ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ"รายงานว่าในช่วงบ่ายของวันนี้ (29ม.ค.2558) บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(เอไอเอส)จัดงานแถลงวิสัยทัศน์การดำเนินงานปี 2015 ภายใต้แนวคิด LIVE Digital LIVE More พร้อมกับเปิดเผยถึงแผนงานระยะ 5 ปี เพื่อก้าวสู่ การเป็น“ผู้สร้างสรรค์บริการดิจิทัลเพื่อคนไทย(Your Digital Life Partner) ซึ่งเอไอเอสได้ออกบัตรเชิญพันธมิตรธุรกิจในแวดวงต่างๆ ร่วม 1,000 รายให้มาร่วมรับฟังด้วย
โดยนายวิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ลงทุนไปแล้วมากกว่า 2 แสนสี่หมื่นล้านบาท จนมีเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมกว่า 97% ของประเทศมีฐานลูกค้ากว่า 44 ล้านราย
มีการโทรพูดคุยกว่า 90 ล้านครั้งต่อวัน และมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายวันละมากกว่า 200 ล้านครั้ง และเปิดมิติใหม่การประยุกต์ใช้ดาต้าและออนไลน์ในชีวิตประจำวัน อาทิ เป็นช่องทางให้สามารถรับชมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ที่มากกว่า 2 ล้านคนต่อเดือน ,อ่าน E-Book กว่า 6 แสนคนต่อเดือน และกว่า 4 แสนคนต่อเดือนที่ใช้บริการ Mobile Payment บนเครือข่ายของเอไอเอส
“เราคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า อัตราการใช้งานดาต้าจะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในสัดส่วน 200-400% , สมาร์ทดีไวซ์จะขยายตัวกว่า 50 ล้านเครื่อง รวมไปถึงสมาร์ทดีไวซ์ รูปแบบใหม่ๆ ที่จะขยายมากถึงกว่า 10 ล้านเครื่อง อันจะส่งผลให้รูปแบบของอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านขนส่ง, สุขภาพ, การศึกษา และอื่นๆก้าวสู่การนำดิจิทัลมาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบ”
ดังนั้นในปี 2558 ที่เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้าไปเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศที่กำลังขยายตัวในทุกด้าน เอไอเอส จึงเตรียมการวางแผนล่วงหน้าระยะ 5 ปี โดยตั้งเป้าเป็น “ผู้สร้างสรรค์บริการดิจิทัลเพื่อคนไทย–Your Digital Life Partner” โดยเตรียมเงินลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาท สำหรับปี 2558 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และพลิกโฉมองค์กรเพื่อก้าวสู่การเป็นพันธมิตรกับทุกกลุ่มอย่างเต็มรูปแบบ
ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมในปี 2558
จะมีการเติบโตโดยรวม แยกเป็น Mobile 3%, Device (smart Phone และอุปกรณ์อื่นๆ) 10% และFix Line ราว 15% ส่งผลให้การใช้ Data เติบโตก้าวกระโดดทำให้เทรนด์การเชื่อมต่อกันเองระหว่างอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่เรียกว่า Internet of Things เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม
ดังนั้นเพื่อตอบสนองการความต้องการดังกล่าวจึงเตรียมวางรากฐานในแต่ละด้านได้แก่
-ขยายเครือข่าย 3G ที่ยังคงเตรียมงบลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องกว่า 3 หมื่นล้านบาท รวมถึงการเตรียมความพร้อมสู่การประมูล 4G อย่างเต็มที่
-การพัฒนาคุณภาพของ AIS Wifi สู่ AIS Super Wifi ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น เริ่มต้นจาก 600 Mbps ซึ่งเร็วกว่าความเร็วของเทคโนโลยี 4G
-การขยายบริการ Fixed Broadband ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของโลกที่ความเร็ว 1 Gbps โดยเริ่มให้บริการแล้ววันนี้ในเขต กทม.และปริมณฑล โดยในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเป็นเครือข่าย Fixed Broadband ถึงบ้านกว่า 10 ล้านครัวเรือนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
- การขยายบริการดิจิทัลที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตคนไทย เช่น AIS Play Box : กล่องดิจิทัลที่สามารถรับชมความบันเทิงจาก AIS Entertainment App ด้วยความละเอียดระดับ 4K (Ultra High Definition) AIS Cloud+ : บริการเก็บข้อมูลทุกอย่างบนพื้นที่ Cloud ที่ใหญ่ที่สุด AIS E-Money : บริการทางการเงินที่ร่วมมือกับธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำ เป็นต้น
“เรายังเชื่อมั่นในเรื่องของการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ผู้ให้บริการคอนเทนท์, พันธมิตรจากหลากหลายธุรกิจ, พันธมิตรช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการ StartUp ที่เราพร้อมร่วมสร้างโอกาสใหม่ๆจากเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกับท่านอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยใช้ชีวิตแบบ Live Digital Live More ตลอดไป”
