ผมศึกษาศาสนาหลักๆมา 3 ศาสนาในประเทศไทย คริสต์ อิสลาม และพุทธ แล้วเกิดคำถามมากมายที่เกิดขึ้นอยู่ในหัว ว่าถ้ามีศาสนาเกิดขึ้นมาใหม่จะมีคนเชื่อมั้ยครับ เพราะส่วนใหญ่คนที่ผมรู้จักมักจะบอกว่าแค่ว่า "ศาสนาของตนเองถูก"
โดยส่วนตัวเกิด และโตจากสังคมพุทธ ก็ค่อนข้างเคร่งในด้านศีล5 (ปฏิบัติได้ครบทุกข้อ) จนวันนึงได้มีแฟนเป็นมุสลิม เลยเริ่มศึกษาเรื่องศาสนาอย่างจริงจังครับ แรกๆก็อ่านอิสลามก่อน แล้วก็ได้ยินว่าอิสลามเป็นเหมือนภาคต่อของคริสต์ และคริสต์เองก็เหมือนเป็นภาคต่อของยิว โดยมีมนุษย์คนแรกคืออดัมและอีฟ ส่วนของพุทธก็ไม่เคยมีประวัติมนุษย์คนแรก มีแต่วิธีที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์ในชีวิตนี้ ตลอดเวลาที่ศึกษาสามศาสนานี้ ผมก็มีพื้นฐานวิทยาศาสตร์ในเกณฑ์ที่สามารถยกขึ้นมาอธิบายได้อยู่ประมาณนึง โดยเฉพาะเรื่องทฤษฏีวิวัฒนาการ (Theory of Evolution) ไม่ได้เรียนสายชีวฯ แต่สนใจค้นคว้าเรื่องนี้มานานมากครับ
ซึ่งสิ่งที่ผมศึกษามาคือ จะมีคนที่เป็นตัวแทนศาสนา ก็คือ พระเยซู นบีมูฮามัด และพระพุทธเจ้า สิ่งที่สามคนนี้กล่าวคือ การที่เราเกิดมาเพราะมีปัจจัยอะไรบางอย่าง ต้องมีคนส่งเรามาเกิด หรือเราเกิดมาเพราะผลกระทำของชาติที่แล้ว แต่อะไรคือสิ่งที่เป็นหลักฐานว่าสามคนนี้พูดจริงแหล่ะครับ?
ระหว่างการเผยแผ่ศาสนา ก็มีทั้งปาฏิหาริย์มากมายในคนยุคนั้น ซึ่งทั้งหมดนั้นถูกเขียนอยู่ในพระคัมภีร์ ไม่ว่าจะเป็นไบเบิ้ล อัลกุลอ่าน หรือสิ่งที่บอกต่อๆกันมากของเรื่องพระพุทธเจ้า ซึ่งมีตั้งแต่
- พระเยซู เกิดจากผู้หญิงบริสุทธิ์ เดินบนน้ำ โดนตอกมือที่กางเขน ตายแล้วเกิดใหม่
- นบีมูฮามัด ผ่าดวงจันทร์ บินไปสวรรค์ด้วยสัตว์ที่บินได้ชื่อว่าBuraq
- พระพุทธเจ้า เกิดมาเดินได้7ก้าว แม่พระธรณีออกมาบิดมวยผมช่วยพระพุทธเจ้า เปิดนรกและสวรรค์ให้ประชาชนเห็น
ซึ่งผู้ตาม/ผู้นับถือศาสนานั้นๆล้วนแต่บอกว่า "ศาสนาของตนเองถูก" ซึ่งเมื่อผมถามแต่ละคนมักจะให้คำตอบว่า เขาเชื่อว่าคนเหล่านั้นทำจริง "ถ้าไม่เชื่อก็ลองพิสูจน์ให้หน่อยสิว่าพวกเขาไม่ได้ทำ" แต่ตามหลักการแล้วการที่จะพิสูจน์ควรจะเป็นหน้าที่ของคนที่บอกว่ามันเกิดขึ้น ตาม Burden of Proof (
https://en.wikipedia.org/wiki/Burden_of_proof_(law)) แม้แต่ในไทยยังมีพระสงค์บางรูปบอกเองด้วยว่าเรื่องพระพุทธเจ้าเป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อให้คนสมัยนั้นปฏิบัติตามคำสอน และเชื่อในอภินิหาร โดยคนในยุคหลังๆจนถึงปัจจุบันเชื่อโดยที่ไม่เคยเห็นว่าคนเหล่านั้นทำจริงๆ หรือมีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า ซึ่งคำว่า"อภินิหาร"และ"ปาฏิหาริย์"เป็นคำที่ทำให้ผู้นับถือศาสนานั้นๆเชื่อ นั่นทำให้ผมเกิดคำถามครับว่า...
