เรื่องยาวนิดนึงค่ะ เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก ข้อความจะยาวๆ ไม่น่าอ่าน
ขอโทษด้วยนะค่ะ
ต้นเรื่องค่ะ คบกันได้4ปี แล้วตัดสินใจอยู่ด้วยกันตอนปีที่5
..เราจดทะเบียนสมรสกัน (ครอบครัวสองฝ่ายไม่รู้ ยังไม่แต่งงานกันด้วย)
เราตัดสินใจกันเอง สามีเคยมีเมียและลูกอีก2คน (แต่ไม่เคยจดทะเบียนกัน)
ตอนคบกัน 3ปีแรก มีความสุขดี แต่ฝ่ายชาย รายได้น้อย หมื่นปลายๆ
เราเองเห็นเค้ามีภาระเยอะ เลยไม่ซีเรียสอะไร ส่วนเรารายได้ประจำหมื่นห้า
รายได้จากธุรกิจส่วนตัว พิเศษอีก เดือนล่ะ 4-5 หมื่น
...ดังนั้น ส่วนใหญ่ เวลาไปทานข้าวนอกบ้าน ไปเที่ยว ตจว. ก็เราจะเป็นสายเปย์
พอเข้าปีที่ 4 เราเริ่มมีปัญหาจากธุรกิจที่เราทำ
เริ่มต้องหมุนเงิน หาเงินไม่ทัน ดึงตรงโน้น มาใส่ตรงนี้
จนเราเป็นหนี้ในระบบและนอกระบบล้านบาทพอดี แต่เราก็ไม่เคยเล่าให้ฝ่ายชายฟังเลย
แต่เราว่าฝ่ายชายก็คงรู้ แต่เค้าก็ไม่คิดถาม เพราะจากที่เราเคยมีกิน มีใช้กันอย่างสบาย
เราก็เริ่มประหยัด เพราะเราต้องเหลือเงินไว้ใช้หนี้
เราก็ใช้หนี้ไปเรื่อยๆแต่ละเดือน แต่หนี้นอกระบบ จ่ายแต่ดอกต้นไม่ลด
...คบกันเข้าปีที่ 5 เมียเก่ากับลูก เริ่มคลืบคลานเข้ามา ฝ่ายชายกลัวเราคิดมาก
เลยขอให้เราจดทะเบียน เป็นหลักประกันไว้ ทำนองว่า เค้าจะไม่กลับไปอย่าคิดมาก
ด้วยความรักเค้า เราเลยจด จดทะเบียนแล้วเราก็ย้ายไปอยู่ห้องเช่ากับเค้า
โดยที่พ่อแม่เราไม่เห็นด้วย อยากให้แต่งงานก่อน แต่ฝ่ายชายอ้างว่าหาเงินไม่ได้
ไม่รุ้จะที่ไหน เราก็ยอมตามเค้า เพราะรักเค้า จนพ่อกับแม่โกรธไม่คุยกันหลายเดือน
และการเงินเราก็วิกฤตอีกครั้ง พร้อมๆกับที่เราตั้งครรภ์ เมื่อเราหาเงินส่งเงินที่กู้มาไม่ได้
เราเลยต้องคุยเจรจากับเจ้าหนี้ แต่เจ้าหนี้บางคนไม่ยอม แล้วก็ไปคุยกับฝ่ายชาย
ซึ่งฝ่ายชายบอกกับเราว่าเครียด" สร้างหนี้สร้างสินอะไรไว้เยอะแยะ
ทำไมต้องมีคนมาทวงที่พี่ด้วย ทั้งๆที่พี่ไม่ได้ทำ"
...ท้องได้ 5 เดือน ความสัมพันธ์เราเริ่มแย่ลง คุยกันน้อยลง นอนหันหลังให้กัน
เค้ากลับบ้านดึกทุกวัน (ก่อนท้องก็กลับดึก แต่เราจะไปด้วยกันตลอด)
กินข้าวไม่พร้อมกัน คือบรรยากาศอึมครึมมาก เป็นอย่างงี้ทุกวัน
