สวัสดีค่ะ (เนื้อหาอาจจะยาวสักนิดนะคะ เพราะตอนนี้รู้สึกจิตตกมาก อยากขอระบายค่ะ)
ตอนนี้เราได้ก้าวจากที่ทำงานเดิมๆ ออกมาอยู่ในสังคมใหม่ๆได้ 3 สัปดาห์แล้ว มันก็เป็นแวดล้อมใหม่ๆค่ะ ไม่มีคนมาโวกเวกทำงานไปด่าไป แต่เราเองก็ยังตัดสินไม่ได้ว่าแต่ละคนดีกับเราจริงหรือไม่ ซึ่งก็ต้องใช้เวลา
แต่สิ่งที่เราเริ่มต้นใหม่นี้ เราไม่ได้เริ่มต้นในหน้าที่ที่เราตั้งใจจะทำ เขาให้เราไปช่วยงานในส่วนแผนกที่คนลาคลอด แล้วคนขาด
หน้าที่ตรงนั้น เหมือนจริงๆแล้ว ถ้ามองดู คือถ้าแยกงานเป็นหน้าที่ส่วนของใครของมัน มันจะเป็นระบบมากกว่านี้ แต่มันไม่ใช่ มันมากองกระจุกอยู่ตรงที่เดียว และคนที่เหลือ ก็เหลือแค่คนเดียว
แน่นอนว่าเขาต้องรับภาระหนัก และเราก็พยายามเรียนรู้งานให้เร็ว เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของเขา
สิ่งไหนพอจะช่วยเพื่อให้เขาไปทำจุดอื่นๆที่เราอาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้นาน หรือเป็นงานที่คนอื่นๆเอามาให้เขาทำ แล้วเขาไม่ปฏิเสธจนกลายเป็นหน้าที่ของเขาไปเลย
เราจึงขอรับอาสา ทำหน้าที่ตรงนั้น เราทำโอทีทุกวัน ทั้งที่ตามที่ตกลงกันไว้ ในช่วงโปรทดลองงานจะไม่ทำโอที
แต่เรากลับต้องทำ
คนที่เราทำงานด้วย ก็บอกว่า เราไม่ต้องทำทุกวันก็ได้นะ
มีธุระไปไหนก็กลับก่อนก็ได้
แต่เราไม่สามารถจะทำได้ไง เพราะมันก็เหมือนปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว นั้นคือเรากำลังเห็นใจเขา เราต้องการช่วยเขา เพราะทุกคนทำงานก็อยากพัก อยากกลับบ้านไวๆ เราจะเอาเปรียบคนอื่นไม่ได้
และตอนนี้มันก็เป็นหน้าที่ของเราแล้ว เราปล่อยให้เขาไปทำตรงนั้น เพื่อให้เขาทำให้เสร็จแล้วกลับมาทำหน้าที่ตรงเดิม ซึ่งเราทำคนเดียว
แน่นอนค่ะ มันหนักมากจริงๆ ทานข้าวกลางวันเสร็จต้องมาจับงานต่อ
ประเด็นมันคือ เขาทำงานตรงนั้นไม่เสร็จไม่สิ้นสะที เพราะ มัวแต่คุยโทรศัพท์ และจับกลุ่มเม้ากับแผนกอื่นระหว่างงาน
บ่นว่า อยากลางานบ้าง เหนื่อยบ้าง ทำคนเดียวบ้าง แบบนั้นแบบนี้ ซึ่งเราก็โอเค คนเรามีบ้างล่ะที่รับภาระคนเดียวแบบนี้ เราถึงช่วยเพื่อแบ่งเบา ครั้งสองครั้งพอทน แต่ทุกวัน เราก็รู้สึก อ้าวว ยังไง? เราว่าเราก็เต็มที่สุดๆแล้วนะ
บางครั้งพูดกับเราว่า ถ้าเขาลางานจะอยู่ได้ไหม?