"ถ้ามีศาสนาเกิดใหม่ในยุคนี้ ตอนนี้ จะมีคนเชื่อกันอยู่มั้ยครับ?"
เพราะในปัจจุบันเราอาจจะเห็นมายากลเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการลอยตัวได้ของ Criss Angel, การผ่าตัวเองออกเป็นสองซีก แต่ยังเดินได้ของ David Copperfield, และยังมีนักมายากลอยู่หลายๆคนที่แสดงได้แม้กระทั่งรถหายไปทั้งคัน ถ้าคนเหล่านี้เคลมว่าตัวเองถูกส่งมาเพื่อเผยแผ่ศาสนา และสร้างมายากลให้เราเชื่อเพื่อตามศาสนาเขา เราจะเชื่อมั้ยครับ?
ในปัจจุบันเริ่มที่จะมีคนศึกษา เปรียบเทียบ และจับผิดศาสนาตัวเองอยู่มาก โดยผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมเคยเป็นพุทธมาก่อน ไม่เคยฆ่าสัตว์ใหญ่(มีก็พวกมด แมลงสาบ และปลวก) แต่ทำไมศาสนาพุทธถึงมีศีลข้อนี้ในเมื่อปัจจุบันเราเกิด หมู เนื้อ ไก่ (แต่บางนิกายก็เป็นมังสาวิรัต) โดยมีพระสงค์เคยบอกว่า ถ้าเราไม่ได้ฆ่า ไม่เห็น ไม่รังเกียจ ก็กินได้ ไม่บาป แต่ก่อนที่มันจะมาเป็นเนื้อได้ การกินของเราก็เป็นจุดประสงค์ทางอ้อมของโรงงานฆ่าสัตว์เพื่อให้ประชาชนอย่างเราบริโภค และมนุษย์ก็ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงเนื้อสัตว์ มันจึงเลี่ยงไม่ได้เลย
ในอิสลาม เราสามารถฆ่าสัตว์ได้เมื่อเป็นประโยชน์แก่มนุษย์(เพื่อกิน, เพื่อป้องกันอันตราย) แต่ฆ่าโดยไม่มีจุดประสงค์ไม่ได้ ผมก็เกิดสงสัยเรื่องการกินหมูของอิสลามว่าทำไมถึงห้ามโดยกำหนดอยู่ในคัมภีร์ แต่ไม่มีเหตุผลบอกเลยว่าทำไม โดยผมไปฟังอิหม่าม เขาก็มักจะบอกว่าเนื้อหมูมีแบคทีเรีย แต่ทำไมไม่มีเหตุผลจากพระเจ้าเลยล่ะครับ ว่าทำไมห้าม ซึ่งในพระคัมภีร์บอกไว้อยู่แค่นั้นว่า"ห้าม"แต่ไม่มีเหตุผลต่อท้าย รวมไปถึงการมีภรรยา4คนของอิสลาม และมีบางเรื่องหรือหลักคำสอนกลับไปพูดในหะดีษ โดยกล่าวไว้ว่า
[Quran 16:89] And [mention] the Day when We will resurrect among every nation a witness over them from themselves. And We will bring you, [O Muhammad], as a witness over your nation. And
We have sent down to you the Book as clarification for all things and as guidance and mercy and good tidings for the Muslims.