...อยู่มาวันนึงท้องได้ 8 เดือน เค้าเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ไม่ยอมบอกเราว่าไปไหน
บอกแค่ว่าจะไปพักผ่อนสมอง เครียด เดี่ยวกลับมา ซึ่งเราก็งง ๆ อึ้ง ๆว่าทิ้งเราไปได้ไง
เราท้องแก่ขนาดนี้ ยังทิ้งให้อยุ่คนเดียว เราก็มารู้ว่า ไปหาลูก หาเมียเก่า 4วัน 3 คืน
พอกลับมาเราถามเค้า ว่ามีความจำเป็นอะไรต้องไปเร่งด่วน ลูกป่วยหรอ
เค้าบอกว่าป่าว คิดถึงลูกเลยอยากไป และเครียดเรื่องหนี้สินเรา ไม่เคยคิดว่า จะลำบากขนาดนี้
เราเลยบอกไปว่า เวลามีสุข เราสุขด้วยกัน แต่เวลาทุกข์จะไม่ทุกข์ด้วยกันหรอ
ทั้งๆที่ผ่านมา เราไม่เคยให้เค้าช่วยเหลือเพราะรู้ว่าเค้าไม่มี
เค้ามาเครียดตอนที่เจ้าหนี้ทวงเค้าช่วงเราท้องนี่เอง เค้าเงียบแล้วก็ร้องไห้
บอกว่าถ้าลูกคลอดมาอีก เราก็จะยิ่งลำบาก เราไม่พร้อม แต่มาพูดตอนนี้มันจะได้อะไร
อีกไม่ถึงเดือนเราก็คลอดแล้ว
....คำถามที่อยากถามความเห็นเพื่อนสมาชิก....????
1.สรุปเค้ายังรักเราไหม ที่ผ่านมามันคือความรักไหม
และจะรักลูกที่จะเกิดมารึป่าว ตั้งแต่ที่ทเ้องเค้าไม่เคยแม้แต่จะจับท้องเรา
ไม่เคยถามว่าอยากกินไรไหม เวลาเราอยากไปไหน เราก็ไปเองคนเดียว
เมียเก่าเค้าส่งข้อความมาบอกเรา ว่าเค้าบอกว่าเครียด ไม่ตั้งใจมีลูกอีก
มันคือความผิดพลาด หัวเราะหัวเราะใจร้าว
2.อยากถามว่า ดูๆแล้วเค้าอยากกลับไปหาเมียเก่าเค้าไหม ที่มาอ้างว่าอยู่กับเราแล้วลำบาก
เครียดเรื่องหนี้สินเรา มันเกินทน (ทั้งๆที่เราไม่เคยเอาเงินเค้ามาใช้หนี้เลย เค้าไม่มีอยู่แล้ว)
เพียงแต่ชอบมีเจ้าหนี้ไปถามเค้า ไปบอกกล่าวเค้าให้เค้ารับรู้
เมียเก่าเค้าพูดอยู่ตลอดเวลา (เพื่อนเค้าแอบเล่าให้เราฟัง ) ว่ายังรอ ยังรัก ยังคอย ลูกก็ยังคอย
พ่อกลับไป อยู่กับทางโน้นฝ่ายชายสบาย เพราะเมียเก่าเป็นเจ้าหน้าที่ บริหารรพ.แห่งหนึ่งรายได้ดี 6-7หมื่น
ตอนอยู่ด้วยกันฝ่ายชายไม่เคยออกอะไรเลย มีแต่นางจัดการดูแลทุกอย่าง บัตรเงินเดือนฝ่ายชาย
นางไม่เคยยุ่ง ให้เค้าบริหารใช้เอง แถมแต่ละเดือนยังคอยเติมให้อีกถ้าหากว่าเงินหมดใช้
และนางยังคอยจุนเจือครอบครัวฝ่ายชายอยู่เป็นประจำ แม้แต่เลิกกันไปแล้ว นางก็คงทำอยู่เสมอ
แล้วนางจะให้ฝ่ายชายกลับบ้านไปเยี่ยมลูกที่ตจว.ทุกอาทิตย์
