[SR] Live Like Local at Akita Farm Stay, Odate City, Japan

สวัสดีค่ะทุกคน ยิ้มยิ้ม
เมื่อวันที่ Feb 25 - Mar 5 เราได้มีโอกาสเดินทางไปทริปญี่ปุ่นกับมหาวิทยาลัยค่ะโดยทริปนี้อาจารย์เป็นคนจัดทริปและนำเที่ยวกันเองไม่มีการจ้างไกด์ทัวร์ใดๆค่ะ ทำให้เราได้มีโอกาสไปอยู่ฟาร์มกับชาวญี่ปุ่นเป็นเวลา สามวันสองคืนค่ะ เลยอยากจะมาแนะนำให้ทุกคนเพราะมันดีมากกก
นี้เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกของเราเลย หากผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะคะ เริ่มกันเลยดีกว่าาาประหลาดใจ




หัวใจ DAY 1 หัวใจ

เมื่อเราไปถึงเราก็เจอคณะต้อนรับพร้อมทั้งคุณลุงคุณป้าที่จะเป็นคนดูแลเราตลอดทั้งสามวันยืนรอถือป้ายต้อนรับอย่างอบอุ่นเลยค่ะ

พวกเราจะถูกแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มละสี่คนพร้อมทั้งอาจารย์หนึ่งท่านแยกกันไปพักกลุ่มละบ้านค่ะ บ้านแต่ละหลังก็ไม่ได้อยู่บริเวณเดียวกันเลยทำให้พวกเราไม่ได้เจอหน้ากับคนในกลุ่มอื่นๆเป็นเวลาทั้งหมดสามวัน วันแรกๆก็คิดถึงเพื่อนนะคะแต่วันกลับดันไม่อยากกลับกันซะงั้น

รูปภาพหมู่กับรูปปั้นประจำเมืองก่อนจะแยกย้ายกันไปตามบ้านของตัวเองค่ะ

เมืองนี้เป็นเมืองที่มีประวัติเกี่ยวกับ Akita inu ค่ะ แล้วยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสุนัขผู้ซื่อสัตย์ค่ะลองไปหาอ่านกันดูนะคะ
การเดินทางไปที่ฟาร์มของพวกเรา คุณลุงกับคุณป้าจะเป็นคนขับรถพาเราไปที่พักเองค่ะซึ่งที่พักจะอยู่ค่อนข้างไกลกับสถานีรถไฟเพราะฉะนั้นในวันกลับเราต้องนัดแนะกับคุณลุงคุณป้าดีๆไม่งั้นอาจจะตกรถไฟได้

ถึงแล้วค่ะบ้านพักของพวกเราหัวใจ ช่วงที่เราไปเป็นช่วงหิมะตกน้อยแล้วค่ะแต่ว่ากองหิมะเยอะมาก ฟาร์มต่างๆก็จะโดนปกคลุมไปด้วยหิมะจนขาวโพลนหมดเลย

กลุ่มเราได้พักอยู่ที่บ้าน Ichirin ซังค่ะ กับคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นสองคนโดยเขาจะให้เราเรียกคุณลุงคุณป้าว่า โอโต้ซัง กับ โอก้าซัง ซึ่งรู้สึกว่าจะแปลว่าคุณพ่อคุณแม่ น่ารักมากๆเลยย คุณลุงคุณป้าจะไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษได้เลยนะคะเพราะฉะนั้นหากใครมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นก็จะชวนคุณลุงคุณป้าคุยง่ายหน่อย แต่สำหรับกลุ่มพวกเรานั้นไม่มีใครสามารถเลยค่ะร้องไห้ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ค่ะพวกแอพแปลภาษาช่วยได้เยอะมากๆ ตัวคุณลุงคุณป้าเองก็ใช้แอพแปลภาษาคุยกับพวกเราค่ะ อาจจะมีแปลผิดบ้าง งงๆบ้างแต่สุดท้ายก็สามารถสื่อสารกันได้ โอโต้ซังโอก้าซังน่ารักมากๆ

รูปภาพกับโอโต้ซัง โอก้าซังในวันแรกค่ะ

เนื่องจากวันแรกเราไปถึงกันก็บ่ายแก่ๆแล้วจึงไม่มีเวลาทำอะไรกันมากค่ะ เมื่อไปถึงโอก้าซังก็ปล่อยให้เวลาเราไปพักผ่อนประมาณหนึ่งชั่วโมง จากนั้นเราก็ไป Onsen กันค่ะ

ตู้กดเครื่องดื่มหน้าออนเซนค่ะ แนะนำนมที่ตู้ทางซ้ายสุดอร่อยมากๆ

ออนเซนที่เราไปเป็นบ่อแยกชาย-หญิงนะคะ แยกเป็นสี่บ่อแต่ละบ่อก็จะอุณหภูมิต่างๆกันไปตั้งแต่ 38 - 42 องศาเซลเซียสค่ะ เราไม่สามารถถ่ายรูปภายในบ่อมาได้นะคะเนื่องจากเป็นพื้นที่ห้ามถ่ายรูปและไม่สมควรจะถ่ายค่ะ นอกเหนือจากห้ามถ่ายรูปก็จะมีกฎหลักๆอย่างเช่นห้ามนุ่งผ้าเช็ดตัวหรือเสื้อผ้าลงบ่อค่ะ

