เมื่อคืนก่อนนอนคิดเกี่ยวกับความตายแล้วมันรู้สึกหดหู่ รู้สึกหวิวได้ เครียด สิ่งที่ ผมไม่ได้เครียดเรื่องนรก สวรรค์แต่ผมเครียดที่ว่าถ้าเราตายไปเราจะสูญเสียไปทุกอย่างสิ่งที่เราหามา รวมถึงความทรงจำดีๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คนทื่เรารัก สิ่งเรารัก ตอนนี้ผมก็พยายามหาอะไรมาทำหาคนคุยหาแรงบัลดาลใจอะไรมาทำ ตอนนี้อยากถามจากหลายๆมุมว่าคิดยังไงกับความตายและก็ตอนนี้ควรเชื่อะไรหรือหาอัไรมาทำดีเพราะตอนนี้ผมค่อนข้างจะเชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์มากกว่าว่าถ้าเราตายคือร่างการเราก็จะหยุดทำงานแล้วก็จะมีสารชนิดนึงมาย่อยร่างกายรวมถึงสมองที่เก็บความทรงจำของเรา(คือผมไม่อยากให้ความทรงจำส่วนนี้หายไปเหมือนเราเกิดมามาดูโลกมาเจอคืนที่เราชอบเจอคนทีาเรารักเจอพ่อแม่แต่พอเราตายไปมันก็หายไปฟมดจนไม่รู้ว่าเกิดมาทำไมหรือเกิดมาให้เจ็บปวดเล่นๆ)เลยคิดเล่นๆว่าในอนาคตจะมีการแช่แข็งใว้ไม่ให้ความทรงจำหายหรือเก็บเราใว้รักษาแล้วก็กลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง หรือแบบเรากลับมาอยู่ในแบบเครื่องยนต์แต่ยังมีความทรงจำเก่าอยู่ยังมีความคิดแบบเก่าอยู่เหมือนในหนังอะ คือก็อยากจะรู้ว่ามีอะไรที่ทำให้เราไม่ตายไหม
ต่อมาเรื่องศาสนาสำหรับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนอรกผมคิดว่าศาสนาเป็นเรื่องงบงายแต่พอผมมาเจอเหตุการณ์เมื่อคืนผมเครียดจนไม่มีที่พึ่งแล้วพอผมมาคิดเรื่องศาสนา ผมก็ยังว่ามันยังเป็นเรื่องงมงายอยู่ดี แต่พอ ผมคิดอีกทีถึงศาสนาจะเป็นเรื่องงมงายแต่เมื่อเครียดมากจนไม่มีพุ่งมันก็ทำให้ผมคิดขึ้นมาว่าถ้าเชื่อแล้วทำให้เรารู้สึกดีมีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อก็เชื่อเถอะครับ(รร.นับถือคริสครับ ที่บ้านพุทธครับ)
ต่อมาก็เรื่องนับถือศาสนาไหนดี
สำหรับผมดีทุกศาสนาเพราะทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ส่วนของศาสนาพุทธนะครับ เป็นการทำดีไม่ทำชั่ว และพยามทำบุญเน้นใจเขาใจเรา แล้วหลังจากตายไปก็จะขึ้นสวรรค์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ส่วนของศาสนาคริสนะครับสอนให้ทุกคนรักกัน เรื่องเมื่อตายไปแล้วพระเยซูได้รับฉายาแทนเราหมดแล้วเพราะงั้นพระเยซูจึงมารับเราขึ้นสวรรค์ครับ
มาๆถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย(เพราะเนื้อความมันเยอะมาก) นั่นคือส่วงสรุปนั่นเอง
คำถาม
1)คิดยังไงกับความตาย
2)เราจะทำยังไงไม่ให้เรากลัวความตายแล้วหมดห่วงแล้วมีกำลังใจในการใช้ชีวิต
3)พอจะมีวิธีที่ทำให้ไม่ตายไหม
คำตอบสำหรับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1)จากที่ผมนอนคิดทั้งคืนความตายเป็นสิ่งที่พลัดพรากเราไปจากทุกอย่างหลุดพ้นไม่ได้ พอตายไปทุกอย่างด็หายรวมถึงความทรงจำ ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องศาสนาและนรก สวรรค์เท่าไร แต่เมื่อถึงช่วงทีาเครียดมากไป ศาสนาเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุด
2)วิธีที่จะมำให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อก็มีหลายอย่างเช่นหาเพื่อนคุย ไปเที่ยว ไปหากิจกรรมเอ็ดเวนเจ้อทำ พยามอย่าอยู่คุยเดียว ทางที่ดีที่สุดปรึกษาพ่อแม่ครับ หรือหาศาสนานับถือครับถึงบางคนอย่างที่เชิ่อเรื่องวิทยาศาสตร์ บอกว่าการที่ผมไปนับถือศาสนามันเป็นเรื่องงมงาย บางทีการหลอกตัวเองแต่ทำให้มีความสุขก็ทำไปเถอะครับ
3)สำหรับคนที่ไม่อยากจายอย่างผม ผมอยากจะบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีคงต้องทำใจว่าทุกคนต้องตาย
การตายเป็นเรื่องปกติเป็นเรื่องธรรมชาติครับ และในวันนี้ต้องทำให้ดีที่สุด หรือใครมีลูกก็คิดว่าทำเพื่อลูกละกันครับ(ในอนาคตผมก็หวังอยู่เล็กๆว่าในอนาคตจะมีเทคโนโลยีทำให้มนุษย์เป็นอมตะ หรือแค่เก็บความทรงจำได้ก็ยังดี)
สุดท้ายนี้ผมของบอกเลยใครยังไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้จริงๆจนเครียดไม่เข้าใจหรอกครับ
สุดท้ายจริงๆละ ขอบอกว่าอาจยาวไปนิดแต่ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ครับ
ปล.1 ผมค่อนข้างเป็นคนคิดมาก
ปล.2 นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว
ปล.3ผมต้องการรู้มุมมองอื่นเกี่ยวกับความตายบ้าง
ปล.4 ผมอายุ15 อยู่ในวันเรียนครับ
ปล.5 อันที่ใส่สปอย์ใว้คือความคืดเห็นส่วนตัวครับหรือก็คือช่วงระบายนั่นหละ
ปล.6 นี่เป็นกระทู้ที่3ของผมถ้าหากผิดพลาดประการใด้ขออภัยใว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
คิดยังไงเกี่ยวกับความตาย
ต่อมาเรื่องศาสนาสำหรับผม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาๆถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย(เพราะเนื้อความมันเยอะมาก) นั่นคือส่วงสรุปนั่นเอง
คำถาม
1)คิดยังไงกับความตาย
2)เราจะทำยังไงไม่ให้เรากลัวความตายแล้วหมดห่วงแล้วมีกำลังใจในการใช้ชีวิต
3)พอจะมีวิธีที่ทำให้ไม่ตายไหม
คำตอบสำหรับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายนี้ผมของบอกเลยใครยังไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้จริงๆจนเครียดไม่เข้าใจหรอกครับ
สุดท้ายจริงๆละ ขอบอกว่าอาจยาวไปนิดแต่ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ครับ
ปล.1 ผมค่อนข้างเป็นคนคิดมาก
ปล.2 นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว
ปล.3ผมต้องการรู้มุมมองอื่นเกี่ยวกับความตายบ้าง
ปล.4 ผมอายุ15 อยู่ในวันเรียนครับ
ปล.5 อันที่ใส่สปอย์ใว้คือความคืดเห็นส่วนตัวครับหรือก็คือช่วงระบายนั่นหละ
ปล.6 นี่เป็นกระทู้ที่3ของผมถ้าหากผิดพลาดประการใด้ขออภัยใว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