{อัลกุลอาน 16:89} และวันที่เราจะตั้งพยานขึ้นจากทุกประชาชาติ (เพื่อเป็นพยาน) ต่อพวกเขาจากหมู่พวกเขาเอง และเราก็นำเธอมาเป็นพยานต่อเขาเหล่านั้น และ
เราได้ให้คัมภีร์แก่เธอเพื่อชี้แจงแก่ทุกสิ่งและเพื่อเป็นทางนำและเป็นความเมตตา และเป็นข่าวดีแก่บรรดามุสลิม
เมื่ออัลกุลอานชี้แจงชัดแจ้งไว้หมดทุกอย่างแล้ว ทำไมทำถึงต้องพึ่งหะดีษครับ? ถ้าจำเป็นต้องใช้หะดีษ ก็แสดงว่าอัลกุลอานยังไม่สมบูรณ์ที่จะอ่านภายในเล่มเดียวหรอกหรือ?
ขอกลับมาเรื่องวิทยาศาสตร์ผสมบ้างนะครับ อย่างเรื่องเนื้อหมูที่อิหม่ามต่างก็บอกว่ามีเชื้อแบคทีเรียในหมู ผมเลยลงไปศึกษาว่าหมูมีแลคทีเรียอะไรบ้าง และมีโทษต่อร่างกายมากแค่ไหน แต่แปลกใจที่แบคทีเรียที่มีในหมู ก็มีในเนื้อวัวด้วยเช่นเดียวกัน Clostridium perfringens, E. coli, Enterococcus, Salmonella และ Staphylococcus aureus ซึ่งทำในผมคิดว่ามันก็ไม่ต่างกันมั้ย? ต่างกันแค่ชนิดของสัตว์ แต่แบคทีเรียเหมือนกัน พอผมเอาเรื่องนี้กลับไปถามอีกครั้ง กลับได้คำตอบมาว่า "พระเจ้าสั่ง และเป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติตาม" นั่นคือเหตุผล
ใครเป็นคนบอกว่ามูฮามัดเป็นศาสดาจากพระเจ้า ----> พระเจ้า
ใครเป็นคนบอกว่าพระเจ้ามีอยู่จริง ----> คำภีร์อัลกุลอ่าน
ใครเป็นคนบอกว่าคำภีร์อัลกุลอ่านมาจากพระเจ้า ----> มูฮามัด
ฮินดูมีพระเจ้ามากมายให้เลือกนับถือตามความสบายใจ และความชอบของตน
พระพุทธเจ้าบอกว่าตัวเองเป็นเพียงคนธรรมดา เกิดมาชาติสุดท้าย(หรือเกิดมาชาติเดียว) เพื่อบอกแนวทางวิธีการปลดทุกข์ของมนุษย์
พระเยชูเกิดมาเพื่อเผยแพร่ศาสนาของพระเจ้า และไม่มีใครเกิดมาแก้ไขข้อความอะไรจากพระเจ้าอีก
นบีมูฮามัด เกิดมาเพื่อแก้ไข และทำให้ศาสนาที่มาจากพระเจ้าถูกต้อง ตามๆกัน
ศาสนามอรมอนเป็นศาสนาที่ต่อมาจากสามศาสนานี้ มาอีกทีหลังเพื่อสานต่อและแก้ไขคำสอน
ผมกลับมาอ่านและศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้น และหาข้อโต้แย้งของเรื่อง Theory of Evolution ซึ่งส่วนใหญ่มีคำตอบไว้หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Carbon Dating ที่มีการผิดพลาด ก็มีคำอธิบายไว้ว่าต้อง calibrate ก่อนการใช้งาน, หรือการตรวจพันธุกรรม gene, DNA, RNA ซึ่งทางชาลส์ ดาร์วิน(Charles Darwin) เป็นผู้เสนอทฤษฏีนี้ออกมาให้เราได้ศึกษา โดยที่ช่วงที่ชาลส์ ดาร์วินเสนอทฤษฏีนี้ออกมา เขาได้จากการศึกษา กายวิภาคศาสตร์ (Anatomy) เสียส่วนใหญ่ แต่เรื่อง Genetic ของเกรเกอร์ เมนเดล(Gregor Mendel) หรือ DNA