การสมัครบัตรเครดิตแบบฝากค้ำตอนสมัครว่ายากแล้ว ตอนยกเลิกยากกว่า
เราได้ทำบัตรแบบฝากค้ำไว้กับธนาคารสีม่วง ซึ่งตอนเข้าไปทำพนักงานไม่รู้ว่ามีบัตรเครดิตแบบฝากค้ำด้วย แต่ก็ได้พี่จุกช่วยประสานงานให้ ถึงจะได้ทำ มาธนาคารหลายรอบมาก เซ็นเอกสารเยอะมาก กว่าจะส่งเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่ กว่าจะได้บัตรเป็นเดือน
ทีนี้พอใช้มาได้หลายปี เราก็รู้ข้อมูลว่ามันสามารถยื่นเอกสารเพื่อปลดล็อคบัญชีที่ฝากค้ำได้ (แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น)
เราเริ่มยืนเอกสารผ่านแอพ ครั้งแรกได้บัตรมาเพิ่มแต่วงเงินรวม เราก็งง ครั้งที่สองก็เหมือนเดิมยื่นไปอีกรอบ ครั้งนี้ใช้เวลาหลายวันกว่าจะอนุมัติ แต่พอบัตรมาถึงก็วงเงินเดียวกันอีก สุดท้ายโทรถามคอลเซ็นเตอร์ ทางนั้นแจ้งว่าต้องยืนเอกสารที่สาขาเท่านั้น เราก็ไปที่สาขา เล่าเรื่องให้ฟัง พนักงานก็งงต่อสายให้เราคุยกับคอลเซ็นเตอร์อีก พนักงานขอคุยกับคอลเซ็นเตอร์ เกี่ยวกับข้อมูล และเหมือนจะคุยกันไม่เข้าใจ ตัดจบคอลเซ็นเตอร์บอกกับเราว่า ยื่นเอกสารไปเลยค่ะ!!
พนักงานสาขาคุยกับเราว่า ยังไงก็ปลดล็อคฝากค้ำไม่ได้ค่ะ ต่อให้ยื่นเอกสารไปก็ไม่ได้ ถ้าไม่ยกเลิกบัตรเก่า หนึ่งคนจะมีได้แค่วงเงินเดียวเท่านั้น ถ้าฝากค้ำสมัครใหม่กี่ใบก็ได้วงเงินเดียวกันต่อหนึ่งธนาคาร เราก็เลยกลับ ก่อนกลับเราก็บอกว่า โอเคครับในเมื่อมันมีปัญหามากก็เดี๋ยวมายกเลิก
ปลายปี65 เราเข้าไปเคลีย์ยอดค้างทั้งหมดและยกเลิกบัตรทุกใบ พนักงานที่รับเรื่องไว้ก็บอกจะตามเรื่องให้ จนผ่านมาสักพักใหญ่ๆ เราเลยโทรหาคอลเซ็นเตอร์ เล่าเรื่องให้เขาฟัง เขาบอกว่าหลังวันที่5มกรา66เข้าไปรับสมุดได้เลย เราเลยโทรถามพนักงานสาขาที่ให้เบอร์ไว้ เพื่อตามเรื่องนี้ พนักงานบอกเพิ่งมาทำงานวันแรกของปี เดี๋ยวตามเรื่องให้นะคะ ผ่านไปหนึ่งวัน โทรกลับมาบอกสำนักงานใหญ่ยังไม่ส่งเมลมาเลย โทรไปตามกับคอลเซ็นเตอร์เขาก็ไม่ไห้ข้อมูลเพราะไม่ใช่ลูกค้าโทรไป เราเลยโทรไปคอลเซ็นเตอร์เอง ทางนั้นแจ้งว่าเมลถูกส่งออกมาแล้วนะคะ บอกเวลาวันที่ชัดเจน ให้พนักงานสาขาดูในระบบได้ค่ะ โทรกลับไปหาพนักงานสาขาบอกเวลาเมลอีกรอบ พนักงานสาขาบอกถ้าว่างแล้วจะดูให้นะคะ
ต่อมาเราจึงไปที่สาขา ไปตามเรื่องว่ามันยังไงกันแน่ เพราะคอลเซ็นเตอร์บอกเราว่าถ้าเมลส่งมาแล้วปลดล็อคบัญชีได้เลย และได้เงินคืนเลย และให้เอาบัตรประชาชนไปด้วย พอไปถึงเจอพนักงานสาขา เขาเอ่ยว่า พี่เดี๋ยวหนู๋ตามเรื่องให้นะ งั้นหนู๋ขอเวลาและวันที่เมลอีกรอบ!!(แล้วที่โทรไปบอกล่ะ ไม่ได้จดเอาไว้เลยหรอ) หายไปสักพักเข้าไปข้างหลัง ถือกระดาษออกมาสองสามแผ่น เดินมาบอกพี่ขอบัตรประชาชนหน่อยค่ะ(คิดในใจจะได้เงินคืนซะที) จะเอาไปถ่ายเอกสารแล้วให้เราเซ็นชื่อ แล้วบอกเดี๋ยวตามเรื่องให้ค่ะ(เอ้า!!ยังไม่จบอีกหรอเนี้ย) เราถามกลับไปว่าแล้วมันจะปลดได้เมื่อไร ก็คอลเซ็นเตอร์เขาบอกว่า เมลมาแล้วรับเงินคืนได้เลย
