โลกธรรม8 (ตอนที่1 ได้ลาภเสื่อมลาภ ) อุ้ยเสี่ยวมินเขียน

โลกธรรม8  (ตอนที่1 ได้ลาภเสื่อมลาภ )
อุ้ยเสี่ยวมินเขียน
             สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าได้ตรัสหลักธรรมบอกพระภิกษุด้วยหลักแห่งความเป็นไปของสังคมมนุษย์มีชื่อว่าโลกวิปัตติสูตร แปลว่าธรรมะที่เป็นจริงคู่โลก (สังคมมนุษย์ที่ต้องพบเจอมีด้านพอใจและไม่พอใจ) มีองค์ประกอบ8อย่างแบ่งได้เป็น4คู่ ได้แก่ได้ลาภเสื่อมลาภ ได้ยศเสื่อมยศ  มีสรรเสริญ
มีนินทา มีสุขมีทุกข์ จึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นเพราะชีวิตมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้เสมอ
          ซึ่งเป็นหลักที่ควรศึกษา โดยการค้นหาเรื่องคำสอนโลกธรรม8 มีผู้อธิบายค่อนข้างน้อย ผมจึงคิดวิเคราะห์ (อาจเข้าใจผิดก็ได้) เรียบเรียงเนื้อหาเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้รู้ สหายธรรมต่างช่วยกันขบคิดแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อธิบายอย่างเป็นเหตุผล ช่วยกันตีความเพื่อสามารถนำหลักธรรมนี้
ไปประยุกต์ใช้
         โดยโลกธรรม8 แบ่งได้เป็นด้านพอใจ ได้แก่ได้ลาภ  ได้ยศ  มีสรรเสริญ  มีสุข   ด้านไม่พอใจได้แก่เสื่อมลาภ  เสื่อมยศ  มีนินทา มีทุกข์  
โดยทุกคนจะต้องเจอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ พระพุทธเจ้าจึงทรงตรัสให้เราไม่หลงยึดติดกับด้านใดด้านหนึ่ง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่
และดับไป เป็นไปตามเหตุและปัจจัย   จึงขออธิบายดังนี้
1.    ได้ลาภเสื่อมลาภ  ลาภคือการได้มาซึ่งสิ่งที่ทำให้พอใจได้แก่ผลประโยชน์ที่ได้รับ ทรัพย์สิน ของรางวัล ของขวัญ  สุขภาพ อาจรวมสิ่งมีชีวิต
(เมีย ลูก สัตว์เลี้ยง)    ซึ่งที่มาของลาภนั้นเกิดจากความสามารถของตน (การตั้งใจทำงาน การพัฒนาตนเอง การต่อสู้กับอุปสรรคปัญหา  การพูดคุย   การทำธุรกิจถูกกฎหมาย)   เกิดจากความเสน่หา (ผู้อื่นให้เพราะพอใจในรูปร่าง ความสามารถ น้ำเสียง น้ำใจ การเอาใจใส่)    
เกิดจากมรดก (ครอบครัว หรือผู้ทำพินัยกรรม มอบบ้าน รถ ที่ดิน ทรัพย์สินเงินทอง เงินทุนจากกองทุนฌาปนกิจ)  
เกิดจากความบังเอิญ (ถูกหวย ได้รางวัลชิงโชค)  เกิดจากกฎหมายระบุ  (เงินเดือน เงินบำเหน็จ  บำนาญ  เงินกองทุนประกันสังคม  
เงินจากกรมธรรม์ประกันชีวิต)  เกิดจากการกระทำไม่สุจริต (การเล่นพนัน แย่งชิง หลอกลวง  ปล้น ฉ้อโกง  ข่มเหง ลักขโมย  เก็บทรัพย์สินได้
ทำธุรกิจผิดกฎหมาย)  ฯลฯ
       โดยลาภในทางไม่สุจริตมีความเสื่อมได้รวดเร็วเพราะมีผู้คิดทวงทรัพย์สินคืน (ใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาหรืออาจแจ้งความเพื่อดำเนินคดี)  
ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อสังคมส่งผลให้มีการจับกุมดำเนินคดี   เจ้าหนี้ทวงหนี้โหด (ในกรณีลาภที่เกิดจากการพนัน)
          นอกจากนี้เหตุดังกล่าวข้างต้น ความเสื่อมลาภมีหลายอย่างได้แก่การกระทำของตน (ไม่ตั้งใจทำหน้าที่ ใช้เงินฟุ่มเฟือย ไม่เตรียมการป้องกันภัย ขาดการตรวจสอบข้อมูล  ไว้ใจผู้อื่น หมดตัวจากการพนัน)   การกระทำผิดกฎหมาย (ถูกจับกุม ดำเนินคดี ยึดทรัพย์สิน)    การกระทำให้ผู้อื่นเสียหาย (ทำร้ายร่างกาย  หมิ่นประมาท มีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้อื่น)   พิษเศรษฐกิจ (กิจการขาดทุน มีการรั่วไหลของเงิน  ตัดสินใจผิดพลาด  ไม่ชำนาญ
ในธุรกิจ)    โดนกลโกงเล่ห์เหลี่ยม (ถูกล่อลวง ทำให้เข้าใจผิด  ทำทุกวิธีเพื่อให้เราสูญเสีย เบียดบังทรัพย์สิน  ลักขโมย ข่มเหง)
ความซวย (ไฟไหม้  ถูกดำเนินคดีเพราะเข้าใจผิด  อุบัติเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือพิการ สัตว์ทำอันตราย)   เมื่อถึงคราวต้องแยกจาก
(ตัวเองตาย  และพลัดพรากจากสิ่งที่เรารัก) ฯลฯ
       ซึ่งการได้ลาภเสื่อมลาภนี้ ขอยกตัวอย่างได้แก่ เศรษฐีร้อยล้านคนหนึ่งมีธุรกิจที่กำลังรุ่งเรือง ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ ส่งผลให้สาวๆต่างใช้
เล่ห์เหลี่ยมยั่วยวนให้หลงไหล  เขาคลั่งทรมานจนตัดสินใจอย่ากับเมีย จัดการแบ่งทรัพย์สินเงินทองให้เมียเก่าจำนวนมาก แบ่งให้เมียใหม่จำนวนมาก
เช่นกัน   เรื่องนี้ทำท่าจะจบอย่างมีความสุข แต่ใครจะไปคาดคิดเศรษฐีล้มละลายเพราะพิษเศรษฐกิจ รวมถึงป่วยเป็นโรคเรื้อรัง จนในที่สุด
เมียใหม่ก็อันตธารหายไป เขาเศร้าโศกเสียใจ สุดท้ายเลือกวัดเป็นที่พึ่งพิงอาศัย
         อีกตัวอย่างหนึ่ง  เด็กสาวคนหนึ่ง ชีวิตดังละคร แม่แยกกับพ่อตั้งแต่เด็ก   ต่อมาพ่อป่วยตายด้วยโรคมะเร็ง เธอกับแม่ปากกัดตีนถีบสู้ชีวิตจนอายุได้17ปี  ย่าผู้ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีก็ติดต่อแม่บอกต้องการมอบมรดกให้ราว1,000ล้าน  เธอบินจากเมืองไทยไปฮาวายรับมรดก พลิกฐานะจากยากจนเปลี่ยนเป็นมหาเศรษฐี  เปิดร้านอาหารในฮาวาย
         โดยความมีลาภเสื่อมลาภเป็นสิ่งที่สามารถเกิดกับเรา ไม่มีใครได้อะไรทั้งหมดและก็ไม่มีใครเสียอะไรทั้งหมด จึงควรมีหลักพิจารณากฎเกณฑ์ เพื่อไม่หลงยึดติด ดังนี้
1.  เมื่อยังไม่มีลาภปรากฎ ก็ควรพัฒนาตนเองสม่ำเสมอ   อย่าเพิ่งท้อแท้กับชีวิต เมื่อร่างกายสมบรูณ์ เราต้องสู้ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค พัฒนาตนเอง
หาแนวทางเพื่อให้ตนประสบความสำเร็จ