เพื่อหาความสัมพันธ์ในปัจจุบันที่ถูกค้นพบทีหลัง กลับเป็นตัวยืนยันว่าสิ่งที่ดาร์วินกล่าวไว้นั้นถูกต้องแล้ว คำถามกลับมาที่ต้นกำเนิดของมนุษย์คนแรก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนจะเกิดมาจากคนสองคน และกลายมาเป็นคนเอเชีย นิโกร หรือคนขาว ถึงเรื่องนี้ก็ถูกยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์ถึง 95% (Refer:
https://en.wikipedia.org/wiki/Level_of_support_for_evolution) แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นมุสลิมบางคนยังยอมรับว่าถูกต้องแล้ว
ในปัจจุบันวิทยาศาสตร์พิสูจน์ในหลายๆเรื่องได้แล้ว แต่ยังไม่มีคำอธิบายในเรื่องสิ่งมีชีวิตตัวแรกเกิดมาได้ยังไง ซึ่งตอนนี้นักวิทยาศตร์ก็ยังทำการทดลองอยู่ในโปรเจคของเรื่อง Abiotic Genesis จากสิ่งไม่มีชีวิต กลายเป็นมีชีวิต ซึ่งจุดช่องว่างของวิทยาศาสตร์ตรงนี้แหล่ะทำให้ศาสนาเคลมว่าเรื่องของตนเองถูกต้อง
ในปัจจุบันมีศาสนาคร่าวๆอยู่ 4,200 ศาสนาทั่วโลก และมีพระเจ้าที่แต่ละศาสนานั้นบอกรวมๆ 6,000 องค์ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่านับถือถูกองค์ครับ
(Refer:
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_religions_and_spiritual_traditions)
ผมไม่ใช่ Atheist นะครับ อาจจะมีพระเจ้าอยู่จริงๆก็เป็นได้ แต่ผมมั่นใจว่าศาสนาหลักของ 3 ศาสนานี้ ยังไม่ถูก
อยากรู้ว่าถ้ามีศาสนาเกิดใหม่ จะมีคนเชื่อกันมั้ยครับ?
โดยส่วนตัวเกิด และโตจากสังคมพุทธ ก็ค่อนข้างเคร่งในด้านศีล5 (ปฏิบัติได้ครบทุกข้อ) จนวันนึงได้มีแฟนเป็นมุสลิม เลยเริ่มศึกษาเรื่องศาสนาอย่างจริงจังครับ แรกๆก็อ่านอิสลามก่อน แล้วก็ได้ยินว่าอิสลามเป็นเหมือนภาคต่อของคริสต์ และคริสต์เองก็เหมือนเป็นภาคต่อของยิว โดยมีมนุษย์คนแรกคืออดัมและอีฟ ส่วนของพุทธก็ไม่เคยมีประวัติมนุษย์คนแรก มีแต่วิธีที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์ในชีวิตนี้ ตลอดเวลาที่ศึกษาสามศาสนานี้ ผมก็มีพื้นฐานวิทยาศาสตร์ในเกณฑ์ที่สามารถยกขึ้นมาอธิบายได้อยู่ประมาณนึง โดยเฉพาะเรื่องทฤษฏีวิวัฒนาการ (Theory of Evolution) ไม่ได้เรียนสายชีวฯ แต่สนใจค้นคว้าเรื่องนี้มานานมากครับ
ซึ่งสิ่งที่ผมศึกษามาคือ จะมีคนที่เป็นตัวแทนศาสนา ก็คือ พระเยซู นบีมูฮามัด และพระพุทธเจ้า สิ่งที่สามคนนี้กล่าวคือ การที่เราเกิดมาเพราะมีปัจจัยอะไรบางอย่าง ต้องมีคนส่งเรามาเกิด หรือเราเกิดมาเพราะผลกระทำของชาติที่แล้ว แต่อะไรคือสิ่งที่เป็นหลักฐานว่าสามคนนี้พูดจริงแหล่ะครับ?
ระหว่างการเผยแผ่ศาสนา ก็มีทั้งปาฏิหาริย์มากมายในคนยุคนั้น ซึ่งทั้งหมดนั้นถูกเขียนอยู่ในพระคัมภีร์ ไม่ว่าจะเป็นไบเบิ้ล อัลกุลอ่าน หรือสิ่งที่บอกต่อๆกันมากของเรื่องพระพุทธเจ้า ซึ่งมีตั้งแต่
- พระเยซู เกิดจากผู้หญิงบริสุทธิ์ เดินบนน้ำ โดนตอกมือที่กางเขน ตายแล้วเกิดใหม่
- นบีมูฮามัด ผ่าดวงจันทร์ บินไปสวรรค์ด้วยสัตว์ที่บินได้ชื่อว่าBuraq
- พระพุทธเจ้า เกิดมาเดินได้7ก้าว แม่พระธรณีออกมาบิดมวยผมช่วยพระพุทธเจ้า เปิดนรกและสวรรค์ให้ประชาชนเห็น
ซึ่งผู้ตาม/ผู้นับถือศาสนานั้นๆล้วนแต่บอกว่า "ศาสนาของตนเองถูก" ซึ่งเมื่อผมถามแต่ละคนมักจะให้คำตอบว่า เขาเชื่อว่าคนเหล่านั้นทำจริง "ถ้าไม่เชื่อก็ลองพิสูจน์ให้หน่อยสิว่าพวกเขาไม่ได้ทำ" แต่ตามหลักการแล้วการที่จะพิสูจน์ควรจะเป็นหน้าที่ของคนที่บอกว่ามันเกิดขึ้น ตาม Burden of Proof (https://en.wikipedia.org/wiki/Burden_of_proof_(law)) แม้แต่ในไทยยังมีพระสงค์บางรูปบอกเองด้วยว่าเรื่องพระพุทธเจ้าเป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อให้คนสมัยนั้นปฏิบัติตามคำสอน และเชื่อในอภินิหาร โดยคนในยุคหลังๆจนถึงปัจจุบันเชื่อโดยที่ไม่เคยเห็นว่าคนเหล่านั้นทำจริงๆ หรือมีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า ซึ่งคำว่า"อภินิหาร"และ"ปาฏิหาริย์"เป็นคำที่ทำให้ผู้นับถือศาสนานั้นๆเชื่อ นั่นทำให้ผมเกิดคำถามครับว่า...
เพราะในปัจจุบันเราอาจจะเห็นมายากลเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการลอยตัวได้ของ Criss Angel, การผ่าตัวเองออกเป็นสองซีก แต่ยังเดินได้ของ David Copperfield, และยังมีนักมายากลอยู่หลายๆคนที่แสดงได้แม้กระทั่งรถหายไปทั้งคัน ถ้าคนเหล่านี้เคลมว่าตัวเองถูกส่งมาเพื่อเผยแผ่ศาสนา และสร้างมายากลให้เราเชื่อเพื่อตามศาสนาเขา เราจะเชื่อมั้ยครับ?