อ๋อคอลเซ็นเตอร์ก็ตอบไปแบบนั้นแหละค่ะ เขาไม่รู้วิธีการทำงานว่ามันต้องทำยังไง!! เดี๋ยวถ้าปลดได้แล้วจะให้มาเซ็นเอกสารอีกรอบนะคะ
เราถามกลับไปว่ามันต้องยุ่งยากขนาดนี้เลยหรอ เขาบอกใช่ค่ะ เพราะพี่สมัครแบบฝากค้ำถ้าสมัครปกติยกเลิกได้เลยไม่มีข้อผูกมัด
จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เงินคืนและไม่รู้ว่าเมื่อไร
ทำให้เรามาคิดว่าเป็นเพราะระบบที่ยุ่งยาก หรือพนักงานไม่มีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ ถึงมีคนที่เจอแบบเดี่ยวกับเราเยอะ และจากเหตุการณ์นี้ทำให้เราคิดถึงพี่จุกขึ้นมาทันที ถ้าพี่จุกยังไม่วางคีย์บอร์ด พี่จุกคงช่วยเราแก้ปัญหานี้ได้ ไม่มีใครรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วพี่จุกคือใครในธนาคารสีม่วง แต่เมื่อใดที่มีปัญหา พี่จุกช่วยเราได้เสมอ ที่เราเลือกมาเป็นลูกค้าธนาคารสีม่วงก็เพราะพี่จุกเลยนะ แต่เมื่อที่นี่เขาไม่ต้องการเรา เราก็คงต้องไป แล้วตอนนี้เราได้ธนาคารนึงต้อนรับเรา อนุมัติบัตรเครดิตให้เราภายใน12ชั่วโมงหลังส่งเอกสารผ่านแอพ เราก็คงต้องลาจากกัน
เลยอยากจะมาเตือนคนที่สนใจบัตรเครดิตแบบฝากค้ำว่า อย่าทำเลยเชื่อเราเถอะ เราเจ็บมาก่อน ที่ไม่ได้เล่าก็อีกเยอะ สมัครแบบปกติเถอะถ้าผ่านเกณฑ์นะ และเราคิดว่าน่าจะเป็นเหมือนกันทุกธนาคาร
คิดให้ดีก่อน สมัครบัตรเครดิตแบบฝากค้ำ กับความยุ่งยากที่ตามมา
เราได้ทำบัตรแบบฝากค้ำไว้กับธนาคารสีม่วง ซึ่งตอนเข้าไปทำพนักงานไม่รู้ว่ามีบัตรเครดิตแบบฝากค้ำด้วย แต่ก็ได้พี่จุกช่วยประสานงานให้ ถึงจะได้ทำ มาธนาคารหลายรอบมาก เซ็นเอกสารเยอะมาก กว่าจะส่งเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่ กว่าจะได้บัตรเป็นเดือน
ทีนี้พอใช้มาได้หลายปี เราก็รู้ข้อมูลว่ามันสามารถยื่นเอกสารเพื่อปลดล็อคบัญชีที่ฝากค้ำได้ (แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น)
เราเริ่มยืนเอกสารผ่านแอพ ครั้งแรกได้บัตรมาเพิ่มแต่วงเงินรวม เราก็งง ครั้งที่สองก็เหมือนเดิมยื่นไปอีกรอบ ครั้งนี้ใช้เวลาหลายวันกว่าจะอนุมัติ แต่พอบัตรมาถึงก็วงเงินเดียวกันอีก สุดท้ายโทรถามคอลเซ็นเตอร์ ทางนั้นแจ้งว่าต้องยืนเอกสารที่สาขาเท่านั้น เราก็ไปที่สาขา เล่าเรื่องให้ฟัง พนักงานก็งงต่อสายให้เราคุยกับคอลเซ็นเตอร์อีก พนักงานขอคุยกับคอลเซ็นเตอร์ เกี่ยวกับข้อมูล และเหมือนจะคุยกันไม่เข้าใจ ตัดจบคอลเซ็นเตอร์บอกกับเราว่า ยื่นเอกสารไปเลยค่ะ!!