นางก็เป็นคนจัดการค่าตั๋วเครื่องให้ทุกครั้ง ฝ่ายชายถึงได้เดินทางไปเยี่ยมลูกบ่อย
แต่นางเสียใจอย่างเดียว ที่นางพลาดไม่ได้จดทะเบียนกับเค้า เวลาเลิกกัน ก็เลิกกันโดยง่ายดาย
แม้เลิกกันแล้วฝ่ายชายก็ไม่เคยส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูก นางก็ไม่ได้แคร์
แม้แต่ที่ชายไปหาล่าสุด 4วัน 3คืน ก็เป็นนางที่ดูแลทุกสิ่ง
ตั้งแต่ไปจนกลับให้นั่งเครื่องสบายๆ เพราะฝ่ายชายไม่มีเงินไปอยู่แล้ว
(เรายอมรับเลยว่านางดี แต่อาจเพราะรายได้นางเยอะด้วย)
3. อยู่ด้วยกันมา 5ปี ฝ่ายชายไม่เคยไปค้างที่ไหน จะกลับมาตลอด ดึกแค่ไหนก็กลับ
แต่กับเหตุการณ์ล่าสุด 4วัน 3คืน ที่ฝ่ายชายไป เรานอนไม่หลับ ทั้ง4 วัน
คิดมากว่าเค้าต้องอยู่ด้วยกัน บ้านเดียวกัน เค้าจะมีอะไรกันรึป่าว
อยู่กับเราตั้งแต่ท้องได้ 5 เดือน เราก็ไม่ได้มีอะไรกับสามีเลย เราก็ยิ่งกังวล
แต่เราถามสามี เค้าบอกไม่มีอะไร เชื่อใจเหอะ (จะให้เชื่อได้ไง ใครล่ะจะไม่คิด
ไปอยู่ด้วยกันหลายวัน แม้ว่าจะมีลูกอยู่ด้วยก็เถอะ ลูก 8 ขวบ กับ 6 ขวบ)
ไม่ต้องมาคิดหรอกเรื่องนี้ ว่าเค้าจะมีอะไรกับใคร ห่วงตัวเองห่วงลูกในท้องโน้น
จะคลอดอยู่แล้ว ไม่ดูแลลูก มัวแต่มานั่งคิดอะไรไม่รู้
หลังๆมาช่วงที่เราอยู่ด้วยกัน เราแอบเห็นเค้าคุยโทรศัพท์กับเมียเก่า
เดินไปแอบคุยบ่อยมาก และจะพยายามไม่ให้เราได้ยิน
อยากถามว่า ถ้าภายหลังเรามีหลักฐาน ว่าเค้ามีอะไรกันจริงๆ เราจะฟ้องเค้าว่ามีชู้
และฟ้องเมียเก่าเค้าว่ามาเป็นชู้กับสามีเราได้ไหม ในเมื่อตอนนี้เราคือภรรยาที่ถูกต้อง
ตามกฎหมาย เมียเก่าเค้าเป็นอดีตไปแล้ว และที่สำคัญเค้าไม่มีสถานะทางกฎหมาย
คือไม่เคยจดทะเบียนกัน จะมาอ้างว่าเป็นแม่ของลูก และเคยอยู่กินกันมาก่อน
แต่ในตอนนี้มันไม่ใช่ไง อยู่กินกับเราแบบถูกต้องมีสถานะทางกฎหมาย แต่ไปมีอะไรกับเมียเก่า
มันโหดร้ายกับเราเกินไปไหมค่ะ ???? เราคิดอยู่ว่า เป็นสามีภรรยากับเราอยู่
แต่ถ้าแอบไปมีอะไรกับเมียเก่า โดยที่เรามีหลักฐาน เราจะฟ้องทั้งสองคนให้ถึงที่สุด
(ลืมบอกว่า เรากับสามี รับราชการ ในอำเภอหนึ่งๆ และเมียเก่าก็เป็นเจ้าหน้าที่ รพ. ค่ะ)
4. ถ้าเราคลอดมาแล้ว พ่อกับแม่เราจะเลี้ยงลูกให้เรา โดยการที่บอกกับเราว่า
ไม่ให้ใส่ชื่อพ่อเด็กในใบเกิดลูก พ่อเราบอก ตั้งแต่ท้องลูกคนนี้
เค้าไม่เคยสนใจใยดีท้องเราเลย หาหมอก็ไม่พาไปสักครั้ง ก็ปล่อยมันไป
พ่อกับแม่จะเลี้ยงเอง เราควรทำไงดีค่ะ ก็ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าจะได้เลิกกันรึป่าว
เราเองก็อยากให้ลูกที่เกิดมามีพ่อ แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะอยู่กับเราได้ถึงตอนไหน
ดูๆแล้วใจเค้าออกห่าง แต่เราเองที่กลับทำใจไม่ได้รักเค้ามาก
5.น้องเราพ่อแม่เรา รวมถึงเพื่อนสนิทเรา และเพื่อนสนิทฝ่ายชาย
ที่รู้เรื่องพวกเรามาตั้งแต่ต้น พวกเค้าบอกเรา ว่าเลิกเถอะ ควรเลิก
แต่ก่อนเรามีเงิน มีรายได้ ก็พากันมีความสุข เพราะเรามีเงินให้ใช้ไง
เพื่อนฝ่ายชายแอบเล่าว่า ในช่วงนั้นเค้ามีความสุขจริงๆ ชื่นชมเราตลอด
ว่าเราดี และเข้าใจเค้ามากกว่าใคร เค้าถึงจดทะเบียนสมรสด้วย
พอตอนนี้เรามีหนี้ กลับส่ายหน้าหนี แถมบอกว่าเครียด ลำบากเกินทนแล้ว
อยู่กันไปก็มีแต่ความเครียด เพื่อนเค้ายังแสดงความเห็นเลย
ว่า ตอนที่สุข สุขด้วยกัน แต่ถึงเวลามีทุกข์กับบ่นไม่อยากทุกข์ด้วย
แบบนี้มันไม่ใช่แล้วเกินคน เพื่อนเค้าหลายคนแอบเห็นใจ มาให้กำลังใจเราเรื่อยๆ
เพื่อนๆว่าเราควรทำยังไง แต่เราก็รักเค้า ทำใจลำบากจริงๆ
สามีบ่นว่าอยู่กับเราแล้วลำบาก เครียดมากๆ เราควรทำอย่างไรดีค่ะ
ขอโทษด้วยนะค่ะ
ต้นเรื่องค่ะ คบกันได้4ปี แล้วตัดสินใจอยู่ด้วยกันตอนปีที่5
..เราจดทะเบียนสมรสกัน (ครอบครัวสองฝ่ายไม่รู้ ยังไม่แต่งงานกันด้วย)
เราตัดสินใจกันเอง สามีเคยมีเมียและลูกอีก2คน (แต่ไม่เคยจดทะเบียนกัน)
ตอนคบกัน 3ปีแรก มีความสุขดี แต่ฝ่ายชาย รายได้น้อย หมื่นปลายๆ
เราเองเห็นเค้ามีภาระเยอะ เลยไม่ซีเรียสอะไร ส่วนเรารายได้ประจำหมื่นห้า
รายได้จากธุรกิจส่วนตัว พิเศษอีก เดือนล่ะ 4-5 หมื่น
...ดังนั้น ส่วนใหญ่ เวลาไปทานข้าวนอกบ้าน ไปเที่ยว ตจว. ก็เราจะเป็นสายเปย์
พอเข้าปีที่ 4 เราเริ่มมีปัญหาจากธุรกิจที่เราทำ
เริ่มต้องหมุนเงิน หาเงินไม่ทัน ดึงตรงโน้น มาใส่ตรงนี้
จนเราเป็นหนี้ในระบบและนอกระบบล้านบาทพอดี แต่เราก็ไม่เคยเล่าให้ฝ่ายชายฟังเลย
