
เฮลโหล ..... พบกันอีกครั้งนะครับ คราวนี้เพิ่งจะกลับมาจากการขับรถเที่ยวที่ญี่ปุ่นในแถบคันไซ สด ๆ ร้อน ๆ อันที่จริงก็เริ่มขี้เกียจจะรีวิวประเทศนี้ไปแล้วเพราะเห็นว่าข้อมูลเยอะมาก ๆ (ถ้าได้อ่านกระทู้นี้แปลว่าผมเอาชนะความขี้เกียจได้) แต่ทริปนี้เป็นการขับรถเที่ยวในแถบคันไซ ซึ่งก็มีหลาย ๆ ที่ ที่ยังมีข้อมูลไม่เยอะนัก จึงอยากนำมาแบ่งปันกัน อีกอย่างตอนแรกผมไล่ถามหลาย ๆ คนว่าการขับรถในเมืองใหญ่อย่างเกียวโต โอซาก้า มันยากง่ายหรือไม่ ก็ไม่ได้คำตอบที่ต้องการ เพราะมีแต่คนบอกให้แต่ว่านั่งรถไฟเถอะ
แต่เมื่อผ่านประสบการณ์ตรงนี้มาอยากกลับมาเล่าให้ผู้ที่ลังเลว่าจะอยากขับรถ ได้ลองตัดสินใจดูว่าจะเอายังไงดี ก็เลยตัดสินใจเขียนกระทู้นี้ก็แล้วกัน Road Trip in KANSAI [Osaka x Wakayama x Kobe x Mie x Kyoto] ไอ้ที่เขียนมา 5 จังหวัดเอาเกร๋ ๆ ไปงั้นแหละ บางจังหวัดก็ไปเฉี่ยว บางจังหวัดนี่จะเรียกว่า แวะเยี่ยว ก็เห็นจะพอได้ แต่เอาน่าถือว่ามาเห็นแล้วขอนับเป็น 1 จังหวัดนี่แหละ ^ _ ^
----------------------
การเตรียมตัว
----------------------
ทริปนี้เริ่มต้นที่การจองตั๋วเครื่องบิน (จริง ๆ ตั้งใจจะไปช่วงปลายเดือนอยากไปดูซากุระแบบเต็ม ๆ ตา แต่สู้ราคาไม่ไหวเลยจองมันกลางเดือนนี่แหละ) สุดท้ายจองวันที่ 9-14 มี.ค. 2561 ทั้งหมด 6 วัน 5 คืน ในราคารวมน้ำหนัก 20 ก.ก. ไป-กลับ 9600 บาท กับพี่หางแดงเจ้าเก่า

การเดินทางครั้งนี้ได้รับมอบหมายให้พาครอบครัวของอาจารย์ที่ทั้งเคารพ และรักไปเที่ยวพักผ่อนที่ญี่ปุ่น จำนวนทั้งหมด 9 คน โดยได้รับมอบโจทย์ที่ค่อนข้างท้าทายว่า อาจารย์อยากไปกินแบบเน้น ๆ ช็อปปิ้งนิดหน่อย ไปเดินเล่นในชนบทแบบจ๋า ๆ และไม่เอาเหนื่อย โหหหหห .... ตีโจทย์ออกมาถึงกับต้องปาดเหงื่อเลยทีเดียว
ถ้าไปญี่ปุ่นแบบไม่เหนื่อยก็ต้องไม่เดิน ... (อ่าวงั้นนอนอยู่โรงแรมทั้งวันเลยดีมั้ย) ถ ถ ถรุยส์ แล้วจะถ่อ กะ..อ ไปเพื่อ !!! การเช่ารถขับ คือ ตัวเลือกที่ดีที่สุด เดินเฉพาะที่ต้องเดินพอ ไม่เหนื่อยอย่างที่สองคือต้องไม่ย้ายที่หลับที่นอนฉะนั้น 5 คืน นอนมันที่เดียวที่โอซาก้านี่แหละ
----------------------
1. ใบขับขี่รถยนต์ระหว่างประเทศ
----------------------
เมื่อตัดสินใจขับรถแล้วสิ่งที่ต้องมีคือ ใบขับขี่รถยนต์ระหว่างประเทศ
วิธีการทำใบอนุญาตขับรถสากล ->
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การทำใบอนุญาตขับขี่สากลมาที่กรมขนส่งทางบกตรงจตุจักร นั้นง่ายมาก และเร็วมากไม่ถึง 20 นาทีเสร็จครับ เพียงแต่เตรียมเอกสารให้พร้อมเท่านั้น
