ก่อนอื่นเลยผม ชื่อ แม็คกี้ครับต้องบอกก่อนเลยน้าาา ว่าเป็นมือใหม่หัดโพสในพันทิปซึ่งอยากจะแชร์อยากจะเล่าผมได้เปิดบริษัทผลิตและออกแบบตกแต่งชุดครัวกับพี่ชายของผมให้กับผู้ที่รักบ้านและฝันอยากมีครัวและตกแต่งภายในตัวบ้านแต่วันนี้จะพูดถึงเรื่องครัวที่ผมถนัดมากๆๆไม่เรียกถนัดซิชอบมากกว่าแต่ผมทำอาหารไม่เป็นน่ะครับฮ่าๆๆๆๆๆ (ดันมาชอบเรื่องครัวซะงั้น) เข้าเรื่องกันดีกว่า อาจเขียน งงๆไปบ้างก็ขอประธานอภัยมาที่นี้ด้วยน่ะคร้าบบบ เขียนจากใจเลยเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้อ่านเพื่อที่จะได้ตัดสินใจในเรื่องของครัวเพราะถ้าไม่มีครัวก็ไม่มีอาหารผมเชื่อว่าอย่างนั้นฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ่าานหน่อยจะได้มีกำลังใจเขียนต่อ ช่วงนี้ก้อว่างงงงง(จริงเหรอแต่อยากเป็นนักเขียนบ้างอะไรบ้าง)

ในเรื่องของวิธีการผลิตชุดครัวนั้น อันที่จริงก็สามารถจัดให้เป็นวิธีการหนึ่งในการจัดประเภทของชุดครัวตามบทที่ 2 ได้ แต่วิธีการผลิตชุดครัวนั้นมีรายละเอียดเรื่องราวที่สำคัญและน่าสนใจมากกว่าที่จะเป็นเพียงแค่การจัดแบ่งประเภท ของชุดครัว เพราะกรรมวิธีการผลิตแต่ละวิธีนั้นส่งผลถึงราคา ความสวยงาม คุณภาพ และการดูแลรักษาในระยะยาว อีกทั้งรูปแบบของพื้นที่ห้องก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะต้องเลือกวิธีการผลิต เพื่อความเหมาะสมและให้ได้ครัวที่จริงกับความต้องการมากที่สุด  การเรียกรูปแบบการผลิตชุดครัวของแต่ละบริษัทหรือแต่ละยี่ห้อนั้นต่างก็มีความแตกต่างกันไป เพื่อให้สามารถสื่อสินค้าของตัวให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายที่สุด ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดความสับสนได้ แรกๆ ผมพยายามจัดกลุ่มของครัวให้ตรงกับสินค้าแต่ละยี่ห้อให้ได้มากที่สุด แต่ก็ทำไม่ได้เพราะมีความหลากหลายมากเกินไป จนในที่สุดผมคิดว่าจัดแบ่งกลุ่มไปตามที่เข้าใจดีกว่า เพื่อสามารถอธิบายออกมาได้ดีที่สุดและผู้ที่อ่านก็สามารถเข้าใจได้ง่ายเช่นกัน หากการจัดแบ่งประเภทของครัวออกมาไม่ตรงกับสินค้าของยี่ห้อไหน ผมต้องกราบขออภัยกับเจ้าของสินค้าแต่ละยี่ห้อมา ณ ที่นี้ก่อน (กลัวโดนฟ้องงงงงงงงงง)
              

1. ชุดครัวสำเร็จรูป
    คำว่าชุดครัวสำเร็จรูปก็คือชุดครัวที่ทำมาพร้อมสำหรับนำไปวางใช้งานได้ทันที ส่วนมากตู้ครัวที่ผลิตออกมาจะมีขนาดมาตรฐานตายตัว สีและลายต่างๆ ก็มีให้เลือกเท่าที่เห็นวางโชว์หรือในแผ่นพับ ส่วนวัสดุที่ใช้งานนั้นก็จะเน้นที่มีน้ำหนักเบาเพราะต้องสามารถขนย้ายไปใช้งานได้ ส่วนมากจะเป็นไม้สังเคราะห์ที่ค่อนข้างเบาหรือวัสดุประเภทอลูมิเนียม อุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งมานั้นก็จะเป็นแบบพื้นฐานซึ่งก็สามารถใช้งานได้ทั่วไป หากไม่ใช้งานอย่างสมบุกสมบันแล้วก็พอใช้งานได้ในระยะหนึ่ง ครัวประเภทนี้ไม่ได้เน้นเรื่องของความสวยงามแต่จะเน้นที่การใช้งานและราคาที่ถูกมากกว่า