เข้าใจนะคะ ทุกคนมีสิทธิ์ลา เพราะเหนื่อย แต่เราล่ะ ถ้าลามันไม่มีใครมาช่วยเราตรงนี้ได้ ลำพัง ห้องน้ำแทบจะไม่ได้เข้าเลยด้วยซ้ำ เพราะทำงานต้องแข่งกับเวลา
ประเด็นคือ
- เราถูกให้มาช่วยอยู่ในตำแหน่งที่เราไม่ได้มาสมัคร
- เขาสนิทกับ ผจก.แผนก เขาเห็นว่าเราช่วยงานจนเขาแทบไม่ได้จับงาน จนจะให้เรามาทำตรงนี้ถาวร
- ปากบ่นว่างานเยอะ ทำไม่ทัน แต่ไม่ทำ ทำแปบๆ ออกไปคุยกับคนนั้นคนนี้บ้าง คุยโทรศัพท์กับแผนกข้างบนบ้าง ระบายๆ งานมันจะไปเสร็จตอนไหนล่ะคะ และพูดว่า ทำไม่ทันบอกได้นะ จะให้ช่วยตรงไหนบอกนะ "เราทำได้ด้วยหรอ" เราไม่ผ่านโปรบอก ทำไม่ไหว ทำไม่ทัน แบบนั้นได้จริง?
เราพยายามแสดงศักยภาพให้เห็นว่าเราทำได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะให้ทำทุกอย่างโดยที่ตัวเองต้องทิ้งหน้าที่ไป
การพูดระบายอะไรออกไปเหมือนเรากำลังเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆมาคิด แต่รวมๆคือ มันก็แอบทำให้เราท้อ
เราออกจากจุดเก่าเพื่อเจอสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่า แวดล้อม เนื้องานใหม่ๆที่ท้าทายและทำให้เราเรียนรู้มากขึ้น
แต่เรากลับไม่ได้มองเห็นตรงนั้นเลย
ระยะพักงานเก่ายังดีสะกว่า แต่ที่เก่ามันมีทั้งคนที่จ้องเอาเปรียบและแวดล้อมมันแย่สะจนอยากจะลาออกทุกเช้าเย็น
จริงๆตอนนี้รู้สึกท้อ เหนื่อย งานบ.ใหญ่ติดระดับประเทศ สัมภาษณ์ก็งานยาก คุณสมบัติต้องเป๊ะ ซึ่งเราไม่ได้เป๊ะ หรือตรงอะไรกับเขาต้องการ นอกจาก "เคยมีประสบการณ์ ".. แค่นี้
- ต้องการคนสื่อสาร eng ได้ดี .. เราพอแปลออก ฟังได้ แต่ด้วยไม่ได้ใช้ทุกวันการสื่อสารจึงตะกุกตะกักไปบ้าง
- เรียนจบ ป.ตรี ซึ่งเราจบแค่ ม.6 แต่ก็เรียนต่อไปด้วย
- ถามเราว่ามีแรงกดดันจากที่ทำงานเก่าไหม? เราตอบว่างานมันจับฉ่าย คนนั้นลา เราต้องไปแทน และงานเราก็ต้องดูแล
คนเก่าที่เคยอยู่มานานแสนนาน ช่วยได้ก็ไม่ช่วย นั่งว่างๆเล่นมือถือคอยเวลาเลิกงาน .. เราเหนื่อย
เขาก็บอกมาว่า บ.เราใหญ่ เราทำงานเป็นระบบ ไม่มีก้าวก่ายหน้าที่ หรือ เอาเปรียบ
ซึ่งยอมรับว่าเราไม่ได้หวังที่ตรงนี้เลย เพราะการสัมภาษณ์เขาก็เชิงดูถูกเราที่เรารู้เนื้อหางานตรงนี้ไม่มากพอ เพียงเพราะเราอยากจะก้าวมาเรียนรู้เพิ่มเติมจากจุดเดิมๆ
แต่กลับได้ และให้เรามาอยู่อีกแผนกนึง อะ .. ก็ได้ มาใหม่ๆก็ต้องไฟแรงหน่อย ให้ทำไรก็ทำ เพื่ออยากให้เขามองเห็นว่าเราก็ทำได้นะ ไม่ได้จบ ป.ตรี แต่ขยัน ไม่อู้ไม่เล่นมือถือ ไม่วอกแวกตรงไหน ทำๆงานตรงหน้าให้เสร็จ ทำตัวไม่ให้ว่าง เสร็จตรงนี้ ถามเขาว่า มีตรงไหนให้ช่วยไหม? พยายามสุดๆ ทั้งที่ก็อยากพักบ้างแหล่ะ
มีโดนพูดมั้งว่า แกจะขยันไปไหน อยู่เฉยๆบ้างก็ได้แก .. แต่เจ้าตัวก็บ่นๆ ว่างานไม่ทันอย่างงั้นอย่างงี้ .. คือ งง อ้าววว อะไรวะ???!! นี่ขนาดช่วยให้เสร็จๆไป จะได้ช่วยทำตรงอื่นต่อเนอะ
เรามาคิดๆดูแล้ว เหมือนตัดสินใจพลาดเหมือนกันนะ มันเหนื่อย งานเหมือนเราต้องกลับดึกมากขึ้น เหนื่อยมากขึ้น เดิมๆ ที่ดวงจะต้องทำงานแทนคนท้อง
เราอยากออกมาในจุดที่อยากทำ เราไม่อยากมาทำงานในสายนี้แต่จำใจ มีพ่อแม่ต้องดูแลทิ้งก็ไม่ได้ ใจเราทรมานมาก
เหนื่อย เบื่อ เหมือนเช้าคิดว่า เราจะเจออะไรไหม? วันนี้จะมีเรื่องดีๆบ้างไหม? อยากพักแค่ไหนก็ต้องอดทน ไม่ทำแล้วที่บ้านค่าใช้จ่ายล่ะ แต่ออกมาก็ไม่รู้จะทำอะไร? ขายของออนไลน์ก็ไม่รู้จะขายได้หรือเปล่า?
เราคิดว่าชีวิตเรา มีหลายๆอย่างที่อยากทำ ที่เราชอบ ถ้าเราได้ทำแล้วน่าจะทำได้ดี อยากเรียนต่อ ในสายที่เราอยากเป็น แต่เราทำไม่ได้ จบ ม.6 มาทำงานเลย เพราะสภาวะครอบครัวที่ไม่พร้อมส่งให้เราเรียนต่อ และเราต้องมาทำงานเพื่อหาเงินเข้าบ้านอีกทาง
รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เราได้รับจากตลอดเวลาที่ผ่านมา 7ปี ในการทำงาน เราไม่ความก้าวหน้าอะไรเลย เราไม่ได้ทำในสิ่งที่เราชอบ เราไม่ได้ต่อยอดมัน เราอยากจะเบนไปตรงนี้ คุณสมบัติเราก็ไม่ได้ ไม่ผ่าน
มันทำให้เราท้อค่ะ ไม่มีใจจะสู้ต่ออีกแล้ว ด้วยคำที่ว่า ไปอยู่ที่ไหน ตรงไหน? เราจะเจอปัญหาทุกที่ แล้วเราจะเจอมันทุกที่ จนเราแก่ จนตาย?
เราอยากออกจากปัญหาค่ะ เราไม่อยากสู้กับมัน สู้กับใจคนที่ไม่รู้ว่าเขาจะหวังดีไหม?
บางคนเราคิดว่าเขาแสนดีกับเรา เพียงเพราะเขาทำดีกับเราครั้งเดียว พอเขาทำไม่ดี มันทำให้เรารู้สึกแย่ เสียความรู้สึก
และบางคนคนที่ไม่น่าจะหวังดี กับช่วยเหลือเรา มันไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ เราไม่อยากคาดเดา ไม่อยากที่จะต้องยิ่งโตขึ้น ยิ่งต้องใช้ปัญญาในการสู้กับใจของคน มันต้องเป็นแบบนี้จริงๆหรอ?