แต่เราว่าฝ่ายชายก็คงรู้ แต่เค้าก็ไม่คิดถาม เพราะจากที่เราเคยมีกิน มีใช้กันอย่างสบาย
เราก็เริ่มประหยัด เพราะเราต้องเหลือเงินไว้ใช้หนี้
เราก็ใช้หนี้ไปเรื่อยๆแต่ละเดือน แต่หนี้นอกระบบ จ่ายแต่ดอกต้นไม่ลด
...คบกันเข้าปีที่ 5 เมียเก่ากับลูก เริ่มคลืบคลานเข้ามา ฝ่ายชายกลัวเราคิดมาก
เลยขอให้เราจดทะเบียน เป็นหลักประกันไว้ ทำนองว่า เค้าจะไม่กลับไปอย่าคิดมาก
ด้วยความรักเค้า เราเลยจด จดทะเบียนแล้วเราก็ย้ายไปอยู่ห้องเช่ากับเค้า
โดยที่พ่อแม่เราไม่เห็นด้วย อยากให้แต่งงานก่อน แต่ฝ่ายชายอ้างว่าหาเงินไม่ได้
ไม่รุ้จะที่ไหน เราก็ยอมตามเค้า เพราะรักเค้า จนพ่อกับแม่โกรธไม่คุยกันหลายเดือน
และการเงินเราก็วิกฤตอีกครั้ง พร้อมๆกับที่เราตั้งครรภ์ เมื่อเราหาเงินส่งเงินที่กู้มาไม่ได้
เราเลยต้องคุยเจรจากับเจ้าหนี้ แต่เจ้าหนี้บางคนไม่ยอม แล้วก็ไปคุยกับฝ่ายชาย
ซึ่งฝ่ายชายบอกกับเราว่าเครียด" สร้างหนี้สร้างสินอะไรไว้เยอะแยะ
ทำไมต้องมีคนมาทวงที่พี่ด้วย ทั้งๆที่พี่ไม่ได้ทำ"
...ท้องได้ 5 เดือน ความสัมพันธ์เราเริ่มแย่ลง คุยกันน้อยลง นอนหันหลังให้กัน
เค้ากลับบ้านดึกทุกวัน (ก่อนท้องก็กลับดึก แต่เราจะไปด้วยกันตลอด)
กินข้าวไม่พร้อมกัน คือบรรยากาศอึมครึมมาก เป็นอย่างงี้ทุกวัน
...อยู่มาวันนึงท้องได้ 8 เดือน เค้าเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ไม่ยอมบอกเราว่าไปไหน
บอกแค่ว่าจะไปพักผ่อนสมอง เครียด เดี่ยวกลับมา ซึ่งเราก็งง ๆ อึ้ง ๆว่าทิ้งเราไปได้ไง
เราท้องแก่ขนาดนี้ ยังทิ้งให้อยุ่คนเดียว เราก็มารู้ว่า ไปหาลูก หาเมียเก่า 4วัน 3 คืน
พอกลับมาเราถามเค้า ว่ามีความจำเป็นอะไรต้องไปเร่งด่วน ลูกป่วยหรอ
เค้าบอกว่าป่าว คิดถึงลูกเลยอยากไป และเครียดเรื่องหนี้สินเรา ไม่เคยคิดว่า จะลำบากขนาดนี้
เราเลยบอกไปว่า เวลามีสุข เราสุขด้วยกัน แต่เวลาทุกข์จะไม่ทุกข์ด้วยกันหรอ
ทั้งๆที่ผ่านมา เราไม่เคยให้เค้าช่วยเหลือเพราะรู้ว่าเค้าไม่มี
เค้ามาเครียดตอนที่เจ้าหนี้ทวงเค้าช่วงเราท้องนี่เอง เค้าเงียบแล้วก็ร้องไห้
บอกว่าถ้าลูกคลอดมาอีก เราก็จะยิ่งลำบาก เราไม่พร้อม แต่มาพูดตอนนี้มันจะได้อะไร
อีกไม่ถึงเดือนเราก็คลอดแล้ว
....คำถามที่อยากถามความเห็นเพื่อนสมาชิก....????
