MRDIYT หุ้นค้าปลีกตกแต่งบ้าน เทรดวันแรกต่ำจอง 17.44% จากราคา IPO ที่ 8.60 บาท
.
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 5 พ.ย.2568 เวลา 10.00 น.หุ้นน้องใหม่ MRDIYT หรือ บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเทรดวันแรกต่ำจองที่ 17.44% ลดลง 1.50 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 7.10 บาท จากราคา IPO ที่ 8.60 บาท
.
นักวิเคราะห์ บล. โบลเบล็ก เปิดเผยว่า MRDIYT ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าประเภทอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ บริษัทมีรายได้จากการขายในช่วงปี 2565-2567 และงวด ครึ่งปีแรกของปี 2568 เท่ากับ 9,941 ล้านบาท 12,832 ล้านบาท 16,214 ล้านบาท 9,470 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี 27.7%
.
โดยมีสาเหตหลักมาจากการขยายเครือข่ายสาขาของบริษัทฯ ในประเทศไทย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 802 สาขา ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เป็น 1,027 สาขา ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ส่งผลให้ช่วงปี 2565-2567 และงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,051 ล้านบาท 1,381 ล้านบาท 1,780 ล้านบาท และ 1,176 ล้านบาท ตามลำดับ
.
ทั้งนี้จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 655 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 10.89% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 0.5 บาทต่อหุ้น โดยราคา IPO คิดเป็น historical P/E ที่ประมาณ 23 เท่า คิดเทียบกับ P/E บริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่ DOHOME 30.1x MOSHI 27.1x GLOBAL 21.4x
.
โดยมีวัตถุประสงค์การระดมทุนชใช้ในการลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ และชำระหนี้สินและเงินกู้ยืมที่มีอยู่ของบริษัทฯ รวมถึงเงินกู้ยืมจากธนาคารชี้ไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) และเพื่อแหล่งเงินทุนหมุนเวียน
.
นายเอเดรียน ออง ประธานกรรมการ บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประกอบธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ภายใต้แบรนด์ “MR. D.I.Y.” ที่มีขนาดใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ที่มุ่งมั่นการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้ครบทุกสิ่ง ในทุกวัน ด้วยราคาถูกคุ้มเสมอ ผ่านการนำเสนอสินค้ากว่า 16,000 รายการ ครอบคลุมใน 6 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่
.
(1) เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน (2) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และเครื่องมือช่าง (3) เครื่องใช้ไฟฟ้า (4) เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา (5) ของเล่น และ (6) สินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบสินค้าที่คุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย
.
โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายใต้ชื่อย่อ MRDIYT ถือเป็น ก้าวสำคัญของบริษัท ในการเสริมสร้าง ธรรมาภิบาล (Corporate Governance) ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และการเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
.
นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท กล่าวว่า อุตสาหกรรมค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านในประเทศไทยคาดการณ์ว่ามีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ร้อยละ 5.4 จากมูลค่าตลาด 182.6 พันล้านบาท ในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 237.8 พันล้านบาท ในปี 2572 ที่สำคัญกว่านั้น ผู้ค้าปลีกในรูปแบบ Chain Retailer เช่น MR. D.I.Y. ก็กำลังเติบโตเร็วกว่าตลาดโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 15.3%
.
ปัจจุบันเราเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มธุรกิจของเรา ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 9% ซึ่งสะท้อนถึงรากฐานที่มั่นคงของเรา ขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งตลาดในระดับเลขหลักเดียวนี้ยังแสดงให้เห็นว่า เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของตลาดสินค้าตกแต่งบ้านในประเทศไทย โดยในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 16.2 พันล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่แข็งแกร่งถึง 28%
.
ขณะที่ประสิทธิภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งยังช่วยผลักดันให้เรามีกำไรสุทธิ 1.7 พันล้านบาท เติบโตเฉลี่ยต่อปี 30% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพการขยายสาขา การพัฒนาระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ และการกระจายสินค้า เพื่อสนับสนุนแผนของเราที่จะขยายสาขาให้ครบ 1,500 แห่งทั่วประเทศภายในปี พ.ศ. 2570
ขาลง ipo แท้จริง
MRDIYT หุ้นค้าปลีกตกแต่งบ้าน เทรดวันแรกต่ำจอง 17.44% จากราคา IPO ที่ 8.60 บาท
MRDIYT หุ้นค้าปลีกตกแต่งบ้าน เทรดวันแรกต่ำจอง 17.44% จากราคา IPO ที่ 8.60 บาท
.
