้ฉันตั้งรถตรงๆไม่ได้ ตรงนี้น่าจะมีส่วนมาก
ตอนนี้ขอทำใจ และหาที่ซ้อมก่อน ไว้พร้อมค่อยไปอีกที
จบเรื่องใบขับขี่ไว้เพียงเท่านี้ก่อน ไม่อย่างนั้นคงต้องบ่น ต้องพร่ำเพ้ออะไรไม่สิ้นสุด
เคยมีคนบอกว่า ในชีวิตเราควรมี สองช่างให้ชินคือ ช่างเขา กับช่างมัน
และฉันก็เอาไปปรับใช้กับตัวเองว่า
ช่างเขา ใช้ตอนคนอื่นทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเรา
ช่างมัน ใช้ตอนเราทำอะไรที่ต้องการไม่ได้สักที
ช่างมัน ช่างมัน ช่างมัน ช่างมัน แล้วก็ไปซ้อม ซ้อม ซ้อม ซ้อม ให้ผ่านซะ