1.สรุปเค้ายังรักเราไหม ที่ผ่านมามันคือความรักไหม
และจะรักลูกที่จะเกิดมารึป่าว ตั้งแต่ที่ทเ้องเค้าไม่เคยแม้แต่จะจับท้องเรา
ไม่เคยถามว่าอยากกินไรไหม เวลาเราอยากไปไหน เราก็ไปเองคนเดียว
เมียเก่าเค้าส่งข้อความมาบอกเรา ว่าเค้าบอกว่าเครียด ไม่ตั้งใจมีลูกอีก
มันคือความผิดพลาด หัวเราะหัวเราะใจร้าว
2.อยากถามว่า ดูๆแล้วเค้าอยากกลับไปหาเมียเก่าเค้าไหม ที่มาอ้างว่าอยู่กับเราแล้วลำบาก
เครียดเรื่องหนี้สินเรา มันเกินทน (ทั้งๆที่เราไม่เคยเอาเงินเค้ามาใช้หนี้เลย เค้าไม่มีอยู่แล้ว)
เพียงแต่ชอบมีเจ้าหนี้ไปถามเค้า ไปบอกกล่าวเค้าให้เค้ารับรู้
เมียเก่าเค้าพูดอยู่ตลอดเวลา (เพื่อนเค้าแอบเล่าให้เราฟัง ) ว่ายังรอ ยังรัก ยังคอย ลูกก็ยังคอย
พ่อกลับไป อยู่กับทางโน้นฝ่ายชายสบาย เพราะเมียเก่าเป็นเจ้าหน้าที่ บริหารรพ.แห่งหนึ่งรายได้ดี 6-7หมื่น
ตอนอยู่ด้วยกันฝ่ายชายไม่เคยออกอะไรเลย มีแต่นางจัดการดูแลทุกอย่าง บัตรเงินเดือนฝ่ายชาย
นางไม่เคยยุ่ง ให้เค้าบริหารใช้เอง แถมแต่ละเดือนยังคอยเติมให้อีกถ้าหากว่าเงินหมดใช้
และนางยังคอยจุนเจือครอบครัวฝ่ายชายอยู่เป็นประจำ แม้แต่เลิกกันไปแล้ว นางก็คงทำอยู่เสมอ
แล้วนางจะให้ฝ่ายชายกลับบ้านไปเยี่ยมลูกที่ตจว.ทุกอาทิตย์
นางก็เป็นคนจัดการค่าตั๋วเครื่องให้ทุกครั้ง ฝ่ายชายถึงได้เดินทางไปเยี่ยมลูกบ่อย
แต่นางเสียใจอย่างเดียว ที่นางพลาดไม่ได้จดทะเบียนกับเค้า เวลาเลิกกัน ก็เลิกกันโดยง่ายดาย
แม้เลิกกันแล้วฝ่ายชายก็ไม่เคยส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูก นางก็ไม่ได้แคร์
แม้แต่ที่ชายไปหาล่าสุด 4วัน 3คืน ก็เป็นนางที่ดูแลทุกสิ่ง
ตั้งแต่ไปจนกลับให้นั่งเครื่องสบายๆ เพราะฝ่ายชายไม่มีเงินไปอยู่แล้ว
(เรายอมรับเลยว่านางดี แต่อาจเพราะรายได้นางเยอะด้วย)
3. อยู่ด้วยกันมา 5ปี ฝ่ายชายไม่เคยไปค้างที่ไหน จะกลับมาตลอด ดึกแค่ไหนก็กลับ
แต่กับเหตุการณ์ล่าสุด 4วัน 3คืน ที่ฝ่ายชายไป เรานอนไม่หลับ ทั้ง4 วัน
คิดมากว่าเค้าต้องอยู่ด้วยกัน บ้านเดียวกัน เค้าจะมีอะไรกันรึป่าว
อยู่กับเราตั้งแต่ท้องได้ 5 เดือน เราก็ไม่ได้มีอะไรกับสามีเลย เราก็ยิ่งกังวล
แต่เราถามสามี เค้าบอกไม่มีอะไร เชื่อใจเหอะ (จะให้เชื่อได้ไง ใครล่ะจะไม่คิด
ไปอยู่ด้วยกันหลายวัน แม้ว่าจะมีลูกอยู่ด้วยก็เถอะ ลูก 8 ขวบ กับ 6 ขวบ)