1) เอกสารที่ใช้มี :
- สำเนาพาสปอร์ต (พร้อมตัวจริง)
- สำเนาใบขับขี่ (พร้อมตัวจริง)
- สำเนาบัตรประชาชน (พร้อมตัวจริง)
- รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 ใบ
2) สถานที่ทำคือ กรมขนส่งทางบกกทม. และขนส่งทางบกจังหวัดทั่วประเทศ ส่วนคราวนี้ผมมาทำที่กรมขนส่งทางบกทม. อยู่ตรงข้ามกับสวนจตุจักร อยู่เลยสถานีรถไฟฟ้า bts หมอชิตไปหน่อยนึง
3) แผนกที่ทำใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ อยู่ในอาคาร 4 ชั้น 1 เดินเข้าตึกอยู่ซ้ายมือ
4) มาถึงกดบัตรคิว รอเรียก
5) เมื่อถึงคิวให้ยื่นเอกสารพร้อมจ่ายเงิน 505 บาท นั่งรอเรียกคิวประมาณ 5 นาที
6) รับใบแนุญาตขับขี่ฯ พร้อมตรวจสอบข้อมูลให้ตรง เป็นอับจบพิธี
ใช้เวลาตั้งแต่กดบัตรคิว จนถึงรับใบขับขี่ นั้นใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีเอง ง่ายมาก ๆๆๆ
----------------------
2. การจองรถ
----------------------
การจองรถเที่ยวส่วนมากผมชอบเช่าผ่าน
http://www.rentalcars.com เพราะราคาถูกกว่าจองตรงผ่านบริษัทเช่ารถตรง ๆ สถานที่รับรถให้เลือกที่ Osaka Kansai Airport ครับ

ครั้งนี้ผมเช่า Honda Fit กับบริษัท Nippon rent a car ราคาสำหรับ 5 วัน เท่ากับ 8,600 บาทต่อคัน + ค่าประกัน วันละ 600 บาท * 5 วัน = 3,000 บาท

สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างนึงของการขับรถ คือ GPS นำทาง จากที่เช่ารถมาหลาย ๆ ครั้งที่ญี่ปุ่น ผมว่าการระบุจุดหมายที่ง่าย และแม่นยำที่สุดคือ Mapcode เพราะมันหาง่ายกว่าเบอร์โทรศัพท์ เว็บที่ใช้หาเป็นประจำก็คือ
https://japanmapcode.com/en/ การหาก็ง่ายแสนง่าย แค่พิมพ์สถานที่ที่ต้องการไปลงไปในช่อง เลขของ Mapcode ก็จะแสดงออกมาเท่านั้นเอง แล้วก็เอาเลขนั้น ๆ ไปใส่ลงเครื่อง GPS

ส่วนอันนี้คือ MapCode ที่ผมรวบรวมใช้สำหรับการเดินทางครั้งนี้ จดไปใช้ได้เลย

นอกจาก GPS แล้ว สิ่งที่ข้อควรระวังในการขับรถ ที่อยากจะแนะนำกัน ก็คือ
1) " ความเร็ว " อย่าได้เหยียบคันเร่งเพลินเป็นอันขาด เพราะค่าปรับที่นี่แพงบรรลัยเลย ในเมือง ไม่เกิน 50-60 Km/hr บนทางด่วน 80 Km/hr (เห็นคนญี่ปุ่นอัดกันประมาณ 100-110 Km/hr แต่ 80 นี่แหละชัวร์กว่า)

2) " ทางม้าลาย " ไฟเขียวทางเลี้ยวหลาย ๆ ครั้งมักจะไปจะเอ๋กับไฟเขียวของทางคนข้ามพอดี ฉะนั้นตรงนี้ต้องระวังให้ดี
3) " แยกไฟแดง " การเลี้ยวที่สี่แยกไฟแดงจะมีทั้งแบบที่มีสัญญาณไฟเขียวเฉพาะเลี้ยวต่างหาก (ให้ดูที่ติ่ง) ถ้ามีติ่งก็ให้รอเลี้ยวเมื่อสัญญาณไฟเขียวสำหรับเลนเลี้ยว แต่ถ้าไม่มีสามารถเลี้ยวได้เลย เมื่อฝั่งตรงข้ามไม่มีรถสวนมา แต่ส่วนใหญ่จะมีเพียงไฟเขียวตรงอย่างเดียว ยกเว้นในเมืองใหญ่ที่รถเยอะ ๆ มักจะมีสัญญาณไฟสำหรับการเลี้ยว

