“สวนดุสิตโพล”เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นปชช. ส่วนใหญ่ร้อยละ 40.97 มองข่าวทุจริตกระทบรบ.“ประยุทธ์” เหตุขาดความน่าเชื่อถือ – ปกป้องพวกพ้อง ร้อยละ 56.61 เชื่อแก้ไขไม่ได้ เพราะหลายคดีที่เงียบหาย
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,157 คน ในหัวข้อ “ประชาชนคิดอย่างไรกับข่าวทุจริต ณ วันนี้” หลังจากที่มีข่าวออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เช่น ทุจริตโครงการเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ เงินเบี้ยเลี้ยงตำรวจตระเวนชายแดน เป็นต้น โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13-17 มี.ค. 61ทั้งนี้เมื่อถามว่าประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไรกับข่าวทุจริตในระบบราชการวันนี้ พบว่า
ร้อยละ 44.22 เห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่มีมานานทุกยุคทุกสมัย สร้างความเสียหายต่อประเทศ
ร้อยละ 28.67 เห็นว่าอยากให้แก้ปัญหาอย่างจริงจัง มีการตรวจสอบ รื้อระบบภาครัฐครั้งใหญ่
และร้อยละ19.00 เห็นว่าเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี กระทบต่อภาพลักษณ์ ชื่อเสียงของรัฐบาล
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าการทุจริตมีสาเหตุจากอะไร พบว่า
ร้อยละ 68.57 เห็นว่าเป็นความโลภเห็นแก่ตัว ขาดจิตสำนึก
ร้อยละ 26.72 เห็นว่า การใช้อำนาจหน้าที่เอารัดเอาเปรียบ
และร้อยละ 19.29 เห็นว่าระบบการตรวจสอบ ติดตาม ไม่เข้มแข็ง
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าควรมีแนวทางป้องกันปัญหาการทุจริตอย่างไร พบว่า
ร้อยละ 35.81 ระบุว่า ควรปลูกฝังจริยธรรม ความซื่อสัตย์
ส่วนร้อยละ35.42 ระบุว่าควรมีระบบการตรวจสอบที่ละเอียด เข้มงวด และรัดกุม
ร้อยละ32.10 ระบุว่า ควรพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
เมื่อถามต่อว่าข่าวการทุจริตวันนี้ มีผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากน้อยเพียงใด พบว่า
ร้อยละ 40.97 เห็นว่า มีผลมาก เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ ขาดความน่าเชื่อถือ ถูกมองว่าเป็นการปกป้องพวกพ้อง รู้สึกผิดหวัง
ร้อยละ 22.13 เห็นว่า ค่อนข้างมีผล เพราะแสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ยังมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และร้อยละ 21.26 เห็นว่า ไม่ค่อยมีผล เพราะการทุจริตเป็นปัญหาที่ฝังรากลึก มีมานาน ทุกรัฐบาลประสบปัญหา ไม่คาดหวังกับการแก้ปัญหาการทุจริตอยู่แล้ว
ทั้งนี้เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะแก้ปัญหาการทุจริตได้หรือไม่ พบว่า
ร้อยละ 56.61 เห็นว่าแก้ไขไม่ได้ เพราะที่ผ่านมามีหลายคดีที่เงียบหายไป ไม่สามารถเอาผิดได้ เป็นปัญหาเรื้อรัง
ร้อยละ 23.42 เห็นว่าไม่แน่ใจ เพราะต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ยังไม่รู้ข้อมูลข้อเท็จจริง ต้องติดตามต่อไป
และร้อยละ 19.97 เห็นว่าแก้ไขได้ เพราะรัฐบาลคสช.มีอำนาจพิเศษสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เป็นปัญหาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน.
JJNY : โพลแสลงใจ 2.4...ซี้จุกสูญ "ดุสิตโพล"เผยข่าวทุจริตทำรัฐบาลสะเทือน
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,157 คน ในหัวข้อ “ประชาชนคิดอย่างไรกับข่าวทุจริต ณ วันนี้” หลังจากที่มีข่าวออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เช่น ทุจริตโครงการเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ เงินเบี้ยเลี้ยงตำรวจตระเวนชายแดน เป็นต้น โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13-17 มี.ค. 61ทั้งนี้เมื่อถามว่าประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไรกับข่าวทุจริตในระบบราชการวันนี้ พบว่า
ร้อยละ 44.22 เห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่มีมานานทุกยุคทุกสมัย สร้างความเสียหายต่อประเทศ
ร้อยละ 28.67 เห็นว่าอยากให้แก้ปัญหาอย่างจริงจัง มีการตรวจสอบ รื้อระบบภาครัฐครั้งใหญ่
และร้อยละ19.00 เห็นว่าเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี กระทบต่อภาพลักษณ์ ชื่อเสียงของรัฐบาล
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าการทุจริตมีสาเหตุจากอะไร พบว่า
ร้อยละ 68.57 เห็นว่าเป็นความโลภเห็นแก่ตัว ขาดจิตสำนึก
ร้อยละ 26.72 เห็นว่า การใช้อำนาจหน้าที่เอารัดเอาเปรียบ
และร้อยละ 19.29 เห็นว่าระบบการตรวจสอบ ติดตาม ไม่เข้มแข็ง
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าควรมีแนวทางป้องกันปัญหาการทุจริตอย่างไร พบว่า
ร้อยละ 35.81 ระบุว่า ควรปลูกฝังจริยธรรม ความซื่อสัตย์
ส่วนร้อยละ35.42 ระบุว่าควรมีระบบการตรวจสอบที่ละเอียด เข้มงวด และรัดกุม
ร้อยละ32.10 ระบุว่า ควรพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
เมื่อถามต่อว่าข่าวการทุจริตวันนี้ มีผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากน้อยเพียงใด พบว่า
ร้อยละ 40.97 เห็นว่า มีผลมาก เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ ขาดความน่าเชื่อถือ ถูกมองว่าเป็นการปกป้องพวกพ้อง รู้สึกผิดหวัง
ร้อยละ 22.13 เห็นว่า ค่อนข้างมีผล เพราะแสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ยังมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และร้อยละ 21.26 เห็นว่า ไม่ค่อยมีผล เพราะการทุจริตเป็นปัญหาที่ฝังรากลึก มีมานาน ทุกรัฐบาลประสบปัญหา ไม่คาดหวังกับการแก้ปัญหาการทุจริตอยู่แล้ว
ทั้งนี้เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะแก้ปัญหาการทุจริตได้หรือไม่ พบว่า
ร้อยละ 56.61 เห็นว่าแก้ไขไม่ได้ เพราะที่ผ่านมามีหลายคดีที่เงียบหายไป ไม่สามารถเอาผิดได้ เป็นปัญหาเรื้อรัง
ร้อยละ 23.42 เห็นว่าไม่แน่ใจ เพราะต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ยังไม่รู้ข้อมูลข้อเท็จจริง ต้องติดตามต่อไป
และร้อยละ 19.97 เห็นว่าแก้ไขได้ เพราะรัฐบาลคสช.มีอำนาจพิเศษสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เป็นปัญหาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน.