ใครคิดจะติดจุดเสริมทรูวิชั่นส์ อ่านกระทู้นี้ก่อนแล้วคิดให้ดีๆครับ

เรื่องมีอยู่ว่า ที่บ้านผมติดอินเตอร์เน็ตทรูพ่วงกับทรูวิชั่นส์ โดยทรูวิชั่นส์จุดหลักติดที่ห้องรับแขก และได้ติดจุดเสริมเพิ่มอีก 2 จุดในห้องนอนพ่อแม่และห้องนอนผมเอง และได้เพิ่มแพ็คเกจซุปเปอร์ซ็อคเกอร์ด้วย เนื่องจากช่วงหลังๆผมไม่มีเวลาดูทีวี จึงได้ทำเรื่องยกเลิกแพ็คเกจซุปเปอร์ซ็อคเกอร์ และยกเลิกจุดเสริมในห้องนอนผม ซึ่งการยื่นเรื่องยกเลิกก็ค่อนข้างวุ่นวาย เนื่องจากตอนที่สมัครอินเตอร์เน็ต ดันใช้ชื่อพี่สาวสมัคร ผมนำเอกสารไปยื่นที่ทรูช็อป แต่ไม่รู้ว่าพนักงานเกิดความเข้าใจผิดตรงไหน จึงยกเลิกทรูวิชั่นส์ทั้งหมดในบ้าน แม่ผมโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ ทางนั้นจึงได้ปล่อยสัญญาณคืน และบอกกับแม่ผมว่าให้ผมโทรเข้าไปอีกครั้งเพื่อแจ้งยกเลิกแพ็คเกจซุปเปอร์ซ็อคเกอร์และจุดเสริม โดยไม่ต้องนำเอกสารไปยื่นแล้ว เพราะเคยยื่นไปแล้ว

ซักพักพอมีเวลาว่าง ผมก็โทรเข้าคอลเซ็นเตอร์เพื่อแจ้งเรื่องยกเลิก ทางนั้นก็แจ้งว่าได้ตัดสัญญาณให้แล้ว และให้ผมนำตัวเครื่อง อแดปเตอร์ และรีโมท ไปคืนที่ทรูช็อปเพื่อทำเรื่องขอคืนเงินประกันเครื่องหนึ่งพันบาท โดยเอกสารที่ต้องนำไปด้วยคือสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร เมื่อวานผมไปที่ทรูช็อปเพื่อทำเรื่องคืนเงิน ซึ่งผมก็เตรียมอุปกรณ์และเอกสารไปตามที่คอลเซ็นเตอร์บอก เจอพนักงานผู้ชายนำเอกสารไปดู แล้วก็แจ้งว่า ต้องให้พี่สาวผมมายื่นเรื่องเอง เนื่องจากจุดหลักสมัครไว้ในชื่อพี่สาวผม ผมก็พยายามอธิบายว่า ผมได้ยื่นเอกสารเพื่อทำเรื่องยกเลิกไปแล้วนะ นี่มาเพื่อคืนอุปกรณ์และขอคืนค่าประกันเครื่องเท่านั้น พนักงานก็พูดอยู่ประโยคเดียวว่าไม่ได้ครับ ต้องให้เจ้าตัวมาเอง ซึ่งพี่สาวผมตอนนี้ย้ายไปอยู่คอนโดแล้ว และทำงานไม่ค่อยเป็นเวลา เค้าจึงไม่สะดวกมา ผมเลยถามว่างั้นให้พี่สาวถ่ายรูปสมุดบัญชีชื่อพี่สาวมาให้ได้มั้ย เค้าก็ยังบอกว่าไม่ได้ ต้องให้เจ้าตัวมาเองเท่านั้น

ถึงตอนนี้เริ่มเคืองละ คือตอนแรกยังเข้าใจนะว่าถ้าไม่ใช่สมุดบัญชีของเจ้าตัวก็ไม่โอนคืนให้ เพราะอาจจะมีใครขโมยเครื่องมาขอคืนเงินประกันก็ได้ แต่นี่ก็แจ้งยกเลิกไปแล้ว สัญญาณก็ตัดไปแล้ว ใช้สมุดบัญชีของเจ้าตัวแล้วก็ยังไม่ได้ ผมหงุดหงิดละ ก็เลยบอกว่างั้นช่วยรับเครื่องคืนไปก่อน แล้วค่อยให้พี่สาวมายื่นเอกสารเพิ่มเติมทีหลัง เพราะผมไม่อยากนำเครื่องกลับแล้ว พนักงานก็ยังบอกว่าไม่ได้อีก พูดประโยคเดียวว่าทำไม่ได้ๆๆ ถึงตอนนี้ผมเริ่มโวยละ คือคุณไม่คิดจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ลูกค้าเลย เอะอะก็โบ้ยให้เป็นภาระของลูกค้าอย่างเดียว พอเห็นผมเริ่มโวย พนักงานผู้หญิงอีกคนที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าถึงได้เข้ามาประกบ สุดท้ายก็บอกว่าทางช็อปสามารถรับเครื่องไว้ก่อนได้ แล้วให้ผมนำเอกสารมายื่นภายหลัง โดยเจ้าตัวพี่สาวไม่ต้องมาก็ได้ แต่ให้เซ็นชื่อในหนังสือมอบอำนาจมา (อ้อ และให้นำสาย HDMI มาด้วย ผมไม่ได้นำมาตอนแรก เพราะคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้บอก)