4) การจอดรถในที่สาธารณะ ที่เจอมีด้วยกัน 5 แบบ (อาจจะมีมากกว่านั้นเยอะ) แต่เล่าเฉพาะที่เจอละกัน ดังนี้
4.1) แบบรับบัตรที่ตู้ตอนเข้า จ่ายตอนออก แบบนี้ส่วนใหญ่เป็นห้าง หรือตามเอ้าเล็ท มักจะนับตามชั่วโมง
4.2) จ่ายตอนเข้าเลย ส่วนตอนออกก็แค่ขับรถไปที่ด่านไม้กั้นจะยกอัตโนมัติ
4.3) จ่ายกับตู้ จอดก่อนจ่ายที่หลัง อันนี้จะใช้บ่อยที่สุดตามในเมือง มีให้เห็นอยู่หลายเจ้า แต่ที่เห็นมาก ๆ เลยก็คือของ Times กับ Boo Boo วิธีจอดก็เหมือนกันหมด แต่ราคาจะต่างกันตามความพีคของสถานที่ อยู่ใกล้ที่เที่ยวอย่างโดทงบูริ ก็ยิ่งแพง แต่เฉลี่ยประมาณ ครั้งละ 1000-1600 เยน วิธีจอดคือ
4.3.1) เข้าไปจอดได้เลย ถ้ามีล็อคว่าง
4.3.2) เครื่องกั้นจะยกขึ้นมาเอง (เดาว่ามันมีเซ็นเซอร์)
4.3.3) ไปเที่ยวให้สบายใจ
4.3.4) กลับมาจ่ายเงินที่ตู้ โดยกดเลขล็อคที่รถเราจอดอยู่ ราคาจะขึ้นมาที่ตู้
4.3.5) จ่ายเงิน หยอดได้ทั้งเหรียญ ทั้งแบงก์
4.3.6) ที่กั้นจะลงเอง รีบเอารถออกก่อนที่มันจะขึ้นอีกรอบ จบบบ..ง่ายเน๊อะ
แต่ที่ยากคืออ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก ว่ามันคิดราคาอะไรเท่าไหร่ เพราะโดนที่เกียวโตอยู่หนนึงถึงกับปาดเหงื่อ แถว ๆ ตลาด Nishiki จอด 3-4 ชั่วโมง โดนไป 5100 เยน ด้วยความเข้าใจผิดว่า 12 ชั่วโมง 1600 เยน แต่มันคงจะชั่วโมงละ 1600 เยน นึกแล้วหลอนไม่หายยย

4.4) จ่ายกับพนักงาน อันนี้ง่ายสุด
4.5 ) จอดฟรี อันนี้ยิ้มแปร้นเลยยย 555555
5) ไม่สามารถตั้งค่า GPS ได้ตอนรถวิ่ง ฉะนั้นจัดการให้เสร็จก่อนออก
6) คนญี่ปุ่นขับรถดีมาก ๆ มีน้ำใจ สุด ๆ แต่ถ้าเราทำผิดหล่ะก็น่าดูเหมือนกัน
7) ค่าทางด่วน โคตะระแพงสุด ๆ เริ่มต้นแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 500 เยน และแพงตามระยะทาง ที่เจอแพงที่สุด คือไปเมืองซูสุกะ จังหวัดมิเอะ 130 กม. ประมาณ 4800 เยน ไป-กลับ เฉียด 1 หมื่นเยน (คุ้มมั้ยต้องรอดู)

8) ทางที่ GPS บอก ไม่ใช่ทางที่ดีที่สุดเสมอไป ที่เกียวโตอยู่ดี ๆ พวกจะพาขับเข้าตลาด Nishiki ซึ่งเป็นถนนคนเดิน แหม่เกือบไปแล้ว ... (เหมือนมันก็ไม่รู้ว่าบางจุดถูกปิดไว้สำหรับคนเดิน) ใช้มือถือช่วยบ้างก็ดี ถ้าวิ่งในเมือง
9) " กฎจราจร " สำคัญยิ่งทั้งการจอดรถในที่ห้ามจอด การเปลี่ยนเลนในเส้นทึบ จอดรถเหยียบทางทางม้าลาย ศึกษาคู่มือที่บริษัทให้ละเอียดครับ ค่าปรับ เล่นน้ำตาตกได้เลย
10) ....