ไม่ต้องมาคิดหรอกเรื่องนี้ ว่าเค้าจะมีอะไรกับใคร ห่วงตัวเองห่วงลูกในท้องโน้น
จะคลอดอยู่แล้ว ไม่ดูแลลูก มัวแต่มานั่งคิดอะไรไม่รู้
หลังๆมาช่วงที่เราอยู่ด้วยกัน เราแอบเห็นเค้าคุยโทรศัพท์กับเมียเก่า
เดินไปแอบคุยบ่อยมาก และจะพยายามไม่ให้เราได้ยิน
อยากถามว่า ถ้าภายหลังเรามีหลักฐาน ว่าเค้ามีอะไรกันจริงๆ เราจะฟ้องเค้าว่ามีชู้
และฟ้องเมียเก่าเค้าว่ามาเป็นชู้กับสามีเราได้ไหม ในเมื่อตอนนี้เราคือภรรยาที่ถูกต้อง
ตามกฎหมาย เมียเก่าเค้าเป็นอดีตไปแล้ว และที่สำคัญเค้าไม่มีสถานะทางกฎหมาย
คือไม่เคยจดทะเบียนกัน จะมาอ้างว่าเป็นแม่ของลูก และเคยอยู่กินกันมาก่อน
แต่ในตอนนี้มันไม่ใช่ไง อยู่กินกับเราแบบถูกต้องมีสถานะทางกฎหมาย แต่ไปมีอะไรกับเมียเก่า
มันโหดร้ายกับเราเกินไปไหมค่ะ ???? เราคิดอยู่ว่า เป็นสามีภรรยากับเราอยู่
แต่ถ้าแอบไปมีอะไรกับเมียเก่า โดยที่เรามีหลักฐาน เราจะฟ้องทั้งสองคนให้ถึงที่สุด
(ลืมบอกว่า เรากับสามี รับราชการ ในอำเภอหนึ่งๆ และเมียเก่าก็เป็นเจ้าหน้าที่ รพ. ค่ะ)
4. ถ้าเราคลอดมาแล้ว พ่อกับแม่เราจะเลี้ยงลูกให้เรา โดยการที่บอกกับเราว่า
ไม่ให้ใส่ชื่อพ่อเด็กในใบเกิดลูก พ่อเราบอก ตั้งแต่ท้องลูกคนนี้
เค้าไม่เคยสนใจใยดีท้องเราเลย หาหมอก็ไม่พาไปสักครั้ง ก็ปล่อยมันไป
พ่อกับแม่จะเลี้ยงเอง เราควรทำไงดีค่ะ ก็ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าจะได้เลิกกันรึป่าว
เราเองก็อยากให้ลูกที่เกิดมามีพ่อ แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะอยู่กับเราได้ถึงตอนไหน
ดูๆแล้วใจเค้าออกห่าง แต่เราเองที่กลับทำใจไม่ได้รักเค้ามาก
5.น้องเราพ่อแม่เรา รวมถึงเพื่อนสนิทเรา และเพื่อนสนิทฝ่ายชาย
ที่รู้เรื่องพวกเรามาตั้งแต่ต้น พวกเค้าบอกเรา ว่าเลิกเถอะ ควรเลิก
แต่ก่อนเรามีเงิน มีรายได้ ก็พากันมีความสุข เพราะเรามีเงินให้ใช้ไง
เพื่อนฝ่ายชายแอบเล่าว่า ในช่วงนั้นเค้ามีความสุขจริงๆ ชื่นชมเราตลอด
ว่าเราดี และเข้าใจเค้ามากกว่าใคร เค้าถึงจดทะเบียนสมรสด้วย
พอตอนนี้เรามีหนี้ กลับส่ายหน้าหนี แถมบอกว่าเครียด ลำบากเกินทนแล้ว
อยู่กันไปก็มีแต่ความเครียด เพื่อนเค้ายังแสดงความเห็นเลย
ว่า ตอนที่สุข สุขด้วยกัน แต่ถึงเวลามีทุกข์กับบ่นไม่อยากทุกข์ด้วย
แบบนี้มันไม่ใช่แล้วเกินคน เพื่อนเค้าหลายคนแอบเห็นใจ มาให้กำลังใจเราเรื่อยๆ
เพื่อนๆว่าเราควรทำยังไง แต่เราก็รักเค้า ทำใจลำบากจริงๆ