แหล่งข่าว : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1422518288
ขอขอบคุณ ภาพประกอบข่าวจาก @PDAMobiz
https://twitter.com/PDAMobiz/status/560695669149540352
"เอไอเอส" ควัก 4 หมื่นล้าน ลงทุนปี ′58 พลิกเป็นผู้ให้บริการ "ดิจิทัล" พร้อมชิงดำคลื่น 4G
โดยนายวิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ลงทุนไปแล้วมากกว่า 2 แสนสี่หมื่นล้านบาท จนมีเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมกว่า 97% ของประเทศมีฐานลูกค้ากว่า 44 ล้านราย
มีการโทรพูดคุยกว่า 90 ล้านครั้งต่อวัน และมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายวันละมากกว่า 200 ล้านครั้ง และเปิดมิติใหม่การประยุกต์ใช้ดาต้าและออนไลน์ในชีวิตประจำวัน อาทิ เป็นช่องทางให้สามารถรับชมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ที่มากกว่า 2 ล้านคนต่อเดือน ,อ่าน E-Book กว่า 6 แสนคนต่อเดือน และกว่า 4 แสนคนต่อเดือนที่ใช้บริการ Mobile Payment บนเครือข่ายของเอไอเอส
“เราคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า อัตราการใช้งานดาต้าจะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในสัดส่วน 200-400% , สมาร์ทดีไวซ์จะขยายตัวกว่า 50 ล้านเครื่อง รวมไปถึงสมาร์ทดีไวซ์ รูปแบบใหม่ๆ ที่จะขยายมากถึงกว่า 10 ล้านเครื่อง อันจะส่งผลให้รูปแบบของอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านขนส่ง, สุขภาพ, การศึกษา และอื่นๆก้าวสู่การนำดิจิทัลมาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบ”
ดังนั้นในปี 2558 ที่เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้าไปเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศที่กำลังขยายตัวในทุกด้าน เอไอเอส จึงเตรียมการวางแผนล่วงหน้าระยะ 5 ปี โดยตั้งเป้าเป็น “ผู้สร้างสรรค์บริการดิจิทัลเพื่อคนไทย–Your Digital Life Partner” โดยเตรียมเงินลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาท สำหรับปี 2558 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และพลิกโฉมองค์กรเพื่อก้าวสู่การเป็นพันธมิตรกับทุกกลุ่มอย่างเต็มรูปแบบ
ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมในปี 2558
จะมีการเติบโตโดยรวม แยกเป็น Mobile 3%, Device (smart Phone และอุปกรณ์อื่นๆ) 10% และFix Line ราว 15% ส่งผลให้การใช้ Data เติบโตก้าวกระโดดทำให้เทรนด์การเชื่อมต่อกันเองระหว่างอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่เรียกว่า Internet of Things เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม
ดังนั้นเพื่อตอบสนองการความต้องการดังกล่าวจึงเตรียมวางรากฐานในแต่ละด้านได้แก่
-ขยายเครือข่าย 3G ที่ยังคงเตรียมงบลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องกว่า 3 หมื่นล้านบาท รวมถึงการเตรียมความพร้อมสู่การประมูล 4G อย่างเต็มที่
-การพัฒนาคุณภาพของ AIS Wifi สู่ AIS Super Wifi ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น เริ่มต้นจาก 600 Mbps ซึ่งเร็วกว่าความเร็วของเทคโนโลยี 4G
-การขยายบริการ Fixed Broadband ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของโลกที่ความเร็ว 1 Gbps โดยเริ่มให้บริการแล้ววันนี้ในเขต กทม.และปริมณฑล โดยในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเป็นเครือข่าย Fixed Broadband ถึงบ้านกว่า 10 ล้านครัวเรือนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
- การขยายบริการดิจิทัลที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตคนไทย เช่น AIS Play Box : กล่องดิจิทัลที่สามารถรับชมความบันเทิงจาก AIS Entertainment App ด้วยความละเอียดระดับ 4K (Ultra High Definition) AIS Cloud+ : บริการเก็บข้อมูลทุกอย่างบนพื้นที่ Cloud ที่ใหญ่ที่สุด AIS E-Money : บริการทางการเงินที่ร่วมมือกับธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำ เป็นต้น
“เรายังเชื่อมั่นในเรื่องของการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ผู้ให้บริการคอนเทนท์, พันธมิตรจากหลากหลายธุรกิจ, พันธมิตรช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการ StartUp ที่เราพร้อมร่วมสร้างโอกาสใหม่ๆจากเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกับท่านอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยใช้ชีวิตแบบ Live Digital Live More ตลอดไป”
แหล่งข่าว : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1422518288
ขอขอบคุณ ภาพประกอบข่าวจาก @PDAMobiz
https://twitter.com/PDAMobiz/status/560695669149540352