----------------------
3. ที่พัก
----------------------
จองเป็นบ้านพักกับ airbnb.com ลิ้งก์ -->
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://th.airbnb.com/rooms/17347688?eal_exp=1521259437&eal_sig=d8e57d0e1324b8fe7a70641636adbc64641ab07ba9fe1935cbb60c24e248d4d0&eal_uid=44310730&eluid=1&euid=21ffe430-0795-23ad-553e-a7ce64a32ead&%243p=e_eml&%24deeplink_path=airbnb%3A%2F%2Fd%2Flisting%3Fid%3D17347688&%24original_url=https%3A%2F%2Fth.airbnb.com%2Frooms%2F17347688%3Feal_exp%3D1521259437%26eal_sig%3Dd8e57d0e1324b8fe7a70641636adbc64641ab07ba9fe1935cbb60c24e248d4d0%26eal_uid%3D44310730%26eluid%3D1%26euid%3D21ffe430-0795-23ad-553e-a7ce64a32ead&campaign=rookery&_branch_match_id=503529635682911472 เป็นบ้านลักษณะทาวน์โฮม มี 4 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องอาบน้ำ 2 ห้องส้วม ราคาตกคืนละ 6,100 บาท อยู่แถว ๆ สถานี Hirano
.
วิธีจองบ้านกับ Airbnb เรากับเจ้าของบ้านจะไม่ได้เจอหน้ากัน เราจะต้องจองพร้อมกับจ่ายเงินโดยตัดบัตรเครดิตเต็มจำนวน จากนั้นเจ้าของบ้านก็จะส่งวิธีการเข้าบ้านมาให้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน ส่วนบ้านนี้ทำคู่มือต่าง ๆ ไว้ให้อย่างดี เช่น วิธีใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน วิธีเช็คเอ้าท์ วิธีเดินทางไปสถานที่เที่ยวต่าง ๆ เรียกได้ว่าอ่านคู่มืออยู่ได้สบาย ๆ (ส่วนรีวิวบ้านจริง ๆ จะเล่าให้ฟังอีกทีในพาร์ทการเดินทาง)



ในกระทู้นี้จะรีวิวรวมหมดทั้งที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน จะยัดมันให้จบในกระทู้เดียว ฉะนั้นภาพ+ข้อมูล มันจะเยอะ ๆ หน่อย แต่พยายามยัดข้อมูลที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ให้ตามรอยได้ง่าย ๆ กระทู้นี้อาจมีคำหยาบ คำผิดบ้าง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน ค่าใช้จ่ายจะอยู่ท้ายสุดเลยนะครับ ไปเที่ยวก่อนค่อยดูค่าใช้จ่าย พร้อมแล้วมาลุยคันไซ ในแบบฉบับของ จงเจอนี่กันเถอะ ลุยยย !!!!
.
โดยแผนการเดินทางมีตามภาพนี้ (เป็นฉบับที่วางแผนส่งให้คณะทัวร์ เอาจริง ๆ ออก 10 โมงกว่าแทบทุกวันเลย ^_^ แต่ก็เก็บได้ครบตามแพลนนี้แหละ)



ถ้าอ่านแล้วถูกใจ กด + เป็นกำลังใจในการเขียนให้ผมด้วยน้าา
V
V
Road Trip in KANSAI [Osaka x Wakayama x Kobe x Mie x Kyoto] l ในวันที่ดอกไม้เริ่มผลิ [จงเจอนี่]