ซึ่งปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อที่ผลิตครัวประเภทนี้ออกมาสู่ท้องตลาด ที่นิยมใช้กันมากก็จะเป็นกลุ่มที่พักอาศัยประเภทอพาร์ตเม้นท์หรือคอนโดมิเนียมที่แถมเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในลักษณะตกแต่งเสร็จพร้อมอยู่ โดยชุดครัวที่แถมก็จะเป็นชุดครัวสำเร็จที่เรียกว่าครัวคอมแพ็ค (Compact Kitchen) ซึ่งเป็นชุดครัวขนาดเล็ก โดยจะมีอ่างซิงค์เป็นหลัก ส่วนเตาไฟสำหรับประกอบอาหารนั้นแล้วแต่แบบรุ่นที่แต่ละโครงการเลือกซึ่งอาจจะมีมาพร้อมหรือมีเพียงแค่เตาไมโครเวฟสำหรับอุ่นอาหารให้เท่านั้น
สรุปข้อดีของครัวสำเร็จรูป
1. ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับครัวที่ผลิตด้วยรูปแบบอื่นๆ และมีราคาที่ค่อนข้างตายตัวชัดเจน และถ้าในพื้นที่ขายสินค้ามีหลายบริษัทหลายยี่ห้อก็สามารถที่จะเปรียบเทียบรูปแบบและราคาได้ง่าย
2. วัสดุ ตู้ และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นสินค้ามาตรฐานของแต่ละยี่ห้อซึ่งผลิตแบบ Mass Products  สามารถเปลี่ยนทดแทนในกรณีที่มีปัญหาสินค้าเสียหาย
3. มีน้ำหนักเบาสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย
4. มีสินค้าโชว์หลากหลายและมี Catalog ที่ปรับปรุงใหม่อยู่เสมอ
สรุปข้อด้อยของครัวสำเร็จรูป
1. วัสดุและอุปกรณ์คุณภาพปานกลางไปจนถึงต่ำ ไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก
2. มีลวดลายและสีให้เลือกน้อย เมื่อเทียบกับครัวที่ผลิตด้วยรูปแบบอื่นๆ
3. ถ้าของไม่มีในสต็อกหรือหมดสต๊อก ต้องใช้เวลาในการผลิตนาน

2. ชุดครัวกึ่งสำเร็จรูป (Modular Kitchen)
    คำว่ากึ่งสำเร็จรูปนั้นก็เหมือนกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ยังไม่ได้พร้อมทานตามคอนเซ็ปของสินค้า เพราะต้องเอาไปเติมน้ำร้อนหรือลวกก่อนให้เส้นบะหมี่อ่อนตัว หลังจากนั้นก็เติมเครื่องปรุงเข้าไปเป็นอันเสร็จพิธีพร้อมทานได้แล้ว แต่คนไทยเราก็แปลกที่นิยมเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาทานแบบสำเร็จรูป อย่างพวกขนมขบเคี้ยวต่างๆ ที่แค่ฉีกซองเอามือล้วงเข้าไปก็ได้ทานแล้ว ทั้งๆ ที่ถ้าทานตามแบบที่เค้าทำมาจะอร่อยกว่าเป็นไหนๆ เลยเถิดไปนิดหน่อยสำหรับคำว่ากึ่งสำเร็จรูป คืออยากจะเปรียบเทียบให้เห็นว่าการเป็นกึ่งสำเร็จรูปนั้นมันต่างกับสำเร็จรูปยังไง ซึ่งครัวก็เช่นกันครับเพียงแต่ความเป็นกึ่งสำเร็จรูปนั้นมันไม่ได้ง่ายเหมือนกับแค่การเทน้ำร้อนใส่เครื่องปรุง ครัวกึ่งสำเร็จรูปนั้นมีขั้นตอนที่มากมายอยู่พอสมควร ซึ่งเจ้าของบ้านหรือเจ้าของครัวต้องออกแรงคิดตัดสินใจในการเลือกสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่มาจัดให้เป็นครัวตามที่ต้องการและตามงบประมาณที่มีอยู่ ที่เหลือก็เป็นเรื่องของบริษัทหรือคนที่รับทำครัวเขาไปจัดการทำให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ แต่ด้วยความเป็นกึ่งสำเร็จรูปนั้นก็ยังมีการจัดแบ่งออกมาได้เป็น 2 แบบอีก ได้แก่
2.1 ชุดครัวกึ่งสำเร็จรูปแบบ Mass Products
        ชุดครัวประเภทนี้เป็นที่นิยมในบ้านเรา จึงทำให้มียี่ห้อต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งสามารถพบได้ตามห้างที่ขายอุปกรณ์ก่อสร้างหรือตกแต่งบ้าน บางยี่ห้อก็สร้างเป็นโชว์รูมของตัวเองโดยเฉพาะ ลักษณะของครัวกึ่งสำเร็จรูปประเภทนี้คือจะมีการออกแบบชุดครัวขึ้นมาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งก็จะมีการตั้งชื่อชุดครัวเหล่านั้นแตกต่างกันไปตามรูปลักษณ์ ส่วนสีและลวดลายของวัสดุเช่นหน้าบานก็จะมีการจัดกลุ่มไว้ให้ลูกค้าสามารถเลือกได้บ้าง โดยส่วนประกอบของชุดครัวทุกอย่างจะมีขนาดที่เป็นมาตรฐานซึ่งอาจจะผลิตไว้แล้วบ้างจำนวนหนึ่ง ในการออกแบบครัวเจ้าหน้าที่ก็จะใช้โปรแกรมสำหรับออกแบบครัวโดยเฉพาะของแต่ละบริษัทจัดวางตู้ครัวตามแบบที่ได้วางไว้ ซึ่งตู้ครัวรูปแบบต่างๆ ในโปรแกรมก็จะเป็นตู้มาตรฐานที่ได้จัดทำและกำหนดไว้แล้ว ส่วนมากจะไม่มีการทำตู้ในขนาดพิเศษตามที่ลูกค้าต้องการซึ่งส่วนมากลูกค้าก็มักจะไม่ได้ร้องขอเพราะขั้นตอนการออกแบบทางเจ้าหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการให้
ในรูปแบบการประกอบและติดตั้งตู้ครัวก็จะใช้วิธีการที่เรียกว่าน็อคดาวน์เป็นหลัก ซึ่งก็คือทุกชิ้นส่วนถูกผลิตออกมาแล้วแพ็คใส่กล่องไว้ในลักษณะที่ยังไม่ได้ประกอบสำเร็จ โดยตู้แต่ละใบก็จะแยกบรรจุกล่องเป็นชุดๆ ของใครของมัน เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บและขนส่ง เมื่อถึงเวลาติดตั้งก็จะนำเอาชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมาประกอบด้วยกันด้วยการสอดตัวล็อกที่เป็นลักษณะเดือยเข้าไปตามจุดต่างๆ ซึ่งจะมีหมุดเกี่ยวฝังไว้ เมื่อเข้าที่แล้วก็จะหมุนหมุดให้เกี่ยวล็อคเดือยเป็นอันเสร็จพิธี ตัวเดือยและหมุดเกี่ยวนี้เรียกกันทั่วไปว่าเดือยเกือกม้า ซึ่งนิยมใช้กันกับอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์น็อคดาวน์แทบทุกชนิด เมื่อประกอบตู้แต่ละใบแล้วก็จะติดตั้งอุปกรณ์และจัดวางเรียงไปตามแบบครัวที่ได้ออกแบบมา หลังจากนั้นก็ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วถ้าครัวขนาดไม่ใหญ่มากก็มักจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ทำ Top ครัวด้วย
ตู้ครัวที่ประกอบขึ้นมาด้วยวิธีการยึดโดยใช้เดือยเกือกม้านี้ เท่าที่ผู้เขียนได้สัมผัสมาก็มีความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้พอสมควร แต่ในระยะยาวไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเมื่อมีการใช้งานมากตัวล็อคเดือยเกือกม้ามักจะเริ่มคลายหรือหลวมทำให้ตู้โยกคลอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเนื้อไม้ที่นำมาใช้ด้วยว่ามีความหนาแน่นขนาดไหน ถ้าไม้คุณภาพต่ำเนื้อภายในไม่ค่อยแน่น ก็มีโอกาสสูงที่ตัวล็อคจะหลวมในเวลาอันรวดเร็ว บางครั้งใช้งานได้เพียงแค่ปีหรือสองปีก็เริ่มมีปัญหาตู้เริ่มบิด หน้าบานต่างๆ ขบกันหรือเหลื่อมกันมากจนเกินไป ทำให้ต้องมีการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขกันบ่อยครั้ง
        
สรุปข้อดีของครัวกึ่งสำเร็จรูปแบบ Mass Products
1. มีตู้และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นมาตรฐาน ทำให้ง่ายต่อการออกแบบชุดครัว และง่ายต่อการติดตั้ง ใช้เวลาน้อย และไม่ทำให้พื้นที่หน้างานสกปรกเพราะเพียงแค่ประกอบและติดตั้งเท่านั้น
2. มีสีและลวดลายของวัสดุที่เป็นมาตรฐานของแต่ละยี่ห้อ ทำให้ได้งานที่มีคุณภาพเหมือนกัน แม้ว่าจะไม่ได้ผลิตรอบเดียวกันหรือผลิตขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
3. มีการบรรจุภัณฑ์ที่ดีทำให้สะดวกในการขนย้ายและขนส่ง ชิ้นงานไม่เสียงต่อความเสียหายหรือบอบช้ำ
4. เนื่องจากเป็นการผลิตแบบ Mass Products ซึ่งต้องมีการวางแผนการผลิตที่ดี จึงทำให้โอกาสที่ชิ้นงานจะมีความผิดพลาดน้อยมาก อีกทั้งโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนมักจะใช้เครื่องจักรที่มีขนาดใหญ่และทันสมัย ทำให้ได้ชิ้นงานที่มีมาตรฐานเดียวกันแทบทุกชิ้น และได้ราคาที่เป็นมาตรฐานคำนวณราคาได้ง่ายและรวดเร็ว
5. หากเป็นยี่ห้อหรือบริษัทที่มีชื่อเสียงในท้องตลาดก็จะมีสาขากระจายอยู่ตามพื้นที่ ทำให้มีทีมงานเพียงพอที่จะบริการให้ความสะดวกแก่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่
6. มีการปรับปรุงสินค้าให้มีรูปแบบใหม่ๆ ตลอดเวลา ทันต่อกระแสความต้องการของตลาด และมีสื่อต่างๆ ช่วยให้ลูกค้าสะดวกในเรื่องข้อมูลข่าวสารต่างๆ
7. มีระบบการทำงานที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและการบริการ
สรุปข้อเสียของครัวกึ่งสำเร็จรูปแบบ Mass Products
1. เนื่องจากวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ถูกกำหนดไว้แล้ว บางครั้งจึงไม่อาจตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการครัวที่เป็นแบบเฉพาะตัว
2. ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ครัวหรือห้องครัวมีลักษณะพิเศษ คือไม่เป็นรูปทรงมาตรฐาน มีเหลี่ยมมุมเสามาก หรือลักษณะทางกายภาพที่ค่อนข้างเป็นปัญหาเช่น ผนังไม่ได้ฉาก ผนังเอียง
3. ด้วยการประกอบแบบน็อคดาวน์ ถ้าอุปกรณ์และวัสดุคุณภาพไม่ได้มาตรฐานแล้วความแข็งแรงจะน้อยมาก ทำให้อายุการใช้งานสั้น
4. เมื่อมีการออกแบบและผลิตครัวรุ่นใหม่ๆ ออกมาแล้ว มักจะมีการยกเลิกการผลิตครัวรุ่นเก่าๆ ทำให้บางครั้งมีการหาอะไหล่มาซ่อมแซมส่วนที่เสียหายอาจทำได้ยาก
5. หากเป็นยี่ห้อหรือบริษัทที่มีสินค้าหลากหลาย ทีมงานอาจจะไม่ได้มีความชำนาญเกี่ยวกับงานครัวโดยเฉพาะ เพราะต้องดูแลรับผิดชอบในสินค้าอื่นๆ ด้วย


เดียวมีต่ออีกน่ะครับชักจะเริ่มเยอะไปเรื่อยๆล่ะขอบคุณที่อ่านกระทู้ของผมน่ะเดียวจะมาลงต่อให้จบน่ะคร้าบบบขอโทษด้วยครับพอดีลูกค้าตามตัวผมมาเลยต้องออกไปก่อนเดียวจะกลับมาต่อให้จบครับบบบ น้อมรับคำติชมครับผม.......