เราเครียด จิตตกจนเกินที่จะมีสิ่งที่สามารถผ่อนคลายทำให้เราคลายเครียดได้เลย พยายามคิดว่ามีใครหลายๆคนที่แย่กว่าเรา แล้วเขาสู้
แต่เราไม่มีแรงแล้ว อยากทิ้งทุกอย่างแล้วค่ะ
รู้สึกท้อแท้ จิตตก ไม่มีคุณค่าในชีวิต
ตอนนี้เราได้ก้าวจากที่ทำงานเดิมๆ ออกมาอยู่ในสังคมใหม่ๆได้ 3 สัปดาห์แล้ว มันก็เป็นแวดล้อมใหม่ๆค่ะ ไม่มีคนมาโวกเวกทำงานไปด่าไป แต่เราเองก็ยังตัดสินไม่ได้ว่าแต่ละคนดีกับเราจริงหรือไม่ ซึ่งก็ต้องใช้เวลา
แต่สิ่งที่เราเริ่มต้นใหม่นี้ เราไม่ได้เริ่มต้นในหน้าที่ที่เราตั้งใจจะทำ เขาให้เราไปช่วยงานในส่วนแผนกที่คนลาคลอด แล้วคนขาด
หน้าที่ตรงนั้น เหมือนจริงๆแล้ว ถ้ามองดู คือถ้าแยกงานเป็นหน้าที่ส่วนของใครของมัน มันจะเป็นระบบมากกว่านี้ แต่มันไม่ใช่ มันมากองกระจุกอยู่ตรงที่เดียว และคนที่เหลือ ก็เหลือแค่คนเดียว
แน่นอนว่าเขาต้องรับภาระหนัก และเราก็พยายามเรียนรู้งานให้เร็ว เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของเขา
สิ่งไหนพอจะช่วยเพื่อให้เขาไปทำจุดอื่นๆที่เราอาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้นาน หรือเป็นงานที่คนอื่นๆเอามาให้เขาทำ แล้วเขาไม่ปฏิเสธจนกลายเป็นหน้าที่ของเขาไปเลย
เราจึงขอรับอาสา ทำหน้าที่ตรงนั้น เราทำโอทีทุกวัน ทั้งที่ตามที่ตกลงกันไว้ ในช่วงโปรทดลองงานจะไม่ทำโอที
แต่เรากลับต้องทำ
คนที่เราทำงานด้วย ก็บอกว่า เราไม่ต้องทำทุกวันก็ได้นะ
มีธุระไปไหนก็กลับก่อนก็ได้
แต่เราไม่สามารถจะทำได้ไง เพราะมันก็เหมือนปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว นั้นคือเรากำลังเห็นใจเขา เราต้องการช่วยเขา เพราะทุกคนทำงานก็อยากพัก อยากกลับบ้านไวๆ เราจะเอาเปรียบคนอื่นไม่ได้
และตอนนี้มันก็เป็นหน้าที่ของเราแล้ว เราปล่อยให้เขาไปทำตรงนั้น เพื่อให้เขาทำให้เสร็จแล้วกลับมาทำหน้าที่ตรงเดิม ซึ่งเราทำคนเดียว
แน่นอนค่ะ มันหนักมากจริงๆ ทานข้าวกลางวันเสร็จต้องมาจับงานต่อ
ประเด็นมันคือ เขาทำงานตรงนั้นไม่เสร็จไม่สิ้นสะที เพราะ มัวแต่คุยโทรศัพท์ และจับกลุ่มเม้ากับแผนกอื่นระหว่างงาน
บ่นว่า อยากลางานบ้าง เหนื่อยบ้าง ทำคนเดียวบ้าง แบบนั้นแบบนี้ ซึ่งเราก็โอเค คนเรามีบ้างล่ะที่รับภาระคนเดียวแบบนี้ เราถึงช่วยเพื่อแบ่งเบา ครั้งสองครั้งพอทน แต่ทุกวัน เราก็รู้สึก อ้าวว ยังไง? เราว่าเราก็เต็มที่สุดๆแล้วนะ
บางครั้งพูดกับเราว่า ถ้าเขาลางานจะอยู่ได้ไหม?
เข้าใจนะคะ ทุกคนมีสิทธิ์ลา เพราะเหนื่อย แต่เราล่ะ ถ้าลามันไม่มีใครมาช่วยเราตรงนี้ได้ ลำพัง ห้องน้ำแทบจะไม่ได้เข้าเลยด้วยซ้ำ เพราะทำงานต้องแข่งกับเวลา
ประเด็นคือ
- เราถูกให้มาช่วยอยู่ในตำแหน่งที่เราไม่ได้มาสมัคร
- เขาสนิทกับ ผจก.แผนก เขาเห็นว่าเราช่วยงานจนเขาแทบไม่ได้จับงาน จนจะให้เรามาทำตรงนี้ถาวร
- ปากบ่นว่างานเยอะ ทำไม่ทัน แต่ไม่ทำ ทำแปบๆ ออกไปคุยกับคนนั้นคนนี้บ้าง คุยโทรศัพท์กับแผนกข้างบนบ้าง ระบายๆ งานมันจะไปเสร็จตอนไหนล่ะคะ และพูดว่า ทำไม่ทันบอกได้นะ จะให้ช่วยตรงไหนบอกนะ "เราทำได้ด้วยหรอ" เราไม่ผ่านโปรบอก ทำไม่ไหว ทำไม่ทัน แบบนั้นได้จริง?
เราพยายามแสดงศักยภาพให้เห็นว่าเราทำได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะให้ทำทุกอย่างโดยที่ตัวเองต้องทิ้งหน้าที่ไป
การพูดระบายอะไรออกไปเหมือนเรากำลังเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆมาคิด แต่รวมๆคือ มันก็แอบทำให้เราท้อ
เราออกจากจุดเก่าเพื่อเจอสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่า แวดล้อม เนื้องานใหม่ๆที่ท้าทายและทำให้เราเรียนรู้มากขึ้น
แต่เรากลับไม่ได้มองเห็นตรงนั้นเลย
ระยะพักงานเก่ายังดีสะกว่า แต่ที่เก่ามันมีทั้งคนที่จ้องเอาเปรียบและแวดล้อมมันแย่สะจนอยากจะลาออกทุกเช้าเย็น
จริงๆตอนนี้รู้สึกท้อ เหนื่อย งานบ.ใหญ่ติดระดับประเทศ สัมภาษณ์ก็งานยาก คุณสมบัติต้องเป๊ะ ซึ่งเราไม่ได้เป๊ะ หรือตรงอะไรกับเขาต้องการ นอกจาก "เคยมีประสบการณ์ ".. แค่นี้
- ต้องการคนสื่อสาร eng ได้ดี .. เราพอแปลออก ฟังได้ แต่ด้วยไม่ได้ใช้ทุกวันการสื่อสารจึงตะกุกตะกักไปบ้าง
- เรียนจบ ป.ตรี ซึ่งเราจบแค่ ม.6 แต่ก็เรียนต่อไปด้วย
- ถามเราว่ามีแรงกดดันจากที่ทำงานเก่าไหม? เราตอบว่างานมันจับฉ่าย คนนั้นลา เราต้องไปแทน และงานเราก็ต้องดูแล
คนเก่าที่เคยอยู่มานานแสนนาน ช่วยได้ก็ไม่ช่วย นั่งว่างๆเล่นมือถือคอยเวลาเลิกงาน .. เราเหนื่อย
เขาก็บอกมาว่า บ.เราใหญ่ เราทำงานเป็นระบบ ไม่มีก้าวก่ายหน้าที่ หรือ เอาเปรียบ
ซึ่งยอมรับว่าเราไม่ได้หวังที่ตรงนี้เลย เพราะการสัมภาษณ์เขาก็เชิงดูถูกเราที่เรารู้เนื้อหางานตรงนี้ไม่มากพอ เพียงเพราะเราอยากจะก้าวมาเรียนรู้เพิ่มเติมจากจุดเดิมๆ