เฮลโหล ..... พบกันอีกครั้งนะครับ คราวนี้เพิ่งจะกลับมาจากการขับรถเที่ยวที่ญี่ปุ่นในแถบคันไซ สด ๆ ร้อน ๆ อันที่จริงก็เริ่มขี้เกียจจะรีวิวประเทศนี้ไปแล้วเพราะเห็นว่าข้อมูลเยอะมาก ๆ (ถ้าได้อ่านกระทู้นี้แปลว่าผมเอาชนะความขี้เกียจได้) แต่ทริปนี้เป็นการขับรถเที่ยวในแถบคันไซ ซึ่งก็มีหลาย ๆ ที่ ที่ยังมีข้อมูลไม่เยอะนัก จึงอยากนำมาแบ่งปันกัน อีกอย่างตอนแรกผมไล่ถามหลาย ๆ คนว่าการขับรถในเมืองใหญ่อย่างเกียวโต โอซาก้า มันยากง่ายหรือไม่ ก็ไม่ได้คำตอบที่ต้องการ เพราะมีแต่คนบอกให้แต่ว่านั่งรถไฟเถอะ
แต่เมื่อผ่านประสบการณ์ตรงนี้มาอยากกลับมาเล่าให้ผู้ที่ลังเลว่าจะอยากขับรถ ได้ลองตัดสินใจดูว่าจะเอายังไงดี ก็เลยตัดสินใจเขียนกระทู้นี้ก็แล้วกัน Road Trip in KANSAI [Osaka x Wakayama x Kobe x Mie x Kyoto] ไอ้ที่เขียนมา 5 จังหวัดเอาเกร๋ ๆ ไปงั้นแหละ บางจังหวัดก็ไปเฉี่ยว บางจังหวัดนี่จะเรียกว่า แวะเยี่ยว ก็เห็นจะพอได้ แต่เอาน่าถือว่ามาเห็นแล้วขอนับเป็น 1 จังหวัดนี่แหละ ^ _ ^
การเตรียมตัว
----------------------
ทริปนี้เริ่มต้นที่การจองตั๋วเครื่องบิน (จริง ๆ ตั้งใจจะไปช่วงปลายเดือนอยากไปดูซากุระแบบเต็ม ๆ ตา แต่สู้ราคาไม่ไหวเลยจองมันกลางเดือนนี่แหละ) สุดท้ายจองวันที่ 9-14 มี.ค. 2561 ทั้งหมด 6 วัน 5 คืน ในราคารวมน้ำหนัก 20 ก.ก. ไป-กลับ 9600 บาท กับพี่หางแดงเจ้าเก่า
การเดินทางครั้งนี้ได้รับมอบหมายให้พาครอบครัวของอาจารย์ที่ทั้งเคารพ และรักไปเที่ยวพักผ่อนที่ญี่ปุ่น จำนวนทั้งหมด 9 คน โดยได้รับมอบโจทย์ที่ค่อนข้างท้าทายว่า อาจารย์อยากไปกินแบบเน้น ๆ ช็อปปิ้งนิดหน่อย ไปเดินเล่นในชนบทแบบจ๋า ๆ และไม่เอาเหนื่อย โหหหหห .... ตีโจทย์ออกมาถึงกับต้องปาดเหงื่อเลยทีเดียว
ถ้าไปญี่ปุ่นแบบไม่เหนื่อยก็ต้องไม่เดิน ... (อ่าวงั้นนอนอยู่โรงแรมทั้งวันเลยดีมั้ย) ถ ถ ถรุยส์ แล้วจะถ่อ กะ..อ ไปเพื่อ !!! การเช่ารถขับ คือ ตัวเลือกที่ดีที่สุด เดินเฉพาะที่ต้องเดินพอ ไม่เหนื่อยอย่างที่สองคือต้องไม่ย้ายที่หลับที่นอนฉะนั้น 5 คืน นอนมันที่เดียวที่โอซาก้านี่แหละ
1. ใบขับขี่รถยนต์ระหว่างประเทศ
----------------------
เมื่อตัดสินใจขับรถแล้วสิ่งที่ต้องมีคือ ใบขับขี่รถยนต์ระหว่างประเทศ วิธีการทำใบอนุญาตขับรถสากล -> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. การจองรถ
----------------------
การจองรถเที่ยวส่วนมากผมชอบเช่าผ่าน http://www.rentalcars.com เพราะราคาถูกกว่าจองตรงผ่านบริษัทเช่ารถตรง ๆ สถานที่รับรถให้เลือกที่ Osaka Kansai Airport ครับ
ครั้งนี้ผมเช่า Honda Fit กับบริษัท Nippon rent a car ราคาสำหรับ 5 วัน เท่ากับ 8,600 บาทต่อคัน + ค่าประกัน วันละ 600 บาท * 5 วัน = 3,000 บาท
สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างนึงของการขับรถ คือ GPS นำทาง จากที่เช่ารถมาหลาย ๆ ครั้งที่ญี่ปุ่น ผมว่าการระบุจุดหมายที่ง่าย และแม่นยำที่สุดคือ Mapcode เพราะมันหาง่ายกว่าเบอร์โทรศัพท์ เว็บที่ใช้หาเป็นประจำก็คือ https://japanmapcode.com/en/ การหาก็ง่ายแสนง่าย แค่พิมพ์สถานที่ที่ต้องการไปลงไปในช่อง เลขของ Mapcode ก็จะแสดงออกมาเท่านั้นเอง แล้วก็เอาเลขนั้น ๆ ไปใส่ลงเครื่อง GPS
ส่วนอันนี้คือ MapCode ที่ผมรวบรวมใช้สำหรับการเดินทางครั้งนี้ จดไปใช้ได้เลย
นอกจาก GPS แล้ว สิ่งที่ข้อควรระวังในการขับรถ ที่อยากจะแนะนำกัน ก็คือ
1) " ความเร็ว " อย่าได้เหยียบคันเร่งเพลินเป็นอันขาด เพราะค่าปรับที่นี่แพงบรรลัยเลย ในเมือง ไม่เกิน 50-60 Km/hr บนทางด่วน 80 Km/hr (เห็นคนญี่ปุ่นอัดกันประมาณ 100-110 Km/hr แต่ 80 นี่แหละชัวร์กว่า)
2) " ทางม้าลาย " ไฟเขียวทางเลี้ยวหลาย ๆ ครั้งมักจะไปจะเอ๋กับไฟเขียวของทางคนข้ามพอดี ฉะนั้นตรงนี้ต้องระวังให้ดี
3) " แยกไฟแดง " การเลี้ยวที่สี่แยกไฟแดงจะมีทั้งแบบที่มีสัญญาณไฟเขียวเฉพาะเลี้ยวต่างหาก (ให้ดูที่ติ่ง) ถ้ามีติ่งก็ให้รอเลี้ยวเมื่อสัญญาณไฟเขียวสำหรับเลนเลี้ยว แต่ถ้าไม่มีสามารถเลี้ยวได้เลย เมื่อฝั่งตรงข้ามไม่มีรถสวนมา แต่ส่วนใหญ่จะมีเพียงไฟเขียวตรงอย่างเดียว ยกเว้นในเมืองใหญ่ที่รถเยอะ ๆ มักจะมีสัญญาณไฟสำหรับการเลี้ยว
4) การจอดรถในที่สาธารณะ ที่เจอมีด้วยกัน 5 แบบ (อาจจะมีมากกว่านั้นเยอะ) แต่เล่าเฉพาะที่เจอละกัน ดังนี้
4.1) แบบรับบัตรที่ตู้ตอนเข้า จ่ายตอนออก แบบนี้ส่วนใหญ่เป็นห้าง หรือตามเอ้าเล็ท มักจะนับตามชั่วโมง
4.2) จ่ายตอนเข้าเลย ส่วนตอนออกก็แค่ขับรถไปที่ด่านไม้กั้นจะยกอัตโนมัติ
4.3) จ่ายกับตู้ จอดก่อนจ่ายที่หลัง อันนี้จะใช้บ่อยที่สุดตามในเมือง มีให้เห็นอยู่หลายเจ้า แต่ที่เห็นมาก ๆ เลยก็คือของ Times กับ Boo Boo วิธีจอดก็เหมือนกันหมด แต่ราคาจะต่างกันตามความพีคของสถานที่ อยู่ใกล้ที่เที่ยวอย่างโดทงบูริ ก็ยิ่งแพง แต่เฉลี่ยประมาณ ครั้งละ 1000-1600 เยน วิธีจอดคือ
4.3.1) เข้าไปจอดได้เลย ถ้ามีล็อคว่าง
4.3.2) เครื่องกั้นจะยกขึ้นมาเอง (เดาว่ามันมีเซ็นเซอร์)
4.3.3) ไปเที่ยวให้สบายใจ
4.3.4) กลับมาจ่ายเงินที่ตู้ โดยกดเลขล็อคที่รถเราจอดอยู่ ราคาจะขึ้นมาที่ตู้
4.3.5) จ่ายเงิน หยอดได้ทั้งเหรียญ ทั้งแบงก์
4.3.6) ที่กั้นจะลงเอง รีบเอารถออกก่อนที่มันจะขึ้นอีกรอบ จบบบ..ง่ายเน๊อะ
แต่ที่ยากคืออ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก ว่ามันคิดราคาอะไรเท่าไหร่ เพราะโดนที่เกียวโตอยู่หนนึงถึงกับปาดเหงื่อ แถว ๆ ตลาด Nishiki จอด 3-4 ชั่วโมง โดนไป 5100 เยน ด้วยความเข้าใจผิดว่า 12 ชั่วโมง 1600 เยน แต่มันคงจะชั่วโมงละ 1600 เยน นึกแล้วหลอนไม่หายยย