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 5 พ.ย.2568 เวลา 10.00 น.หุ้นน้องใหม่ MRDIYT หรือ บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเทรดวันแรกต่ำจองที่ 17.44% ลดลง 1.50 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 7.10 บาท จากราคา IPO ที่ 8.60 บาท
.
นักวิเคราะห์ บล. โบลเบล็ก เปิดเผยว่า MRDIYT ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าประเภทอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ บริษัทมีรายได้จากการขายในช่วงปี 2565-2567 และงวด ครึ่งปีแรกของปี 2568 เท่ากับ 9,941 ล้านบาท 12,832 ล้านบาท 16,214 ล้านบาท 9,470 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี 27.7%
.
โดยมีสาเหตหลักมาจากการขยายเครือข่ายสาขาของบริษัทฯ ในประเทศไทย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 802 สาขา ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เป็น 1,027 สาขา ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ส่งผลให้ช่วงปี 2565-2567 และงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,051 ล้านบาท 1,381 ล้านบาท 1,780 ล้านบาท และ 1,176 ล้านบาท ตามลำดับ
.
ทั้งนี้จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 655 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 10.89% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 0.5 บาทต่อหุ้น โดยราคา IPO คิดเป็น historical P/E ที่ประมาณ 23 เท่า คิดเทียบกับ P/E บริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่ DOHOME 30.1x MOSHI 27.1x GLOBAL 21.4x
.
โดยมีวัตถุประสงค์การระดมทุนชใช้ในการลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ และชำระหนี้สินและเงินกู้ยืมที่มีอยู่ของบริษัทฯ รวมถึงเงินกู้ยืมจากธนาคารชี้ไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) และเพื่อแหล่งเงินทุนหมุนเวียน
.
นายเอเดรียน ออง ประธานกรรมการ บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประกอบธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ภายใต้แบรนด์ “MR. D.I.Y.” ที่มีขนาดใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ที่มุ่งมั่นการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้ครบทุกสิ่ง ในทุกวัน ด้วยราคาถูกคุ้มเสมอ ผ่านการนำเสนอสินค้ากว่า 16,000 รายการ ครอบคลุมใน 6 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่
.
(1) เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน (2) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และเครื่องมือช่าง (3) เครื่องใช้ไฟฟ้า (4) เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา (5) ของเล่น และ (6) สินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบสินค้าที่คุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย
.
โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายใต้ชื่อย่อ MRDIYT ถือเป็น ก้าวสำคัญของบริษัท ในการเสริมสร้าง ธรรมาภิบาล (Corporate Governance) ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และการเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
.
นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท กล่าวว่า อุตสาหกรรมค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านในประเทศไทยคาดการณ์ว่ามีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ร้อยละ 5.4 จากมูลค่าตลาด 182.6 พันล้านบาท ในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 237.8 พันล้านบาท ในปี 2572 ที่สำคัญกว่านั้น ผู้ค้าปลีกในรูปแบบ Chain Retailer เช่น MR. D.I.Y. ก็กำลังเติบโตเร็วกว่าตลาดโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 15.3%
.
ปัจจุบันเราเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มธุรกิจของเรา ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 9% ซึ่งสะท้อนถึงรากฐานที่มั่นคงของเรา ขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งตลาดในระดับเลขหลักเดียวนี้ยังแสดงให้เห็นว่า เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของตลาดสินค้าตกแต่งบ้านในประเทศไทย โดยในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 16.2 พันล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่แข็งแกร่งถึง 28%
.
ขณะที่ประสิทธิภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งยังช่วยผลักดันให้เรามีกำไรสุทธิ 1.7 พันล้านบาท เติบโตเฉลี่ยต่อปี 30% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพการขยายสาขา การพัฒนาระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ และการกระจายสินค้า เพื่อสนับสนุนแผนของเราที่จะขยายสาขาให้ครบ 1,500 แห่งทั่วประเทศภายในปี พ.ศ. 2570
ขาลง ipo แท้จริง