ก็นึกว่าเรื่องจบละ แต่จุดพีคอยู่ตรงนี้ ซักพักพนักงานผู้ชายคนเดิมโทรมา แจ้งว่าจุดที่ผมยกเลิกเป็นจุดเสริม ถึงแม้ผมจะคืนอุปกรณ์ครบแล้ว ยื่นเอกสารทุกอย่างถูกต้องแล้ว แต่ทางทรูจะไม่โอนเงินประกันคืนให้ ตราบใดที่จุดหลักยังไม่ยกเลิก ผมก็อึ้งไปเลย ถามพนักงานว่า หมายความว่าถ้าอีก 20 ปีผมถึงจะยกเลิกจุดหลัก ผมต้องรอ 20 ปีถึงจะได้รับเงินหนึ่งพันบาทคืนเหรอ? พนักงานตอบว่าใช่ครับ ระหว่างนั้นเงินก็จะฝากไว้ที่ทรู


ถึงจุดนี้ผมไม่โวยแล้วครับ ไม่มีอารมณ์จะเสวนากับพนักงานของบริษัทนี้อีกต่อไป...ตอนสมัครจุดเสริม หรือแพ็คเกจเสริม หรือเพิ่มแพ็คเกจ สรุปง่ายๆคือตอนที่บริษัทคุณได้เงินเพิ่ม ใช้ชื่อใครก็ได้ เอกสารอะไรก็ไม่ต้องใช้ แต่พอตอนจะยกเลิก คุณกลับทำทุกวิถีทางที่จะสรรหามาได้ เพื่อไม่ให้ลูกค้าได้อะไรซักสตางค์เดียว แทนที่บริษัทจะสอนให้พนักงานคิดว่า ถึงแม้ผมจะยกเลิกจุดเสริมไปจุดนึง แต่ที่บ้านผมยังใช้บริการเน็ตและทรูวิชั่นส์อีก 2 จุด ที่โกดังผมก็ยังติดเน็ตทรู และทรูวิชั่นส์อีก 2 จุด แล้วผมเป็นลูกค้ามาเป็นสิบปี ไม่น่าเชื่อว่าการยกเลิกจุดเสริมจุดเดียวจะทำให้ผมเสียความรู้สึกได้ขนาดนี้

ทั้งที่ตลาดทีวีเสียเงินปัจจุบันนี้ ทั้งต้องแข่งขันกับช่องทางอื่นที่ไม่ใช่ทีวี แล้วยังมีคู่แข่งอย่าง android box และ iptv แต่กลับไม่คิดถึงมุมมองของลูกค้า คิดแต่จะใช้นโยบายเอาเปรียบลูกค้าแบบหน้าด้านๆให้ถึงที่สุด หลังจากวางสายกับพนักงาน ผมสั่งซื้อ android box จากในเน็ตทันทีครับ แล้วตอนนี้ก็กำลังดูอยู่ว่าจะสามารถหาอะไรมาทดแทนอินเตอร์เน็ตและทรูวิชั่นส์ที่ติดอยู่ที่บ้านและที่โกดังได้บ้าง เนื่องจากผมไม่คิดจะเสียเงินให้บริษัทนี้อีกต่อไป

พิมพ์ซะยาว สรุปปัญหาหลักๆที่ผมคิดว่าทรูทำได้ทุเรศมากนะครับ
-พนักงานรับเรื่อง ทั้งที่ลูกค้าอุตส่าห์เดินทางมาหาคุณถึงที่ แต่คุณกลับพยายามจะโบ้ยภาระกลับไปให้ลูกค้าทุกอย่าง ซึ่งก็คงตำหนิตัวบุคคลไม่ได้ พอเข้าใจได้ว่าคงโดนเทรนมาแบบนี้ คือใครจะมายกเลิกอะไร ให้ทำตัวงี่เง่าให้ถึงที่สุดแล้วจะดีเอง
-นโยบายบริษัท ไม่คืนเงินประกันเครื่องของจุดเสริม ตราบใดที่ไม่ยกเลิกจุดหลัก สมมุติบ้านหลังนึงมีจุดหลัก 1 จุด จุดเสริม 10 จุด แล้วยกเลิกจุดเสริมทั้งหมด คุณก็จะนอนกำเงินหมื่นนึงอย่างสบายใจเฉิบ รอวันที่ลูกค้ายกเลิกจุดหลัก?? แทนที่จะคิดว่า อย่างน้อยลูกค้าก็ยังไม่ยกเลิกจุดหลัก แต่นี่ดันทำให้ลูกค้าจำเป็นต้องยกเลิกจุดหลักด้วยซะงั้น คนคิดนโยบายคิดว่าแบบนี้มันคุ้มแล้วจริงๆเหรอ??

เอาจริงๆเงินพันนึง ไม่ได้คืนผมก็ไม่เดือดร้อนหรอก ถ้าคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้แจ้งว่าให้ผมนำเครื่องไปคืนเพื่อรับเงินประกันคืน ผมก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยมีเงินประกันไว้ แต่ที่รับไม่ได้คือนโยบายที่จ้องจะเอาเปรียบลูกค้าแบบทุเรศๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่