ก่อนกลับบ้านก็แวะซื้อเครื่องดื่มกับขนมกันที่supermarket สักหน่อยค่ะ

มาญี่ปุ่นต้องกินสตรอว์เบอร์รีนะคะ เรากับเพื่อนซื้อกินจนวันอื่นๆโอก้าซังซื้อใส่มาในอาหารทุกมื้อเลยย

มื้อเย็นวันแรกเป็นชาบูหมูค่ะ

น้ำจิ้มชาบูในรูปพวกเราชอบกันมากๆเลยวันกลับโอก้าซังเลยให้ติดไม้ติดมือกลับมาคนละขวด

ก่อนเข้านอนโอก้าซังก็นำชุดกิโมโนมาให้ใส่ค่ะ แต่ว่าเรากับเพื่อนๆเหนื่อยกันมากๆเลยไม่ได้ใส่ ส่งน้องพลอยสุดน่ารักประจำทริปเป็นตัวแทนให้ใส่ค่ะนางพญาเม่า
ห้องลับสำหรับชงชาและถ่ายรูป




หัวใจ DAY 2 หัวใจ

ตื่นเช้ามาก็กินอีกแล้วค่ะ อาหารเช้าเป็นเมนูง่ายๆโอก้าซังลงมือทำเองพร้อมกับอาจารย์ก้อยที่ตื่นเช้ามาช่วย ขอบคุณมากๆเลยนะคะจุ๊บๆจุ๊บๆ

หลังจากนั้นก็มาช่วยโอก้าซังแพ็คแอปเปิ้ลใส่ถุงค่ะ ตอนเช้าๆโอโต้ซังจะเป็นคนออกไปเก็บแอปเปิ้ลแล้วนำกลับมาแพ็คไปขายที่ร้านค่ะ สดใหม่ทุกวัน แอปเปิ้ลที่เรารับประทานเป็นของว่างในแต่ล่ะมื้อก็มาจากฟาร์มของโอโต้ซังนี้แหละ จากที่เราใช้เวลาอยู่กับชาวญี่ปุ่นเราจะเห็นเลยว่าผู้ชายกับผู้หญิงเขาจะมีหน้าที่ของตัวเองชัดเจนมากค่ะ โอก้าซังก็จะทำอาหารกับงานบ้านทั้งหมด ส่วนคุณลุงก็จะไปเก็บแอปเปิ้ลดูแลฟาร์มสักส่วนใหญ่คล้ายๆกับวัฒนธรรมบ้านเราค่ะ แต่สมัยนี้เปลี่ยนไปเยอะแล้วให้เราทำแบบนั้นคงไม่ได้เหมือนกัน5555

รูปข้างล่างคือร้านค้าส่วนกลางค่ะ เท่าที่เราทราบมาคือทุกๆวันเจ้าของฟาร์มก็จะนำผลิตผลของตัวเองมาวางขายค่ะอย่างของฟาร์มพวกเราก็เป็นแอปเปิ้ล ซึ่งไอเดียนี้เราว่าดีมากๆเลยนะคะเพราะทำให้ไม่มีการโก่งราคาที่เกินงามและยังมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากฟาร์มได้

ช่วยกันจัดอย่างตั้งใจ

แอปเปิ้ลของโอโต้ซังโอก้าซังหัวใจ

หลังจากนั้นพวกเราก็นั้งพักผ่อนกินขนมเล่นกันค่ะ แล้วก็กลับบ้านไปทำโอนิกิริกัน ประหลาดใจประหลาดใจ

โอนิกิริของพวกเรา หัวใจหัวใจหัวใจหัวใจ

ข้าวกลางวันวันนี้ก็คือโอนิกิริฝีมือพวกเรากับน้ำซุปและสลัดผักที่เราหั่นกันเองแต่ฝีมือโอก้าซังเค้าล้อเล่น

แพลนวันนี้คือเราจะไปดูเจ้า Akita inu กันค่ะหลังจากนั้นก็ไปออนเซนที่เดิม ก่อนออกไปนั้นโอก้าซังก็ชวนเราไปขุดถ้ำน้ำแข็งหน้าบ้าน ตอนแรกเราก็นึกไม่ออกว่าจะขุดไปทำไมแต่เดี๋ยวหลังกลับจากออนเซนช่วงค่ำเราจะรู้กันค่ะหัวเราะ  


ได้เวลาไปดู Akita inu กันแล้ว

โอก้าซังกับอาจารย์ก้อยหัวใจ

ในส่วนชั้นบนจะเป็นพิพิธภัณฑ์เรื่องราวประวัติของเจ้า Akita inu ซึ่งจริงๆวันที่เราไปในส่วนพิพิธภัณฑ์จะไม่เปิดแต่ว่าคนดูแลใจดีเปิดให้พวกเราโดยเฉพาะค่ะ ขอบคุณมากๆเลยจุ๊บๆจุ๊บๆ

เจอหน้าเพื่อนๆกับอาจารย์ก้องที่พิพิธภัณฑ์พอดีเลยถ่ายรูปหมู่กันหน่อยย

หลังจากนั้นพวกเราก็ไปอาบน้ำแช่ออนเซนกันค่ะ เท่าที่เราสังเกตนั้นคนญี่ปุ่นที่นั้นโดยเฉพาะผู้สูงอายุจะมาอาบน้ำกันที่ออนเซนเลยเพราะอากาศมันหนาวมากๆ ขนาดล้างหน้าพวกเรายังสั่นกันไปหมดเลยค่ะต้องกลั้นใจใช้น้ำร้อนล้างร้องไห้

เมื่อกลับมาถึงบ้านเราก็เจอสิ่งที่โอก้าซังเตรียมให้ค่ะ !ประหลาดใจประหลาดใจจุ๊บๆจุ๊บๆหัวใจหัวใจ

โอก้าซังนำเทียนมาใส่ไว้ในอุโมงค์น้ำแข็งที่ขุดกันไว้ ของจริงสวยมากๆเลยค่ะ ซึ้งมากกกกรู้สึกขอบคุณและประทับใจสุดๆหัวใจ

จากนั้นก็ถึงเวลาที่พวกเรารอคอย อาหารเย็นนั้นเองงประหลาดใจ แต่มื้อนี้พิเศษค่ะเพราะโอก้าซังกับโอโต้ซังจะพาทำ Kiritanpo ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นของที่นี้นั้นเอง




รสชาติคล้ายๆข้าวจี่บ้านเราค่ะ แต่ว่าที่นี้ไม่ชุปไข่แล้วเขาจะมีซอสมิโสะหวานๆมาทาอร่อยดีค่ะแต่พอเอาเข้าจริงกินแท่งเดียวก็แน่นแล้วFacepalm

ในส่วนของมื้อเย็นคืนสุดท้ายนั้น คือคล้ายๆสุกี้น้ำดำค่ะแต่ว่าเขาจะใส่ kiritunpo ที่เหลือลงไปด้วยจะได้อารมณ์ข้าวต้ม


จบไปกับคืนสุดท้ายกับห้องนอนของพวกเราค่ะเค้าล้อเล่นหัวใจ




หัวใจ DAY 3 หัวใจ

และแล้ววันสุดท้ายมาถึง อาหารเช้าจะคล้ายๆกับของวันที่สองค่ะแต่จะเป็นไข่ดิบแต่เราลืมถ่ายรูปไว้ร้องไห้ ซึ่งพวกเราบางคนทานกันไม่ได้โอก้าซังก็น่ารักนำไปต้มให้ค่ะหัวใจ วันนี้เราจะเดินทางต่อไปที่ Sendai ค่ะต้องไปถึงสถานีรถไฟตอนสิบโมงตรงจึงไม่มีเวลาทำอะไรกันมากนัก

ถ่ายกับโอก้าซังก่อนเดินทางไปสถานีรถไฟค่ะ พวกเราเตรียมของขวัญเล็กๆน้อยให้โอก้าซังและโอโต้ซังจากเมืองไทยไปด้วย

เมื่อถึงสถานีก็ได้เจอหน้าเพื่อนๆที่แยกจากกันมานาน5555 ทุกคนดูไม่อยากกลับเลยย

ลากันจนวินาทีสุดท้าย ไม่อยากกลับเลยยยยยยร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้

คุณลุงคุณป้าจากทุกบ้านรอส่งเราจนรถไฟออกจริงๆค่ะ โบกมือลากันจนลับตาซึ้งมากกกกอบอุ่นมากกก

เป็นสามวันที่ได้อะไรหลายๆอย่างจริงๆค่ะ ได้ทั้งประสบการณ์ใหม่ๆและได้มิตรภาพดีๆกลับมา
เราคิดว่าไอเดียที่ให้นักท่องเที่ยวมาพักตามฟาร์มแบบนี้ดีมากๆเลยนะคะ ผู้สูงอายุจะได้มีอะไรทำนอกเหนือจากการทำฟาร์มปกติ
ทางจังหวัดเองก็มีระบบการจัดการที่ดีมากๆ และยังทำให้นักศึกษาต่างชาติอย่างพวกเราเข้าใจในวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นจริงๆ

ช่วงที่เราไปพวกเราไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเลยนะคะแต่ช่วงนี้น่าจะหมดช่วงฟรีไปแล้ว หากใครสนใจอยากไปสัมผัสประสบการณ์แบบนี้บ้างสามาถติดต่อไปทางจังหวัดโดยตรงได้เลยค่ะรายละเอียดอยู่ในเว็บไซต์นี้เลย
http://www.akita-gt.org/stay/welcome_greentourism_Akita.html

หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะหัวใจ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่น
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่