ในปัจจุบันเริ่มที่จะมีคนศึกษา เปรียบเทียบ และจับผิดศาสนาตัวเองอยู่มาก โดยผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมเคยเป็นพุทธมาก่อน ไม่เคยฆ่าสัตว์ใหญ่(มีก็พวกมด แมลงสาบ และปลวก) แต่ทำไมศาสนาพุทธถึงมีศีลข้อนี้ในเมื่อปัจจุบันเราเกิด หมู เนื้อ ไก่ (แต่บางนิกายก็เป็นมังสาวิรัต) โดยมีพระสงค์เคยบอกว่า ถ้าเราไม่ได้ฆ่า ไม่เห็น ไม่รังเกียจ ก็กินได้ ไม่บาป แต่ก่อนที่มันจะมาเป็นเนื้อได้ การกินของเราก็เป็นจุดประสงค์ทางอ้อมของโรงงานฆ่าสัตว์เพื่อให้ประชาชนอย่างเราบริโภค และมนุษย์ก็ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงเนื้อสัตว์ มันจึงเลี่ยงไม่ได้เลย
ในอิสลาม เราสามารถฆ่าสัตว์ได้เมื่อเป็นประโยชน์แก่มนุษย์(เพื่อกิน, เพื่อป้องกันอันตราย) แต่ฆ่าโดยไม่มีจุดประสงค์ไม่ได้ ผมก็เกิดสงสัยเรื่องการกินหมูของอิสลามว่าทำไมถึงห้ามโดยกำหนดอยู่ในคัมภีร์ แต่ไม่มีเหตุผลบอกเลยว่าทำไม โดยผมไปฟังอิหม่าม เขาก็มักจะบอกว่าเนื้อหมูมีแบคทีเรีย แต่ทำไมไม่มีเหตุผลจากพระเจ้าเลยล่ะครับ ว่าทำไมห้าม ซึ่งในพระคัมภีร์บอกไว้อยู่แค่นั้นว่า"ห้าม"แต่ไม่มีเหตุผลต่อท้าย รวมไปถึงการมีภรรยา4คนของอิสลาม และมีบางเรื่องหรือหลักคำสอนกลับไปพูดในหะดีษ โดยกล่าวไว้ว่า
[Quran 16:89] And [mention] the Day when We will resurrect among every nation a witness over them from themselves. And We will bring you, [O Muhammad], as a witness over your nation. And We have sent down to you the Book as clarification for all things and as guidance and mercy and good tidings for the Muslims.
{อัลกุลอาน 16:89} และวันที่เราจะตั้งพยานขึ้นจากทุกประชาชาติ (เพื่อเป็นพยาน) ต่อพวกเขาจากหมู่พวกเขาเอง และเราก็นำเธอมาเป็นพยานต่อเขาเหล่านั้น และเราได้ให้คัมภีร์แก่เธอเพื่อชี้แจงแก่ทุกสิ่งและเพื่อเป็นทางนำและเป็นความเมตตา และเป็นข่าวดีแก่บรรดามุสลิม
เมื่ออัลกุลอานชี้แจงชัดแจ้งไว้หมดทุกอย่างแล้ว ทำไมทำถึงต้องพึ่งหะดีษครับ? ถ้าจำเป็นต้องใช้หะดีษ ก็แสดงว่าอัลกุลอานยังไม่สมบูรณ์ที่จะอ่านภายในเล่มเดียวหรอกหรือ?
ขอกลับมาเรื่องวิทยาศาสตร์ผสมบ้างนะครับ อย่างเรื่องเนื้อหมูที่อิหม่ามต่างก็บอกว่ามีเชื้อแบคทีเรียในหมู ผมเลยลงไปศึกษาว่าหมูมีแลคทีเรียอะไรบ้าง และมีโทษต่อร่างกายมากแค่ไหน แต่แปลกใจที่แบคทีเรียที่มีในหมู ก็มีในเนื้อวัวด้วยเช่นเดียวกัน Clostridium perfringens, E. coli, Enterococcus, Salmonella และ Staphylococcus aureus ซึ่งทำในผมคิดว่ามันก็ไม่ต่างกันมั้ย? ต่างกันแค่ชนิดของสัตว์ แต่แบคทีเรียเหมือนกัน พอผมเอาเรื่องนี้กลับไปถามอีกครั้ง กลับได้คำตอบมาว่า "พระเจ้าสั่ง และเป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติตาม" นั่นคือเหตุผล
