เอไอเอส-เซ็นทรัล ชูบทบาทสู่เป็นดิจิทัลแฟลตฟอร์มเพื่อพัฒนาไทย

ที่มา : https://www.matichon.co.th/news/850565

          นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เอไอเอส) กล่าวในงานสัมมนา “Digital Intelligent Nation 2018” โดยบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ที่ จีเอ็มเอ็มไลฟ์เฮาส์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 ว่า ปี 2560 ภาพรวมอุตสาหกรรมคงเติบโต 4% ซึ่งสูงกว่าจีดีพี และเติบโตของการใช้งานเฉลี่ยโมบาย อินเทอร์เน็ตและบุคคล เพิ่มขึ้น 80% เทียบกับปี 2559 และคนไทยมียอดการใช้งานดาต้ามากถึง 7.3 GB /คน/เดือน และใช้เวลาในโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพิ่มขึ้น 60% คิดเป็นวันละ 4.8 ชั่วโมง และจำนวนกว่า 41 ล้านคนที่ชมวีดีโอบนมือถือ โดยส่วนใหญ่ 80 % เป็นโลคอลคอนเท้น

          นายสมชัย กล่าวว่า เอไอเอส เริ่มใช้คลาวด์เป็นมาตรฐานใหม่ในการบริหารจัดการ ซึ่งได้พัฒนาเครือข่ายและบริการ เพื่อตอบโจทย์ต่อเนื่อง เช่น เตรียมงบลงทุนด้านเครือข่ายกว่า 35,000 – 38,000 ล้านบาท ขยายเครือข่ายมือถือสู่เน็กเจเนเรชั่น มีความเร็วถึง 1 GB และขยายเครือข่าย เอ็นบี-ไอโอที และอีเอ็มทีซี รองรับไอโอที และในระบบอินเตอร์เน็ตเอไอเอสไฟเบอร์ รวมถึงการนำวีดีโอที่มีเนื้อหาใหม่ๆจากระดับโลก อย่างซีเอ็นเอ็น และการ์ตูนเน็ตเวิร์ค และจากผู้ผลิตเนื้อหาของไทยเช่นกัน

          ทั้งนี้ เอไอเอส ซื้อหุ้นซีเอสล็อกซ์อินโฟ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งการให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กรให้มากยิ่งขึ้น มองว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อสารเพียงอย่างเดียว ไม่อาจช่วยยกระดับประเทศให้แข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น จึงมีความตั้งใจจะขยายบทบาทสู่การเป็นดิจิทัลแฟลตฟอร์มเพื่อประเทศไทย ในฐานะแกนกลางสนับสนุน เชื่อมต่อทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานร่วมกันในลักษณะของอีโคซิสเต็ม เพื่อขยายขีดความสามารถผ่านระบบดิจิทัล โดยสร้างการเติบโตสู่ทุกภาคส่วนของประเทศ

          โดยเริ่มต้นจาก 3 แพลตฟอร์มสำคัญ ได้แก่ 1. โครงการความร่วมมือของสมาชิก 70 รายจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีไอโอที เช่น องค์กรหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ มหาวิทยาลัย ผู้ผลิตเทคโนโลยี นักพัฒนาอุปกรณ์และซอฟท์แวร์ ทั้งในและต่างประเทศ ในการแลกเปลี่ยนความรู้ความสามารถ เพื่อให้เกิดร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ขยายประโยชน์สู่ภาคประชาชน เสริมการบริหารจัดการในทุกภาคส่วน
2. เปิดโอกาสให้ศิลปิน สื่อมวลชน นักสร้างสรรค์ด้านเนื้อหาในทุกวงการ สามารถนำเสนอผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้น สร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทุกคน และ 3. เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถเรียนรู้จากผู้ผลิตวีอาร์อันดับหนึ่งของโลกอย่างไอแมก เพื่อเป็นเวทีการสร้างคอนเทนต์วีอาร์ให้กับอุตสาหกรรม
“เอไอเอสมีความแข็งแรง เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ในประเทศไทย และมีกำลังมากพอ ที่จะเข้ามาช่วยภาคอุตสาหกรรมอื่น ที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นวิสัยทัศ ว่า เอไอเอสมีความมั่นใจ อยากสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มขึ้นมา เพื่อจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยให้กลายเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้า และในอีก 3 ปีข้างหน้านี้หากทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน ด้วยทิศทางต่างๆ ที่ทางเอไอเอสวางไว้ ทำให้มีความมั่นใจว่า ประเทศไทยจะกลายเป็นไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างแน่นอน และหากทำได้จริง ประเทศไทยจะต้องมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” นายสมชัย กล่าว

          นายสมชัย กล่าวว่า ความพร้อมของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ภาครัฐ และเอกชนได้ร่วมกันพัฒนาในช่วงที่ผ่านมา ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภค และรูปแบบการบริหารจัดการองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน เริ่มใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้ โดยเข้ามามีส่วนช่วยเรื่องการใช้ชีวิต และการดำเนินกิจการ ซึ่งทั้งหมดจะสามารถทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตมากขึ้น

          นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า การนำอินเตอร์เน็ตออฟติง (ไอโอที)มาใช้ คาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจมหาศาลในปัจจุบันและจากนี้ ซึ่งอยู่ที่ว่าแต่ละธุรกิจจะฉวยโอกาสนี้มาสร้างมูลค่าเพิ่มหรือไม่ ตัวอย่างการใช้ ไอโอที อย่างตู้เย็นที่อยู่ในบ้าน เมื่อซื้อของมาใส่ไว้ ระบบประมวลผลจะเก็บข้อมูลว่ามีอะไรบ้าง เมื่อหยิบของออกไป ตู้เย็นจะรู้ทันทีว่า มีการหยิบอะไรออกไปบ้าง ต้องซื้อมาเพิ่มหรือไม่ และสามารถเชื่อมต่อกับระบบสั่งซื้อสินค้าของร้านค้าได้ หรือสามารถคำนวณหาแคลลอรี่ที่ได้รับจากอาหารที่เรานำออกไปได้

          ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการออกอุปกรณ์ที่เรียกว่า Personal Assistance เป็นเลขาส่วนตัว ซึ่งต่อไปทุกคน และทุกบ้านจะมี อุปกรณ์นี้ สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ และสามารถสั่งให้ทำงานได้ เช่น ต่อไปการทำธุรกรรมการเงินแทนที่จะต้องเข้าแอพลิเคชั่น แต่สามารถสั่งการให้อุปกรณ์เหล่านี้ ทำแทนได้เลย สั่งโอนเงินไปให้เพื่อ หรือจ่ายค่าบัตรเครดิต เป็นต้น

          ด้านระบบประกันต่างๆก็จะมีความเฉพาะตัวมากขึ้น เช่น ประกันรถยนต์ ปัจจุบันหากมีประวัติขับรถดี ไม่มีอุบัติเหตุหรือเคลมประกันในระยะปีที่จ่ายประกัน บริษัทประกันจะลดราคาให้ ขณะนี้ไม่ต้องรอครบปี เพราะระบบสามารถเชื่อมต่อและติดตามพฤติกรรมการขับขี่ได้หมด ต่อไปจะเป็นการจ่ายตามพฤติกรรมมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการนำมาใช้กับทางการแพทย์ มีอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลสุขภาพทุกอย่าง เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ป่วย แต่หากป่วยขึ้นมา ข้อมูลที่เก็บไว้นั้น จะทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ สมาร์ทซิตี้ เมืองมีการเชื่อมต่อระบบกันทุกอย่าง ทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น

          นายญนน์ กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีก ต้องมีการปรับเปลี่ยนนำเทคโนโลยีมาใช้ เพราะแม้วันนี้เราจะใหญ่ แต่วันหน้าอาจจะไม่ใช้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ได้นำไอโอทีมาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า และลดต้นทุนการดำเนินงาน เช่น การจัดเรียงสินค้า มีการใช้เซนเซอร์รู้ว่าลูกค้าเดินเข้ามาในร้านจะไปทางไหน ควรจัดเรียงสินค้าอย่างไร ต่อยอดไปสู่ซัพพลายเชน โลจิสติกส์ ออนดีมานด์มากขึ้น นอกจากนี้ ในยุคดิจิทัล เรื่องสำคัญ คือ พาร์ทเนอร์ ที่เข้ามาช่วยกัน ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัล จับมือกับ เจดีดอทคอม เป็นต้น

          นายบุรณัชย์ ลิมจิตติ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ด้านการตลาดต่างประเทศ บริษัท กรุงเทพดุสิต เวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ บีดีเอ็มเอส กล่าวว่า เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ มีโรงพยาบาลในเครือกว่า 45 แห่ง จำนวนเตียงกว่า 8,000 เตียง รองรับทั้งในประเทศและภูมิภาคใกล้เคียง มีการขนส่งผู้ป่วยถึงมือแพทยื หรือขนส่งแพทย์ไปหาผู้ป่วย ทั้งทางรถ เรือ และเครื่องบิน การนำดิจิทัลมาใช้ในธุรกิจได้ดำเนินการมานานแล้ว โดยเฉพาะบิ๊กดาต้า เพราะเรามีข้อมมูลของผู้ป่วยจำนวนมาก

          ล่าสุดจะมีการก่อสร้างศูนย์สุขภาพที่เพลินจิต มี 7 คลินิก ซึ่งที่นี้ จะมีการใช้ข้อมูลและประวัติเพื่อคาดการณ์อนาคตว่าสุขภาพจะเป็นอย่างไร สามารถป้องกันการป่วยก่อนได้ หรือเลือกการดูแลสุขภาพว่าจะทำอย่างไร ที่ผ่านมา ใช้ดิจิทัลในการสร้างมาตรฐานคุณภาพการรักษาและการให้บริการ ข้อมูลผู้ป่วยออนไลน์สามารถดึงประวัติได้ทันที และยังได้ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำในต่างประเทศ เพื่อร่วมกันวิจัยของมูลโรคต่างๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในประเทศไทย และได้นำ ไอโอที หรือเอไอ มาใช้ เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลการเจ็บป่วย ทำให้รักษาได้ตรงจุด เลือกใช้ยามีความเฉพาะตัวมากขึ้น เป็นต้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่