4.5 ) จอดฟรี อันนี้ยิ้มแปร้นเลยยย 555555
5) ไม่สามารถตั้งค่า GPS ได้ตอนรถวิ่ง ฉะนั้นจัดการให้เสร็จก่อนออก
6) คนญี่ปุ่นขับรถดีมาก ๆ มีน้ำใจ สุด ๆ แต่ถ้าเราทำผิดหล่ะก็น่าดูเหมือนกัน
7) ค่าทางด่วน โคตะระแพงสุด ๆ เริ่มต้นแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 500 เยน และแพงตามระยะทาง ที่เจอแพงที่สุด คือไปเมืองซูสุกะ จังหวัดมิเอะ 130 กม. ประมาณ 4800 เยน ไป-กลับ เฉียด 1 หมื่นเยน (คุ้มมั้ยต้องรอดู)
8) ทางที่ GPS บอก ไม่ใช่ทางที่ดีที่สุดเสมอไป ที่เกียวโตอยู่ดี ๆ พวกจะพาขับเข้าตลาด Nishiki ซึ่งเป็นถนนคนเดิน แหม่เกือบไปแล้ว ... (เหมือนมันก็ไม่รู้ว่าบางจุดถูกปิดไว้สำหรับคนเดิน) ใช้มือถือช่วยบ้างก็ดี ถ้าวิ่งในเมือง
9) " กฎจราจร " สำคัญยิ่งทั้งการจอดรถในที่ห้ามจอด การเปลี่ยนเลนในเส้นทึบ จอดรถเหยียบทางทางม้าลาย ศึกษาคู่มือที่บริษัทให้ละเอียดครับ ค่าปรับ เล่นน้ำตาตกได้เลย
10) ....
3. ที่พัก
----------------------
จองเป็นบ้านพักกับ airbnb.com ลิ้งก์ --> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เป็นบ้านลักษณะทาวน์โฮม มี 4 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องอาบน้ำ 2 ห้องส้วม ราคาตกคืนละ 6,100 บาท อยู่แถว ๆ สถานี Hirano
.
วิธีจองบ้านกับ Airbnb เรากับเจ้าของบ้านจะไม่ได้เจอหน้ากัน เราจะต้องจองพร้อมกับจ่ายเงินโดยตัดบัตรเครดิตเต็มจำนวน จากนั้นเจ้าของบ้านก็จะส่งวิธีการเข้าบ้านมาให้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน ส่วนบ้านนี้ทำคู่มือต่าง ๆ ไว้ให้อย่างดี เช่น วิธีใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน วิธีเช็คเอ้าท์ วิธีเดินทางไปสถานที่เที่ยวต่าง ๆ เรียกได้ว่าอ่านคู่มืออยู่ได้สบาย ๆ (ส่วนรีวิวบ้านจริง ๆ จะเล่าให้ฟังอีกทีในพาร์ทการเดินทาง)
ในกระทู้นี้จะรีวิวรวมหมดทั้งที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน จะยัดมันให้จบในกระทู้เดียว ฉะนั้นภาพ+ข้อมูล มันจะเยอะ ๆ หน่อย แต่พยายามยัดข้อมูลที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ให้ตามรอยได้ง่าย ๆ กระทู้นี้อาจมีคำหยาบ คำผิดบ้าง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน ค่าใช้จ่ายจะอยู่ท้ายสุดเลยนะครับ ไปเที่ยวก่อนค่อยดูค่าใช้จ่าย พร้อมแล้วมาลุยคันไซ ในแบบฉบับของ จงเจอนี่กันเถอะ ลุยยย !!!!
.
โดยแผนการเดินทางมีตามภาพนี้ (เป็นฉบับที่วางแผนส่งให้คณะทัวร์ เอาจริง ๆ ออก 10 โมงกว่าแทบทุกวันเลย ^_^ แต่ก็เก็บได้ครบตามแพลนนี้แหละ)
ถ้าอ่านแล้วถูกใจ กด + เป็นกำลังใจในการเขียนให้ผมด้วยน้าา
V
V