แต่กลับได้ และให้เรามาอยู่อีกแผนกนึง อะ .. ก็ได้ มาใหม่ๆก็ต้องไฟแรงหน่อย ให้ทำไรก็ทำ เพื่ออยากให้เขามองเห็นว่าเราก็ทำได้นะ ไม่ได้จบ ป.ตรี แต่ขยัน ไม่อู้ไม่เล่นมือถือ ไม่วอกแวกตรงไหน ทำๆงานตรงหน้าให้เสร็จ ทำตัวไม่ให้ว่าง เสร็จตรงนี้ ถามเขาว่า มีตรงไหนให้ช่วยไหม? พยายามสุดๆ ทั้งที่ก็อยากพักบ้างแหล่ะ
มีโดนพูดมั้งว่า แกจะขยันไปไหน อยู่เฉยๆบ้างก็ได้แก .. แต่เจ้าตัวก็บ่นๆ ว่างานไม่ทันอย่างงั้นอย่างงี้ .. คือ งง อ้าววว อะไรวะ???!! นี่ขนาดช่วยให้เสร็จๆไป จะได้ช่วยทำตรงอื่นต่อเนอะ
เรามาคิดๆดูแล้ว เหมือนตัดสินใจพลาดเหมือนกันนะ มันเหนื่อย งานเหมือนเราต้องกลับดึกมากขึ้น เหนื่อยมากขึ้น เดิมๆ ที่ดวงจะต้องทำงานแทนคนท้อง
เราอยากออกมาในจุดที่อยากทำ เราไม่อยากมาทำงานในสายนี้แต่จำใจ มีพ่อแม่ต้องดูแลทิ้งก็ไม่ได้ ใจเราทรมานมาก
เหนื่อย เบื่อ เหมือนเช้าคิดว่า เราจะเจออะไรไหม? วันนี้จะมีเรื่องดีๆบ้างไหม? อยากพักแค่ไหนก็ต้องอดทน ไม่ทำแล้วที่บ้านค่าใช้จ่ายล่ะ แต่ออกมาก็ไม่รู้จะทำอะไร? ขายของออนไลน์ก็ไม่รู้จะขายได้หรือเปล่า?
เราคิดว่าชีวิตเรา มีหลายๆอย่างที่อยากทำ ที่เราชอบ ถ้าเราได้ทำแล้วน่าจะทำได้ดี อยากเรียนต่อ ในสายที่เราอยากเป็น แต่เราทำไม่ได้ จบ ม.6 มาทำงานเลย เพราะสภาวะครอบครัวที่ไม่พร้อมส่งให้เราเรียนต่อ และเราต้องมาทำงานเพื่อหาเงินเข้าบ้านอีกทาง
รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เราได้รับจากตลอดเวลาที่ผ่านมา 7ปี ในการทำงาน เราไม่ความก้าวหน้าอะไรเลย เราไม่ได้ทำในสิ่งที่เราชอบ เราไม่ได้ต่อยอดมัน เราอยากจะเบนไปตรงนี้ คุณสมบัติเราก็ไม่ได้ ไม่ผ่าน
มันทำให้เราท้อค่ะ ไม่มีใจจะสู้ต่ออีกแล้ว ด้วยคำที่ว่า ไปอยู่ที่ไหน ตรงไหน? เราจะเจอปัญหาทุกที่ แล้วเราจะเจอมันทุกที่ จนเราแก่ จนตาย?
เราอยากออกจากปัญหาค่ะ เราไม่อยากสู้กับมัน สู้กับใจคนที่ไม่รู้ว่าเขาจะหวังดีไหม?
บางคนเราคิดว่าเขาแสนดีกับเรา เพียงเพราะเขาทำดีกับเราครั้งเดียว พอเขาทำไม่ดี มันทำให้เรารู้สึกแย่ เสียความรู้สึก
และบางคนคนที่ไม่น่าจะหวังดี กับช่วยเหลือเรา มันไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ เราไม่อยากคาดเดา ไม่อยากที่จะต้องยิ่งโตขึ้น ยิ่งต้องใช้ปัญญาในการสู้กับใจของคน มันต้องเป็นแบบนี้จริงๆหรอ?
เราเครียด จิตตกจนเกินที่จะมีสิ่งที่สามารถผ่อนคลายทำให้เราคลายเครียดได้เลย พยายามคิดว่ามีใครหลายๆคนที่แย่กว่าเรา แล้วเขาสู้
แต่เราไม่มีแรงแล้ว อยากทิ้งทุกอย่างแล้วค่ะ