2.  เมื่อได้ลาภมาแล้วควรใช้ด้วยความระมัดระวัง  หากใช้ด้วยความเพลิดเพลินก็อาจสร้างความทุกข์ใจภายหลัง  บางครั้งก็ควรมีเงินสำรองติดตัวไว้เพื่อสามารถใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน
3.  วางแผนการใช้จ่ายเงิน  บางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบใคร  ควรใช้จ่ายเพื่อเกิดความสุขกับครอบครัวและตนเองโดยใช้จ่ายเงินอย่างเหมาะสม
4.  การใช้ชีวิตผิดพลาดจนสูญเสียทรัพย์สินทำให้เกิดความเศร้าโศก (บางรายตัดสินใจฆ่าตัวตาย ทำผิดกฎหมาย)  สติปัญญาจึงเป็นสิ่งสำคัญ พิจารณายอมรับความผิดพลาด หาสาเหตุผิดพลาด  ปล่อยวาง   ใช้เวลาเพื่อยอมรับความเป็นจริง (ทุกสิ่งย่อมมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป)
หาแนวทางแก้ไขสถานการณ์จากหนักให้เป็นเบา
5.  เรื่องสำคัญบางเรื่องต้องรอบคอบ เช่นเอกสาร สัญญา การว่าจ้าง  การใช้จ่ายเงินสด การเป็นหุ้นส่วน มีกรณีตัวอย่างมากมายเกิดจากความไว้วางใจ
ผู้อื่น หรือประมาทเลินเล่อจนบางครั้งผู้อื่นเบียดบังผลประโยชน์จนส่งผลเสียต่อตัวเราเอง
6.  ประกอบอาชีพสุจริต ไม่เบียดเบียนผู้อื่น การทำอาชีพที่ผิดกฎหมายจะส่งผลให้เราเดือดร้อนเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกจับกุมดำเนินคดี
7.  คบหาเพื่อนที่ดี หรือมีหลักคิดที่ดี เพราะเพื่อนที่ดี หลักคิดที่ดีจะคอยเตือนเราไม่ให้จ่ายเงินโดยไม่รู้คุณค่า ไม่ใช้ชีวิตไร้สาระ
8.  กินอาหารให้ครบ5หมู่ ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตให้มีความสุข  เพราะเหตุว่าการไม่โรคภัยเป็นลาภอันประเสริฐ (เนื่องด้วยการมีโรคต้องสูญเสียเงิน
ในการรักษา เสียโอกาสในการทำงาน การไม่พบเจอสิ่งดีๆ)
9.  ฯลฯ อาจมีวิธีอีกมากตามแต่ประสบการณ์แต่ละคน
              บางคนก็บ่นว่าทำงานแทบตายมีแต่จนกับจน อันนี้ก็ไม่เป็นจริงเสียทีเดียว ความมีลาภบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องเป็นในรูปทรัพย์สิน ของมีค่า
อาจเป็นสุขภาพที่แข็งแรง มีสติปัญญาปกติเพราะตราบเรายังหายใจอยู่ก็สามารถเอาชนะอุปสรรคปัญหา  (ถ้าตั้งใจพัฒนาความคิด แก้ไขจุดด้อย
คบเพื่อนดี มีความอดทนและเพียรพยายามต่อสู้กับอุปสรรคปัญหา  ประหยัด  ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จ)  

เรื่องราวยังมีต่อโปรดติดตามตอน2  ได้ยศเสื่อมยศ
อ่านตอนที่2 https://pantip.com/topic/37510230
อ่านตอนที่3  https://pantip.com/topic/37529565
อ่านตอนที่4  https://pantip.com/topic/37529681
อ่านตอนจบ  https://pantip.com/topic/37529714
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่