พนักงานสาขาคุยกับเราว่า ยังไงก็ปลดล็อคฝากค้ำไม่ได้ค่ะ ต่อให้ยื่นเอกสารไปก็ไม่ได้ ถ้าไม่ยกเลิกบัตรเก่า หนึ่งคนจะมีได้แค่วงเงินเดียวเท่านั้น ถ้าฝากค้ำสมัครใหม่กี่ใบก็ได้วงเงินเดียวกันต่อหนึ่งธนาคาร เราก็เลยกลับ ก่อนกลับเราก็บอกว่า โอเคครับในเมื่อมันมีปัญหามากก็เดี๋ยวมายกเลิก
ปลายปี65 เราเข้าไปเคลีย์ยอดค้างทั้งหมดและยกเลิกบัตรทุกใบ พนักงานที่รับเรื่องไว้ก็บอกจะตามเรื่องให้ จนผ่านมาสักพักใหญ่ๆ เราเลยโทรหาคอลเซ็นเตอร์ เล่าเรื่องให้เขาฟัง เขาบอกว่าหลังวันที่5มกรา66เข้าไปรับสมุดได้เลย เราเลยโทรถามพนักงานสาขาที่ให้เบอร์ไว้ เพื่อตามเรื่องนี้ พนักงานบอกเพิ่งมาทำงานวันแรกของปี เดี๋ยวตามเรื่องให้นะคะ ผ่านไปหนึ่งวัน โทรกลับมาบอกสำนักงานใหญ่ยังไม่ส่งเมลมาเลย โทรไปตามกับคอลเซ็นเตอร์เขาก็ไม่ไห้ข้อมูลเพราะไม่ใช่ลูกค้าโทรไป เราเลยโทรไปคอลเซ็นเตอร์เอง ทางนั้นแจ้งว่าเมลถูกส่งออกมาแล้วนะคะ บอกเวลาวันที่ชัดเจน ให้พนักงานสาขาดูในระบบได้ค่ะ โทรกลับไปหาพนักงานสาขาบอกเวลาเมลอีกรอบ พนักงานสาขาบอกถ้าว่างแล้วจะดูให้นะคะ
ต่อมาเราจึงไปที่สาขา ไปตามเรื่องว่ามันยังไงกันแน่ เพราะคอลเซ็นเตอร์บอกเราว่าถ้าเมลส่งมาแล้วปลดล็อคบัญชีได้เลย และได้เงินคืนเลย และให้เอาบัตรประชาชนไปด้วย พอไปถึงเจอพนักงานสาขา เขาเอ่ยว่า พี่เดี๋ยวหนู๋ตามเรื่องให้นะ งั้นหนู๋ขอเวลาและวันที่เมลอีกรอบ!!(แล้วที่โทรไปบอกล่ะ ไม่ได้จดเอาไว้เลยหรอ) หายไปสักพักเข้าไปข้างหลัง ถือกระดาษออกมาสองสามแผ่น เดินมาบอกพี่ขอบัตรประชาชนหน่อยค่ะ(คิดในใจจะได้เงินคืนซะที) จะเอาไปถ่ายเอกสารแล้วให้เราเซ็นชื่อ แล้วบอกเดี๋ยวตามเรื่องให้ค่ะ(เอ้า!!ยังไม่จบอีกหรอเนี้ย) เราถามกลับไปว่าแล้วมันจะปลดได้เมื่อไร ก็คอลเซ็นเตอร์เขาบอกว่า เมลมาแล้วรับเงินคืนได้เลย
อ๋อคอลเซ็นเตอร์ก็ตอบไปแบบนั้นแหละค่ะ เขาไม่รู้วิธีการทำงานว่ามันต้องทำยังไง!! เดี๋ยวถ้าปลดได้แล้วจะให้มาเซ็นเอกสารอีกรอบนะคะ
เราถามกลับไปว่ามันต้องยุ่งยากขนาดนี้เลยหรอ เขาบอกใช่ค่ะ เพราะพี่สมัครแบบฝากค้ำถ้าสมัครปกติยกเลิกได้เลยไม่มีข้อผูกมัด
จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เงินคืนและไม่รู้ว่าเมื่อไร
ทำให้เรามาคิดว่าเป็นเพราะระบบที่ยุ่งยาก หรือพนักงานไม่มีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ ถึงมีคนที่เจอแบบเดี่ยวกับเราเยอะ และจากเหตุการณ์นี้ทำให้เราคิดถึงพี่จุกขึ้นมาทันที ถ้าพี่จุกยังไม่วางคีย์บอร์ด พี่จุกคงช่วยเราแก้ปัญหานี้ได้ ไม่มีใครรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วพี่จุกคือใครในธนาคารสีม่วง แต่เมื่อใดที่มีปัญหา พี่จุกช่วยเราได้เสมอ ที่เราเลือกมาเป็นลูกค้าธนาคารสีม่วงก็เพราะพี่จุกเลยนะ แต่เมื่อที่นี่เขาไม่ต้องการเรา เราก็คงต้องไป แล้วตอนนี้เราได้ธนาคารนึงต้อนรับเรา อนุมัติบัตรเครดิตให้เราภายใน12ชั่วโมงหลังส่งเอกสารผ่านแอพ เราก็คงต้องลาจากกัน
เลยอยากจะมาเตือนคนที่สนใจบัตรเครดิตแบบฝากค้ำว่า อย่าทำเลยเชื่อเราเถอะ เราเจ็บมาก่อน ที่ไม่ได้เล่าก็อีกเยอะ สมัครแบบปกติเถอะถ้าผ่านเกณฑ์นะ และเราคิดว่าน่าจะเป็นเหมือนกันทุกธนาคาร