ใครเป็นคนบอกว่ามูฮามัดเป็นศาสดาจากพระเจ้า ----> พระเจ้า
ใครเป็นคนบอกว่าพระเจ้ามีอยู่จริง ----> คำภีร์อัลกุลอ่าน
ใครเป็นคนบอกว่าคำภีร์อัลกุลอ่านมาจากพระเจ้า ----> มูฮามัด
ฮินดูมีพระเจ้ามากมายให้เลือกนับถือตามความสบายใจ และความชอบของตน
พระพุทธเจ้าบอกว่าตัวเองเป็นเพียงคนธรรมดา เกิดมาชาติสุดท้าย(หรือเกิดมาชาติเดียว) เพื่อบอกแนวทางวิธีการปลดทุกข์ของมนุษย์
พระเยชูเกิดมาเพื่อเผยแพร่ศาสนาของพระเจ้า และไม่มีใครเกิดมาแก้ไขข้อความอะไรจากพระเจ้าอีก
นบีมูฮามัด เกิดมาเพื่อแก้ไข และทำให้ศาสนาที่มาจากพระเจ้าถูกต้อง ตามๆกัน
ศาสนามอรมอนเป็นศาสนาที่ต่อมาจากสามศาสนานี้ มาอีกทีหลังเพื่อสานต่อและแก้ไขคำสอน
ผมกลับมาอ่านและศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้น และหาข้อโต้แย้งของเรื่อง Theory of Evolution ซึ่งส่วนใหญ่มีคำตอบไว้หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Carbon Dating ที่มีการผิดพลาด ก็มีคำอธิบายไว้ว่าต้อง calibrate ก่อนการใช้งาน, หรือการตรวจพันธุกรรม gene, DNA, RNA ซึ่งทางชาลส์ ดาร์วิน(Charles Darwin) เป็นผู้เสนอทฤษฏีนี้ออกมาให้เราได้ศึกษา โดยที่ช่วงที่ชาลส์ ดาร์วินเสนอทฤษฏีนี้ออกมา เขาได้จากการศึกษา กายวิภาคศาสตร์ (Anatomy) เสียส่วนใหญ่ แต่เรื่อง Genetic ของเกรเกอร์ เมนเดล(Gregor Mendel) หรือ DNA เพื่อหาความสัมพันธ์ในปัจจุบันที่ถูกค้นพบทีหลัง กลับเป็นตัวยืนยันว่าสิ่งที่ดาร์วินกล่าวไว้นั้นถูกต้องแล้ว คำถามกลับมาที่ต้นกำเนิดของมนุษย์คนแรก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนจะเกิดมาจากคนสองคน และกลายมาเป็นคนเอเชีย นิโกร หรือคนขาว ถึงเรื่องนี้ก็ถูกยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์ถึง 95% (Refer:https://en.wikipedia.org/wiki/Level_of_support_for_evolution) แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นมุสลิมบางคนยังยอมรับว่าถูกต้องแล้ว
ในปัจจุบันวิทยาศาสตร์พิสูจน์ในหลายๆเรื่องได้แล้ว แต่ยังไม่มีคำอธิบายในเรื่องสิ่งมีชีวิตตัวแรกเกิดมาได้ยังไง ซึ่งตอนนี้นักวิทยาศตร์ก็ยังทำการทดลองอยู่ในโปรเจคของเรื่อง Abiotic Genesis จากสิ่งไม่มีชีวิต กลายเป็นมีชีวิต ซึ่งจุดช่องว่างของวิทยาศาสตร์ตรงนี้แหล่ะทำให้ศาสนาเคลมว่าเรื่องของตนเองถูกต้อง
ในปัจจุบันมีศาสนาคร่าวๆอยู่ 4,200 ศาสนาทั่วโลก และมีพระเจ้าที่แต่ละศาสนานั้นบอกรวมๆ 6,000 องค์ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่านับถือถูกองค์ครับ
(Refer: https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_religions_and_spiritual_traditions)
ผมไม่ใช่ Atheist นะครับ อาจจะมีพระเจ้าอยู่จริงๆก็เป็นได้ แต่ผมมั่นใจว่าศาสนาหลักของ 3 ศาสนานี้ ยังไม่ถูก